ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บุลล์เทร์เรียร์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{ต้องการอ้างอิง}}
[[ไฟล์:Bull Terrier R 01.jpg|thumbnail|right|250px|บุลล์เทร์เรียร์]]<br />[[ไฟล์:Bullterier LM.jpg|thumbnail|right|250px|ลักษณะพิเศษของบุลล์เทร์เรียร์ได้แก่ หัวหลิม สันจมูกตรง และตาตี่]]
[[ไฟล์:Bullterier LM.jpg|thumbnail|right|250px|ลักษณะพิเศษของบุลล์เทร์เรียร์ได้แก่ หัวหลิม สันจมูกตรง และตาตี่]]
'''บุลล์เทร์เรียร์''' ({{lang-en|Bull Terrier}}) เป็นสายพันธุ์หนึ่งของ[[สุนัข]]
 
== ลักษณะทั่วไป ==
== ประวัติ ==
*บูลเทอร์เรีย เป็นสุนัขในกลุ่ม (Terrier Group) คือ หนึ่งในสุนัขประเภทเทอร์เรีย 4 สายพันธุ์ ที่ใช้ในการกัดสุนัข ได้แก่ American Pittbull Terrier, Staffordshire Bull Terrier, Miniature Bull Terrier, และ Bull Terrier ทั้งนี้ สุนัข บูลเทอร์เรีย จะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 15 ปี น้ำหนักมาตรฐานอยู่ระหว่าง 52-62 ปอนด์ ส่วนสูงอยู่ที่ 21-22 นิ้ว บูลเทอร์เรีย ดูแลง่าย ขนสั้น มีหลายสี ทั้งสีขาวล้วน ขาวแต้มดำหรือสีน้ำตาล และลายเสือ บูลเทอร์เรีย นับเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างพละกำลัง และความงดงาม มีลําตัวและโครงสร้างที่แข็งแรง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มีส่วนสัดที่รับกันอย่างพอดี มีลักษณะปราดเปรียว คล่องแคล่วว่องไว กระตือรือร้น มีไหวพริบและความฉลาด แบบฉบับของ สุนัข บูลเทอร์เรีย อันเป็นที่ยอมรับกันนั้นต้องขาวบริสุทธิ์ คือขาวปลอด จมูกดำปิ้ด รูปร่างสันทัดล่ำสัน ขากรรไกรแข็งแรง และนัยน์ตาเป็นรูปสามเหลี่ยม นั่นแหละเขาหละ
สุนัข บูลเทอร์เรีย จัดอยู่ในกลุ่มเทอร์เรีย มีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ราวปี ค.ศ.1835 เป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง บูลด็อก (Bulldog)กับ อิงลิชเทอร์เรียสีขาว (English White Terrier )ได้ออกมาเป็น "บูลแอนด์เทอร์เรีย" แต่เนื่องจากตัวเล็กเกินไป สองสามปีต่อมาจึงมีคนเอา บูลแอนด์เทอร์เรีย ไปผสมกับ สแปนิช พอยน์เตอร์ (Spanish Pointer) ทำให้ได้บูลเทอร์เรียที่ตัวใหญ่ขึ้น ซึ่งการพัฒนาสายพันธุ์ก็มีมาเรื่อยๆ กระทั่งในปี ค.ศ. 1850 มีการผสมพันธุ์ให้ขนสั้นลงมีสีขาวล้วน
 
== ความเป็นมา ==
== ลักษณะทั่วไป ==
สุนัข บูลเทอร์เรีย จัดอยู่ในกลุ่มเทอร์เรีย มีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ราวปี ค.ศ.1835 เป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง บูลด็อก (Bulldog)กับ อิงลิชเทอร์เรียสีขาว (English White Terrier )ได้ออกมาเป็น "บูลแอนด์เทอร์เรีย" แต่เนื่องจากตัวเล็กเกินไป สองสามปีต่อมาจึงมีคนเอา บูลแอนด์เทอร์เรีย ไปผสมกับ สแปนิช พอยน์เตอร์ (Spanish Pointer ) ทำให้ได้บูลเทอร์เรียที่ตัวใหญ่ขึ้น ซึ่งการพัฒนาสายพันธุ์ก็มีมาเรื่อยๆ กระทั่งในปี ค.ศ. 1850 มีการผสมพันธุ์ให้ขนสั้นลงมีสีขาวล้วน
 
==<br />'''ลักษณะนิสัย =='''
*บูลเทอร์เรีย เป็นสุนัขในกลุ่ม (Terrier Group) คือ หนึ่งในสุนัขประเภทเทอร์เรีย 4 สายพันธุ์ ที่ใช้ในการกัดสุนัข ได้แก่ American Pittbull Terrier, Staffordshire Bull Terrier, Miniature Bull Terrier, และ Bull Terrier ทั้งนี้ สุนัข บูลเทอร์เรีย จะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 15 ปี น้ำหนักมาตรฐานอยู่ระหว่าง 52-62 ปอนด์ ส่วนสูงอยู่ที่ 21-22 นิ้ว บูลเทอร์เรีย ดูแลง่าย ขนสั้น มีหลายสี ทั้งสีขาวล้วน ขาวแต้มดำหรือสีน้ำตาล และลายเสือ บูลเทอร์เรีย นับเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างพละกำลัง และความงดงาม มีลําตัวและโครงสร้างที่แข็งแรง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มีส่วนสัดที่รับกันอย่างพอดี มีลักษณะปราดเปรียว คล่องแคล่วว่องไว กระตือรือร้น มีไหวพริบและความฉลาด แบบฉบับของ สุนัข บูลเทอร์เรีย อันเป็นที่ยอมรับกันนั้นต้องขาวบริสุทธิ์ คือขาวปลอด จมูกดำปิ้ด รูปร่างสันทัดล่ำสัน ขากรรไกรแข็งแรง และนัยน์ตาเป็นรูปสามเหลี่ยม นั่นแหละเขาหละ
 
== ลักษณะนิสัย ==
สุนัขบลูเทอร์เรีย เป็นนักสู้ที่อ่อนหวานโดยธรรมชาติ เป็นนักสู้ที่ใจถึง เป็นสุนัขอารักขาที่กระฉับกระเฉง รักครอบครัวและอาณาเขตของเขาโดยสัญชาติญาณ ผู้ที่อาศัยอยู่ตามอพาร์ทเม้นท์ซึ่งมีเนื้อที่จำกัด จะนิยมเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้เพื่อช่วยอารักขา เนื่องจากเป็นสุนัขอารักขาที่ดี แล้วยังเป็นสุนัขที่ประหยัดอีกด้วย บางครั้งอาจจะดื้อรั้นไปบ้าง แต่ก็เป็นสุนัขที่เข้ากับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี เพื่อให้เขาอยู่ในโอวาทควรมีการฝึกปรือตั้งแต่วันแรกๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าจะเลี้ยงเขารวมกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น โดยธรรมชาติแล้วจะก้าวร้าวกับสุนัขที่ทำตัวเป็นเจ้าถิ่น
 
== '''การดูแล =='''
บุลล์ เทอร์เรียร์ จะมีการผลัดขน 2 ครั้งต่อปี ขนที่หมดอายุสามารถเอาออกได้เป็นประจำทุกวันโดยการแปรงขน ควรตรวจเล็บและนิ้วติ่ง เป็นประจำทุกเดือนและคอยตัดเล็บโดยใช้กรรไกรตัดเล็บสุนัข บูล เทอร์เรียร์ โดยธรรมชาติผิวหนังจะค่อนข้างแพ้แสงแดดดังนั้นควรเอาใจใส่ดูแลในเดือนที่มีอากาศร้อนเป็นพิเศษ บูล เทอร์เรียร์ ต้องการรั้วรอบขอบชิดเพื่อ ความปลอดภัย บริเวณสนามวิ่งเล่นที่มีขนาดใหญ่สักหน่อยเพื่อจะได้ไม่ต้องล่ามโซ่หรือผูกเขาไว้กับที่ และสิ่งสำคัญที่พวกเขาต้องการคือมิตรภาพจากพวกเรา
 
== อาหาร ==
เนื่องจากเป็นสุนัขขนาดกลาง ปริมาณในกินอาหารในแต่ละมื้อของบุลล์เทร์เรียร์จึงไม่มากเท่าไรนัก แต่ผู้เลี้ยงก็ควรฝึกให้มีวินัยในการกิน กินเป็นเวลา ไม่พร่ำเพรื่อ เพราะบุลล์เทร์เรียร์มีนิสัยกินเก่ง หากให้อาหารบ่อย ๆ อาจเสี่ยงต่อโรคอ้วนได้ ดังนั้นจึงควรเลือกอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วน อาหารเม็ดจะเหมาะสมที่สุด เนื่องจากสะดวก ไม่ต้องเสียเวลาปรุงเอง งดอาหารซึ่งคนบริโภคเนื่องจากผ่านการปรุงรสชาติ เติมสารกันบูดหรือเคมีต่าง ๆ หรืออาหารที่มีรสเค็ม เผ็ด หรือหวานจัด
 
บุลล์บูล เทอร์เรียร์ จะมีการผลัดขน 2 ครั้งต่อปี ขนที่หมดอายุสามารถเอาออกได้เป็นประจำทุกวันโดยการแปรงขน ควรตรวจเล็บและนิ้วติ่ง เป็นประจำทุกเดือนและคอยตัดเล็บโดยใช้กรรไกรตัดเล็บสุนัข บูล เทอร์เรียร์ โดยธรรมชาติผิวหนังจะค่อนข้างแพ้แสงแดดดังนั้นควรเอาใจใส่ดูแลในเดือนที่มีอากาศร้อนเป็นพิเศษ บูล เทอร์เรียร์ ต้องการรั้วรอบขอบชิดเพื่อ ความปลอดภัย บริเวณสนามวิ่งเล่นที่มีขนาดใหญ่สักหน่อยเพื่อจะได้ไม่ต้องล่ามโซ่หรือผูกเขาไว้กับที่ และสิ่งสำคัญที่พวกเขาต้องการคือมิตรภาพจากพวกเรา
== ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม ==
บุลล์เทร์เรียร์สามารถทนพฤติกรรมของของเด็กได้มาก แต่จะไม่ทนหากถูกแหย่และสามารถเกเรถ้าถูกแหย่ให้โกรธเสมอ ๆ เจ้าของบุลล์เทร์เรียร์ต้องมีความรับผิดชอบสูง การผสมพันธุ์ควรจะอยู่ในความรับผิดชอบและการดูแลของผู้เป็นเจ้าของสุนัขเท่านั้น
 
== '''ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม =='''
== โรคและวิธีการป้องกัน ==
แม้บุลล์เทร์เรียร์จะเป็นสุนัขที่พื้นฐานร่างกายค่อนข้างแข็งแรง แต่โรคและอาการที่พบในบุลล์เทร์เรียร์ก็มีมากเช่นกัน ทั้งนี้โรคที่พบบ่อย ได้แก่
 
บุลล์เทร์เรียร์บูล เทอร์เรียร์ สามารถทนพฤติกรรมของของเด็กได้มาก แต่จะไม่ทนหากถูกแหย่และสามารถเกเรถ้าถูกแหย่ให้โกรธเสมอ ๆเสมอๆ เจ้าของบุลล์เทร์เรียร์ บูล เทอร์เรียร์ ต้องมีความรับผิดชอบสูง และการผสมพันธุ์ควรจะอยู่ในความรับผิดชอบและการดูแลของผู้เป็นเจ้าของสุนัขเท่านั้น
#โรคผิวหนังหรือผิวหนังมีอาการแพ้ง่าย โรคนี้พบมากโดยเฉพาะสุนัขที่มีสีขาว และอยู่ในประเทศแถบร้อนชื้นอย่างบ้านเรา
#โรคหัวใจผิดปกติแต่กำเนิด อาการนี้ต้องให้สัตวแพทย์ตรวจ ซึ่งหมายความว่าผู้เลี้ยงจะต้องหมั่นพาเขาไปตรวจสุขภาพทุกปี เมื่อรู้ว่าเขาป่วยด้วยโรคนี้จะได้ดูแลได้อย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นบางคนนำสุนัขที่เป็นโรคหัวใจไปออกกำลังกายหนัก ๆ ก็จะทำให้เสียชีวิตได้
#โรคไตผิดปกติแต่กำเนิด อาการนี้ก็ต้องตรวจเช่นกันว่าค่าไตอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ เพื่อที่ผู้เลี้ยงจะได้เตรียมการดูแลที่ต่างออกไปจากสุนัขปกติทั้งด้านอาหารและการออกกำลังกาย
#อาการหมุนเป็นวงกลมโดยไม่สามารถควบคุมได้ บางตัวอาจมีการงับหางตัวเองร่วมด้วย ส่วนมากเกิดจากความเครียดที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย
#อาการลูกสะบ้าหัวเข่าเคลื่อน เป็นโรคเกี่ยวกับพันธุกรรม เกิดจากการเลี้ยงบนพื้นลื่น หรือบางตัวอาจได้รับการกระแทกบริเวณหัวเข่า อาจแสดงอาการเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้างพร้อมกันก็ได้ อาการที่พบคือ สุนัขจะเดินย่อตัว ปลายเท้าแบะออก นอกจากนี้อาจพบโรคกระดูกบางซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการได้รับสารอาหารบางชนิดในวัยเด็ก เช่น ข้าวคลุกตับ โครงไก่ หรือปลากระป๋อง หรือการเสริมแคลเซียมให้มากเกินไป ทำให้ระดับแคลเซียมและฟอสฟอรัสในกระแสเลือดเสียสมดุล ส่งผลให้เกิดโรคกระดูกบางตามมาได้
#หูหนวกแต่กำเนิด ที่ต่างประเทศจะมีเครื่องที่ใช้ตรวจกรณีนี้โดยเฉพาะเรียกว่า BEAR test แต่เท่าที่ทราบนี่เมืองไทยยังไม่น่าจะมี แต่เราก็สามารถใช้วิธีตรวจสอบคร่าว ๆ ได้ เช่น การเป่านกหวีด หรือทำเสียงต่าง ๆ เพื่อป้องกันการซื้อสุนัขหูหนวกมาเลี้ยง
 
==== ข้อควรจำ ====
จะเห็นได้ว่าสุนัขบุลล์เทร์เรียร์มีโอกาสเกิดโรคต่าง ๆ ได้ไม่แพ้สุนัขสายพันธุ์อื่นๆ แม้จะมีร่างกายที่แข็งแรงเพียงใดก็ตาม ดังนั้น ผู้เลี้ยงควรพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำตามใบนัดเพื่อทำการฉีดวัคซินตามโปรแกรม และขอย้ำเรื่องการจูงเดินเล่น เป็นการออกกำลังกายที่ควรจะทำให้บ่อยที่สุด หรือทุกวันก็จะดีมาก ๆ แต่ควรหลีกเลี่ยงในเวลาที่แสงแดดจัด จะได้ไม่เกิดอาการแพ้ขึ้นมาได้
แม้ว่าโดยทั่วไปสุขภาพจะดีก็ตาม แต่ บูล เทอร์เรียร์ ก็มีแนวโน้มเกิดอาการแพ้ที่ผิวหนังได้ง่าย โดยเฉพาะแผลจากการถูกแมลงกัด ส่วนในลูกสุนัขควรตรวจดูว่าหูหนวกหรือไม่
'''มาตรฐานสายพันธุ์'''
{| class="wikitable"
|'''ขนาด'''
| -
|-
|'''ศรีษะ'''
|ส่วนหัว มีลักษณะยาว และลึก หัวมีลักษณะคล้ายรูปไข่ เส้นที่ลาก จากหัวกะโหลกจรดปลายจมูก เป็นเส้นโค้ง หัวกะโหลกระหว่างหูมี ลักษณะแบน ความยาวของปากจะยาวกว่าความยาวของหัวกะโหลก เล็กน้อย ริมฝีปากตึง
|-
|'''ฟัน'''
|แข็งแรง ฟันขบแบบกรรไกร
|-
|'''ปาก'''
|ริมฝีปากดำ สะอาด กระชับ
|-
|'''ตา'''
|ดวงตามีขนาดปานกลาง นัยน์ตากลม ตั้งห่างกัน และอยู่ต่ำจากช่วงบนศีรษะ ดวงตาสีดำ น้ำตาลเข้ม น้ำตาลอ่อน ยกเว้นสีฟ้า
|-
|'''หู'''
|มีขนาดเล็ก บาง หูทั้งสองอยู่ชิดกัน หูตั้ง
|-
|'''จมูก'''
|สีดำ ปลายจมูกโค้งเล็กน้อย
|-
|'''คอ'''
|ค่อนข้างลึก สียิ่งเข้มยิ่งดี มีขนาดเล็ก ตามีลักษณะคล้ายรูปสามเหลี่ยม
|-
|'''อก'''
|มีขนาดค่อนข้างกว้างใหญ่และลึก
|-
|'''ลำตัว'''
|มีลักษณะกลม ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ
|-
|'''เอว'''
| -
|-
|'''ขาหน้า'''
|มีกระดูกค่อนข้างใหญ่และยาวข้อเท้าหน้าแข็งแรงขาหน้าตั้งฉากกับพื้น มองจากด้านหน้า ขาหน้าตรง ห่างกันพอเหมาะ การยึดมั่นคง เท้าคล้ายเท้าแมวนิ้วเท้าชิด
|-
|'''ขาหลัง'''
|ขาหลังท่อนบนแข็งแรง ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ ข้อเท้าหลังสั้นตั้งฉากกับพื้น มองจากด้าน หลัง ขาหลังตรง ห่างกันพอเหมาะ เท้าคล้ายแมวนิ้วเท้าชิด
|-
|'''หาง'''
|ค่อนข้างสั้น โคนหางอยู่ในระดับต่ำ หางควรชี้ขนานกับพื้น
|-
|'''ขน'''
|ขนสั้นแข็ง ผิวหนังตึง สีขาวทั้งตัว หรือ ลายเสือ
|-
|'''สีขน'''
|เป็นสีอะไรก็ได้ หรือ มีการผสมหลายสีรวมกัน แต่ยกเว้นสีด่างเทาเป็นจุดๆ
|}
 
== แหล่งข้อมูลอื่น ==