ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วันวาเลนไทน์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ย้อนการแก้ไขของ 2403:6200:88A6:CA93:D909:BF0C:69E1:B173 (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย 2403:6200:88A6:CA93:7DDD:C162:53E0:6BCD
ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว
ย้อนการแก้ไขที่ 8106594 สร้างโดย 2403:6200:88A6:CA93:7DDD:C162:53E0:6BCD (พูดคุย)
ป้ายระบุ: ทำกลับ
บรรทัด 16:
|relatedto=
}}
'''xdddวันนักบุญวาเลนไทน์''' ({{lang-en|Saint Valentine's Day}}) หรือเรียก '''วันวาเลนไทน์''' ({{lang-en|Valentine's Day}}) ตรงกับวันที่ [[14 กุมภาพันธ์]]ของทุกปี วันวาเลนไทน์มีการเฉลิมฉลองในหลายประเทศทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นประเทศทางตะวันตก แม้จะยังเป็นวันทำงานในทุกประเทศเหล่านั้นก็ตาม
 
"วันนักบุญวาเลนไทน์" แต่เดิมเป็นเพียงวันฉลองนักบุญใน[[ศาสนาคริสต์ยุคแรก]]หนึ่งหรือสองคนชื่อวาเลนตินัส ความหมายโรแมนติกโดยนัยสมัยใหม่นั้นกวีเพิ่มเติมในอีกหลายศตวรรษต่อมาทั้งสิ้น มีการกำหนดวันวาเลนไทน์ขึ้นครั้งแรกโดย[[สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสที่ 1]] ใน ค.ศ. 496 ก่อนถูกลบที่[[สมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6]] จะให้ตัดออกจากปฏิทินนักบุญทั่วไปของโรมันทั่วไป (General Roman Calendar of saints) ในปี ค.ศ. 1969 โดย[[สมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6]]
 
วันวาเลนไทน์มาข้องเกี่ยวกับรักแบบโรแมนติกเป็นครั้งแรกในแวดวงสังคมของ[[เจฟฟรีย์ ชอเซอร์]] ช่วงกลาง[[สมัยกลางยุครุ่งโรจน์]] (High Middle Ages) เมื่อประเพณีรักเทิดทูน (courtly love) เฟื่องฟู จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 วันวาเลนไทน์ได้วิวัฒนา มาเป็นโอกาสซึ่งคู่รักจะแสดงความรักของพวกเขาแก่กันโดยให้ดอกไม้ [[ขนม]]หรือลูกกวาด และส่งการ์ดอวยพรกัน<ref name="history">[http://www.history.com/content/valentine/history-of-valentine-s-day The History of Valentine's Day] – ''History.com'', A&E Television Networks. Retrieved February 2, 2010.</ref><ref name="HSW">[http://home.howstuffworks.com/holidays/valentine1.htm HowStuffWorks "How Valentine's Day works"] – ''HowStuffWorks''. Retrieved February 2, 2010.</ref>
 
== นักบุญวาเลนไทน์ ==
 
=== ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ===
[[มรณสักขีในศาสนาคริสต์|มรณสักขี]]ใน[[ศาสนาคริสต์ยุคแรก]]หลายคนมีชื่อว่า วาเลนไทน์ ซึ่งวาเลนไทน์ที่มีการฉลองในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ คือ วาเลนไทน์แห่งโรม (''Valentinus presb. m. Romae'') และวาเลนไทน์แห่งเทอร์นี (''Valentinus ep. Interamnensis m. Romae'')<ref>''Oxford Dictionary of Saints'', ''s.v.'' "Valentine": "The [[Acta Sanctorum|Acts]] of both are unreliable, and the Bollandists assert that these two Valentines were in fact one and the same."</ref> วาเลนไทน์แห่งโรมเป็นนักบวชในโรมผู้พลีชีพเพื่อศาสนาราว ค.ศ. 269 และฝังที่เวียฟลามีเนีย (Via Flaminia) กะโหลกที่สวมมาลัยดอกไม้ของนักบุญวาเลนไทน์จัดแสดงในมหาวิหารซานตามาเรียในคอสเมดิน โรม [[เรลิก]]อื่นพบได้ในมหาวิหาร[[ซานตาพราสเซเด]] (Santa Prassede)<ref>{{cite web |url=http://www.novareinna.com/festive/saintval.html |publisher=novareinna.com |title=Saint Valentine's Day: Legend of the Saint}}</ref> ในโรมเช่นกัน เช่นเดียวกับที่โบสถ์คาร์เมไลท์ถนนไวท์ไฟร์อาร์ไวท์ไฟร์เออร์ (Whitefriar Street Carmelite Church) ใน[[ดับลิน]] [[ประเทศไอร์แลนด์]]
 
วาเลนไทน์แห่งเทอร์นีกลายมาเป็นบิชอปแห่งอินเตรัมนา (Interamna, ปัจจุบัน คือ เทอร์นี) ราว ค.ศ. 197 และกล่าวกันว่าเขาได้พลีชีพในช่วง[[การเบียดเบียนคริสต์ศาสนิกชน]]ในรัชสมัยจักรพรรดิออเรเลียน ศพเขาฝังที่เวียฟลามีเดียเช่นกัน แต่คนละตำแหน่งกับที่ฝังวาเลนไทน์แห่งโรม เรลิกของเขาอยู่ที่มหาวิหารนักบญวาเลนไทน์แห่งเทอร์นี<ref>{{cite web |url=http://www.virtualmuseum.ca/Exhibitions/Valentin/English/6/622.php3 |archiveurl=http://web.archive.org/web/20070216083119/http://www.virtualmuseum.ca/Exhibitions/Valentin/English/6/622.php3 |archivedate=2007-02-16 |publisher=virtualmuseum.ca |title=Basilica of Saint Valentine in Terni}}</ref>
บรรทัด 35:
ศีรษะของนักบุญวาเลนไทน์เก็บรักษาไว้ในแอบบีย์นิวมินสเตอร์ วินเชสเตอร์ และเป็นที่เคารพบูชา แต่ไม่มีหลักฐานว่านักบุญวาเลนไทน์จะเป็นนักบุญที่ได้รับความนิยมก่อนบทกวีของเชาเซอร์ในคริสต์ศตวรรษที่ 14 แม้แต่ในพื้นที่วินเชสเตอร์<ref name="ansgar">{{citation |chapter= The Valentines of February |title= Chaucer and the cult of Saint Valentine |volume= 5 |series= Davis medieval texts and studies |author= Henry Ansgar Kelly |publisher= BRILL |year= 1986 |isbn= 9789004078499 |pages= 58-63 |url= http://books.google.es/books?id=_bqdZbKPztMC&pg=PA60&dq=saint+valentine's+lupercalia+year&hl=en&sa=X&ei=uXI4T8CgLITX0QWB4OiSAg&ved=0CDYQ6AEwATgK#v=onepage&q=saint%20valentine's%20lupercalia%20year&f=false }}</ref> การเฉลิมฉลองนักบุญวาเลนไทน์มิได้แตกต่างไปจากการเฉลิมฉลองนักบุญคนอื่นมาก และไม่มีโบสถ์ใดอุทิศถึงเขา<ref name="ansgar"/>
 
ในการตรวจชำระปฏิทินนักบุญโรมันคาทอลิก [[วันฉลอง]]นักบุญวาเลนไทน์ซึ่งตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถูกตัดออกจากปฏิทินโรมันทั่วไปและลดขั้นไปอยู่ในปฏิทินเฉพาะ (particular calendar, ท้องถิ่นหรือประจำชาติ) ด้วยเหตุผล "แม้ความทรงจำเกี่ยวกับนักบุญวาเลนไทน์จะเก่าแก่ แต่ชื่อของเขาก็ถูกลดไปอยู่ในปฏิทินเฉพาะ เพราะนอกเหนือไปจากชื่อของเขาแล้ว ไม่มีข้อมูลอื่นใดทราบกันเกี่ยวกับนักบุญวาเลนไทน์ เว้นแต่ว่า ศพเขาฝังที่เวียฟลามิเนียเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์"<ref>''Calendarium Romanum ex Decreto Sacrosancti Œcumenici Concilii Vaticani II Instauratum Auctoritate Pauli PP. VI Promulgatum'' (Typis Polyglottis Vaticanis, MCMLXIX), p. 117.</ref> วันฉลองนี้ยังมีการเฉลิมฉลองอยู่ใน[[บัลซาน]] ([[ประเทศมอลตา]]) ที่ซึ่งมีการอ้างว่าพบเรลิกของนักบุญวาเลนไทน์ที่นั่น และมีการเฉลิมฉลองทั่วโลกโดยผู้นับถือนิกายคาทอลิกดั้งเดิมที่ถือตามปฏิทินที่เก่ากว่าก่อนหน้าของสภา[[สังคายนาวาติกันครั้งที่สอง]]นี้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ยังมีการเฉลิมฉลองเป็นวันวาเลนไทน์ใน[[นิกายของศาสนาคริสต์|นิกายอื่นของศาสนาคริสต์]] ตัวอย่างเช่น วันวาเลนไทน์มีระดับระดับ "พิธีฉลอง" (commemoration) ในปฏิทินของ[[คริสตจักรแห่งอังกฤษ]] และส่วนอื่นของ[[แองกลิคันคอมมิวเนียน]]<ref>{{cite web |url=http://www.churchofengland.org/prayer-worship/worship/texts/the-calendar/holydays.aspx |title=Holy Days |publisher=The Church of England |accessdate=2012-02-14}}</ref>
 
=== ตำนาน ===
ในคริสต์ศตวรรษที่ 5 หรือที่ 6 ผลงานชื่อ ''Passio Marii et Marthae'' ได้กุเรื่องราวการพลีชีพเพื่อศาสนาแก่นักบุญวาเลนไทน์แห่งโรม ซึ่งปรากฏว่ามิได้มีพื้นฐานอยู่บนข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ใด ๆ เลย<ref name="ansgar49">Ansgar, 1986, pp. 49-50</ref> ผลงานนี้อ้างว่า นักบุญวาเลนไทน์ถูกเบียดเบียนเพราะนับถือศาสนาคริสต์ และถูกสอบสวนโดย[[จักรพรรดิคลอเดียส กอธิคัส]] เป็นการส่วนตัว วาเลนไทน์จักรพรรดิคลอเดียสประทับใจและได้สนทนากับเขา โดยพยายามให้เขาเปลี่ยนไปนับถือลัทธิเพเกินโรมันเพื่อรักษาชีวิตของเขา วาเลนไทน์ปฏิเสธและพยายามโน้มน้าวให้จักรพรรดิคลอเดียสหันมานับถือศาสนาคริสต์แทน ด้วยเหตุนี้ เขาจึงถูกประหารชีวิต ก่อนที่เขาจะถูกประหารชีวิตนั้น มีรายงานวาเขาได้แสดงปาฏิหาริย์โดยรักษาลูกสาวตาบอดของผู้คุมของเขา แอสเตอเรียส (Asterius) ''Passio'' สมัยหลังย้ำตำนานนี้ โดยเสริมเรื่องกุว่า [[สมเด็จพระสันตะปาปาจูเลียสที่ 1]] ได้ทรงสร้างโบสถ์ครอบสุสานของเขา (เป็นความเข้าใจผิดกับผู้พิทักษ์ประชากร [tribune] ในคริสต์ศตวรรษที่ 4 ชื่อ วาเลนติโน ซึ่งบริจาคที่ดินเพื่อสร้างโบสถ์ในขณะที่จูเลียสเป็นพระสันตะปาปา)<ref name="ansgar49"/> ตำนานได้หยิบยกขึ้นเป็นข้อเท็จจริงโดยบันทึกมรณสักขีในภายหลัง เริ่มจากบันทึกมรณสักขีของบีดในคริสต์ศตวรรษที่ 8 และมีย้ำในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ใน ''[[ตำนานทอง|Legenda Aurea]]''<ref>[http://www.catholic-forum.com/saints/golden169.htm ''Legenda Aurea'', "Saint Valentine"], catholic-forum.com.</ref> หนังสือนี้อธิบายคร่าว ๆ ถึงกิจการของนักบุญ (''Acta Sanctorum'') ยุคกลางตอน[[ต้นของสมัยกลาง]]ว่ามีนักบุญวาเลนไทน์หลายคน และตำนานนี้จัดเข้ากับวาเลนไทน์ใต้วันที่ 14 กุมภาพันธ์
 
== อ้างอิง ==
บรรทัด 44:
{{รายการอ้างอิง}}
 
{{เรียงลำดับ|วาเลนไทน์}}
[[หมวดหมู่:ความรัก]]
[[หมวดหมู่:กุมภาพันธ์]]