ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ยุคมืดของกัมพูชา"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 61:
หลังจากนั้นมาเขมรก็กลายเป็นประเทศราชของ[[สยาม]] ต่อมาในปี พ.ศ. 1936 อาณาจักรเขมรแข็งเมืองจน[[สมเด็จพระราเมศวร]] กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาส่งกองทัพไปยึดเมืองพระนครเมืองหลวงของเขมรได้อีกครั้ง ประมาณว่ากองทัพไทยยกทัพไป 2 ทางมีทหารรวมกันระหว่าง 40,000 – 50,000 คน ในขณะที่กองทัพเขมรมีทหารระดมมาจากทั่วแคว้นประมาณ 100,000 คน ต่อมาในปีพ.ศ. 1974 อาณาจักรเขมรเกิดแข็งเมืองไม่ยอมส่งเครื่องบรรณาธิการมายังกรุงศรีอยุธยา [[สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2]] โอรสของเจ้านครอินทร์หรือ[[สมเด็จพระอินทราชา]]ยกทัพหลวงจากกรุงศรีอยุธยา คาดกันว่ามีกำลังพลประมาณ 60,000 คนไปตีเมืองพระนครของเขมร ยุทธวิธีรบของทหารไทยจากพระนครศรีอยุธยาจัดกำลังออกเป็น 2 กองทัพแรกคือกองทัพบกมีกำลัง 50,000 คนเข้าตีเขมรตรงด้านหน้ามีทั้งทหารช้าง ทหารม้า ทหารราบเครื่องทำลายกำแพงและทหารธนู กองทัพเรือมีกำลัง 10,000 คนล่องเรือไปทาง[[แม่น้ำโขง]]เป็นเรือพายขนาดใหญ่จู่โจมทางด้านหลัง ฝ่ายอาณาจักรเขมรนั้นได้เกณฑ์ทหารตั้งรับจากทั่วอาณาจักรมีกำลังมากกว่าทหาร[[ไทย]] ประมาณกันว่ามีจำนวนระหว่าง 70,000 – 75,000 คน ประกอบด้วยพลเดินเท้าใช้[[ดาบ]]ยาว 2 มือและดาบยาวกับโล่หรือดั้งป้องกันตัว ทหารธนูมีกำลังพล 1 ใน 5 ของทหารทั้งหมด กองทหารม้ามีหอกยาว ทวนและโตมรพร้อมกับดาบยาวที่เอว เมืองพระนครของเขมรถูกทำลายจนต้องย้ายเมืองหลวงจากเมืองพระนครไปที่[[อาณาจักรเขมรจตุรมุข|เมืองจตุรพักตร์]]ที่ตั้งของกรุง[[พนมเปญ]]ในปัจจุบัน และต่อมาย้ายไป[[อาณาจักรเขมรละแวก|เมืองละแวก]]ใกล้ริม[[ทะเลสาบเขมร]] และย้ายไป[[อาณาจักรเขมรศรีสุนทร|เมืองศรีสุนทร]] และ[[อาณาจักรเขมรอุดง|เมืองอุดงมีชัย]] ตามลำดับ
การที่กองทัพไทยตีเมืองพระนครแตกทำให้
[[หมวดหมู่:ประวัติศาสตร์กัมพูชา]]
|