ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คริสตินา อากีเลรา"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Ddjingjing (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 82:
หลังจากที่ได้ชิมลางกับอัลบั้ม Keeps Gettin' Better: A Decade of Hits แล้ว คริสติน่าได้เปิดตัวอัลบั้มที่ 6 ของเธอ ''Bionic'' ในวันที่ 8 มิ.ย. 2010 ซึ่งใช้โปรดิวเซอร์มากมายในการร่วมสร้างสรรค์อัลบั้ม Bionic นี้เช่น Tricky Stewart, Le Tigre, Switch, Ester Dean, Sam Endicott, Sia, Claude Kelly, Linda Perry, M.I.A., Santigold และ Peaches อัลบั้ม Bionic มีแนวเพลงผสมผสานระหว่าง electronic และ dance อัลบั้ม Bionic เปิดตัวยอดขายได้อันดับที่ 3 ด้วยยอดขาย 110,000 ก๊อปปี้ ''Bionic'' เปิดตัวด้วยด้วยซิงเกิ้ลแรกเพลง "Not Myself Tonight" เพลง Pop/Dance ทำอันดับบน Billboard Hot 100 สูงสุดที่ #23 ส่วนซิงเกิ้ลที่ 2 คือ "You Lost Me" แต่อัลบั้มไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ได้เริ่มมีการจัด Bionic ทัวร์ขึ้นโดยการเริ่มทัวร์จากฝั่งอเมริกาเหนือร่วมกับนักร้องสาวชาวอังกฤษ Leona Lewis แต่ต้องหยุดลงเนื่องจากตัว คริสติน่าเอง ต้องโปรโมทหนัง บารรักเวทีร้อน และการซ้อมไม่เพียงพอจึงเป็นเหตุผลให้ทางต้นสังกัด RCA Records ได้ยกเลิกการทัวร์คอนเสิร์ตไป แต่อย่างไรเธอก็ยังคงเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนทั้งการแสดงสดรางวัลแกรมมี่ 2011 ร่วมกับ [[เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน]] หรือการร้องเพลงชาติที่เกิดการผิดพลาดในงาน Super Bowl XXL 2011
 
=== 2012 - ปัจจุบัน : Lotus ===
[[ค.ศ. 2012]] งานสตูดิโอลำดับที่ 5 ของเธอ อากีเลราได้เป็น Executive Producer และร่วมงานกับ Max Martin, Alex Da Kid, Sia Furler, Claude Kelly, Steve Robson อัลบั้มเปิดตัวบน Global Chart อยู่ที่อันดับ 9 ด้วยยอดขายทั่วโลก 117K
ซิงเกิลเปิดตัว "Your Body" กำกับโดย Melina Matsoukas ทำอันดับบน Billboard Hot 100 สูงสุดที่อันดับ 34 และขึ้นอันดับ 1 ยอดโหลด iTunes TH เป็นประเทศแรก
อากีเลร่าได้รับรางวัลเกียรติยศ "Voice Of A Generation" จากงาน ALMA Awards 2012 และยังได้รับรางวัลพิเศษ "People Voice Award" เป็นบุคคลที่ถูกกล่าวขานมากที่สุดในวงการอุตสาหกรรมทางดนตรี จากงานประกาศผลรางวัล People's Choice Awards 2013
 
=== 2018 - Liberation และการออกทัวร์คอนเสิร์ตในรอบทศวรรษ the Liberation tour ===
กือบ 10 ปีที่ผ่านมา นับว่าไม่ใช่เส้นทางการเป็นดาวที่โรยด้วยกลีบกุหลาบเท่าไรนักของคริสติน่า อากีเลร่า นับตั้งแต่อัลบั้ม ''Bionic''(2010) ต่อเนื่องด้วยอัลบั้ม ''Lotus'' (2012) ที่แป้กสนิทจนหลายๆ คนเอามาเป็นคำล้อถึงอัลบั้มไหนก็ตามที่แป้ก และถึงแม้การโดดมานั่งเป็นหนึ่งในกรรมการของรายการ ''The Voice US'' ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ช่วยเติมไฟให้กับคำว่าดีว่าในตัวเธอเท่าไรนัก แต่กลับจะยิ่งให้เก้าอี้ดีว่าของเธอต้องเป็นอันสั่นคลอน แต่การกลับมาพร้อมอัลบั้มใหม่ ''Liberation'' ที่หากใครเป็นแฟนเพลงเธอจะรู้ดี ว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงที่เราเคยได้สัมผัสกันมาแล้วกับช่วงพีกในเส้นทางอาชีพของเธอจากอัลบั้ม ''Stripped'' (2002) ที่เต็มไปด้วยเพลงช้าบัลลาดโชว์พลังเสียง ในเพลงอย่าง “Walk Away” หรือจะทำให้โลกของเพลงป๊อปร้อนเป็นไฟด้วยความแรงของเพลง “Dirty” โดย[[คริสตินา อากีเลรา|อากีเลรา]]กล่าวว่า ลองนึกดูว่า หากใครคนหนึ่งหายไปจากชีวิตเรานานกว่า 6 ปี แล้วในวันที่คนคนนั้นวนกลับเข้ามาในชีวิตเราอีกครั้ง เราก็ต้องอดสงสัยไม่ได้ว่า 6 ปีที่หายไป เธอเป็นอย่างไรบ้าง เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ''Liberation'' จึงเปรียบเสมือนการรวบรวมเรื่องราวในช่วงชีวิตของคริสติน่าที่น้อยคนจะรู้จากตามหน้าสื่อ เพราะถูกฉาบหน้าด้วยภาพลักษณ์ของนักร้องดีว่าจอมบงการ จนกระทั่งเธอรู้สึกเป็นอิสระพอที่จะพาเราไปทำความรู้จักกับตัวตนที่แท้จริงและรสนิยมทางดนตรีของเธอ ที่เป็นมากกว่าเพลงป๊อป  
 
=== Burlesque (บาร์รัก เวทีร้อน) ===
เส้น 97 ⟶ 100:
=== ชีวิตส่วนตัว ===
 
อากีเลร่าแต่งงานกับจอร์แดน แบรตแมน หนึ่งในทีมงานของเธอเมื่อวันที่ [[19 พฤศจิกายน]] [[ค.ศ. 2005]] ทั้งคู่มีลูกชาย 1 คนคือ แม็กซ์ซี่ ไลรอน แบรตแมน ปัจจุบัน อากีเลร่าได้หย่างร้างกับจอร์แดน<ref>[http://marriage.about.com/od/entertainmen1/p/aguilera.htm Christina Aguilera and Jordan Bratman Marriage Profile] About.com</ref> และได้คบหากับแฟนหนุ่ม แมตต์ รัทเลอร์ และมีบุตรสาวชื่อ ซัมเมอร์เรน
 
== ผลงาน ==