ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จิ้งจอกอวกาศจัสเปี้ยน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Overlord Darknemesis (คุย | ส่วนร่วม)
Overlord Darknemesis (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 87:
*'''มาริกอส (マリゴス)''' (ตอนที่1) สัตว์ยักษ์รูปแบบเต่าที่ปรากฎตัวบนดาวบีจี้พร้อมกับสัตว์ยักษ์ "ฮาเนด้า" โดยเป็นหนึ่งในบรรดาสัตว์ยักษ์ที่ฟักตัวออกมาจากไข่จำนวนมากที่ฝังตัวอยู่ใต้ดินของดาวบีจี้ มาริกอสนั้นสามารถหดหัวและแขนขาเข้าไปแล้วกลิ้งชนแบบก้อนหินยักษ์และสามารถพ่นไฟได้ เป็นคู่ต่อสู้ของไดเลอ้อนในตอนที่1 พร้อมกับฮาเนด้าโดยหลังจากได้รับแสงจิตมารจากซาตานโกสก็ถล่มเมืองบนดาวบีจี้เสียราบคาบแต่ก็ถูกน็อคด้วย "คอสมิค ครัช" จนได้สติพร้อมกับฮาเนด้า
*'''ฮาเนด้า (ハネダー)''' (ตอนที่1) สัตว์ยักษ์รูปร่างคล้ายมังกรมีปีกขนาดใหญ่ทำให้สามารถบินไปบนฟ้าได้อย่างอิสระ ปรากฎตัวบนดาวบีจี้พร้อมกับมาริกอสและเข้าต่อสู้กับไดเลอ้อนหลังได้รับแสงจิตมารจากซาตานโกส ฮาเนด้าใช้ปีกขนาดใหญ่โบกสะบัดจนสร้างพายุถล่มเมืองบนดาวบีจี้จนพินาศก่อนจะแทคทีมสู้กับไดเลอ้อนพร้อมกับมาริกอสแต่ก็ถูกน็อคด้วย"คอสมิค ครัช" จนได้สติกลับคืนมา
*'''เทซึกอส (テツゴス)''' (ตอนที่2) สัตว์ยักษ์รูปแบบไดโนเสาร์สีดำที่มีหางยาวและมีเขาคล้ายกระทิง 1 คู่บนหัว และเป็นสัตว์ยักษ์ที่อยู่ในไตเติ้ลเปิดเรื่อง ปรากฎตัวบนดาวพีซ โดยหลังจากพวกจัสเปี้ยนถูกซาตานโกสล่อให้มาเจอกับยานอวกาศไร้ชีวิตจากดาวโลกซึ่งไม่มีผู้รอดชีวิตราวกับเป็นยานผีสิงล่อลวงมาจนพายานไดเลอ้อนมาตกลงบนดาวพีซซึ่งเกือบจะเป็นดาวร้างและถูกตามล่าด้วยนักรบเอเลี่ยนผีสิง จัสเปี้ยนที่ไล่ตามไปช่วยแอนลี่และมียะที่ถูกจับตัวไปก็พบกับดาวเทียมซากุระของดาวโลกที่ถูกดัดแปลงให้เป็นเครื่องมือควบคุมผู้คนของซาตานโกสโดยมันควบคุมแอนลีให้ทำร้ายจัสเปี้ยน จากนั้นจัสเปี้ยนก็ทำการต่อสู้กับดาวเทียมนั้นและพากันหนีออกมาได้ก็พบกับ เทซึกอสที่รับแสงจิตมารจากซาตานโกสและรวมร่างกับดาวเทียมซากุระเพื่อสู้กับจัสเปี้ยน เทซึกอสนั้นสามารถพ่นไอเย็นจากปากและปล่อยแสงทำลายจากดวงตาเป็นอาวุธ หลังถูกปราบด้วย "คอสมิค ครัช" ของไดเลอ้อน ทั้งดาวเทียมซากุระรวมถึงดาวพีซก็ระเบิดทำลายตัวเองตามไปเช่นกัน
*'''นามาเกรัส (ナマゲラス)''' (ตอนที่3 และ 25) สัตว์ยักษ์รูปร่างคล้ายตัวสลอธที่พวกจัสเปี้ยนพบบนดาวโดโดในสภาพที่นามาเกรัสและเด็กน้อยโคโคกำลังถูกผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่บนดาวโดโดไล่ล่าเพราะได้ข่าวว่าดาวดวงอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงถูกสัตว์ยักษ์ทำลายสิ้นทำให้ผู้ปกครองของดาวโดโดออกคำสั่งไล่ล่าและฆ่าสัตว์ยักษ์บนดาวตนเองให้หมดก่อนจะกลายเป็นภัยคุกคาม แท้จริงแล้วนามาเกรัสเป็นสัตว์ยักษืที่อ่อนโยนและเป็นมิตรมากโดยมันเป็นผู้เลี้ยงดูเด็กกำพร้าโคโคเสมือนเป็นลูกของมันเองแต่เพราะความหวาดระแวงของผู้ปกครองจึงถูกไล่ล่าด้วยลูกดอกอาบยาพิษแต่จัสเปี้ยนที่เห็นว่าสัตว์ยักษ์ไม่ได้ชั่วร้ายไปหมดแต่ที่พวกมันดุร้ายเป็นเพราะถูกซาตานโกสครอบงำต่างหาก จัสเปี้ยนจึงให้ความช่วยเหลือโดยช่วยตามหาผลแห่งชีวิตมาช่วยรักษานามาเกรัสโดยไม่สนใจต่อท่าทีของผู้คนบนดาวโดโด ทว่าซาตานโกสก็ปรากฎตัวขึ้นและใช้แสงจิตมารล้างสมองนามาเกรัสให้กลายเป็นสัตว์ยักษ์ที่ดุร้ายมีรูปร่างเปลี่ยนไปเล็กน้อยโดยหูตั้งชี้ มีเขี้ยวงอกออกมาและมีเขางอกมากลางหน้าผากอีก 1 อัน นามาเกรัสที่ดุร้ายขึ้นสามารถพ่นไฟได้และโจมตีเมืองของดาวโดโดจนผู้ปกครองต้องสั่งให้กำจัดด้วยปืนใหญ่ลำแสงแต่จัสเปี้ยนก็เข้าไปห้ามปรามและชี้แจงเหตุผลก่อนจะเข้าไปขัดขวางนามาเกรัสด้วยยานรบต่างๆจากเบาไปถึงหนักจนสุดท้ายก็ถูกน็อคด้วย "ไดเลอ้อน คิ๊ก" จนฟื้นคืนสติและกลับเป็นสัตว์ยักษ์ที่อ่อนโยนดังเดิม ในตอนที่ 25 นามาเกรัสก็ไล่ตามพวกพี่น้องกาซามิที่ลักพาตัวโคโคมายังโลกเพื่อหวังใช้เป็นเครื่องมือในการกำจัดจัสเปี้ยน นามาเกรัสช่วยต่อสู้กับสัตว์ยักษ์ "ดอนเกส" อีกแรงร่วมกับไดเลอ้อนจนสามารถช่วยเหลือโคโคและกลับดาวโดโดอย่างปลอดภัย
*'''ไกออส (ガイオス)''' (ตอนที่4) สัตว์ยักษ์ที่อาศัยอยู่ใต้ดินบนดาวโลกถูกซาตานโกสควบคุมให้สร้างแผ่นดินไหวจากใต้ดินเพื่อทำลายเมืองที่อยู่ด้านบน เป็นคู่ต่อสู้ของไดเลอ้อนบนโลกตัวแรก สามารถพ่นแก๊สระเบิดและสามารถปล่อยกระดองบนหลังให้พุ่งไปโจมตีเป้าหมายได้ ไกออสแม้จะเป็นสัตว์ที่อยู่ใต้ดินแต่ก็เคลื่อนที่บนผิวดินได้คล่องแคล่วทั้งยังกระโดดพุ่งชนใส่ไดเลอ้อนจนชะงักไปเหมือนกันแต่ก็ถูกปราบลงด้วย "คอสมิค ครัช" แต่ไม่ชัดเจนว่าถูกน็อคหรือเสียชีวิตกันแน่
*'''กิกะ (ギガ)''' (ตอนที่5) สัตว์ยักษ์รูปร่างเหมือนช้างสีน้ำตาลปรากฎตัวอย่างเป็นปริศนาเพียงชั่วครู่โดยจริงๆแล้วมันอาศัยอยู่ในมิติคู่ขนานที่ไม่เกี่ยวข้องกับโลกของเรา มีเพียงเด็กหญิงชื่อ "ซาโตมิ" และจัสเปี้ยนเท่านั้นที่สามารถมองเห็นมันได้แต่ก็เพียงชั่วขณะนึงเท่านั้นเพราะมันอยู่ในมิติคู่ขนานตามปกติจึงไม่ก่อให้เกิดผลใดๆต่อโลก แม็ดเกียรันจึงได้ไปหลอกซาโตมิว่าสัตว์ยักษ์นั้นคือพ่อของซาโตมิที่กลับชาติมาเกิดจึงมีแต่ซาโตมิเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้และมอบเครื่องดนตรีเป่าผลึกหลากสีให้แก่ซาโตมิโดยหลอกว่าเป็นอุปกรณ์ที่สามารถเรียกสัตว์ยักษ์ตัวนั้นมาได้แต่แท้จริงแม็ดเกียรันหลอกใช้ให้ซาโตมิให้เรียกกิกะข้ามมิติมายังโลกของเราเพื่อให้ซาตานโกสยิงแสงจิตมารเพื่อควบคุมกิกะมาเป็นสมุนโดยใช้ซาโตมิเป็นเครื่องมือ กิกะมีงวงที่ทรงพลังสามารถใช้ยกร่างของไดเลอ้อนเหวี่ยงไปมาได้สบายๆอีกทั้งยังสามารถหลบเข้าไปซ่อนในรอยแยกของมิติและปรากฎตัวกลับมาได้ดังใจสร้างความลำบากให้แก่จัสเปี้ยนพอสมควรอีกทั้งยังได้รับพลังจากซาโตมิผ่านเครื่องเป่าอีกด้วยทำให้จัสเปี้ยนต้องทำลายเครื่องเป่าของซาโตมิเพื่อให้มันอ่อนกำลังลงและปราบด้วย "คอสมิค ครัช" จนร่างของกิกะระเบิดหายเข้าไปในรอยแยกต่างมิติ
*'''เกลก้อน (ゲルゴン)''' (ตอนที่6) สัตว์ยักษ์ที่มีขนาดใหญ่โตราวกับภูเขาปรากฎตัวขึ้นเพื่อตามหาลูกน้อยที่พลัดหลงของตัวเอง โดยลูกของเกลก้อนนั้นมีขนาดเล็กจนเด็กสามารถอุ้มได้สบายๆมีหน้าตาน่ารักและไม่ดุร้ายจึงเป็นที่รักใคร่ของเด็กๆและจัสเปี้ยนเช่นเดียวกับแม็ดเกียรันที่ให้ความสนใจที่จะแย่งชิงตัวลูกมาเพื่อล่อให้เกลก้อนตัวแม่ปรากฎตัวออกมาแล้วให้ซาตานโกสยิงแสงจิตมารเพื่อครอบงำตามเคย ในระหว่างการต่อสู้ของจัสเปี้ยนกับแม็ดเกียรันที่กำลังใช้เด็กๆเป็นตัวประกันโดยมีบูมเมอแรงเข้าร่วม เกลก้อนตัวแม่ก็ปรากฎตัวออกมาเพื่อพาลูกของตนกลับไปแต่ก็ถูกแสงจิตมารของซาตานโกสจนคุ้มคลั่งไม่สนใจแม้แต่ลูกของตัวเองถึงกับโยนลูกทิ้งอย่างไม่ใยดีแต่เคราะห์ดีที่จัสเปี้ยนช่วยเอาไว้ได้ เกลก้อนตัวแม่นั้นแต่เดิมก็ไม่ได้เป็นสัตว์ยักษ์ที่ดุร้ายแต่หลังถูกครอบงำก็ใช้ร่างกายที่แข็งแกร่งดุจหินผาพุ่งเข้าชนไดเลอ้อนอย่างบ้าคลั่งแถมยังพ่นไฟจากปากหรือแม้แต่ปล่อยให้แมกม่าในตัวปะทะปะทุออกมาตามปล้องบนลำตัวอีกด้วย การต่อสู้เป็นไปอย่างยากลำบากเพราะไดเลอ้อนต้องคอยคุ้มกันตัวลูกของเกลก้อนจนสุดท้ายต้องยิงด้วย "ไดเลอ้อน บีม" จนเกลก้อนตัวแม่สลบและฟื้นสติจากแรงช็อคและพาลูกของตนกลับบ้านไปอย่างปลอดภัย
*'''อิวะกอริลล่า (イワゴリーラ)''' (ตอนที่7) สัตว์ยักษ์ทรงพลังที่หลับใหลและแฝงตัวกลืนไปกับภูเขา ถูกแม็ดเกียรันปลุกให้ตื่นขึ้นจากการหลับใหลโดยจับผู้คนไปขังไว้ในภูเขาซึ่งเป็นร่างของอิวะกอริลล่าเพื่อเข้าไปเป็นเหยื่อของมันในจำนวนนั้นก็มีบูมเมอแรงรวมอยู่ด้วย หลังจากจัสเปี้ยนช่วยคนที่ถูกจับไปออกมาได้ซาตานโกสก็ยิงแสงจิตมารปลุกอิวะกอริลล่าให้ตืนขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ อิวะกอริลล่ามีร่างกายส่วนใหญ่เป็นหินที่แข็งแกร่งสมชื่อและมีพละกำลังมหาศาลทัดเทียมกับไดเลอ้อนแต่ก็ไม่มีอาวุธหรือพลังพิเศษอื่นๆนอกจากพ่นลมหายใจที่รุนแรงเท่านั้นแต่ก็ถูกปราบด้วย "คอสมิค ครัช" จนร่างแตกกระจายเป็นชิ้นๆในที่สุด
*'''โอนิเดวิล่า (オニデビラー)''' (ตอนที่8) สัตว์ยักษ์รูปร่างคล้ายยักษ์โอนิสีแดงมีเขาที่แม็ดเกียรันวางแผนจับตัวล็อตหนึ่งในสปายจากดาวสกายที่ทรยศมารวมร่างเข้ากับโอนิเดวิล่าเพื่อให้เป็นสมองของสัตว์ยักษ์แต่ก็ถูกจัสเปี้ยนเข้าขัดขวางในระหว่างรวมร่างจนสามารถช่วยล็อตออกไปได้ ทำให้สุดท้ายโอนิเดวิล่าก็เป็นได้แค่สัตว์ยักษ์ด้อยปัญญาที่ต่อสู้ด้วยสัญชาติญาณเพียงอย่างเดียว โอนิเดวิล่าไม่มีความสามารถอย่างอื่นนอกจากใช้พละกำลังและเขาบนหัวเข้าขวิดเพื่อสู้กับไดเลอ้อนจนถูก "คอสมิค ครัช" ปราบลงอย่างง่ายดายโดยไม่ทราบแน่ชัดว่าถูกน็อคหรือเสียชีวิตกันแน่
*'''คิดาม่า (キダマー)''' (ตอนที่9) สัตว์ยักษ์รูปแบบต้นไม้ แต่เดิมแล้วเป็นต้นสนที่ยืนต้นมาหลายปีจนมิอาจนับได้ที่จัสเปี้ยนบังเอิญพบเข้าระหว่างท่องเที่ยว และเนื่องจากผ่านกาลเวลามายาวนานจึงมีความทรงจำและจิตวิญญาณเป็นของตัวเองสามารถพูดและร้องเพลงได้ทว่าพื้นที่ป่าของมันก็ถูกปรับพื้นที่ถางและโค่นต้นไม้ต้นอื่นจนหมดเหลือต้นนี้เพียงต้นเดียวทำให้ซาตานโกสใช้ประโยชน์จากจุดนี้ทำลายต้นสนต้นนี้แล้วสร้างร่างขึ้นใหม่ด้วยพลังชั่วร้ายกลายเป็น "คิดาม่า" ขึ้นมาและปล่อยแสงจิตมารปลูกฝังความแค้นต่อมนุษย์เพื่อให้มันออกทำลายเมืองของมนุษย์เพื่อเปลี่ยนพื้นที่ให้กลับเป็นป่าดังเดิม ในการต่อสู้ยกแรกจัสเปี้ยนจำได้ว่าคิดาม่าคือต้นสนที่เคยเจอกันมาก่อนโดยจำเสียงร้องได้จึงพยายามพาคิดาม่าออกจากเมืองไปมัดไว้ด้วยโซ่ยังภูเขาอันห่างไกลเพื่อไม่ให้ออกอาละวาดได้อีกแต่แล้วซาตานโกสก็มายิงแสงจิตมารใส่อีกครั้งเพื่อเพิ่มพลังของคิดาม่าเข้าไปอีกโดยสามารถพ่นละอองพิษที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองแพร่กระจายไปทั่วเมืองจนชาวเมืองใหญ่ป่วยกันถ้วนหน้ายกเว้นคนในครอบครัวของเด็กชายชื่ออิซามุที่ไม่ได้รับผลใดๆเพราะครอบครัวนี้ใช้ชีวิตกับต้นไม้ที่ดูแลปลูกขึ้นมาอย่างดีเสมอ อิซามุจึงถูกแม็ดเกียรันจ้องเล่นงานแต่ก็ถูกจัสเปี้ยนและบูมเมอแรงช่วยเหลือเอาไว้ได้ คิดาม่าสู้กับไดเลอ้อนอีกครั้งโดยสามารถพ่นแท่งไม้ขนาดใหญ่ออกมาโจมตีได้และสามารถมุดตัวฝังลงใต้พื้นดินได้แต่ก็ถูก "คอสมิค ครัช" จนร่างระเบิดเป็นชิ้นๆ จัสเปี้ยนที่เข้ามาตรวจสอบก็พบกับกิ่งที่ยังสมบูรณ์เหลือรอดอยู่จึงมอบให้ครอบครัวของอิซามุนำไปปักชำและดูแลต่อไป
*'''พิราซารุ (ピラザール)''' (ตอนที่10)
 
== อ้างอิง ==