ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จังหวัดปกครองตนเองชนชาติไท สิบสองปันนา"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
จัดรูปแบบ +เก็บกวาดด้วยสจห.
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 12:
| จีนย่อ = 西双版纳
| จีนเต็ม = 西雙版納
| พินอิน = Xīshuāngbǎnnà
| ชื่อen =
| ชื่อro =
บรรทัด 25:
| ปีประชากร =
| ประชากร = 993,397 คน
| หนาแน่น = 50 คน/ตร.กม.
| ปริมณฑล =
| GDP =
| ปีGDP =
บรรทัด 33:
| ปีHDI =
| ชาติพันธุ์ = [[ไท]] 29.89%<br>[[ฮั่น|จีน]] 29.11%<br>และอื่น ๆ
| อำเภอ = [[เชียงรุ่ง|นครเชียงรุ่ง]]<br>[[เมืองล่า|เทศมณฑลเมืองล่า]]<br>[[เมืองฮาย|เทศมณฑลเมืองฮาย]]
| ตำบล =
| ไปรษณีย์ = 666100
บรรทัด 40:
}}
 
'''เขตปกครองตนเองชนชาติไท สิบสองปันนา''' ([[อักษรธรรม]] : ᩈᩥ᩠ᨷᩈ᩠ᩋᨦᨻᩢ᩠ᨶᨶᩣ [[อักษรไทลื้อ|ไทลื้อใหม่]] : ᦈᦹᧈᦈᦹᧈᦋᦵᦲᧁᦘᦱᦉᦱᦑᦺ᧑᧒ᦗᧃᦓᦱ ; {{zh|t=西雙版納傣族自治州|s=西双版纳傣族自治州|p=Xīshuāngbǎnnà dǎizú Zìzhìzhōu}}) หรือชื่อย่อว่า '''ซีไต่''' ({{zh|c=西傣 |p=Xīdǎi}}) ตั้งอยู่ทางใต้สุดของ[[มณฑลยูนนาน]] [[ประเทศจีน]] มีเมืองเอก คือ [[เชียงรุ่ง|เมืองเชียงรุ่ง]]
 
== ภูมิประเทศ ==
บรรทัด 50:
ในสมัยโบราณนั้น เคยเป็นที่ตั้งของ[[อาณาจักรน่านเจ้า]] มีเมืองหลวงอยู่ที่ [[หนองแส]] หรือ เมือง[[ต้าลี่]] ในประเทศจีนปัจจุบัน
 
สิบสองปันนานั้นได้เป็นราช[[อาณาจักรหอคำเชียงรุ่ง]] เมื่อประมาณ 825 ปีก่อน โดย พญาเจือง หรือสมเด็จพระเจ้าหอคำเชียงรุ่งที่ 1 ในตำราของไทย เมื่อพุทธศตวรรษที่ 18 ชาว[[มองโกล]]ได้รุกราน[[อาณาจักรล้านนา]] ส่วนสิบสองปันนานั้นจึงได้เป็นของมองโกล และก็ได้เป็นของจีนต่อมา (ตาม[[ประวัติศาสตร์จีน]])
 
การอ่อนแอของราชวงค์อาฬโวสวนตาลครั้งแรกเริ่มคราวสมัยสมเด็จพระเจ้าหอคำเชียงรุ่งที่ 3 (ท้าวอ้ายปุง) รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงค์อาฬโวสวนต๋าน จากนั้นเกิดความวุ่นวายเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ สุดท้ายถึงรัชกาลที่ 24 ท้าวอินเมิง (ท้าวอินเมือง) อาณาจักรสิบสองปันนาเริ่มเป็นปึกแผ่นมากที่สุด การขยายอาณาเขตเข้าไปยึดถึงเมือง[[เชียงตุง]] เมืองแถน ([[เดียนเบียนฟู]]) เชียงแสน ล้านช้าง จึงเป็นเหตุให้การอพยพ[[ชาวไทลื้อ]]จาก[[เชียงรุ่ง]]และอีกหลายหัวเมืองลื้อเข้าไปสู่ดินแดนดังกล่าว เพื่อเข้าไปตั้งชุมชนปกครอง หัวเมืองประเทศราช ซึ่งหากมองมาถึงปัจจุบันมีชาวไทลื้อกระจายไปทั่วทั้งเมืองแถน หัวเมืองทางเหนือของลาว ทุกเมือง รัฐฉานของพม่า จนถึง[[เชียงตุง]] และแถบไต้คง
 
สิบสองปันนาดำรงความมั่นคงเฟื่องฟูอยู่ 100 กว่าปี ก็ถูกรุกรานอีกครั้งโดยชาวมองโกล และตกอยู่ในการปกครองของจีนอีกครั้งในปี [[พ.ศ. 1835]] การสิ้นสุดอำนาจการปกครอง และการยอมรับอำนาจของมองโกล เมื่อรัชกาลที่ 33 เมื่อพระเจ้ากรุงจีนส่งตราหัวเสือ (จุ่มกาบหลาบคำ) มาให้เป็นตราแผ่นดินแทนตรานกหัสดีลิงค์หัสดีลิงก์ การเปลี่ยนชื่อเจ้าผู้ครองนคร จากชื่อภาษาไทลื้อ เป็นภาษาจีน เริ่มขึ้นในยุคนี้ เจ้าผู้ครองนครชาวไทลื้อถูกเรียกว่าเจ้าแสนหวีฟ้า
 
เมื่อ พุทธศตวรรษที่ 21 [[พม่า]]ได้ก่อตั้ง[[ราชวงศ์ตองอู|อาณาจักรตองอู]] และขยายอาณาเขตของตนไปทางตะวันออก พม่าได้โจมตีสิบสองปันนา ต่อจากนั้นจึงได้แบ่งเมืองเชียงรุ้งเป็น สิบสองปัน และก็เป็น เมืองในปัจจุบัน ได้แก่ เมืองฮาย ม้าง หุน แจ้ ฮิง ลวง อิงู ลา พง อู่ เมืองอ่อง และ เชียงรุ่ง จึงเรียกเรียกเมีองแถวๆ นี้รวมกันว่า สิบสองปันนา ในช่วงสมัยนี้เป็นช่วงเวลาที่วัฒนธรรม[[พม่า]] และ ศาสนาได้เข้าไปในสิบสองปันนา
บรรทัด 76:
=== สมัยหลังราชวงศ์มังราย ===
 
หลังจากพระเจ้ากาวิละได้ปลดปล่อย[[เชียงใหม่]] และ [[อาณาจักรล้านนา]] จาก พม่าแล้ว [[พระเจ้ากาวิละ]]ทรงพิจารณาเห็นว่าเมือง[[เชียงใหม่]]ขณะนั้นเป็นเมืองร้าง เพราะผู้คนหนีภัยสงคราม อีกทั้งในกำแพงตัวเมืองเชียงใหม่ยังมีต้นไม้เถาวัลย์ปกคลุม ชุกชุมด้วยเสือ สัตว์ป่านานาพันธ์ ผู้คนของพระองค์มีน้อยไม่อาจบูรณะซ่อมแซมเมืองใหญ่ได้ ดังนั้นจึงยกทัพไปกวาดต้อนผู้คนโดยไปตีเมืองไตในดินแดน ๑๒ ปันนา ทั้งไตลื้อ ไตโหลง (ไทใหญ่) ไตขึน (คนไตลื้อในเมืองเชียงตุง) ไตลื้อเมืองยอง ไตลื้อเมืองลวง ไตลื้อเมืองพน เมืองหย่วน เมืองล่า มาอยู่ที่[[เชียงใหม่]] [[เชียงราย]] [[ลำพูน]] [[พะเยา]] และ [[น่าน]]เป็นจำนวนมาก ซึ่งเรียกกันว่ายุค "เก็บผักใส่ซ้า เก็บข้าใส่เมือง" อันเป็นวิธีฟื้นฟูอาณาจักรล้านนาวิธีหนึ่ง เพราะในช่วงก่อนนั้น พม่าได้กวาดต้อนชาวล้านนาไปอยู่ที่ [[พุกาม]] และ [[มัณฑะเลย์]] ไปจำนวนมาก
 
ในช่วงสงครามโลกสิบสองปันนานั้น ตกอยู่ในแผ่นดินจีน ถูกยุบเมือง[[เชียงรุ่ง]]จากเมืองหลวงเป็นแค่เมือง พร้อมๆ กับเจ้าทั้งหลายด้วย โดยเคยมีเจ้าปกครองอยู่ถึง 44 พระองค์ โดยสมเด็จพระเจ้าหอคำเชียงรุ่งที่ 44 หรือเจ้าหม่อมคำลือ (刀世勋) เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของอาณาจักรไทลื้อ เป็นราชบุตรของเจ้าหม่อมแสนเมือง ซึ่งเป็นอนุชาของพระเจ้าแผ่นดินองค์ก่อน ซึ่งพระเจ้าแผ่นดินองค์ก่อนนั้นมีศักดิ์เป็นอาของเจ้าหม่อมคำลือ แต่พระองค์ท่านเองไม่มีบุตร จึงได้ขอเจ้าหม่อมคำลือเป็นราชบุตรบุญธรรม
เจ้าหม่อมคำลือเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1928 และไปเรียนหนังสือที่เมืองฉงชิ่งเมื่ออายุ 16 ปี จนถึงปี ค.ศ. 1944 ได้เข้า “พิธีฮับเมือง” แต่ในช่วงนั้นเกิด สงครามมหาเอเชียบูรพา (ค.ศ. 1939-1945) พิธีฮับเมืองจึงไม่สมบูรณ์ ท่านได้กลับไปเรียนหนังสือ
และกลับมาทำพิธีฮับเมืองครั้งที่สอง เมื่อ ค.ศ. 1948 ขณะอายุ 20 ปี อย่างไรก็ตาม ช่วงนั้นได้เกิดการ เปลี่ยนแปลงการปกครองภายในประเทศจีน ราวปี ค.ศ. 1949-1950 ท่านจึงกลายเป็น “กษัตริย์องค์สุดท้าย” โดยเปลี่ยนฐานันดรศักดิ์จากกษัตริย์เป็นสามัญชน โดยที่ยังมิได้บริหารราชการแผ่นดินเลย เนื่องจากหลังจากทำพิธีฮับเมืองครั้งแรกแล้วท่านได้แต่งตั้งให้เจ้าหม่อมแสนเมือง
พระราชบิดาเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จากนั้นท่านก็ไปเรียนหนังสือต่อ หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้วท่านได้เรียนหนังสือ ในระดับมหาวิทยาลัยที่มหาวิทยาลัยยูนนาน และได้แต่งงานกับ สิว์ จิ๊ว เฟิน ชาวจีน[[คุนหมิง]] ในปี ค.ศ. 1953 ก่อนที่ จะทำงานเป็นนักวิจัยด้านภาษาศาสตร์ อีก 8 ปี ที่สถาบันวิจัยชนชาติส่วนน้อยแห่งชาติ สังกัดสภาวิทยาศาสตร์ประเทศจีน ในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง
ต่อมาเจ้าหม่อมแสนเมืองได้ขอให้รัฐบาลจีนย้ายทั้งสองกลับมาที่คุนหมิง โดยมาทำงานเป็นนักวิจัยด้านภาษาซึ่งรวมถึงอักษรไทลื้อ จนกระทั่ง ในปี ค.ศ. 1971 รัฐบาลจีนมีคำสั่งให้เจ้าหม่อมคำลือและภรรยาไปทำงานในชนบททำงานในสวนอ้อย ใน อ.เชียงกุ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของสิบสองปันนา เป็นเวลานาน ถึง 9 ปี การใช้เวลาในสวนอ้อยนี้ สิว์ จิ๊ว เฟิน เล่าว่า สามารถพกหนังสือหรือตำราเข้าไปอ่านได้ด้วยและหลังจาก [[เติ้ง เสี่ยวผิง]] ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของจีนแล้ว เห็นว่านโยบายเอียงซ้าย นโยบายที่ให้เจ้านายไปใช้แรงงานในชนบท เป็นนโยบายที่ผิดพลาดในปัจจุบัน ดังนั้นเจ้าหม่อมคำลือและภรรยาจึงมีโอกาสกลับคุนหมิง โดยทำงานเป็นนักวิจัยที่สถาบันวิจัยชนชาติในมหาวิทยาลัยชนชาติยูนนานจนกระทั่งเกษียณอายุ โดยมีคุณวุฒิทางวิชาการคือ “ศาสตราจารย์” อย่าง ไรก็ดี หลังจากเกษียณอายุแล้ว
ทางการจีนได้ให้ฐานะทางสังคมแก่ เจ้าหม่อมคำลือในฐานะเจ้านายเก่าคือเป็น รองประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองระดับมณฑล และ กรรมการสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งชาติ ซึ่งมี ที่พัก และ รถประจำตำแหน่งให้ แต่ปัจจุบันท่านก็ ได้เกษียณจากทุกตำแหน่งแล้ว โดยคนที่มีแซ่เต๋า (刀) ในสิบสองปันนาก็คือ เจ้าในสิบสองปันนาที่เคยครองเมืองทั้งหลายเหล่านี้
บรรทัด 89:
!colspan="7" align="center" | แผนที่
|-
| colspan = "7" align="center" | [[ไฟล์:Xishuangbanna mcp.png|250px]]
|-
! #
บรรทัด 95:
! [[อักษรจีน|จีน]]
! [[พินอิน]]
! ประชากร<br> (ปี 2003)
! พื้นที่ (ตร. กม.)
! ความหนาแน่น<br> (ตร.กม.)
|----------
|1