ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ศาสนาพุทธในประเทศจีน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
→‎ยุคราชวงศ์ฮั่น: เพิ่มเนื้อหา
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ย้อนการแก้ไขที่ 7579794 สร้างโดย เสริฐ บินเดี่ยว (พูดคุย)
ป้ายระบุ: ทำกลับ
บรรทัด 7:
 
=== ยุคราชวงศ์ฮั่น ===
ในสมัย[[ราชวงศ์ฮั่น]] แม้ว่าพระพุทธศาสนาจะเป็นที่เลื่อมใสแต่ก็ยังจำกัดอยู่ในวงแคบคือ ในหมู่ข้าราชการและชนชั้นสูงแห่งราชสำนักเป็นส่วนใหญ่ ยังไม่แพร่หลายในหมู่ประชาชนชาวเมือง เพราะ[[ชาวจีน]]ส่วนใหญ่ยังคงนับถือ[[ลัทธิขงจื๊อ]]และ[[ศาสนาลัทธิเต๋า]] จนกระทั่งโม่งจื๊อ นักปราชญ์ผู้มีความสามารถยิ่งได้แสดงหลักธรรมของพระพุทธศาสนา]ห้ชาวเมืองได้เห็นถึงความจริงแท้อันลึกซึ้งของ[[พระพุทธศาสนา]]เหนือกว่าลัทธิเดิม กับอาศัยความประพฤติอันบริสุทธิ์ของพระสงฆ์เป็นเครื่องจูงใจให้ชาวจีนเกิดศรัทธาเลื่อมใส จนทำให้ชาวเมืองหันมานับถือพระพุทธศาสนามากกว่าลัทธิศาสนาอื่นๆ พระพุทธศาสนาก็เจริญรุ่งเรืองมาเป็นลำดับ แต่ปัจจุบันนี้ศาสนาเต๋าได้มีการฟื้นฟูโดยมีการประมวลศาสนาเต๋าใหม่รวบรวมทุกอย่างเกี่ยวกับเต๋าไว้ในคำภีร์เต้าจ้าง ทำให้คนจีนกลับมาให้ความสำคัญของคำสอนแนวคิดแบบเต๋าว่าไม่แพ้ศาสนาใดในโลก และหันกลับมานับถือศาสนาเต๋าเป็นจำนวนมาก โดยคนจีนส่วนใหญ่จะนับถือทั้ง2ศาสนา1ลัทธิไปพร้อมๆกัน คือ1.ศาสนาเต๋า 2.ศาสนาพุทธ 3.ลัทธิหยูเจีย (ขงจื๊อ)
 
=== ยุคราชวงศ์ถัง ===
[[ราชวงศ์ถัง]] (พ.ศ. 1161-1450) พระพุทธศาสนาก็เจริญสูงสุด เพราะได้รับการสนับสนุนจากพระเจ้าจักรพรรดิตลอดจนนักปราชญ์ราชบัณฑิตต่างๆโดยมีการสร้างวัดขึ้นหลายแห่ง และมีการแปลพระสูตรจากภาษาบาลีเป็นภาษาจีนมากมายพระพุทธศาสนาเริ่มเสื่อมลงเมื่อ[[จักรพรรดิถังอู่จง]]ขึ้นปกครองประเทศ เพราะพระองค์ทรงเลื่อมใสใน[[ลัทธิเต๋า]] พระองค์ได้ทำลายพระพุทธศาสนา เช่น ให้[[ภิกษุ]][[ภิกษุณี]]ลาสิกขาบท ยึดวัด ทำลาย[[พระพุทธรูป]] เผาคัมภีร์ เป็นต้น พระพุทธศาสนาไม่ได้รับการอุปถัมภ์จากราชสำนัก ก็เริ่มเสื่อมลงตั้งแต่บัดนั้น
 
[[ราชวงศ์ถัง]] (พ.ศ. 1161-1450) พระพุทธศาสนาก็เจริญสูงสุด เพราะได้รับการสนับสนุนจากพระเจ้าจักรพรรดิตลอดจนนักปราชญ์ราชบัณฑิตต่างๆโดยมีการสร้างวัดขึ้นหลายแห่ง และมีการแปลพระสูตรจากภาษาบาลีเป็นภาษาจีนมากมายพระพุทธศาสนาเริ่มเสื่อมลงเมื่อ[[จักรพรรดิถังอู่จง]]ขึ้นปกครองประเทศ เพราะพระองค์ทรงเลื่อมใสใน[[ลัทธิเต๋า]] พระองค์ได้ทำลายพระพุทธศาสนา เช่น ให้[[ภิกษุ]][[ภิกษุณี]]ลาสิกขาบท ยึดวัด ทำลาย[[พระพุทธรูป]] เผาคัมภีร์ เป็นต้น พระพุทธศาสนาไม่ได้รับการอุปถัมภ์จากราชสำนัก ก็เริ่มเสื่อมลงตั้งแต่บัดนั้น
 
=== ยุคสาธารณรัฐจีน ===
ใน พ.ศ. 2455 ประเทศจีนได้เปลี่ยน ชื่อ ประเทศเป็นสาธารณรัฐจีน รัฐบาลไม่ได้สนับสนุนในพระพุทธศาสนา แต่สนับสนุนแนวความคิดของ[[ลัทธิมาร์กซิสต์มากซ์]] ซึ่งลัทธิดังกล่าว ได้โจมตี[[พระพุทธศาสนา]]ตลอดมา และมีการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อ[[พระพุทธศาสนา]]มากขึ้นโดยเอา[[วัด]]ไปใช้เป็นสถานที่ราชการอื่นๆ สถานการณ์ของ[[พระพุทธศาสนา]]จึงยังไม่ดีขึ้น
 
ใน พ.ศ. 2465 พระสงฆ์ภิกษุชาวจีนรูปหนึ่ง ชื่อว่า พระอาจารย์[[พระอาจารย์ไท้สูไท่ซวี]] ได้ช่วยกู้ฐานะของ[[พระพุทธศาสนา]]ไว้บางส่วนคือ ท่านได้ทำการปฏิรูปพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง แม้จะมีกำลังน้อย เริ่มด้วยการตั้งวิทยาลัยสงฆ์ขึ้นที่ [[วูซัน]] [[เอ้หมิง]] [[เสฉวน]] และ [[หลิ่งนาน]] เพื่อฝึกผู้นำทางพระพุทธศาสนาให้มีความรู้ทางพระธรรมวินัยและวิชาการทางโลกสมัยใหม่ และนำมาเผยแผ่เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม จนผู้คนเลื่อมใสมากขึ้น จึงตั้ง[[พุทธสมาคมแห่งประเทศจีน]]ขึ้น
 
ใน พ.ศ. 2472 ความพยายามของ[[พระอาจารย์ไท้สู]]ไท่ซวี ทำให้ประชาชนและ[[รัฐบาลจีน]]เข้าใจใน[[พระพุทธศาสนา]]ดีขึ้น ทางราชการได้ออกคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์สินของวัดห้ามนำไปใช้ในกิจการอื่น
 
ใน พ.ศ. 2473 สาธารณรัฐจีนมีพระภิกษุและภิกษุณีรวม 738,000 รูป มีวัดทั้งสิ้น 267,000 วัด ซึ่งนับว่าพระพุทธศาสนาเจริญในประเทศจีนพอสมควร
เส้น 24 ⟶ 23:
=== ยุคสาธารณรัฐประชาชนจีน ===
 
ใน พ.ศ. 2492 สาธารณรัฐจีนได้เปลี่ยนชื่อประเทศอีกครั้งหนึ่ง เป็นสาธารณรัฐประชาชนจีน ปกครองด้วย[[ลัทธิคอมมิวนิสต์]] ลัทธิคอมมิวนิสต์นี้มีคำสอนที่ขัดแย้งกับ[[พระพุทธศาสนา]]เป็นอย่างมาก พระพุทธศาสนาจึงไม่อาจอยู่ได้ใน[[สาธารณรัฐประชาชนจีน]] ในระยะแรกพรรคคอมมิวนิสต์เป็นว่าพระพุทธศาสนายังมีอิทธิพลอยู่ในจิตใจของประชาชนจึงไม่ใช้ความรุนแรง
 
ใน พ.ศ. 2494 รัฐบาลได้ออกกฎหมาย เพิกถอนสิทธิวัดในการยึดครองที่ดิน ซึ่งเป็นการบีบให้[[พระสงฆ์]]ต้องลาสิกขาบทโดยทางอ้อม พระภิกษุที่ยังไม่ลาสิกขาก็ต้องไปประกอบอาชีพเอง เช่น ทำไร่ ทำนา เป็นต้น ทั้งที่ยังครองเพศเป็นภิกษุอยู่ และในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ของสาธารณรัฐประชาชนจีน
เส้น 33 ⟶ 32:
 
== พุทธศาสนาในปัจจุบัน ==
 
ในปัจจุบันได้มีการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาลัทธิ[[มหายาน]]ขึ้นใหม่ ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังให้การสนับสนุนจัดตั้ง[[พุทธสมาคมแห่งประเทศจีน]] และสภาการศึกษาพระพุทธศาสนาแห่งประเทศจีนขึ้นในกรุง[[ปักกิ่ง]]อีกด้วย เพื่อเป็นศูนย์กลางการติดต่อเผยแผ่พระพุทธศาสนากับประเทศต่างๆ ทั่วโลก ปัจจุบันนี้ชาวจีนส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนาคู่ไปกับ[[ลัทธิขงจื๊อ]] [[ห้าทหารเสือ]]แห่ง[[จ๊กก๊ก]] และ[[ลัทธิเต๋า]] ซึ่งปัจจุบันมีผู้นับถือถึง 30%