ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คลื่นยักษ์"

'''คลื่นยักษ์''' มีชื่อเรียก(ใน[[ภาษาอังกฤษ]]หลยชื่อคือมีชื่อเรียกหลายชื่ออาทิ ฟรีกเวฟ ({{lang-en|freak wave}}) โรกเวฟ ({{lang-en|rogue wave}}) หรือ มอนสเตอร์เวฟ ({{lang-en|monster wave}})) เป็นคลื่นผิวน้ำขนาดใหญ่ และฉับพลัน สามารถสามารล่มเรือขนาดกลางถึงใญ่ใหญ่ได้ ในอดีตเชื่อกันว่าเป็นเพียงเรื่องเล่าลือ เล่าแต่ในปัจจุบันได้มีการยืนยันว่าเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ธรรมชาติทางทะเลชนิดหนึ่ง ที่ไม่พบบ่อยนัก แต่ก่อนนั้นวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1995

ข้อถกเถียงเกี่ยวกับการมีอยู่จริงของคลื่นประเภทนี้นั้น ได้จบลงในปี ค.ศ. 2004 เมื่อ หลังจากโครงการแมกซ์เวฟ (Project MaxWave) และ ศูนย์วิจัย GKSS (GKSS Research Centre) ได้ใช้ข้อมูลจาก[[ดาวเทียม]] เก็บข้อมูลและถ่ายได้ทำการเก็บภาพถึง 30,000 ภาพโดยแต่ละภาพครอบคขนาดครอบคลุมพื้นที่ขนาด 10 x 5 กิโลเมตร รวมทั้งหมดครอบคลุมพื้นที่ 1.5 ล้านตารางกิโลเมตร และสามารถตรวจจับการเกิดคลื่นยักษ์ใน 10 รูป หรือเท่ากับคลื่นยักษ์ 1 ลูกใน 150,000 ตารางกิโลเมตร สังเกตจึงมีข้อสังเกตว่าคลื่นที่ ยักษ์จะเกิดขึ้นในบริเวณมหาสมุทรบริเวณกว้าง และด้วยความถี่ดังที่กล่าวมานี้ จึงนับว่าเป็นเหตุการณ์ที่พบเห็นได้ยากยา <ref>[http://news.bbc.co.uk/2/hi/science/nature/3917539.stm BBC NEWS]</ref> มีความเป็นไปได้สูงที่ คลื่นประเภทนี้ เป็นเหตุที่ทำให้เรือเดินสมุทรหายสาบสูญโดยไม่ทราบสาเหตุ

เนื่องจากปรากฏการณ์การเกิดคลื่นยักษ์นี้ยังอยู่ในช่วงของการศึกษาวิจัย ดังนั้นจึงยังไม่ได้มีข้อสรุปว่าสาเหตุหลักของการเกิดคลื่นยักษ์นี้คืออะไร และอาจมีสาเหตุการเกิดที่แตกต่างกันไปตามแต่ละสถานที่หรือไม่ บริเวณที่มีโอกาn:Cape Agulhas]]) โอกาศเกิดมักอยู่ทางตอนใต้ของ[[ทวีปแอฟริกา]] แต่คุณลักษณะดังกล่าวก็ไม่ได้อธิบายถึง สาเหตุของคลื่นยัยักษ์ที่เกิดขึ้นในบริเวณอื่น) ซึ่งอาจเกิดจาก รูปร่างของชายฝั่ง หรือ พื้นดิน[[ก้นทะเล]]

* "สามอนงค์" (three sisters) มีลักษณะเป็นกลุ่มคลื่น 3 ลูก (Enda

* คลื่นมรสุมเดี่ยวขนาดยักษ์ ก่อตัวสูงถึง 4 เท่าของคลื่นมรสุมปกติ และสลvour หรือ Caledonian Star report [[2 มีนาคม]] [[ค.ศ. 2001]], {{Coord|53|03|S|63|35|W|}})ายตัวภายในไม่กี่วินาที ([[:en:MS Breme] report [[22 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 2001]], {{Coord|45|54|S|38|58|W|}})