ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กรีสซี คาเฟ"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
รวบรวมข้อมูลจากศิลปินโดยตรง |
|||
บรรทัด 2:
{{รวม|อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร}}
{{ต้องการอ้างอิง}}
'''กรีสซี่ คาเฟ่''' ([[ภาษาอังกฤษแบบบริติช|อังกฤษ]]: Greasy Cafe) หรือ [[อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร]] เป็นศิลปินและนักแต่งเพลงชายชาว[[ประเทศไทย|ไทย]]ภายใต้สังกัด [[สมอลล์รูม|Smallroom]] ตั้งแต่ปี [[พ.ศ. 2542]] เขามีผลงานอัลบั้มเพลงมาแล้ว 3 ชุดคือ สิ่งเหล่านี้ [[พ.ศ. 2551]] ทิศทาง [[พ.ศ. 2552|พ.ศ.2552]] และ The Journey without Maps พ.ศ. 2555 อภิชัยมีคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเองมาแล้ว 2 ครั้งคือ Greasy Cafe: Untill Tomorrow ที่สนามกีฬาจรัญ บุรพรัตน์ [[กรุงเทพมหานคร|กรุงเทพฯ]] และ Greasy Cafe: Untill Tomorrow Home ที่เขากะโหลก [[จังหวัดประจวบคีรีขันธ์|จังหวัดประจวบคิรีขันธ์]][[ไฟล์:GreasyCafe, ชมรมวิจารณ์บันเทิง.jpeg|thumbnail|right|รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม รางวัลภาพยนตร์ไทย ชมรมวิจารณ์บันเทิง]]
== ประวัติ ==
ผลงานของ Greasy Cafe โดดเด่นที่แนวดนตรีซึ่งได้รับอิทธิพลจากวงทางฝั่ง[[ประเทศอังกฤษ|อังกฤษ]] ส่วนเนื้อหาของเพลงที่พูดถึงความรักที่ไม่อยู่ในขนบ เล่าเรื่องความหม่นเศร้าในความสัมพันธ์ จากมุมมองของผู้ชายผู้ผ่านประสบการณ์ซึ่งฉีกจากแนวทางการเขียนเนื้อเพลงรักทั่วไป เพลงที่ถูกปล่อยเป็นซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม [[สิ่งเหล่านี้ (อัลบั้ม)|สิ่งเหล่านี้]] และเป็นเพลงที่ทำให้คนรู้จัก Greasy Cafe ครั้งแรกคือ ฝืน ซึ่งขึ้นอันดับหนึ่งของชาร์ตเพลงคลื่นวิทยุ [[Fat Radio]] เพลงต่อมาที่ถูกตัดเป็น[[ซีดีซิงเกิล|ซิงเกิล]]ล้วนได้รับการพูดถึงแทบทั้งสิ้น เช่น ความบังเอิญ, อุบัติเหตุ, สิ่งเหล่านี้ ฯลฯ Greasy Cafe ได้รับรางวัลดนตรีจากหลายสถาบัน เช่น รางวัลศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม [[คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 6|คมชัดลึกอวอร์ดครั้งที่ 6]], [[แฮมเบอร์เกอร์ (นิตยสาร)|Hamburger]] Awards ครั้งที่ 6 และ [[Fat Awards 9]] สองอัลบั้มหลังคือ [[ทิศทาง (อัลบั้ม)|ทิศทาง]] และ [[The Journey without Maps (อัลบั้ม)|The Journey without Maps]]ต่างมีผลงานที่โดดเด่นและมีผลตอบรับที่ดี เช่น ภายใต้ท้องฟ้าสีดำ จากอัลบั้ม ทิศทาง เพลงรักที่ได้แรงบันดาลใจจากความรักระหว่างคนตาบอด, หมุน จากอัลบั้ม [[The Journey without Maps (อัลบั้ม)|The Journey without Maps]] เพลงที่พูดถึงความสัมพันธ์ระยะไกลและความทรมานในการรอคอย มิวสิควีดีโอเพลงนี้ซึ่งกำกับโดย [[นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์]] ได้รับการพูดถึงทั้งกับสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ภาษาที่อภิชัยใช้ในเนื้อเพลงยังมีเอกลักษณ์และมีส่วนทำให้เขาได้ร่วมงานแต่งเพลงให้ศิลปินคนอื่นๆ เช่น Jida ในอัลบั้ม Boyfriend เพลง แสงของไฟ ค่าย [[สมอลล์รูม|Smallroom]] และ [[อีฟ ปานเจริญ|Palmy]] ในอัลบั้ม 5 เพลง ทุ่งสีดำ, Butterfly และ Private Sky
ด้วยประสบการณ์และเอกลักษณ์ในงานเพลงทำให้ Greasy Café ได้รับการชื่นชมและยกย่อง ทั้งจากแฟนเพลง นักดนตรี สื่อมวลชนและนักวิจารณ์จำนวนมาก ผลงานของเขาได้ทั้งเข้าชิงและได้รับรางวัลทางดนตรี 13 สถาบันชั้นนำ เช่น รางวัลศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม [[คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 6|คมชัดลึกอวอร์ด ครั้งที่ 6]] จากอัลบั้ม สิ่งเหล่านี้ เข้าชิงรางวัลศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม [[Fat Awards 11]] จากอัลบั้ม ทิศทาง รางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยม [[แชนแนลวีไทยแลนด์|Channel [V] Thailand]] เมโลสโมสร จากอัลบั้ม The Journey without Maps ฯลฯ
นอกจากงานเพลง อภิชัยเคยมีผลงานหนังสือ [http://www.b2s.co.th/products_detail.php?proid=30965&ptitle=The-Destination-from-Nowhere The Destination from Nowhere] ใน[[พ.ศ. 2554|ปีพ.ศ. 2554]] ซึ่งเป็นงานเขียนที่รวบรวมเกร็ดความคิดจากสมุดบันทึกและเป็นวัตถุดิบในการทำงานเพลงของเขา อภิชัยยังเคยแสดงนำในภาพยนตร์ แต่เพียงผู้เดียว [[พ.ศ. 2554]] และได้รับรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมจากสถาบันชั้นนำ อภิชัยยังเคยทำเพลงประกอบภาพยนตร์ [[ตั้งวง]] [[พ.ศ. 2556]] โดย [[คงเดช จาตุรันต์รัศมี]] [[ชัมบาลา (ภาพยนตร์)|ชัมบาลา]] [[พ.ศ. 2555]] โดย[[ปัญจพงศ์ คงคาน้อย]] และ [[imdbtitle:5442474|The Down]] [[พ.ศ. 2558]]
== ชีวิตวัยเด็ก ==
[[ไฟล์:GreasyCafe, Melody of life2013.jpg|thumbnail|right|งาน Melody of Life ปี 2013]]อภิชัยเกิดที่ย่านเมืองเก่าของกรุงเทพฯ ในครอบครัวเย็บหมวกกีฬาที่มีพ่อและแม่เป็นชาวจีนแท้ๆ เขาใช้ชีวิตวัยเด็กในย่านวรจักร เรียนชั้นประถมศึกษากับโรงเรียนประสาทวุฒิ ซึ่งเป็นโรงเรียนภาษาไทยและจีน เรียนต่อมัธยมศึกษาที่โรงเรียนศิริวัฒนาและโรงเรียนเพชรรัตน์ เขาจบศึกการศึกษาระดับปวช. ที่โรงเรียนไทวิจิตรศิลป์ อภิชัยเดินทางไปเรียนด้านการถ่ายภาพที่ประเทศอังกฤษตอนอายุ 21 ปี และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเป็นเวลาร่วม 4 ปี
ช่วงเวลาที่เรียนในอังกฤษ อภิชัยได้มีโอกาสเริ่มเล่นดนตรีอย่างจริงจัง ได้รวมวงกับเพื่อนในชื่อ The Light ตระเวนเล่นตามผับขนาดเล็ก วงดนตรีของเขาทำงานได้ไม่นานนักและแยกย้ายไป เขากลับเมืองไทยและทำงานเป็นช่างภาพนิตยสาร เริ่มจากการถ่ายภาพแฟชั่นให้กับนิตยสาร Hyper ก่อนจะหลงใหลในการถ่ายภาพแนวสารคดี งานถ่ายภาพนิตยสารยังทำให้เขารู้จักคนมากขึ้น วันหนึ่งเขามีโอกาสถ่ายภาพวงดนตรีชื่อ [[Crub (วงดนตรี)|Crub]] และได้ทำความรู้จัก รุ่งโรจน์ อุปถัมภ์โพธิวัฒน์ หนึ่งในสมาชิกวงซึ่งกลายมาเป็นเจ้าของค่ายเพลง [[สมอลล์รูม|Smallroom]] ในปัจจุบัน
อภิชัยเริ่มทำงานถ่ายภาพนิ่งในกองถ่ายภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่องแรกที่เขาถ่ายคือ [http://www.imdb.com/title/tt0277558/?ref_=fn_al_tt_1 A Fighter’s Blues] ยุคนั้นหน้าที่ของช่างภาพนิ่งกองถ่ายคือการถ่ายภาพส่งตามสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์หนัง แต่อภิชัยมองว่าบรรยากาศในกองถ่ายน่าสนใจไม่แพ้ตัวหนัง โดยเฉพาะเมื่อมองถอยออกมามองสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนอกจอมอนิเตอร์ ผลงานภาพถ่ายของเขาจึงมักเล่าเรื่องทีมงานซึ่งเป็นสิ่งที่คนดูไม่เคยเห็น
อภิชัยมีโอกาสได้ถ่ายภาพเบื้องหลังภาพยนตร์ไทยอีกหลายเรื่อง เช่น [[จัน ดารา (ภาพยนตร์ พ.ศ. 2544)|จันดารา]], [[มนต์รักทรานซิสเตอร์]], [[เดอะเลตเตอร์ จดหมายรัก|The Letter]] จดหมายรัก, [[โอเค เบตง]], [[อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต|อารมณ์ อาถรรพ์ อาฆาต]], [[ปืนใหญ่จอมสลัด]], [[องค์บาก 2]] ฯลฯ ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันเขามีโอกาสได้พบกับ[[รุ่งโรจน์ อุปถัมภ์โพธิวัฒน์|รุ่งโรจน์]]และได้กลับมาทำงานเพลงอีกครั้ง จนเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นศิลปินเพลงในชื่อ Greasy Cafe เต็มตัว
== ผลงานเพลง ==
=== Smallroom 001-002 (พ.ศ.2543) ===
เพลงแรกที่อภิชัยใช้ชื่อ Greasy Cafe ในการทำงาน คือเพลง [[หา(Quest?)]] อัลบั้มคอมพลิเอชัน [[Smallroom 001]] [[รุ่งโรจน์ อุปถัมภ์โพธิวัฒน์|รุ่งโรจน์]]เจ้าของค่ายเพลง [[สมอลล์รูม|Smallroom]] ได้แรงบันดาลใจจากอัลบั้มรวมเพลงจากหลายศิลปินในต่างประเทศ โดยแต่ละชุดจะมีคอนเซปต์ธีมต่างกัน ศิลปินที่รุ่งโรจน์ชวนมาร่วมงานมีทั้งวงดนตรีอาชีพ คนทำดนตรีเบื้องหลัง และคนในวงการซึ่งไม่เคยทำเพลงมาก่อน
อภิชัยเคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีเหตุผลในการตั้งชื่อ Greasy Cafe เป็นพิเศษ คำนี้แปลว่าร้านอาหารที่ขายอาหารจานด่วน ส่วนมากเป็นอาหารแบบทอดที่ทำไม่ยากและมีจำนวนมากในอังกฤษ เหตุผลที่อภิชัยตั้งชื่อนี้เพราะเขาคิดว่าเพลงของเขาก็ไม่ต่างจากร้านแนว Greasy Cafe ซึ่งมีลูกค้าหลายรูปแบบ ตั้งแต่ชนชั้นแรงงานไปจนถึงผู้บริหาร เหมือนกับเพลงของอภิชัยที่ไม่ถูกจัดอยู่ในหมวดไหน ไม่ว่าวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่แต่เป็นเพลงที่ใครก็ฟังได้
อภิชัยยังใช้ชื่อ Greasy Cafe ทำเพลงในชุด [[Smallroom 002]] เพลง พบ หลังจากนั้นรุ่งโรจน์ยังชวนอภิชัยทำเพลงเป็นระยะ เช่น ทำเพลงในโครงการสนามหลวงคอนเนคส์ สังกัด [[สนามหลวงมิวสิก|สนามหลวง]] ในเครือ [[จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ อินเตอร์เนชันแนล|จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่]] โดยนำเพลง เธอรู้รึเปล่า ของ [[ใหม่ เจริญปุระ]] มาเรียบเรียงใหม่ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมรุ่งโรจน์จึงชวนอภิชัยมาทำอัลบั้มเต็ม จนเกิดเป็นอัลบั้มแรก [[สิ่งเหล่านี้ (อัลบั้ม)|สิ่งเหล่านี้]] ในปี[[พ.ศ. 2551]]
=== สิ่งเหล่านี้ (พ.ศ.2551) ===
[[รุ่งโรจน์ อุปถัมภ์โพธิวัฒน์|รุ่งโรจน์]]เป็นคนแนะนำให้อภิชัยทำเพลงอัลบั้มนี้ร่วมกับ [[รัฐ พิฆาตไพรี]] (นามแฝงว่า Ruzzy) มือกีตาร์วง [[แทตทูคัลเลอร์|Tattoo Colour]] ทุกเพลงในอัลบั้มคือเพลงที่อภิชัยแต่งในช่วงกลับมาอยู่ประเทศไทยและนำมาเรียบเรียงใหม่อภิชัยใช้เวลาทำอัลบั้มนี้ประมาณ 3 เดือน ช่วงแรกเขาอยากให้เพลงในอัลบั้มเน้นการใช้กีตาร์โปร่งเป็นหลัก การทำงานก็มักเริ่มจากการเล่นกีตาร์โปร่งและร้อง อภิชัยยังอัดเครื่องดนตรีบางส่วน เช่น เสียงเบส กีตาร์ไฟฟ้า และกลองในเพลง ความบังเอิญ จากนั้นรัฐจะเป็นผู้เรียบเรียงและแนะนำการใช้เสียงที่ต่างจากกีตาร์โปร่งเพื่อให้ดนตรีหลากหลายขึ้น เช่น ช่วยคิดและอัดกีตาร์โซโล่ในเพลง เกษมสำราญ
ใน สิ่งเหล่านี้ ยังมีเพลงบรรเลงชื่อ ไฮซินท์ ซึ่งเป็นเพลงที่อภิชัยแต่งระหว่างถ่ายภาพนิ่งภาพยนตร์เรื่อง [[จัน ดารา (ภาพยนตร์ พ.ศ. 2544)|จันดารา]] (ไฮซินท์เป็นชื่อตัวละครหนึ่งในเรื่อง) มีเพลง ภาพชินตา ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากการเสียชีวิตของภรรยาของเพื่อนอภิชัย
เพลงแรกที่ถูกตัดเป็นซิงเกิลคือ [[ฝืน (เพลง)|ฝืน]] ตามมาด้วย [[ความบังเอิญ (เพลง)|ความบังเอิญ]] ทั้งสองเพลงแตกต่างจากเพลงแรกๆ ของ Greasy Cafe ในอัลบั้ม Smallroom 001-002 ดนตรีเน้นการใช้เสียงจากเครื่องดนตรีสด จุดเด่นของเพลงในอัลบั้มนี้อยู่ที่การใช้คำซึ่งมีความคล้ายกลอนเปล่าที่เปรียบเปรยความรักความสัมพันธ์กับสิ่งที่อยู่รอบตัว เนื้อหาของเพลงยังแสดงความเป็นกบฎในความคิดที่มีต่อความสัมพันธ์ เพลงที่แสดงจุดเด่นด้านนี้ชัดเจนมากคือเพลง สิ่งเหล่านี้ ซึ่งบอกว่าความรักในอุดมคติกับความรักในโลกความเป็นจริงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
อภิชัยยังนำภาพถ่ายที่เคยเก็บไว้มาใช้ในการออกแบบปกอัลบั้ม อีกหนึ่งเอกลักษณ์เด่นของอัลบั้มนี้คือ มิวสิควีดีโอเพลง สิ่งเหล่านี้โดย [[ศิวะภาค เจียรวนาลี]] ผลงานชิ้นนี้ไม่ได้มีองค์ประกอบตามขนบมิวสิควีดีโอทั่วไป แต่เน้นการใช้ภาพวาดบนกระดาษเพื่อเล่าเรื่องความรักความสัมพันธ์ในมุมมองของ Greasy Cafe
นอกจากนี้ด้วยความที่ทำงานในกองถ่ายมานานทำให้เขาติดการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์ผ่านบทเพลง คือเล่าบรรยากาศโดยรอบก่อนแล้วค่อยโฟกัสไปที่ตัวละคร
อัลบั้ม สิ่งเหล่านี้ ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์ อภิชัยได้รับรางวัลทางดนตรีหลายสถาบัน เช่น รางวัลศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม [[คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 6|คมชัดลึกอวอร์ด ครั้งที่ 6]] และ [[Fat awards]] ครั้งที่ 9 เข้าชิงรางวัลศิลปินเดี่ยวร็อคยอดเยี่ยม [[สีสันอะวอร์ดส์|สีสันอวอร์ด ครั้งที่ 23]] ฯลฯ
=== ทิศทาง (พ.ศ.2552) ===
ถ้ามองในภาพรวม ผลงานเพลงในอัลบั้ม [[ทิศทาง (อัลบั้ม)|ทิศทาง]] มีความคล้ายอัลบั้มแรกจนเป็นเหมือนภาคต่อของ สิ่งเหล่านี้ แต่เมื่อเจาะลึกในรายละเอียด ทิศทาง เผยให้เห็นการทดลองทางดนตรีใหม่ๆ ของอภิชัย ทั้งการใช้เสียงกีตาร์ที่หลากหลายขึ้น มีเพลงเร็วที่ซับซ้อนและซ่อนรายละเอียดเยอะขึ้น
แนวคิดหลักของการทำอัลบั้มนี้คือ อยากให้เพลง[[ร็อก]]ขึ้น เพื่อให้มีตัวเลือกใหม่ๆ สำหรับการเล่นสด โดยที่การเริ่มเพลงยังใช้กีตาร์โปร่งเป็นตัวนำเหมือนเดิม อัลบั้ม ทิศทาง เริ่มต้นทำทันทีหลังจากจบอัลบั้ม สิ่งเหล่านี้ ด้วยความเข้าใจกันจากอัลบั้มที่แล้วทำให้การทำงานระหว่างอภิชัยและรัฐต่อเนื่องและเร็วขึ้น การทำเพลงในอัลบั้มบางช่วงเร็วถึงขั้นทำงานกันเสร็จวันละเพลง
ในด้านเนื้อหาเนื้อเพลงของอภิชัยยังมีอารมณ์ความหม่นเศร้าเหมือนเดิม สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ การเล่าเรื่องความเปลี่ยนแปลงในชีวิต ความไม่มั่นคงและไม่แน่นอนที่ทุกคนต้องเจอ เพลงที่ได้รับการคัดให้เป็นซิงเกิลแรกคือ ทิศทาง ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากการเลิกราของเพื่อนสนิท แสดงให้เห็นจุดเด่นข้อนี้อย่างดีนอกจากนี้อัลบั้มที่สองยังมีเพลงที่น่าสนใจอย่าง คำตอบ ซึ่งอภิชัยได้แรงบันดาลใจการเขียนเพลงมาจากความขัดแย้งทางการเมืองและสังคมไทยในช่วงเปลี่ยนผ่านในปีนั้น เพลง ความจริง ได้แรงบันดาลใจจากชีวิตของนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทยที่แพ้ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก เพลง ภายใต้ท้องฟ้าสีดำ ได้แรงบันดาลใจจากชีวิตของคนตาบอด อีกหนึ่งเพลงดังอย่าง ความเลือนลาง แม้จะไม่ได้ถูกคัดเป็นซิงเกิล แต่ก็เป็นหนึ่งในเพลงที่ถูกเล่นสดบ่อยที่สุดของ Greasy Cafe
อัลบั้มนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลศิลปินชายยอดเยี่ยม Fat Awards 11 ได้รับรางวัล ศิลปินรุ่นเดอะผู้สร้างแรงบันดาลใจในรอบ 12 ปี The Fat Awards มิวสิควีดีโอเพลง ทิศทาง ยังได้รับรางวัล [V]Awards จี๊ดโดนใจ แชนแนลวีไทยแลนด์มิวสิกวิดีโออวอร์ดส 2011 ครั้งที่ 7 เพลงของเรา
=== The Journey without Maps (พ.ศ.2555) ===
หลังจบอัลบั้ม ทิศทาง อภิชัยประสบปัญหาทั้งเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว แม้ผลตอบรับและเสียงวิจารณ์จากสองอัลบั้มแรกจะดีแต่รายได้ไม่สามารถเลี้ยงชีวิตในประจำวันได้ ปัจจัยรอบด้านทำให้เขารู้สึกกดดันจนไม่มีสมาธิในเขียนเพลงใหม่ อภิชัยตัดสินใจเปลี่ยนวิถีชีวิตด้วยการเดินทางไปใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษ โดยที่ไม่กำหนดเวลาว่าจะอยู่นานแค่ไหน เขานำกีตาร์โปร่ง เครื่องบันทึกเสียง และแลปท็อปจากเมืองไทยมาด้วยเพราะหวังว่าจะได้นำมาใช้ทำเพลงระหว่างใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษ
การได้อยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ทำให้อภิชัยได้แรงบันดาลใจและเริ่มต้นทำเพลงแม้จะมีเครื่องดนตรีติดตัวแค่ชิ้นเดียว เขานำอุปกรณ์ที่อยู่รอบตัวมาใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างเสียง เช่น ใช้เสียงผิวปาก ใช้เสียงดนตรีจากแอพพลิเคชันทำเพลงใน iPad ใช้อูคูเลเล่จากเพื่อนร่วมห้องและแอคคอร์เดียนเก่าซึ่งมีในห้องพักมาใช้ทำเพลง เขาตั้งชื่ออัลบั้มนี้ว่า The Journey without Maps อภิชัยเคยเล่าว่า “เราไม่เคยเชื่อเลยว่า ในการเริ่มต้นคบใครบางคน เค้าเหล่านั้นจะเดินทางมาพร้อมกับแผนที่ในมือ เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เราจะขึ้นทิศเหนือ ลงใต้ ไปทางซ้าย ขวา หรือเราจะไปกันได้ไกลแค่ไหน และปลายทางจะจบลงที่ใด้”
อัลบั้มนี้อภิชัยได้ทดลองทำอะไรใหม่หลายอย่าง เสียงจากเครื่องดนตรีบ้านๆ ที่ใช้ระหว่างทำเพลงที่อังกฤษถูกนำมาใช้จริงทั้งหมด มีเพลง ร่องน้ำตา ซึ่งอภิชัยได้ร้องร่วมกับศิลปินหญิง ญารินดา เป็นครั้งแรก เพลงนี้มิกซ์เสียงร้องของทั้งสองศิลปินในระดับความดังเท่ากัน เพราะเขาคิดว่าเพลงนี้พูดกับคนทั้งเพศจึงควรร้องพร้อมกัน อัลบั้มนี้มีนักดนตรีต่างวงอย่าง เอี่ยว-ปุรวิชญ์ ขาวลออ มือกลองวง The Richman Toyเม้ง-ภัทรพล ทองสุขา มือกลองวง Desktop Error มาช่วยอัดกลอง อัลบั้มนี้มีเพลงเด่นหลายเพลง เช่น เงาของฝน, หมุน, ประโยคบอกเล่า, ป่าสนในห้องหมายเลข 1, ร่องน้ำตา ฯลฯ การได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างและได้เห็นชีวิตคนที่หลากหลายทำให้เนื้อเพลงของ Greasy Cafe หลุดพ้นจากการจมปลักกับความหม่นเศร้าและความเปลี่ยนแปลง เนื้อเพลงอัลบั้มนี้ส่วนใหญ่พูดถึงการเดินทาง ความสัมพันธ์ที่คลี่คลาย และการกล้าเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลง
The Journey without Maps คืออัลบั้มที่ทำให้ภาพของ Greasy Cafe ค่อนข้างชัดเจน ของ Greasy Cafe ทั้งในแง่ยอดขายและคำวิจารณ์ เขาได้รับรางวัลทางดนตรีจากหลายสถาบัน เช่น อัลบั้มยอดเยี่ยมประจำปีพ.ศ.2555 Channel [V] Thailand เมโลสโมสร ศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 10 เพลงยอดเยี่ยม (เงาของฝน) สีสันอวอร์ดครั้งที่ 25 มิวสิควีดีโอจากเพลงในอัลบั้มนี้ยังโดดเด่นไม่แพ้อัลบั้มอื่น โดยเฉพาะเพลง เงาของฝน ฝีมือของผู้กำกับ [[หัวกลม]] และเพลง หมุน โดย [[นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์]] อีกเพลงในอัลบั้มที่ได้รับความนิยมมากคือ ร่องน้ำตา นอกจากจะเป็นเพลงฮิตยังได้รับการเลือกให้เป็นเพลงประกอบซีรี่ส์ [[ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น|HORMONES]] 3 THE FINAL SEASON ของค่ายหนัง [[จีดีเอช ห้าห้าเก้า|GDH]]
=== อัลบั้มที่สี่ (พ.ศ.2555-ปัจจุบัน) ===
พ.ศ.2560 อภิชัยให้สัมภาษณ์ว่ากำลังเตรียมตัวออกอัลบั้มใหม่อีกครั้ง
=== ผลงานเพลงอื่นๆ ===
การทำอัลบั้ม The Journey without Maps ทำให้อภิชัยรู้สึกได้ปลดล็อกตัวเองและทดลองทำงานใหม่ๆ มากขึ้น ช่วงแรกของการทำเพลง อภิชัยเชื่อว่าเขาไม่สามารถแต่งเพลงให้ศิลปินคนอื่นได้ เพราะกลัวถ้อยคำจะไม่เข้ากับศิลปินและเนื้อหาในเพลงส่วนใหญ่เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดกับตัวเขาหรือคนใกล้ตัวเขาเอง ในช่วงรอยต่อระหว่างอัลบั้ม ทิศทาง และ The Journey without Maps อภิชัยได้ทดลองแต่งเพลงให้ศิลปินคนอื่น งานที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือการแต่งเพลงในอัลบั้ม 5 ของ [[อีฟ ปานเจริญ|Palmy]] ทั้งหมดสามเพลง คือ ทุ่งสีดำ, Butterfly และ Private Sky นอกจากนี้เขายังได้ลองทำงานใหม่ๆ อย่างการทำคัฟเวอร์เพลง สิ่งสมมติ จาก[[วงนั่งเล่น]] เพื่อทำเพลงประกอบภาพยนตร์ [[ฟ. ฮีแลร์|ฟ.ฮีแลร์]] เพลง ฝืน ยังถูกคัฟเวอร์เพื่อใช้ประกอบภาพยนตร์ [[รักของเรา The Moment|รักของเรา]] The Moment
อภิชัยยังทดลองทำงานใหม่นอกเหนือจากงานเพลงและภาพยนตร์ นั่นคือหนังสือ The Destination from nowhere รวมเกร็ดความคิดเบื้องหลังเพลงของ Greasy Cafe หนังสือเสียงแนวทดลอง Panoramic และงานเพลงรูปแบบ EP ทำแถมพิเศษเฉพาะในงาน [[Fat T-shirt]] และ [[Cat T-Shirt]] โดยเกิดจากความคิดของอภิชัยว่าอยากให้แฟนของ Greasy Cafe ที่มาซื้อเสื้อได้เพลง ถือเป็นการขอบคุณแฟนเพลงรูปแบบหนึ่งส่วนมากเป็นเพลงทดลองที่ไม่มีคำร้อง เพราะเขาอยากทำเพลงโดยไม่ให้เนื้อร้องมาจำกัดจินตนาการ
ในปี [[พ.ศ. 2556]] อภิชัยมีโอกาสทำเพลงพิเศษให้กับเครื่องดื่ม[[แสงโสม (สุรา)|แสงโสม]]ในโครงการชื่อว่า Unique Journey เพลง เสมอ และในปี [[พ.ศ. 2560]] โครงการ [[คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก]] เพลง 9 ซึ่งมีเนื้อหาให้กำลังใจคนทำงานด้วยมุมมองของคนที่ผ่านโลกมานาน นอกจากนี้อภิชัยยังได้ทำเพลงประกอบภาพยนตร์ The Down พ.ศ. 2558 ด้วยเพลงชื่อว่า สุดสายตา ซึ่งได้รับรางวัลเพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ [[สุวรรณหงส์|สุพรรณหงส์ครั้งที่ 25]] เมื่อเดือน[[มีนาคม]] [[พ.ศ. 2559|พ.ศ.2559]]
== คอนเสิร์ต ==
Greasy Cafe เคยมีคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเอง 2 ครั้งชื่อว่า [[Greasy Cafe: Untill Tomorrow]] ที่[[สนามกีฬาจรัญ บุรพรัตน์]] กรุงเทพฯ วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2556 มีผู้ชมจำนวน 5000 คน งานนี้ถือเป็นการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของอภิชัย เขาตั้งใจจัดองค์ประกอบให้เป็นมากกว่าคอนเสิร์ต แต่รวบรวมสิ่งที่อภิชัยชอบและหลงใหล ร้านอาหารที่มาออกบูทก่อนงานเริ่มคือร้านที่เขาชอบและอยู่ในละแวกบ้านของอภิชัย นิทรรศการในงานก็สะท้อนรสนิยมของตัวเขาซึ่งเป็นด้านที่แฟนเพลงไม่เคยเห็น งานนี้ยังจัดวันเดียวกันช่วงที่มีเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองย่านรามคำแหง ทำให้คอนเสิร์ตเกือบถูกยกเลิก สุดท้ายอภิชัยตัดสินใจจัดต่อเพื่อให้แฟนเพลงที่เดินทางมาถึงแล้วหรือตั้งใจเดินทางไกลเพื่อมางานนี้โดยเฉพาะสมหวังทุกคน
แนวคิดในการจัดคอนเสิร์ตมาจากการเปรียบเปรยของอภิชัยว่าแฟนเพลงของเขาเป็นเหมือนผู้ร่วมเดินทาง คอนเสิร์ตสำหรับเขาไม่ใช่แค่งานฟังเพลง แต่เป็นเหมือนการหยุดพักและเฉลิมฉลองก่อนจะเดินทางด้วยกันต่อไป นี่เป็นเหตุผลที่ Untill Tomorrow มีความเป็น 'คอนเสิร์ต' น้อย เน้นชวนให้ผู้คนทั้งแฟนคลับและคนที่เขารู้จักมาใช้เวลากันอย่างใกล้ชิด ในพื้นที่ที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติ
อภิชัยจัดคอนเสิร์ตรูปแบบนี้อีกครั้งในชื่อ [[Greasy Cafe: Untill Tomorrow Home]] ที่เขากะโหลก จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ วันที่ 26 เมษายน [[พ.ศ. 2557|พ.ศ.2557]] มีผู้ชมจำนวน 2000 คน งานนี้เป็นคอนเสิร์ตอะคูสติกที่มีคนเล่นแค่ 3 คน แต่ใช้เครื่องดนตรีต่างประเภทถึง 20 ชนิด เขานำคำว่า Home ต่อท้ายชื่อคอนเสิร์ตเพื่อล้อกับชื่ออัลบั้ม The Journey without Maps โปสเตอร์งานก็ใช้ภาพทะเลเหมือนปกอัลบั้ม หลังจากพาแฟนเพลงเดินทางมากับอัลบั้มนี้แล้ว เขาอยากให้คอนเสิร์ตนี้เป็นเหมือนการกลับบ้าน ถือเป็นการปิดอัลบั้มสามอย่างสมบูรณ์แบบ
== ผลงานสตูดิโออัลบั้ม ==
* [[สิ่งเหล่านี้]] (พ.ศ. 2551)
* [[ทิศทาง (อัลบั้ม)|ทิศทาง]] (พ.ศ. 2552)
* [[The Journey without Maps]] (พ.ศ. 2555)
== ผลงานอัลบั้มตัวอย่าง (EP) และเพลงพิเศษ ==
* เพลง หา, อัลบั้ม Smallroom 001 (พ.ศ. 2542)
* เพลง พบ, อัลบั้ม Smallroom 002 (พ.ศ. 2544)
* เพลง a day, อัลบั้ม a day Red Label (พ.ศ. 2544)
* เพลง เธอรู้รึเปล่า, อัลบั้ม Sanamluang connects by Nokia 5700 XpressMusic Part 02 (พ.ศ. 2550)
* เพลง เงินล้าน, อัลบั้ม Fatcode 9 (พ.ศ. 2552)
* อัลบั้ม Panoramic, The Book with Sound (พ.ศ. 2553)
* เพลง ฤดูร้อน, อัลบั้ม The Love Scene (พ.ศ. 2554)
* EP ระยะ (พ.ศ. 2553)
* EP ฝืน (พ.ศ. 2554)
* EP The Journey without Maps Teaser (พ.ศ. 2555)
* เพลง ช่อมะกอก feat. น.ส. เอ้บ ศุขสลุง [OST. ตั้งวง] (พ.ศ. 2556)
* เพลง เสมอ (พ.ศ. 2556)
* EP This is love (พ.ศ.2557)
* เพลง สุดสายตา [OST.The Down] (พ.ศ.2558)
* EP Relationtrip (พ.ศ.2559)
=== งานแต่งเพลง ===
เส้น 117 ⟶ 109:
=== งานเขียน ===
* พ.ศ. 2554 - [[The Destination from Nowhere]]
===
{| class="wikitable"
! width="60" | ปี
|