ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โจรกรรม"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Volunteer09 (คุย | ส่วนร่วม)
ลบคำก่อกวน ลบคำศัพท์ที่ไม่มีอ้างอิง
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 1:
{{มุมมองสากล}}
'''โจรกรรม'''(อ่านว่า โจ-ระ-กำ) หมายถึง การกระทำที่นำเอา[[ทรัพย์สิน]]ของผู้อื่นโดย[[เจตนา]] เพื่อยึดทรัพย์สินนั้นมาเป็นของตน ซึ่งเจ้าของทรัพย์สินไม่ได้[[อนุญาต]]หรือ[[ยินยอม]] <ref name="Webster">{{cite web|title=Theft|publisher=''[[Merriam-Webster]]''|accessdate=October 12, 2011|url=http://www.merriam-webster.com/dictionary/theft}}</ref><ref name="legal-dictionary">{{cite web|title=Theft|publisher=legal-dictionary.thefreedictionary.com|accessdate=October 12, 2011|url=http://legal-dictionary.thefreedictionary.com/theft}}</ref> โดยคำนี้สามารถใช้เรียกแทน[[อาชญากรรม]]บางประเภทที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินได้ อาทิเช่น [[การลักทรัพย์]] (ขโมย) [[การลักทรัพย์ในเคหสถาน]] (ย่องเบา/ยกเค้า) [[การลักทรัพย์ในร้านค้า]] [[การยักยอก]] [[การชิงทรัพย์]] (ปล้น) [[การฉกชิงทรัพย์]] (ปล้นสะดม) และ[[การฉ้อโกง]] <ref name="Webster" /><ref name="legal-dictionary" /> ในบางเขตอำนาจศาล "โจรกรรม" (theft) มีความหมายเหมือนกับ "การลักทรัพย์" (larceny) <ref name="legal-dictionary" />'''
 
'''โจร''' หมายถึงผู้ที่กระทำโจรกรรมดังกล่าว ภาษาพูดอาจเรียกว่า '''ผู้ร้าย '''ผู้ร้าย โบราณเรียก '''ฎางการ '''ฎางการ ก็มี <ref name = "RoyinDict ">ราชบัณฑิตยสถาน. (2551, 9 กุมภาพันธ์). '''พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542.''' [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: [http://rirs3.royin.go.th/new-search/word-search-all-x.asp http://rirs3.royin.go.th/new-search/word-search-all-x.asp]. (เข้าถึงเมื่อ: 20 กันยายน 2551).</ref><ref name = "Khunsamahan ">ขุนสมาหารหิตะคดี (โป๊ โปรคุปต์). (2549). '''พจนานุกรมกฎหมาย.''' กรุงเทพฯ : วิญญูชน. หน้า 122.</ref>'''
 
== '''ประเภทของโจร '''==
=== '''สมัยโบราณ '''===
กฎหมายเดิมมี'''กฎหมายเดิมมี[[พระอัยการลักษณะโจร]]'''อันเป็นกฎหมายหมวดหนึ่งใน[[กฎหมายตราสามดวง]]เป็นต้นซึ่งได้ยกเลิกไปแล้วนั้น จัดโจรออกเป็นสิบหกจำพวก ดังต่อไปนี้<ref name = "Khunsamahan" />'''
 
# '''โจรปล้น''' คือ บรรดาโจรที่สมรู้ร่วมคิดกันออกปล้นผู้อื่นไม่เว้นกลางวันกลางคืน วิธีการปล้นเป็นต้นว่าด้วยการยิงปืนโห่ร้องอื้ออึงไปให้เจ้าทรัพย์สะดุ้งกลัว แล้วค่อยเก็บกวาดเอาทรัพย์ทั้งปวง'''
# '''โจรย่องสะดม''' คือ โจรที่มีความรู้ทางวิชาอาคมสามารถใช้สะกดให้เจ้าทรัพย์หลับ แล้วค่อยเก็บกวาดเอาทรัพย์ทั้งปวง'''
# '''โจรภัย''' คือ โจรที่ทำให้ผู้อื่นเกรงกลัวก่อนแล้วค่อยเก็บกวาดเอาทรัพย์ทั้งปวง'''
# '''โจรตีชิง''' คือ โจรที่คบค้าสมาคมกันไปตีชิงเอาทรัพย์สินของผู้อื่นไม่เว้นทั้งทางบกทางน้ำ'''
# '''โจรฉกฉวย''' คือ โจรที่มิได้ติดอาวุธไปคอยอยู่ตามถนนหนทางเปลี่ยนแล้วช่วงชิงเอาทรัพย์สินของผู้อื่น'''
# '''โจรซุ่มซ่อน''' คือ โจรที่คบค้าสมาคมกันไปคอยด้อม ๆ มอง ๆ ในสถานที่ใด ๆ มิให้เจ้าทรัพย์รู้เห็นแล้วจึงลักเอาทรัพย์ไป'''
# '''โจรล้วงลัก''' คือ โจรที่ลักล้วงเอาทรัพย์สินของผู้อื่นไป'''
# '''โจรลักเลียม''' คือ โจรที่ไปลักทรัพย์สินของผู้อื่น พอดีเจ้าทรัพย์มาพบเข้าจึงแสร้งบอกไปว่ามายืมทรัพย์สินนั้น'''
# '''สาธารณโจร''' คือ โจรไปปล้นกับพวกโจรด้วยกัน แต่แค่ร่วมขบวนไปด้วยเท่านั้น มิได้ลงมือประการใด'''
# '''นิลัมภรโจร''' คือ โจรที่กระทำการไม่แนบเนียน กฎหมายพรรณนาว่า "มีพิรุธติดพันดุจมลทินนิลเมฆพันคล้ำดำติดอยู่"'''
# '''วิสาสคาหโจร''' คือ โจรลักทรัพย์สิ่งของของญาติพี่น้อง บิดา มารดา สามี ภริยา เขย สะใภ้ ฯลฯ ด้วยกันเอง'''
# '''สรรพโจร''' คือ โจรที่ลักมิได้เลือก'''
# '''ปัณฐทูสกโจร''' คือ โจรตีชิงเอาทรัพย์สิ่งของไม่ว่าทางน้ำทางบก'''
# '''ทามริกโจร''' คือ โจรที่เป็นเพื่อนกันพากันกระทำโจรกรรมเป็นอาชีพเลี้ยงตัว'''
# '''สารโจร''' คือ โจรที่ลักทรัพย์อันเป็นแก่นสาร เช่น ลักพระพุทธรูปแล้วลอกเอาทองพระนั้นไปขาย'''
# '''ดัสกรโจร''' คือ โจรที่คบค้าสมาคมกันไปปล้นราษฎรแล้วทำลายครัวเรือนตลอดจนทรัพย์สินบริเวณใกล้เคียงด้วยเป็นต้น'''
 
=== '''สมัยปัจจุบัน '''===
'''ประมวลกฎหมายอาญาของไทยในปัจจุบันจัดโจรออกเป็นห้าจำพวก ดังต่อไปนี้<ref>ขุนสมาหารหิตะคดี (โป๊ โปรคุปต์). (2549). '''พจนานุกรมกฎหมาย.''' กรุงเทพฯ : วิญญูชน. หน้า 95.</ref>'''
 
# '''โจรลักทรัพย์''' คือ ผู้บังอาจเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยการทุจริตและโดยเจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้ การลักทรัพย์นั้นมีเกณฑ์ดังต่อไปนี้<ref>ขุนสมาหารหิตะคดี (โป๊ โปรคุปต์). (2549). '''พจนานุกรมกฎหมาย.''' กรุงเทพฯ : วิญญูชน. หน้า 301.</ref>'''
## '''เป็นการบังอาจเอาทรัพย์ของผู้อื่นไป'''
## '''ทรัพย์นั้นเป็นทรัพย์อันเคลื่อนที่ได้'''
## '''การนั้นกระทำไปโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าทรัพย์'''
## '''การนั้นกระทำไปโดยเจตนาทุจริต'''
# '''โจรวิ่งราวทรัพย์''' คือ ผู้ลักทรัพย์โดยใช้กิริยาฉกฉวยทรัพย์พาหนีไปซึ่งหน้า<ref>ขุนสมาหารหิตะคดี (โป๊ โปรคุปต์). (2549). '''พจนานุกรมกฎหมาย.''' กรุงเทพฯ : วิญญูชน. หน้า 309.</ref>'''
# '''โจรชิงทรัพย์''' คือ ผู้ลักทรัพย์โดยใช้กิริยาทำร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะทำร้ายเพื่อเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้<ref>ขุนสมาหารหิตะคดี (โป๊ โปรคุปต์). (2549). '''พจนานุกรมกฎหมาย.''' กรุงเทพฯ : วิญญูชน. หน้า 105-107.</ref>'''
## '''เพื่อประโยชน์ที่จะตระเตรียมการหรือให้เป็นความสะดวกในการที่จะลักทรัพย์'''
## '''เพื่อที่จะเอาทรัพย์หรือให้ผู้ใดส่งทรัพย์ให้'''
## '''เพื่อที่จะเอาผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ลักทรัพย์'''
## '''เพื่อจะปกปิดการกระทำผิด'''
## '''เพื่อจะหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาสำหรับความผิดนั้น'''
#* '''การชิงทรัพย์มีเกณฑ์ดังต่อไปนี้'''
## '''เป็นความผิดฐานลักทรัพย์มาแล้ว'''
## '''โดยใช้กำลังกระทำร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะกระทำร้าย'''
## '''เพื่อเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งดังข้างต้นนั้น'''
# '''โจรปล้นทรัพย์'''คือ โจรตั้งแต่สามคนขึ้นไปมีศาสตราวุธจะกี่คนก็ตามในจำนวนนั้น ได้ไปลงมือกระทำการชืงทรัพย์<ref>ขุนสมาหารหิตะคดี (โป๊ โปรคุปต์). (2549). '''พจนานุกรมกฎหมาย.''' กรุงเทพฯ : วิญญูชน. หน้า 206.</ref>'''
# '''โจรสลัด''' คือ โจรที่ประพฤติปล้นสะดมข่มเหงคนเดินทางนอกเขตความปกครองของประเทศใด ๆ โดยมากเป็นกลางทะเลหลวง ปัจจุบันมีกลางอากาศด้วย และโจรประเภทนี้มักมิได้อยู่ในอำนาจหรือรับคำสั่งของรัฐบาลอันมั่นคงแห่งเมืองใดเมืองหนึ่ง<ref>ขุนสมาหารหิตะคดี (โป๊ โปรคุปต์). (2549). '''พจนานุกรมกฎหมาย.''' กรุงเทพฯ : วิญญูชน. หน้า 117.</ref>'''
 
== '''โจรในประวัติศาสตร์ '''==
'''โจรที่มีชื่อเสียงสำคัญในประวัติศาสตร์ไทยได้แก่'''
* '''โจรอีสาน - [[กบฏผีบุญ]]''' ตัวอย่างเช่น กบฏข่า เมืองเชียงขวาง พ.ศ. 2417 ซึ่งข่าแจะเจืองอ้างตัวเป็นท้าวธรรมิกราชและกองทัพสยามปราบได้ ต่อมาใน พ.ศ. 2442 สยามประกาศให้คนไทยและคนลาวในมณฑลอีสานถือสัญชาติไทย ทำให้คนลาวจำนวนหนึ่งต่อต้านโดยอ้างตัวว่าเป็นท้าวธรรมิกราชผู้มีบุญมาปราบสยาม ซ่องสุมผู้คนต่อต้านกรุงเทพฯ ผีบุญที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น มีองค์ผ้าขาว องค์มั่น นายเข็มองค์เหล็ก องค์ลิ้นก่า องค์พรหมา องค์เขียว และกำนันสุ้ยบ้านสร้างมั่ง พระครูอินทร์วัดบ้านหนองอีตุ้ม และหลวงประชุมเมือง[[อำนาจเจริญ]] สุดท้ายผีบุญเหล่านี้ถูกร้อยเอกหลวงชิดสรการปราบปรามสำเร็จ<ref name="ถ้ำเสือ">กองบรรณาธิการ. บุกถ้ำเสือเปิดตำนานโจรไทย. '''ศิลปวัฒนธรรม'''. พฤษภาคม 2540. ปีที่ 18 (7) หน้า 83-89</ref>
* '''โจรใต้''' ในท้องถิ่นภาคใต้ถือว่าการปล้นสะดมเป็นอาชีพหนึ่ง ทำให้ทางปักษ์ใต้มีปัญหาโจรปล้นสะดมทั้งโจรทางบกและ[[โจรสลัด]] เช่น ตนกูหมัดสะอาดและตนกูอับดุลลาห์ หัวหน้าโจรสลัดของ[[แหลมมลายู]]เข้าปล้นสะดมเมือง[[ตรัง]]ในช่วง พ.ศ. 2354 - 2381 <ref name="ถ้ำเสือ"/>
* '''โจรเมืองสุพรรณ''' หลัง[[สงครามโลกครั้งที่ 1]] [[สุพรรณบุรี]]มีโจรผู้ร้ายชุกชุมมากเพราะเมืองสุพรรณยังมีลักษณะเป็นหัวเมืองป่าดงที่รกร้างไปตั้งแต่เสียกรุงศรีอยุธยา การคมนาคมลำบาก เมื่อราว พ.ศ. 2460 มีการเปิดบริษัทเดินเรือไปสุพรรณบุรี บ้านเมืองเจริญขึ้น โจรผู้ร้ายลดน้อยลงบ้าง จนหลัง[[สงครามโลกครั้งที่ 2]] จึงเกิดชุมโจรขึ้นในสุพรรณบุรีเป็นจำนวนมาก เช่น ชุม[[เสือฝ้าย]] [[เสือดำ (โจร)|เสือดำ]] [[เสือใบ]] [[เสือมเหศวร]] เสือแบน เสือหนาม เสือแฉ่ง หลังจากสงครามโลกสงบลงไม่กี่ปี ทางกองปราบฯได้ส่งตำรวจเข้าปราบปรามอย่างจริงจัง ชุมโจรในสุพรรณบุรีจึงหมดไปในที่สุด<ref>[[มนัส โอภากุล]]. สุพรรณเป็นเมืองโจร เมืองคนดุจริงหรือ. '''ศิลปวัฒนธรรม'''.พฤษภาคม 2540. ปีที่ 18 (7) หน้า 90-99 </ref>
* '''นายนครินทร์ (ไม่รู้นามสกุล) 4.5 ''' ฆาตกรโรคจิตว่ากันว่าสังหารมาแล้วทั้งหมด 134 ศพ ในปี ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521) หลบหนีการจับกุมได้ถึง 28 ครั้งและแหกคุกออกมาได้ทุกครั้งที่ถูกจับเล่ากันว่าผู้ชายคนนี้เคยมีครอบครัวมาก่อนจนกระทั่งเกิดอาการผิดปกติจนสังหารลูกเมียของตนอย่างโหดเหียมและเอาศพของครอบครัวไปหมกที่ใต้เตียงนอนของตนจนเกิดความสนุกในการสังหารชีวิตผู้คนและเริ่มกระทำผิดกฎหมายต่างเช่น ฆ่าข่มขื่น และ กระทำชำเราศพ จากนั้นก็หลบนี้ไปอยู่ที่จังหวัด นครราชสีมา จนถูกจับกุมใด้ในวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)และถูกประหารชีวิตโดยการยิงเป้า
 
* '''โจรอีสาน - [[กบฏผีบุญ]]''' ตัวอย่างเช่น กบฏข่า เมืองเชียงขวาง พ.ศ. 2417 ซึ่งข่าแจะเจืองอ้างตัวเป็นท้าวธรรมิกราชและกองทัพสยามปราบได้ ต่อมาใน พ.ศ. 2442 สยามประกาศให้คนไทยและคนลาวในมณฑลอีสานถือสัญชาติไทย ทำให้คนลาวจำนวนหนึ่งต่อต้านโดยอ้างตัวว่าเป็นท้าวธรรมิกราชผู้มีบุญมาปราบสยาม ซ่องสุมผู้คนต่อต้านกรุงเทพฯ ผีบุญที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น มีองค์ผ้าขาว องค์มั่น นายเข็มองค์เหล็ก องค์ลิ้นก่า องค์พรหมา องค์เขียว และกำนันสุ้ยบ้านสร้างมั่ง พระครูอินทร์วัดบ้านหนองอีตุ้ม และหลวงประชุมเมือง[[อำนาจเจริญ]] สุดท้ายผีบุญเหล่านี้ถูกร้อยเอกหลวงชิดสรการปราบปรามสำเร็จ<ref name="ถ้ำเสือ">กองบรรณาธิการ. บุกถ้ำเสือเปิดตำนานโจรไทย. '''ศิลปวัฒนธรรม'''. พฤษภาคม 2540. ปีที่ 18 (7) หน้า 83-89</ref>'''
== อ้างอิง ==
* '''โจรใต้''' ในท้องถิ่นภาคใต้ถือว่าการปล้นสะดมเป็นอาชีพหนึ่ง ทำให้ทางปักษ์ใต้มีปัญหาโจรปล้นสะดมทั้งโจรทางบกและ[[โจรสลัด]] เช่น ตนกูหมัดสะอาดและตนกูอับดุลลาห์ หัวหน้าโจรสลัดของ[[แหลมมลายู]]เข้าปล้นสะดมเมือง[[ตรัง]]ในช่วง พ.ศ. 2354 - 2381 <ref name="ถ้ำเสือ" />'''
* '''โจรเมืองสุพรรณ''' หลัง[[สงครามโลกครั้งที่ 1]] [[สุพรรณบุรี]]มีโจรผู้ร้ายชุกชุมมากเพราะเมืองสุพรรณยังมีลักษณะเป็นหัวเมืองป่าดงที่รกร้างไปตั้งแต่เสียกรุงศรีอยุธยา การคมนาคมลำบาก เมื่อราว พ.ศ. 2460 มีการเปิดบริษัทเดินเรือไปสุพรรณบุรี บ้านเมืองเจริญขึ้น โจรผู้ร้ายลดน้อยลงบ้าง จนหลัง[[สงครามโลกครั้งที่ 2]] จึงเกิดชุมโจรขึ้นในสุพรรณบุรีเป็นจำนวนมาก เช่น ชุม[[เสือฝ้าย]] [[เสือดำ (โจร)|เสือดำ]] [[เสือใบ]] [[เสือมเหศวร]] เสือแบน เสือหนาม เสือแฉ่ง หลังจากสงครามโลกสงบลงไม่กี่ปี ทางกองปราบฯได้ส่งตำรวจเข้าปราบปรามอย่างจริงจัง ชุมโจรในสุพรรณบุรีจึงหมดไปในที่สุด<ref>[[มนัส โอภากุล]]. สุพรรณเป็นเมืองโจร เมืองคนดุจริงหรือ. '''ศิลปวัฒนธรรม'''.พฤษภาคม 2540. ปีที่ 18 (7) หน้า 90-99 </ref>'''
* '''นายนครินทร์ (ไม่รู้นามสกุล) 4.5 ''' ฆาตกรโรคจิตว่ากันว่าสังหารมาแล้วทั้งหมด 134 ศพ ในปี ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521) หลบหนีการจับกุมได้ถึง 28 ครั้งและแหกคุกออกมาได้ทุกครั้งที่ถูกจับเล่ากันว่าผู้ชายคนนี้เคยมีครอบครัวมาก่อนจนกระทั่งเกิดอาการผิดปกติจนสังหารลูกเมียของตนอย่างโหดเหียมและเอาศพของครอบครัวไปหมกที่ใต้เตียงนอนของตนจนเกิดความสนุกในการสังหารชีวิตผู้คนและเริ่มกระทำผิดกฎหมายต่างเช่น ฆ่าข่มขื่น และ กระทำชำเราศพ จากนั้นก็หลบนี้ไปอยู่ที่จังหวัด นครราชสีมา จนถูกจับกุมใด้ในวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545)และถูกประหารชีวิตโดยการยิงเป้า'''
 
== '''อ้างอิง '''==
{{รายการอ้างอิง}}