ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โพธิปักขิยธรรม"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่ ‘ปํญญา’ ด้วย ‘ปัญญา’
PanyaPangya (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 20:
"ภิกษุเป็นผู้มีธรรมงามอย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ประกอบด้วย ความเพียรในการเจริญโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการเนืองๆ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้มีธรรมงามอย่างนี้แล ภิกษุเป็นผู้มีศีลงาม มีธรรมงาม ด้วยประการดังนี้<ref>ขุ.ขุ.๒๕/๒๗๗/๓๐๓</ref> ฯ"
 
โพธิปักขิยธรรม เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สามัคคีธรรม มี ๓๗37 ประการคือ
๑.# สติปัฏฐาน ฐานเป็นที่กำหนดของสติ
๑.๔## การตั้งสติกำหนดพิจารณาธรรมกาย (ธรรมากายานุปัสสนา)
๑. สติปัฏฐาน ฐานเป็นที่กำหนดของสติ
๑.๑## การตั้งสติกำหนดพิจารณากาย เวทนา(กายาเวทนานุปัสสนา)
๑.๒## การตั้งสติกำหนดพิจารณาเวทนาจิต (เวทนานุปัสสนาจิตตานุปัสสนา)
๑.๓## การตั้งสติกำหนดพิจารณาจิตธรรม (จิตตานุปัสสนาธรรมานุปัสสนา)
๒.# สัมมัปปธาน หลักในการรักษากุศลธรรมไม่ให้เสื่อม
๑.๔การตั้งสติกำหนดพิจารณาธรรม (ธรรมานุปัสสนา)
๒.๓## การเพียรสร้างกุศลระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในตน (ภาวนาสังวรปธาน)
## การเพียรละบาปที่เกิดขึ้นแล้ว (ปหานปธาน)
๒.สัมมัปปธาน หลักในการรักษากุศลธรรมไม่ให้เสื่อม
๒.๑## การเพียรระวังไม่สร้างกุศลให้บาปเกิดขึ้นในตน (สังวรภาวนาปธาน)
๒.๒## การเพียรละบาปรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ไม้ให้เสื่อมไป (ปหานปธานอนุรักขปธาน)
๓.# อิทธิบาท เป้าหมายของความเจริญ
๒.๓การเพียรสร้างกุศลให้เกิดขึ้นในตน(ภาวนาปธาน)
## ความชอบใจทำ พอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น (ฉันทะ)
๒.๔การเพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ไม้ให้เสื่อมไป(อนุรักขปธาน)
๓.๒## ความแข็งใจทำ เพียรหมั่นประกอบในสิ่งนั้น (วิริยะ)
๓.๓## ความตั้งใจทำ เอาใจฝักใฝ่ในสิ่งนั้น ไม่ทอดทิ้งธุระ (จิตตะ)
๓.อิทธิบาท เป้าหมายของความเจริญ
๓.๑## ความชอบใจเข้าใจทำ พอใจรักใคร่การใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองหาเหตุผลในสิ่งนั้น (ฉันทะวิมังสา)
๔.# อินทรีย์
๓.๒ความแข็งใจทำ เพียรหมั่นประกอบในสิ่งนั้น(วิริยะ)
๕.๑## ให้เกิดความเชื่อ (ศรัทธา)
๓.๓ความตั้งใจทำ เอาใจฝักใฝ่ในสิ่งนั้น ไม่ทอดทิ้งธุระ(จิตตะ)
๔.๒## ให้เกิดความเพียร (วิริยะ)
๓.๔ความเข้าใจทำ การใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองหาเหตุผลในสิ่งนั้น(วิมังสา)
๔.๓## ให้เกิดความระลึกได้ (สติ)
๔.๔## ให้เกิดความตั้งมั่น (สมาธิ)
๔.อินทรีย์
๔.๑## ให้เกิดความเชื่อรอบรู้ (ศรัทธาปัญญา)
๕.# พละ กำลัง
๔.๒ให้เกิดความเพียร (วิริยะ)
## ความเชื่อ (ศรัทธา)
๔.๓ให้เกิดความระลึกได้ (สติ)
๖.๓มี## ความเพียร (วิริยะ)
๔.๔ให้เกิดความตั้งมั่น (สมาธิ)
๕.๓## ความระลึกได้ (สติ)
๔.๕ให้เกิดความรอบรู้ (ปัญญา)
๖.๖มี## ความตั้งมั่น (สมาธิ)
๔.๕ให้เกิด## ความรอบรู้ (ปัญญา)
๕.พละ กำลัง
๖.# โพชฌงค์ องค์แห่งการตรัสรู้
๕.๑ความเชื่อ (ศรัทธา)
๕.๒## มีความเพียรระลึกได้ (วิริยะสติ)
๖.๒## มีความพิจารณาในธรรม (ธัมมวิจยะ)
๕.๓ความระลึกได้ (สติ)
๕.๔## มีความตั้งมั่นเพียร (สมาธิวิริยะ)
๕.๕## มีความรอบรู้อิ่มใจ (ปัญญาปีติ)
๖.๕## มีความสงบสบายใจ (ปัสสัทธิ)
## มีความตั้งมั่น (สมาธิ)
๖.โพชฌงค์ องค์แห่งการตรัสรู้
๖.๑## มีความระลึกได้วางเฉย (สติอุเบกขา)
๗.# มรรค หนทางดับทุกข์
๖.๒มีความพิจารณาในธรรม (ธัมมวิจยะ)
๗.๖## ใช้เพื่อเพียรเห็นชอบ คือ สัมมัปปธานเห็นอริยสัจ (สัมมาวายามะทิฏฐิ)
๖.๓มีความเพียร (วิริยะ)
๗.๒## ใช้เพื่อดำริชอบ คือ ดำริละเว้นในอกุศลวิตก (สัมมาสังกัปปะ)
๖.๔มีความอิ่มใจ (ปีติ)
๗.๓## ใช้เพื่อเจรจาชอบ คือ เว้นจากวจีทุจริต (สัมมาวาจา)
๖.๕มีความสงบสบายใจ (ปัสสัทธิ)
๗.๔## ใช้เพื่อทำการงานชอบ คือเว้นจากกายทุจริต (สัมมากัมมันตะ)
๖.๖มีความตั้งมั่น (สมาธิ)
๗.๕## ใช้เพื่อทำอาชีพชอบ คือ เว้นจาก การเลี้ยงชีพในทางที่ผิด (สัมมาอาชีวะ)
๖.๗มีความวางเฉย (อุเบกขา)
๗.๗## ใช้เพื่อระลึกเพียรชอบ คือ ระลึกในสติปัฏฐานสัมมัปปธาน (สัมมาสติวายามะ)
## ใช้เพื่อระลึกชอบ คือ ระลึกในสติปัฏฐาน 4 (สัมมาสติ)
๗.มรรค หนทางดับทุกข์
๗.๑## ใช้เพื่อเห็นตั้งใจมั่นชอบ คือ เห็นอริยสัจเจริญฌานทั้ง 4 (สัมมาทิฏฐิสมาธิ)
๗.๒ใช้เพื่อดำริชอบ คือ ดำริละเว้นในอกุศลวิตก (สัมมาสังกัปปะ)
๗.๓ใช้เพื่อเจรจาชอบ คือ เว้นจากวจีทุจริต(สัมมาวาจา)
๗.๔ใช้เพื่อทำการงานชอบ คือเว้นจากกายทุจริต (สัมมากัมมันตะ)
๗.๕ใช้เพื่อทำอาชีพชอบ คือ เว้นจาก การเลี้ยงชีพในทางที่ผิด(สัมมาอาชีวะ)
๗.๖ใช้เพื่อเพียรชอบ คือ สัมมัปปธาน (สัมมาวายามะ)
๗.๗ใช้เพื่อระลึกชอบ คือ ระลึกในสติปัฏฐาน ๔(สัมมาสติ)
๗.๘ใช้เพื่อตั้งใจมั่นชอบ คือ เจริญฌานทั้ง ๔ (สัมมาสมาธิ)
 
== อ้างอิง ==