ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แอวริล ลาวีน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่ ‘(?mi)\{\{Link GA\|.+?\}\}\n?’ ด้วย ‘’: เลิกใช้ เปลี่ยนไปใช้วิกิสนเทศ
Dolkungbighead (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 21:
}}
 
'''แอวริล ราโมนา ลาวีน''' ({{lang-roman|Avril Ramona Lavigne}}) หรือ '''แอวริล ลาวีน''' ({{lang-roman|Avril Lavigne}}; {{IPA|ˈævrɨl ləˈviːn}}; เกิด 27 กันยายน พ.ศ. 2527) เป็นนักร้อง นักแต่งเพลงชาวแคนาดาและฝรั่งเศส แอวริล ลาวีน เกิดที่เบลล์วิลล์ ออนทาริโอ และวัยเด็กอาศัยในเมืองนาปานี ตอนอายุ 15 ปี เธอขึ้นร้องเพลงกับ[[ชาเนีย ทเวน]] ตอนอายุ 16 ปี เธอเซ็นสัญญาสองอัลบั้มกับสังกีด[[เอริสตาเรเคิดส์]] มูลค่ามากกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเธออายุ 17 ปี ลาวีนเข้าสู่วงการดนตรีด้วยอัลบั้มเปิดตัว ''[[เล็ตโก (อัลบั้มแอวริล ลาวีน)|เล็ตโก]]'' กลายเป็นหนึ่งในศิลปินแนวป็อปพังก์ที่เป็นที่นิยมที่สุด เป็นเหตุให้เธอได้ชื่อว่าเป็น "นักดนตรีแนว[[สเกตพังก์]]" และ "เจ้าหญิงป็อปพังก์" ตั้งแต่เปิดตัว เธอทำยอดขายได้มากกว่า 30 ล้านอัลบั้ม และ 50 ล้านซิงเกิลทั่วโลก
'''แอวริล ราโมนา ลาวีน''' ({{lang-roman|Avril Ramona Lavigne}}) หรือ '''แอวริล ลาวีน''' ({{lang-roman|Avril Lavigne}}; {{IPA|ˈævrɨl ləˈviːn}}; เกิด 27 กันยายน พ.ศ. 2527) นักร้อง นักแต่งเพลง และนักดนตรีสาวชาวแคนาดา แอวริล ลาวีน เข้าวงการมาตั้งแต่เธออายุเพียง 17 ปี ในฐานะทอมบอยป๊อปพังค์เสียงคุณภาพ และในปี 2002 แอวริลก็โด่งดังไปทั่วโลกจากอัลบั้ม 6 รางวัลแผ่นเสียงทองคำขาวอย่าง [[Let Go]] ตามด้วยอัลบั้ม [[Under My Skin]] ในปี 2004 ที่เปิดตัวเป็นอันดับ 1 บน[[Billboard Chart]]และอัลบั้ม [[The Best Damn Thing]] ที่มาพร้อมเพลงดังอันดับ 1 “[[Girlfriend]]” ในปี 2007 เพลงฮิตอื่น ๆ ของเธอจากทั้ง 3 อัลบั้ม ได้แก่ “[[Complicated]] ” “[[Sk8er Boi]] ” “[[I’m With You]] ” “[[Losing Grip]] ” “[[Don’t Tell Me]] ” “[[My Happy Ending]] ” “[[Nobody’s Home]] ” “[[Keep Holding On]] ” “[[When You’re Gone]] ” “[[Hot]] ” และ “[[The Best Damn Thing]]” นอกจากนี้แอวริลยังแต่งเพลง “[[Alice]]” เพลงประกอบภาพยนตร์ [[Alice in Wonderland]] ของ [[Tim Burton]] ในปี 2010 อีกด้วย ตลอดระยะเวลา 8 ปีในวงการ แอวริลได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ถึง 8 ครั้ง ชนะ 7 รางวัลคะเนเดียน จูโน่ อวอร์ดส์ และมียอดขายอัลบั้มรวมกว่า 30 ล้านแผ่นและเพลงเกือบ 20 ล้านเพลงทั่วโลก
 
อัลบั้ม ''เล็ตโก'' ทำให้ลาวีนเป็นนักร้องหญิงเดี่ยวคนแรกที่ขึ้นอันดับ 1 ในสหราชอาณาจักร นับถึง ค.ศ. 2013 เธอขายได้มากกว่า 7 ล้านชุดในสหรัฐอเมริกา และมากกว่า 16 ล้านชุดทั่วโลก ซิงเกิลที่แจ้งเกิด "[[คอมพลิเคตทิด (เพลงแอวริล ลาวีน)|คอมพลิเคตทิด]]" ขึ้นอันดับหนึ่งในหลายประเทศทั่วโลก เช่นเดียวกับอัลบั้ม''เล็ตโก'' ต่อมา สตูดิโออัลบั้มที่สอง ''[[อันเดอร์มายสกิน (เพลงแอวริล ลาวีน)|อันเดอร์มายสกิน]]'' ออกจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2004 และเป็นอัลบั้มแรกที่ขึ้นอันดับหนึ่งบน[[บิลบอร์ด 200]] ขายได้มากกว่า 10 ล้านชุดทั่วโลก อัลบั้มที่สาม ''[[เดอะเบสต์แดมน์ธิง]]'' ออกจำหน่ายในเดือนเมษายน ค.ศ. 2007 เป็นอัลบั้มที่สามที่ขึ้นอันดับ 1 ในสหราชอาณาจักร และมีซิงเกิลอันดับ 1 บน[[บิลบอร์ดฮอต 100]] เพลงแรกคือ "[[เกิร์ลเฟรนด์ (เพลงแอวริล ลาวีน)|เกิร์ลเฟรนด์]]" ลาวีนทำเพลงอันดับหนึ่งได้ทั้งหมด 6 เพลงทั่วโลก ได้แก่ "คอมพลิเคตทิต" "[[สเกตเตอร์บอย]]" "[[ไอม์วิดยู (เพลง)|ไอม์วิดยู]]" "[[มายแฮปปีเอนดิง]]" "[[โนบอดีส์โฮม (เพลงแอวริล ลาวีน)|โนบอดีส์โฮม]]" และ "เกิร์ลเฟรนด์" ลาวีนเป็นหนึ่งในศิลปินที่ขายดีเป็นอันดับต้น ๆ ในสหรัฐอเมริกา ทำยอดขายได้ 11 ล้านชุด รับรองโดยสมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา (RIAA) สตูดิโออัลบั้มที่สี่ กูดบายลัลลาบาย ออกจำหน่ายในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2011 เป็นอัลบั้มที่ติดสิบอันดับแรกบนบิลบอร์ด 200 ของสหรัฐฯ และในชาร์ตอัลบั้มแห่งสหราชอาณาจักร และเป็นอัลบั้มอันดับ 1 อัลบั้มที่สามในญี่ปุ่น และออสเตรเลีย หลังจากออกอัลบั้มกูดบายลัลลาบายได้ 3 เดือน ลาวีนเริ่มทำ[[แอวริล ลาวีน (อัลบั้ม)|อัลบั้มที่ห้าโดยใช้ชื่อตนเองเป็นชื่ออัลบั้ม]] ออกจำหน่ายโดนสังกัด[[อีพิกเรเคิดส์]] ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 หลังจากเธอออกจากสังกัดอาร์ซีเอเรเคิดส์ใน ค.ศ. 2011
 
หลังจากหายหน้าจากวงการไป 2 ปี แอวริล ลาวีนในวัย 26 ปีก็พร้อมปล่อย [[Goodbye Lullaby]] สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 4 ออกมาให้แฟน ๆ ได้ฟังกันในเดือนมีนาคม ปี 2011 ภายใต้สังกัด [[RCA Records]] โดยมีเพลง “[[What the Hell]]” เพลงซ่าสไตล์แอวริลเป็นซิงเกิ้ลเปิดตัว
 
“ฉันพยายามผลักดันตัวเองและไม่รั้งอะไรไว้ทั้งนั้น" แอวริลพูดถึงอัลบั้ม [[Goodbye Lullaby]] ที่แอวริลเขียนหรือร่วมเขียนเพลงทุกเพลงในอัลบั้ม เขียนและโปรดิวส์เพลง “[[4 Real]]” และ “[[Goodbye]]” ด้วยตัวของเธอเอง "ฉันว่าเวลาที่เราอ่อนโยนและจริงใจเป็นช่วงเวลาที่เราจะสื่อถึงคนอื่นได้ดีที่สุด คนที่ได้ฟังอัลบั้มนี้แล้วจะรู้สึกร่วมไปกับเพลงตามประสบการณ์ที่เขาผ่านมา”
 
เพลงเร็วเด่น ๆ ในอัลบั้ม [[Goodbye Lullaby]] ได้แก่ “[[What the Hell]]” เพลงจังหวะสนุก ๆ ไม่สนใจใคร “[[Stop Standing There]]” ที่เต็มไปด้วยซาด์วแบบ[[เกิร์ลกรุ๊ป]]ยุค ’50 ตอนต้น และ “[[Smile]]” เพลงร็อคที่แอวริลแต่งขอบคุณคนสำคัญในชีวิตของเธอ แต่อัลบั้มนี้ก็ยังเต็มไปด้วยเพลงที่สื่อถึงอารมณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ฟังจะเข้าถึงได้ และความรู้สึกหวานปนขมที่แฟน ๆ อาจไม่คุ้ยเคยนักในเพลงของแอวริล เช่น เพลง “[[Push]]” ที่พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างคน 2 คนในเพลง และเพลง “[[Wish You Were Here]]” ที่เผยด้านบอบบางของเธอ
 
“โดยรวมแล้วอัลบั้มนี้เกี่ยวกับช่วงเวลายากลำบากต่าง ๆ ที่เราต้องก้าวผ่านในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเลิกกับคนรัก ตกงาน หรือเพียงแค่คิดถึงใครบางคน” แอวริลกล่าว “เราก้าวผ่านมันมาแล้วเราก็เติบโตขึ้น” อย่างเช่นในเพลง “[[Goodbye]]” ที่แอวริลแต่งและโปรดิวส์เองที่แสดงถึงความแข็งแรงที่จะบอกลาอดีตและก้าวต่อไป
 
ส่วนเพลงอื่น ๆ ในอัลบั้ม แอวริลได้เพื่อนที่ร่วมงานกันมานานอย่างนักร้องนำ [[Sum 41]] อย่าง [[Deryck Whibley]] [[Evan Taubenfeld]] และ [[Butch Walker]] รวมไปถึงนักแต่งเพลง/โปรดิวเซอร์ชื่อดัง [[Max Martin]]
 
== ประวัติ ==