ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าชายรัชทายาทซาโด"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 16:
'''มกุฎราชกุมารชังฮ็อน''' ({{เกาหลี|장헌세자|ฮันจา=莊獻世子|MC2000=Jangheonseja|MR=Changhǒnseja}}) หรือ '''มกุฎราชกุมารซาโด''' ({{เกาหลี|사도세자|ฮันจา=思悼世子|MC2000=Sadoseja|MR=Sadoseja}} ค.ศ. 1735 - ค.ศ. 1762) เป็นพระโอรสองค์ที่สองของ[[พระเจ้ายองโจ]] กับสนมยองบิน ตระกูลอี แห่งจอนอึย ในสมัย[[พระเจ้าโคจง]]มีการแต่งตั้งองค์ชายซาโดให้มีฐานะเป็นกษัตริย์ พระนามว่า '''พระเจ้าจางโจ''' (장조, 莊祖) และต่อมาได้รับสถาปนาเป็น '''พระจักรพรรดิอึย''' (의황제, 懿皇帝)
 
เนื่องจากมกุฎราชกุมารองค์ก่อน คือ มกุฎราชกุมารฮโยจาง สิ้นพระชนม์สวรรคตไปใน[[พ.ศ. 2271]] ราชวงศ์โชซอนอยู่ในภาวะไร้ผู้สืบทอด บรรดาสนมของพระเจ้ายองโจก็ยังไม่มีพระโอรสเลย ดังนั้น เมื่อองค์ชายชังฮ็อนประสูติใน[[พ.ศ. 2278]] ที่[[พระราชวังชางเกียงกุง]] จึงได้รับแต่งตั้งเป็นวังเซจา (มกุฎราชกุมาร) ทันที องค์ชายชังฮ็อนทรงเรียนรู้ได้เร็ว ทรงย้ายไปที่ทงกุง (ตำหนักตะวันออก) อันเป็นที่อยู่เดิมของมเหสีซอนอีของ[[พระเจ้าคยองจง]] เนื่องจากองค์ชายชังฮ็อนเป็นพระโอรสองค์เดียวในขณะนั้นของพระเจ้ายองโจ พระเจ้ายองโจจึงทรงเข้มงวดกับการศึกษาขององค์ชายชังฮ็อนอย่างมาก ในพ.ศ. 2287 องค์ชายชังฮ็อนอภิเษกกับพระชายาจากตระกูลฮง ([[พระชายาฮเยคยอง]]) ธิดาของฮงพงฮัน
 
ปกติพระเจ้ายองโจและสนมอียองบินจะไปหาองค์ชายชังฮ็อนบ่อยๆ แต่นางในที่รับใช้องค์ชายอยู่ที่ทงกุงนั้นเป็นคนรับใช้เก่าของมเหสีซอนอีและพระเจ้าคย็องจง จึงตั้งแง่รังเกียจพระเจ้ายองโจเพราะทรงยึดบัลลังก์มาจากพระเจ้าคย็องจง พระเจ้ายองโจจึงเลิกเสด็จไปหาองค์ชายชังฮ็อน ความสัมพันธ์พ่อลูกจึงเหินห่าง องค์ชายชังฮ็อนจึงกลายเป็นองค์ชายที่ขาดการใส่ใจ มีเพียงองค์หญิงฮวาพยองที่เป็นพระเชษฐภคินีเท่านั้น ที่ยังพูดคุยกับองค์ชายชังฮ็อนอยู่
บรรทัด 22:
จนใน[[พ.ศ. 2291]] องค์หญิงฮวาพยองพระเชษฐภคินีของพระองค์สิ้นพระชนม์ องค์ชายชังฮ็อนเสียพระทัยมาก ทรงเริ่มแสดงอาการผิดปกติทางจิต ประกอบกับองค์ชายชังฮ็อนประชวรบ่อย ในพ.ศ. 2295 ประชวรเป็นโรคหัด องค์ชายชังฮ็อนมีพระโอรสพระองค์แรกใน[[พ.ศ. 2293]] คือ มกุฎราชกุมารอึยโซ แต่มีพระชนม์ชีพอยู่สองปีก็สิ้นพระชนม์ ในพ.ศ. 2295 พระโอรสประสูติอีกองค์ ได้รับแต่งตั้งเป็นวังเซซุน (พระนัดดามกุฎราชกุมาร) ทันที (ภายหลังครองราชย์เป็น[[พระเจ้าจองโจ]]) ในพ.ศ. 2300 พระมเหสีอินวอนพระอัยยิกาเลี้ยงและมเหสีจองซองพระมารดาเลี้ยงสิ้นพระชนม์ องค์ชายชังฮ็อนมีอาการทางพระสติหนักขึ้น<ref>http://www.channel4.com/history/microsites/H/history/c-d/disease02.html</ref> ทรงสังหารขันทีซังกุงต่างๆคนรับใช้ตลอดจนหมอหลวง ทำให้ทรงเป็นที่หวาดกลัวไปทั่ววัง และยังทรงคบค้ากับนางทรงที่ชานเมืองฮันยาง<ref>http://www.koreanhistoryproject.org/Ket/C15/E1501.htm</ref> พระเจ้ายองโจก็ทรงทราบเรื่องพระอาการของพระโอรสดีแต่ทรงไม่กล้าทำอะไรเพราะเป็นพระโอรส ในพ.ศ. 2304 ทรงทุบตีพระชายาน้อยพระองค์หนึ่งจนเสียชีวิต และทรงตามรังควานพระขนิษฐาคือองค์หญิงฮวาวาน<ref>http://www.findagrave.com/cgi-bin/fg.cgi?page=gr&GRid=16925787</ref>
 
ในพ.ศ. 2305 ขุนนางฝ่ายโนนนถายฎีกาให้พระเจ้ายองโจลงพระอาญาพระโอรส องค์ชายชังฮ็อนจขึงจับเอาญาติของขุนนางเหล่านั้นมาทรมานจนเสียชีวิต และขู่จะสังหารบุตรชายของอัครเสนาบดีชินมัน คือ องค์ชายยองซอง ทรงถึงขนาดจะปีนกำแพงวังไปสังหารองค์ชายยองซอง พระมารดาสนมอียองบินทนไม่ไหว ขอให้พระเจ้ายองโจทรงพระอาญาองค์ชายชังฮ็อน พระเจ้ายองโจจึงมีพระราชโองการปลดองค์ชายชังฮ็อนและพระชายาฮเยคยอง และบังคับให้องค์ชายชังฮ็อนเข้าไปอยู๋ในกล่องข้าว หลังจากอยู่ในกล่องเจ็ดวัน องค์ชายชังฮ็อนก็สิ้นพระชนม์ฮ็อนก็สวรรคต
 
ภายหลังพระเจ้ายองโจทรงรู้สึกเสียพระทัยที่ทรงลงพระอาญากับพระโอรส จึงแต่งตั้งองค์ชายชังฮ็อนขึ้นใหม่เป็นมกุฎราชกุมารซาโด พระโอรสขององค์ชายซาโด คือ พระเจ้าจองโจ ทรงพยายามอย่างมากที่จะล้างมลทินให้พระราชบิดา ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า มกุฎราชกุมารซาโดประชวรจริงหรือเป็นการใส่ร้ายของขุนนางฝ่ายโนนน แต่[[บันทึกของพระนางฮเยคยอง]]กล่าวว่ามกุฎราชกุมารซาโดทรงมีอาการทางพระสติจริงๆ