ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นาส"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 39:
ปี 2005 เขาหมดสัญญากับ โคลัมเบีย และ ตัดสินใจที่จะไม่ต่อสัญญา พร้อมทำเรื่องช็อควงการคือ หลังจากที่ถูกจับมาเปรียบเทียบกับ Jay Z มาโดยตลอด เขาเข้ามาเป็นศิลปินในสังกัด Def Jam ออกอัลบั้ม ''Hip Hop is Dead'' ในปี 2006 และต่อมาปี 2007 กับอัลบั้ม ''Greatest Hits'' ที่รวมเองเพลงเด่นๆ ของเขาเอาไว้มากมาย พร้อม 1 เพลงใหม่ Surviving the times
ปี 2008 เขาออกผลงานที่ช๊อคคนทั้งอเมริกาด้วยชื่อเรียกของอัลบัมที่เรียกว่า ''Nigger'' ซึ่งแปลตรงๆแล้วเป็นคำเหยียดหยามคนดำจนเขาถูกบีบบังคับจากนักการเมืองสีผิวชาวอเมริกัน เจสสซี่ แจ็คสัน ให้เปลี่ยนชื่ออัลบัม นาสตัดสินใจไม่ตั้งชื่ออัลบัม แล้วเรียกชื่ออัลบัมใหม่นี้ว่า ''Untitled'' แต่เพลงในอัลบัมของเขายังมีนัยแฝงของชื่ออัลบัมที่เขาเคยตั้งเอาไว้
ปี 2010 นาส ได้ร่วม
ปี 2012 นาสปล่อยสตูดิโออัลบั้มเดี่ยวลำดับที่ 10 ของตนเอง
ซิงเกิ้ลโปรโมทเพลงแรกคือ Nasty ได้ Salaam Remi โปรดิว
ซิงเกิ้ลที่ 2 The Don เป็นเพลงที่ Salaam Remi โปรดิวร่วมกับ Heavy D ก่อนที่จะเสียชีวิต และกลุ่ม Da Internz (MIMS, Big Sean, Rihanna, Ludacris) โดยใช้เพลง Dance Inna New York ของ Super Cat มาแซมม์
ซิงเกิ้ลที่ 3 Daughters ที่ได้ No I.D. มาโปรดิว เป็นเพลงที่ถ่ายทอดชีวิตความเป็นพ่อที่เป็นห่วงลูกในโลกของสังคมออนไลน์ ณ ขณะนี้ ได้อย่างชัดเจน โดยใช้เพลง Na Na Hey Hey Kiss Him Goodbye ของ Wayne McGhie & The Sounds of Joy มาแซมม์ ซิงเกิ้ลที่ 4 Accident Murderers ได้ Rick Ross มาแจมด้วย หลังจากร่วมมาหลายครั้งแล้วแต่ยังไม่เป็นทางการสะที ซิงเกิ้ลนี้เป็นทางการของเขาทั้งสอง อาจเป็นซิงเกิ้ลหลัก เพลงนี้ No I.D. โปรดิว
หลังจากช่วงปี 2013-2017 นาส ได้ร่วมงานกับศิลปินรุ่นน้องคับคัง Big Sean, Justin Bieber, DJ Khaled, Jack White และได้ผลักดันศิลปินของนาส อย่าง Dave East เข้ามาเซ็นสัญญาภายใต้ค่าย Mass Appeal และ Def Jam
ปี 2018 ได้ปล่อยอัลบัมที่ 11 '''นาสิก''' ซึ่งเป็นชื่อจริงของเขา และได้ [[คานเย เวสต์]] มาเป็นโปรดิวเซอร์ในอัลบั้มนี้ ภายใต้โปรเจ็ก '''Wyoming Sessions''' แต่ภายในสัปดาห์นั้นกลับเจอคู่ปรับตลอดกาลอย่าง Jay Z ในอัลบั้ม Everything Is Love ร่วมกับภรรยา [[บียอนเซ่ โนวส์]] ในวันที่ 16 มิถุนายน 2018 พร้อมกัน
== ผลงานสตูดิโออัลบั้ม ==
|