ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เทกแดต"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Yusni5127 (คุย | ส่วนร่วม)
Dolkungbighead (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 23:
'''เทกแดต''' ({{lang-en|Take That}}) คือกลุ่มศิลปินแนว[[ป๊อป]]จาก[[อังกฤษ]] สมาชิกวงประกอบไปด้วย[[มาร์ก โอเวน]], [[ฮาวเวิร์ด ดอนัลด์]], [[แกรี บาร์โลว์]] และอดีตสมาชิกวง [[ร็อบบี้ วิลเลียมส์]] และ [[เจสัน ออเรนจ์]] ภายหลังที่พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1990 จึงแยกย้ายกันไป แล้วกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษที่ 2000
 
เทกแดตรวมวงที่[[แมนเชสเตอร์|เมืองแมนเชสเตอร์]]ในปี [[1990]] พวกเขามียอดขายอัลบั้มและซิงเกิ้ลรวมกว่าซิงเกิลรวมกว่า 30 ล้านก๊อปปี๊ระหว่างปี 1991 - 1996 ในระหว่างปี 1991 อันเป็นปีที่[[ซิงเกิล]]แรกของพวกเขาได้เผยแพร่สู่สาธารณชน จนกระทั่งถึงปี 1996 ที่พวกเขาแยกย้ายกันไปนั้น [[บีบีซี]]กล่าวถึงเทกแดตว่า "เป็นวงดนตรีบริติชที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในสหราชอาณาจักรนับตั้งแต่วง[[เดอะบีทเทิลส์]] อันเป็นที่รักของทั้งผู้สูงอายุ และวัยรุ่นโดยทั่วไป"{{Fact|Novemeber 2008|date=December 2008}} เพลงแนวแดนซ์ป๊อป และโซลของเทกแดตขึ้นชาร์ตมากมายในสหราชอาณาจักรในช่วงครึ่งทศวรรษแรกของคริสต์ทศวรรษที่ 1990 อัลบั้ม 2 ชุดที่ขายที่ที่ส่วนของพวกเขาคือ ''[[Everything Changes]]'' ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเมอร์คิวรีในปี 1994<ref>[http://www.rocklistmusic.co.uk/murcurytechnics.htm Mercury/Nationwide Music Prize<!-- Bot generated title -->]</ref> และอัลบั้ม ''[[Greatest Hits]]'' ซึ่งออกจำหน่ายในปี 1996 โดยออลมิวสิกได้กล่าวไว้ว่า "ณ เวลานี้พวกเขาคือซูเปอร์สตาร์ในยุโรป คำถามหลักๆไม่ใช่ต้องมุ่งประเด็นที่ทำอย่างไรถึงมีซิงเกิลยอดนิยม แต่ควรถามว่ามีซิงเกิลขึ้นสู่อันดับหนึ่งเท่าไหร่"
 
ปัจจุบันวงนี้ได้มีเพลงที่เผยแพร่แล้ว 119 เพลง จาก 7 สตูดิโออัลบั้ม 1 อัลบั้มพิเศษ 2 อัลบั้มรวมเพลง และ 40 ซิงเกิล วงนี้มียอดขายมากกว่า 45 ล้านก๊อปปี๊ โดยมี 28 ซิงเกิ้ลที่ทำอันดับถึง 40 อันดับแรกในชาร์ตของอังกฤษ 17 ซิงเกิ้ลที่ขึ้นถึง 5 อันดับแรก และ 12 ซิงเกิ้ลที่ขึ้นถึงอันดับ 1 โดยมียอดขายอัลบั้มกว่า 20 ล้านก๊อบปี้ นอกจากนี้แล้วทุกอัลบั้มของพวกเขา (ยกเว้นอัลบั้มแรก Take That & Party) นั้นสามารถขึ้นไปถึงอันดับ 1 ในชาร์ตของอังกฤษได้ทั้งหมด โดยในปี 2011 พวกเขาได้[[บริตอะวอดส์|รางวัลบริทอะวอร์ดส]]ในสาขาศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยม
บรรทัด 32:
 
=== ความสำเร็จ ===
ซิงเกิ้ลซิงเกิลแรกของวงนี้คือ "[[Do What U Like (เพลงเทกแดท)|Do What U Like]]" โดยเพลงนี้สามารถขึ้นไปถึงอันดับที่ 82 ใน[[ชาร์ตซิงเกิลแห่งสหราชอาณาจักร|ชาร์ตของอังกฤษ]] ซิงเกิ้ลต่อๆซิงเกิลต่อๆมาของวงอย่าง "[[Promises (เพลงเทกแดท)|Promises]]" และ "[[Once You've Tasted Love (เพลงเทกแดท)|Once You've Tasted Love]]" สามารถขึ้นไปถึงอันดับ 38 และ 47 ตามลำดับ
ซิงเกิ้ลซิงเกิลแรกที่ประสบความสำเร็จของพวกเขาคือ "[[It Only Takes A Minute (เพลงเทกแดท)|It Only Takes A Minute]]" เป็นเพลงคัฟเวอร์ของวงยุค'70 ชื่อ Tavares ขึ้นชาร์ทในอังกฤษสูงสุดอันดับ 7 <ref>[http://archive.is/20120721212554/http://www.chartstats.com/artistinfo.php?id=812]</ref> ต่อมาเพลง "[[I Found Heaven (เพลงเทกแดท)|I Found Heaven]]" สามารถขึ้นไปถึงอันดับ 15 หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเพลงฮิตอย่าง "[[A Million Love Songs (เพลงเทกแดท)|A Million Love Songs]]" เป็นเพลงช้าที่แต่งโดย แกรี โดยสามารถขึ้นไปถึงอันดับ 7 ในอังกฤษ จากนั้นก็ปล่อยเพลง "[[Could It Be Magic (เพลงเทกแดท)|Could It Be Magic]]" เพลงเก่าของ [[แบรรี แมนิโลว์]] และ [[ดอนน่า ซัมเมอร์]] ไต่ชาร์ทไปถึงอันดับ 3<ref>[http://archive.is/20120721212554/http://www.chartstats.com/artistinfo.php?id=812]</ref> หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ออกอัลบั้มแรก [[Take That & Party]] ในปี 1992 โดยอัลบั้มนี้ขึ้นไปถึงอันดับ 2 ของชาร์ตอังกฤษ ซึ่งถือว่าเป็นอัลบั้มเดียวของวงที่ไม่สามารถขึ้นถึงอันดับ 1 โดยอัลบั้มนี้ขายได้ประมาณ 1 ล้านชุด
 
ปี 1993 วงได้ออกอัลบั้มอัลบั้ม [[Everything Changes]] โดยเพลงส่วนใหญ่จะแต่งโดยแกรี มีเพลงอันดับ 1 ถึง 4 เพลง [คือเพลง [[Pray (เพลงเทกแดท)|Pray]] (เพลงนี้เป็นซิงเกิ
แรกของวงที่สามารถขึ้นถึงอันดับ 1 ได้สำเร็จ) , [[Relight My Fire (เวอร์ชันเทกแดท)|Relight My Fire]](โดยเพลงนี้เป็นเพลงคัฟเวอร์ของแดน ฮาร์ทแมน), [[Babe (เพลงเทกแดท)|Babe]] และ [[Everything Changes (เพลงเทกแดท)|Everything Changes]]] ส่วนซิงเกิลแรก [[Why Can't I Wake Up with You (เพลงเทกแดท)|Why Can't I Wake Up with You]] นั้นขึ้นถึงอันดับ 2 ทั้งที่อัลบั้มก่อน Take That and Party ไม่มีซิงเกิ้ลซิงเกิลใดขึ้นถึงอันดับ 1 เลย และตัวอัลบั้มก็ขึ้นอันดับ 1 เช่นกัน ซิงเกิ้ลที่ซิงเกิลที่ 6 คือ "[[Love Ain't Here Anymore (เพลงเทกแดท)|Love Ain't Here Anymore]]" หยุดอยู่ที่อันดับ 3<ref>[http://archive.is/20120721212554/http://www.chartstats.com/artistinfo.php?id=812]</ref> อัลบั้มนี้ขายได้ถึง 3 ล้านชุดทั่วโลก
 
ปี 1995 วงได้ออกอัลบั้ม[[Nobody Else]] ปล่อยซิงเกิ้ลแรกคือซิงเกิลแรกคือ "[[Sure (เพลงเทกแดท)|Sure]]" สามรถขึ้นถึงอันดับ 1 ได้อีกครั้ง และซิงเกิ้ลที่ซิงเกิลที่ 2 คือ "[[Back For Good (เพลงเทกแดท)|Back For Good]]" เพลงนี้เป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของวง โดยเพลงนี้สามารถขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งของชาร์ตซิงเกิ้ลของซิงเกิลของ 31 ประเทศ ซึ่งเพลงนี้ถือเป็นเพลงฮิตเพลงเดียวในอเมริกาของเทกแดต โดยขึ้นไปถึงอันดับ 7 โดยอัลบั้มนี้ถือเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในทั้งในแแง่ของอัลบั้มและซิงเกิ้ลซิงเกิล โดยอัลบั้มนี้ขายได้กว่า 6 ล้านชุดทั่วโลก และทั้ง 3 ซิงเกิ้ลซิงเกิลได้ขึ้นถึงอันดับหนึ่งทั้งหมด
 
=== การจากไปของ ร็อบบี้ วิลเลียมส์ ===
บรรทัด 49:
;แกรี บาร์โลว์ : ออกอัลบั้มเดี่ยวในปี 1997 กับอัลบั้ม Open Road มีเพลงฮิตอันดับ 1 ในอังกฤษ 2 เพลงคือ Forever Love และ Love Won´t Wait ส่วนอัลบั้มที่ 2 Twelve Months, Eleven Days ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จากนั้น แกรี ก็ออกมาเปิดสตูดิโอของตัวเอง แต่งเพลงและโปรดิวซ์เพลงให้ศิลปิน เช่น [[ดอนนี ออสมอนด์]], [[บลู]] และ [[เดลตา กู๊ดเรม]] เป็นต้น โดยในปี 2013 เขาได้ออกอัลบั้ม Since I Saw You Last โดยขายได้เกือบหนึ่งล้านชุด
 
;ร็อบบี้ วิลเลียมส์ : ออกซิงเกิ้ลแรกซิงเกิลแรก Freedom เพลงเก่าของ [[จอร์จ ไมเคิล]] โดยในอัลบั้มแรกของเขา Life thru a Lens นั้นสามารถไปถึงอันดับ 1 ของชาร์ตอังกฤษ ร็อบบี้ ประสบความสำเร็จในการออกอัลบั้มอย่างมาก โดยได้ออกผลงานอย่าง I've Been Expecting You, Sing When You're Winning, Escapology, Intensive Care, Rudebox, Reality Killed the Video Star, Take the Crown และ Swings Both Ways โดย 9 จาก 10 อัลบั้มเดี่ยวของร็อบบี้นั้นสามารถขึ้นไปถึงอันดับ 1 ของชาร์ตอังกฤษ เขามีเพลงอันดับ 1 ในอังกฤษ 7 เพลง อัลบั้มและซิงเกิ้ลของร็อบซิงเกิลของร็อบบี้สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 77 ล้านชุดทั่วโลก ทำให้ร็อบบี้เป็นศิลปินชายจากอังกฤษที่มียอดขายมากที่สุด
 
;มาร์ก โอเวน : ออกอัลบั้มเดี่ยวทั้งหมด 4 อัลบั้ม คือ Green Man, In Your Own Time, How the Mighty Fall และ The Art of Doing Nothing ในปี2002 มาร์กเป็นผู้ชนะเลิศในรายการพิเศษของ[[บิ๊ก บราเธอร์]]ในอังกฤษ ชื่อ "Celebrity Big Brother" <ref>[http://news.bbc.co.uk/1/hi/entertainment/tv_and_radio/2529779.stm ข่าวมาร์ก โอเวน ชนะรายการ บิ๊ก บราเธอร์ ใน BBC News]</ref>
 
;ฮาวเวิร์ด ดอนัลด์ : ได้บันทึกเสียงซิงเกิ้ลไว้ซิงเกิลไว้ แต่ไม่ได้ออกวางขาย เขาได้หันไปเป็นดีเจ โดยเล่นในคลับในอังกฤษและเยอรมนี
 
;เจสัน ออเรนจ์ : ได้รับบทแสดงโดยเล่นเป็น Brent Moyer ใน Lynda La Plante's Killer Net ออกอากาศช่อง UK Channel 4 และเขาได้แสดงใน King's Head Theatre ในลอนดอน
บรรทัด 71:
[[14 กุมภาพันธ์]] 2007 เทกแดตได้ร่วมแสดงในงาน[[บริท อวอร์ดส]] โดยเพลง Patience ชนะในสาขา British Single <ref>[http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9500000019137 ข่าวบริท อวอร์ดส 2007 ใน Manager.co.th]</ref>
 
[[4 มีนาคม]] 2007 เพลง "[[Shine (เพลงเทกแดท)|Shine]]" ซิงเกิ้ลที่ซิงเกิลที่ 2 จากอัลบั้มนี้ขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษ ซึ่งถือเป็นเพลงอันดับ 1 เพลงที่ 10 ของวง แซงหน้าวง[[สไปซ์ เกิร์ลส‎]] และ [[แอบบ้า]] (ขึ้นอันดับ 1 ทั้งหมด 9 เพลง) นอกจากนี้แล้วทางวงได้ออกอีก 2 ซิงเกิ้ลซิงเกิล คือ [[I'd Wait for Life (เพลงเทกแดท)|I'd Wait for Life]] (เข้าอันดับที่ 17 ของชาร์ตอังกฤษ) และ [[Reach Out (เพลงเทกแดท)|Reach Out]] (ออกเฉพาะในภาคพื้นยุโรป)
 
หลังจากเทกแดตได้ทัวร์เสร็จ ทางวงได้ทำการเซ็นสัญญากับ [[พาราเมาท์ พิกเจอร์ส]] เพื่อแต่งเพลง [[Rule the World (เพลงเทกแดท)|Rule the World]] เพลงสำหรับ[[ภาพยนตร์]]เรื่อง "[[ศึกมหัศจรรย์ ปฏิหาริย์รักจากดวงดาว|Stardust]]" นำแสดงโดย [[ชาร์ลี คอกซ์]] [[แคลร์ เดนส์]] [[โรเบิร์ต เดอนิโร]] และ เซียนนา มิลเลอร์ กำกับโดย แมทธิว วอห์น ถือเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เพลงแรกของเทกแดต เพลงนี้เข้าถึงอันดับที่ 2 ของชาร์ตอังกฤษ
 
=== อัลบั้ม The Circus ===
[[24 พฤศจิกายน]] 2008 ทางวงได้ออกซิงเกิล [[Greatest Day (เพลงเทกแดท)|Greatest Day]] โดยสามารถขึ้นไปถึงอันดับ 1 ทำให้กลายเป็นซิงเกิ้ลที่ซิงเกิลที่ 11 ที่สามารถขึ้นไปถึงอันดับ 1 ก่อนที่จะออกอัลบั้มในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา แล้วได้ออกอีก 4 ซิงเกิ้ลซิงเกิล คือ [[Up All Night (เพลงเทกแดท)|Up All Night]](เข้าชาร์ตในอันดับที่ 14) ,[[The Garden (เพลงเทกแดท)|The Garden]] (อันดับ 97) ,[[Said It All (เพลงเทกแดท)|Said It All]] (อันดับ 9) และ [[Hold Up a Light (เพลงเทกแดท)|Hold Up a Light]] (อันดับ 123) โดยอัลบั้ม[[The Circus]]มียอดขายในอังกฤษกว่า 2 ล้านก๊อปปี้
 
=== อัลบั้ม Progress และ Progressed ===
วันที่ [[15 กรกฎาคม]] 2010 ร็อบบี้ วิลเลียมส์ได้กลับมาอยู่ในวง ทำให้เทก แดท มีสมาชิกครบ 5 คนอีกครั้ง โดยทางวงได้ออกอัลบั้มชุดที่หก[[Progress]]ในวันที่ [[15 พฤศจิกายน]]
โดยได้ออก 2 ซิงเกิ้ลซิงเกิล ได้แก่ [[The Flood (เพลงเทกแดท)|The Flood]] (เข้าชาร์ตในอันดับที่ 2) และ [[Kidz (เพลงเทกแดท)|Kidz]] (อันดับ 28) แม้จะไม่มีซิงเกิ้ลซิงเกิลไหนที่ขึ้นถึงอันดับ 1 เลย แต่ตัวอัลบั้มนั้นทำยอดขายได้กว่า 4 ล้านชุด อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีที่สุดของวง และยังเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดในอังกฤษประจำปี 2010 อีกด้วย ต่อมาในวันที่ [[10 มิถุนายน]] 2011 ทางวงได้ออกอัลบั้มพิเศษ [[Progress|Progressed]] โดยเทกแดตได้ออกผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง [[เอ็กซ์เมน รุ่น 1|X-Men: First Class]] ชื่อเพลง [[Love Love (เพลงเทกแดท)|Love Love]] (อันดับ 15) โดยในเวลาต่อมาได้ออกผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์ [[สามทหารเสือ ดาบทะลุจอ|The Three Musketeers]] ชื่อ [[When We Were Young (เพลงเทกแดท)|When We Were Young]] (อันดับ 88) ด้วย โดยในอัลบั้มนี้ ทางวงได้ออกซิงเกิ้ลซิงเกิลเพื่อเป็นการโปรโมตงาน Red Nose Day ประจำปี 2011 ของมูลนิธิ Comic Relief ในชื่อ [[Happy Now (เพลงเทกแดท)|Happy Now]] (อันดับ 52) และทางวงได้ออกซิงเกิ้ลซิงเกิลเพื่อโปรโมตการทัวร์คอนเสิร์ต Progress Live ของพวกเขาในชื่อ Eight Letters (อันดับ 176)
ทั้งนี้ เพลง SOS สามารถขึ้นไปถึงอันดับที่ 91 ในชาร์ตของอังกฤษ ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงเดียวของวงที่สามารถขึ้นไปถึง 100 อันดับแรกของชาร์ต ทั้งๆที่ไม่ใช่ซิงเกิ้ลซิงเกิล
 
=== แยกทำงานเดี่ยวชั่วคราว ===
บรรทัด 96:
 
=== อัลบั้ม III ===
หลังจากที่ร็อบบี วิลเลียมส์ได้ทำงานกับวงเป็นครั้งสุดท้ายในปี 2012 และเจสัน ออเรนจ์ได้ออกจากวงในปี 2014 ทำให้เทกแดตมีสมาชิกเพียงสามคนเท่านั้น โดยในวันที่ 14 พฤศจิกายน ทางวงได้ออกซิงเกิ้ลซิงเกิลที่ทีชื่อว่า [[These Days]] โดยตัวซิงเกิ้ลซิงเกิลนั้นขึ้นไปอยู่ในอันดับ 1 ได้สำเร็จ ทำให้มันกลายเป็นซิงเกิ้ลที่ซิงเกิลที่ 12 ที่สามารถขึ้นไปถึงอันดับที่ 1 ได้สำเร็จ และได้ออกอัลบั้มในวันที่ 28 พฤศจิกายน โดยทางวงได้ออกงานเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง คิงส์แมน โคตรพิทักษ์บ่มพยัคฆ์ ชื่อว่า [[Get Ready For It]] ในวันที่ 2 มีนาคม 2015 ทางวงได้ออกซิงเกิ้ลซิงเกิลที่สองของอัลบั้ม ชื่อ [[Let In The Sun]] และในวันที่ 8 มิถุนายน ก็ได้ออกซิงเกิลที่สามในชื่อ [[Higher Than Higher]] ในวันที่ 20 พฤศจิกายน เทกแดทได้ออกอัลบั้มเวอร์ชันใหม่ โดยได้ออกซิงเกิล [[Hey Boy]] ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม เพลงนี้ขึ้นถึงอันดับที่ 56
 
=== สตูดิโออัลบั้มใหม่ อัลบั้มรวมเพลงใหม่ และทัวร์รอบโลก ===
บรรทัด 199:
* [http://www.takethattv.com/ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ]
* [http://www.myspace.com/takethattv เทกแดต บน Myspace.com]
 
 
{{__เทกแดต__}}
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/wiki/เทกแดต"