ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ระเบิดมือ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
WindowMaker (คุย | ส่วนร่วม)
→‎ลักษณะทั่วไป: แก้ไขการสะกด "ดินปืน"
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 5:
[[ไฟล์:F1 grenade travmatik com 02 by-sa.jpg|thumb|ระเบิดน้อยหน่า ที่นิยมใช้ในสมัย[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]]]
 
'''ระเบิดมือ''' เป็นวัตถุระเบิดที่มีขนาดพอเหมาะกับฝ่ามือ ใช้โดยการดึงสลักนิรภัยจุดชนวนและขว้างไปยังกลุ่มคนหรือสิ่งของที่เป็นเป้าหมาย เพื่อให้เป้าหมายได้รับบาดเจ็บแรง, การติดเพลิง, หรือสะเก็ดจากการระเบิด เกิดเป็นความเสียหายของเป้าหมาย เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า '''ระเบิดขว้าง''' ระเบิดมือบางรุ่นสามารถใช้ติดกับปากกระบอก[[ปืนเล็กยาว]]เพื่อการยิงได้ หรือใช้กับเครื่องยิงระเบิดมือที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษก็ได้ ตัวอย่างเช่น [[ระเบิดก๊าซน้ำตา]] ที่ใช้ควบคุมจลาจล และเครื่องยิงระเบิดมือแบบ เอ็ม 203 (M203) ที่ติดไว้ใต้ปืนเล็กยาวรุ่นใหม่
 
== ประวัติ ==
ไม่มีการบันทึกเกี่ยวกับผู้คิดค้นระเบิดมือไว้แน่ชัด แต่มีการประดิษฐ์ระเบิดมือเพื่อใช้ในการรบ ตั้งแต่สมัยจักรวรรดิไบแซนไทน์แห่งทวีปยุโรป และในสมัยราชวงศ์ซ่งแห่งประเทศจีน เริ่มแรก เป็นการใช้ภาชนะขนาดพอเหมาะมือ ที่มีน้ำหนักเบา มาบรรจุวัตถุไวไฟ , [[วัตถุระเบิด]] รวมไปถึงสารพิษชนิดต่างๆจากพืชและสัตว์ด้วย ใช้การเผาเชือกที่เชื่อมกับวัสดุภายในภาชนะเหล่านั้น เป็นการจุดชนวน
 
อย่างไรก็ตาม ระเบิดมือในยุคโบราณยังไม่ค่อยทรงประสิทธิภาพเหมือนระเบิดมือมากนักเมื่อเทียบกับระเบิดมือสำหรับการทหารในปัจจุบัน จนกระทั่งในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]] ที่เริ่มมีการพัฒนาระเบิดมือให้ทรงประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และมีการใช้ระเบิดมืออย่างแพร่หลายในสนามรบ ระเบิดมือที่มีชื่อเสียงในช่วงนั้น คือ '''ระเบิดมิลส์''' (Mills Bomb) จากประเทศอังกฤษ ระเบิดมิลส์ เป็นระเบิดที่มีโลหะห่อหุ้ม มีรูปร่างกลม มีเข็มแทงชนวน และมีพื้นผิวเป็นร่อง จุดชนวนด้วยการดึงสลักนิรภัยซึ่งอยู่ด้านบนสุดของตัวระเบิดมือ ชาวไทยนิยมเรียกระเบิดมือชนิดนี้ว่า "ระเบิดน้อยหน่า" ระเบิดมือชนิดนี้ มีใช้ทั้งใน[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]] และ [[สงครามโลกครั้งที่สอง]]
 
ในขณะที่ประเทศ[[อังกฤษ]]มีระเบิดมิลส์นั้น ประเทศ[[เยอรมนี]]ก็ได้มีการผลิตระเบิดมือแบบมีด้ามจับขึ้นมา เรียกว่า '''สติลฮานด์กรานาเทอ''' (Stielhandgranate) โดยมีเชื้อประทุอยู่ภายในกระบอกโลหะ ติดไว้กับปลายของด้ามไม้ซึ่งมีลักษณะกลวงภายใน จุดชนวนด้วยการดึงเชือกที่อยู่ภายในด้ามไม้ ซึ่งมีฝาเกลียวห่อหุ้มเชือกนี้ไว้จากด้านล่างสุด ระเบิดมือชนิดนี้ มีฉายาว่า " ที่บดมันฝรั่ง " หรือ " The Potato Masher " มีใช้ทั้งใน[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]] และ [[สงครามโลกครั้งที่สอง]] เช่นกัน ในช่วง[[สงครามกลางเมืองสเปน]] มีการพัฒนาระเบิดมือชนิดหนึ่ง ซึ่งทำจากขวดแก้วบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิง และใช้การจุดชนวนแถบผ้าเพื่อให้เกิดการเผาไหม้และระเบิดขึ้น ซึ่งภายหลัง ระเบิดมือชนิดนี้มีชื่อว่า '''โมโลตอฟ คอกเทล''' (Molotov Cocktail) โดยกองทัพ[[ฟินแลนด์]]ในช่วง[[สงครามฤดูหนาว]] ซึ่งเมื่อครั้งต้องสู้กับกองทัพของ[[สหภาพโซเวียต|โซเวียต]]ในช่วงนั้น กองทัพฟินแลนด์ จะใช้โมโลตอฟ คอกเทล ควบคู่กับอาวุธชนิดอื่น โมโลตอฟ คอกเทล เป็นหนึ่งในระเบิดมือไม่กี่ชนิด ที่มีคุณสมบัติในการหยุดยั้งรถถังของศัตรู โดยการขว้างโมโลตอฟ คอกเทล ที่จุดชนวนแล้วให้เข้าไปกระแทกกับเครื่องยนต์ของรถถัง เพื่อให้ตัวเครื่องยนต์ของรถถังถูกไฟเผาไหม้
 
ในช่วงก่อนและระหว่าง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] มีระเบิดมือรุ่นใหม่ๆที่ถูกผลิตและพัฒนาออกมาโดยประเทศต่างๆ เพื่อความได้เปรียบทางด้านการรบของแต่ละประเทศ ตัวอย่างเช่น ระเบิดมือรุ่น '''Mk 2''' จากสหรัฐอเมริกา , ระเบิดมือรุ่น '''F1''' จากประเทศฝรั่งเศส , ระเบิดมือรุ่น '''wz.33''' จากประเทศโปแลนด์ , ระเบิดมือรุ่น '''RGD-33''' จากสหภาพโซเวียต , ระเบิดมือรุ่น '''Mod. 35''' จากประเทศอิตาลี และ ระเบิดมือรุ่น '''Type 97''' จากประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น
 
ภายหลัง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] โลกได้เข้าสู่ยุคสมัยแห่ง[[สงครามเย็น]]อย่างเต็มตัว ระเบิดมือรุ่นเก่าๆหลายรุ่นก็ได้ถูกปลดประจำการไป และถูกแทนที่ด้วยระเบิดมือรุ่นใหม่ๆที่ดีกว่าแทน อย่างไรก็ตาม ระเบิดมือรุ่นเก่าๆบางรุ่นจาก[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] ก็ยังได้รับการใช้งานอยู่ในช่วงสงครามเย็น ในขณะที่หลายๆประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศขั้วอำนาจทั้งสอง (สหรัฐอเมริกา และ สหภาพโซเวียต) ก็ยังคงผลิตและพัฒนาระเบิดมือกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อการป้องกันประเทศและเหล่าพันธมิตรของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วง[[สงครามเวียดนาม]] ที่ระเบิดมือ พร้อมด้วยอาวุธและยุทโธปกรณ์รุ่นใหม่ๆจากสหรัฐอเมริกา ได้ถูกส่งไปให้เหล่าทหารอเมริกัน , เวียดนามใต้ รวมถึงทหารจากประเทศพันธมิตรของสหรัฐอเมริกาในเวียดนาม เช่นเดียวกับสหภาพโซเวียต ที่ได้ส่งอาวุธและยุทโธปกรณ์รุ่นใหม่ๆของตน ให้กับทหารเวียดนามเหนือ รวมทั้งเหล่าประเทศพันธมิตรของตนเช่นกัน ระเบิดมือที่ถูกใช้งานในยุคนั้น ได้แก่ รุ่น '''M26 ''' จากสหรัฐอเมริกา และ รุ่น '''RGD-5 ''' จากสหภาพโซเวียต เป็นต้น ซึ่งในช่วงท้ายของ[[สงครามเวียดนาม]] ระเบิดมือรุ่น '''M67 ''' จากสหรัฐอเมริกา ก็ได้เข้ามาทดแทนรุ่น M26 และได้รับการผลิตและพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับระเบิดมือหลายรุ่นอื่นๆ ทั่วโลก
 
ปัจจุบัน ยังคงมีการผลิตและพัฒนาระเบิดมือ เพื่อใช้ในการสงครามรูปแบบต่างๆต่อไป
บรรทัด 27:
สำหรับระเบิดมือสมัยใหม่นั้น ชนวนจะเป็นอุปกรณ์ภายในเชิงกล แบบ[[อิเล็กทรอนิกส์]] หรือใช้วัตถุระเบิดด้วยก็ได้ แต่จะไม่จุดไฟจากภายนอกเช่นประทัด โดยมากจะออกแบบให้มีวัตถุคม หรือลวด หรือวัตถุไวไฟ
 
เนื่องจากระเบิดมือ สามารถกระจาย "สะเก็ด" เข้าใส่กลุ่มเป้าหมายได้เมื่อเกิดการระเบิด ระเบิดมือจึงมักถูกใช้สำหรับหยุดยั้งกลุ่มบุคคลและทรัพย์สินของศัตรูที่อยู่ในสิ่งก่อสร้าง , สนามเพลาะ , พุ่มไม้ , หลุมหลบภัย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ป้อมปืนกลของศัตรู ซึ่งเป็นสิ่งที่ทหารเข้าไปประจันหน้าได้ยาก ถึงแม้ว่าระเบิดมือทั่วๆไป นั้นจะไม่สามารถทำลายรถถังและยานเกราะจากภายนอกได้ แต่ระเบิดมือก็สามารถสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับยานยนต์และยุทโธปกรณ์บางชนิดของศัตรูได้ เช่น รถยนต์ , รถจักรยานยนต์ , รถบรรทุกทหาร , เรือตรวจการณ์ รวมไปถึงเฮลิคอปเตอร์ และ เครื่องบินรบที่กำลังจอดอยู่
 
ระเบิดมือ จึงเป็นอาวุธเล็กๆที่สามารถลดความแข็งแกร่งของศัตรูที่มีจำนวนมากกว่าลงได้