ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ธรรมยุติกนิกายในประเทศกัมพูชา"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
บรรทัด 8:
 
===สมเด็จพระสุคนธาธิบดี ผู้นำธรรมยุตินิกายเข้าสู่กัมพูชา===
สมเด็จพระสุคนธาธิบดี มีพระนามเดิมว่าปาน หรือ ปาง ประสูติในวันพฤหัสบดี แรม 1 ค่ำ เดือนกัตติก ปีจอ พ.ศ. 2370 ในหมู่บ้านแพรก พระเสด็จ จังหวัดพระตะบอง ไม่ปรากฏนามบิดามารดา แต่บิดามารดาของท่านได้หนีไปอาศัยอยู่ในจังหวัดพระตะบอง เนื่องจากออกญาเดโช (แทน) ก่อการจลาจล เมื่ออายุได้ 12 ปี จึงบวชเป็นสามเณรที่วัดโพธิ์ ตำบลสังแก จังหวัดพระตะบอง ในคณะมหานิกาย แล้วได้เข้ามากรุงเทพ อยู่ที่วัดสระเกศคณะมหานิกาย <ref> [ศานติ ภักดีคำ,ความสัมพันธ์ทางพระพุทธศาสนาระหว่างสยามสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับกรุงกัมพูชา", ในวารสาร สงขลานครินทร์ ฉบับสังคมศาสตร์และมนุษย์ศาสตร์ ปีที่ 18 ฉบับที่ 3 ก.ค.-ก.ย. 2555 หน้า 3-19]</ref>
 
ต่อมาเมื่ออายุ 21 ปี จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ คณะมหานิกายจำพรรษาที่วัดสระเกศได้ 4 พรรษา เวลานั้นได้ถวายตัวเป็นศิษย์พระวชิรญาณเถระ (พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) โปรดให้ศึกษาพระวินัยในสำนักเจ้าคุณพระญาณรักขิต (สุด) เจ้าอธิการวัดบรมนิวาส คณะธรรมยุตินิกาย <ref> [ศานติ ภักดีคำ,ความสัมพันธ์ทางพระพุทธศาสนาระหว่างสยามสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับกรุงกัมพูชา", ในวารสาร สงขลานครินทร์ ฉบับสังคมศาสตร์และมนุษย์ศาสตร์ ปีที่ 18 ฉบับที่ 3 ก.ค.-ก.ย. 2555 หน้า 3-19]</ref>
 
ต่อมาในวันแรม 1 ค่ำ เดือนอาสาธ ปีระกา เอกศก [[พ.ศ. 2393]] [[ค.ศ.1849]] พระปานอายุ 24 ปี จึงบวชแปลงเป็นพระธรรมยุตินิกาย โดยมีพระวชิรญาณเถระเป็นพระอุปัชฌาย์ พระญาณรักขิต (สุด) เป็นกรรมวาจารย์ และอมราภิรักขิต (เกิด) เป็นอนุสาวนาจารย์ มีฉายาว่า "ปัญญาสีโล" ต่อมาสอบได้ความรู้เป็นเปรียญธรรมเป็น "พระมหาปาน"
 
ในปี [[พ.ศ. 2398]] สมเด็จพระหริรักษรามา (พระองค์ด้วง) ขอพระราชทานธรรมยุตินิกายเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาธรรมยุตินิกายในกัมพูชา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดให้พระมหาปานพร้อมด้วย พระอมราภิรักขิต (เกิด) และพระสงฆ์ 8 รูป อุบาสก 4 คน เดินทางไปสืบศาสนายังกรุงกัมพูชา
 
สมเด็จพระหริรักษ์รามาอิศราธิบดี ทรงนิมนต์พระมหาปานให้จำพรรษาอยู่ที่วัดศาลาคู่ (วัดอ์พิลปี) กรุงอุดงค์มีชัย พระมหาปาน ได้เลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระอริยวงศ์ พระวิมลธรรม พระมหาวิมลธรรม ตามลำดับ ภายหลังเป็นสมเด็จพระสุคนธาธิบดี<ref>ชุชุมฺ เงือน,อํพีพฺระราชปฺรไพณีพฺระมหากฺสตฺร นิง สมฺเฎจพฺระสงฺฆราช, หน้า 121 </ref>
บรรทัด 21:
1985), pp. VIII.</ref>
 
สมเด็จพระสุคนธาธิบดี (ปาน) สิ้นพระชนม์ในปี [[พ.ศ. 2437]] พระชนม์ได้ 68 พรรษา ตรงกับรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวของไทยและสมเด็จพระนโรดม (พระองค์ราชาวดี) ของกัมพูชา
 
==ธรรมยุตินิกายกับความคาดหวังในสังคมกัมพูชา==