ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร)"

| วัด = วัดสัมพันธวงศ์สัมพันธวงศารามวรวิหาร

| วุฒิ = ป.ธ. ๙

'''สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร)''' เป็น[[สมเด็จพระราชาคณะ]] ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง[[เจ้าอาวาส]][[วัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร]] และกรรมการ[[มหาเถรสมาคม]] เคยดำรงตำแหน่ง[[คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช]] <ref>[http://www.watsamphan.com/oldpic/somdej90/ ฉลองอายุวัฒนมงคล 90 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ถาวรมหาเถระ), ]</ref> มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย งดงาม น่าเลื่อมใส ดุจเดียวกับพระกัมมัฏฐาน ที่ครั้งหนึ่งเคยเดินธุดงค์ไปบนเส้นทางเดียวกับพระกัมมัฏฐานสาย[[หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต]] เน้นการปฏิบัติภาวนาพร้อมกับการปฏิบัติเคร่งครัดตามพระธรรมวินัย ก่อนจะหันเหชีวิตมุ่งหน้าสู่การเรียนพระปริยัติธรรมตามแนวทาง “คันถธุระ” จนประสบผลส่าเร็จสูงสุด ได้[[เปรียญธรรม 9 ประโยค]] และได้น้อมนำหลักธรรมค่าสอนของพระพุทธองค์มาสู่การปฏิบัติ อบรมสั่งสอนพุทธบริษัท บริหารการคณะสงฆ์ นำความเจริญรุ่งเรืองให้กับพระพุทธศาสนาโดยรวม<ref>[http://www.lib.ubu.ac.th/monkubon/file/MO54.pdf สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร ป.ธ.๙), ]</ref>

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร) เกิด ณ วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2460 ที่บ้านบ่อชะเนง ตำบลหนองแก้ว อำเภออำนาจเจริญ [[จังหวัดอุบลราชธานี]] (ปัจจุบันเป็น[[อำเภอหัวตะพาน]] [[จังหวัดอำนาจเจริญ]]) โยมบิดาชื่อช่วย โยมมารดาชื่อกา นามสกุล ก่อบุญ เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวนพี่น้อง 11 คน <ref>[http://www.watbankaobo.com/index.php?option=com_content&view=article&id=175:2010-01-03-14-55-42&catid=36 สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร ป.ธ.๙), ]</ref>

นอกจากเจ้าประคุณสมเด็จฯ แล้วยังมีผลผลิตทางธรรมจากบ้านบ่อชะเนงและเป็นญาติกับเจ้าประคุณสมเด็จฯ อีก 2 รูป คือ [[หลวงปู่ขาว อนาลโย]] และพระราชปรีชาญาณมุนี (หลอม มหาวิริโย ป.ธ.7) เจ้าอาวาสวัดบ่อชะเนงและ[[เจ้าคณะจังหวัด]]อำนาจเจริญ (รูปปัจจุบัน) <ref>[http://www.watsamphan.com/oldpic/somdej90/004.html 3 พี่น้องแห่งบ้านบ่อชะเนงผู้เจริญในธรรม, ]</ref>

*สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ได้บรรพชาเมื่อ พ.ศ. 2472 ที่วัดบ้านบ่อชะเนง ตำบลหนองแก้ว อำเภออำนาจเจริญ [[จังหวัดอุบลราชธานี]] (ปัจจุบันเป็น[[จังหวัดอำนาจเจริญ]]) โดยมีญาคูโม้เป็นพระอุปัชฌาย์

*อุปสมบทต่อมาในปี พ.ศ. 2480 ขณะอายุ 20 ปี ได้อุปสมบท ณ พระอุโบสถวัดสัมพันธวงศ์ วันที่ [[8 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2480]] โดยมี[[พระมหารัชมังคลาจารย์ (เทศ นิทฺเทสโก)]] ขณะดำรงสมณศักดิ์เป็นที่ พระรัชชมงคลมุนี เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสุวรรณรังษี (สุวรรณ ชุตินฺธโร) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูปลัดเส็ง ทินฺนวโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ (ภายหลังรับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระเนกขัมมมุนี)

* พ.ศ. 2476 [[นักธรรม]]ชั้นตรี]]

* พ.ศ. 2478 [[นักธรรมชั้นโท]]

* พ.ศ. 2480 [[เปรียญธรรม 3 ประโยค]]

* พ.ศ. 2481 [[เปรียญธรรม 4 ประโยค]]และ[[นักธรรมชั้นเอก]]

* พ.ศ. 2484 [[เปรียญธรรม 5 ประโยค]]

* พ.ศ. 2486 [[เปรียญธรรม 6 ประโยค]]

* พ.ศ. 2488 [[เปรียญธรรม 7 ประโยค]]

* พ.ศ. 2492 [[เปรียญธรรม 8 ประโยค]]

* พ.ศ. 2499 [[เปรียญธรรม 9 ประโยค]]

*5 ธันวาคม 2499 เป็น[[พระราชาคณะชั้นสามัญ]]ที่ '''พระอริยเมธี'''<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2500/D/006/1.PDF แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์], ตอนที่ 6 ง ฉบับพิเศษ, เล่ม 74, วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2500, หน้า 10</ref>

*5 ธันวาคม 2532 เป็น[[พระราชาคณะชั้นเจ้าคณะรอง]]ที่ '''พระอุดมญาณโมลี สีลาจารวราภรณ์ สาทรหิตานุหิตวิมล โสภณธรรโมวาทานุสาสนี ตรีปิฎกบัณฑิต ธรรมยุติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี'''<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2533/A/138/1.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์], ตอนที่ 138 ก ฉบับพิเศษ, เล่ม 107, วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2533, หน้า 20-23</ref>

*5 ธันวาคม 2544 ได้รับการสถาปนาเป็น[[สมเด็จพระราชาคณะ]]ที่ มี[[ราชทินนาม]]ตามจารึกในสุพรรณบัฏว่า '''"[[สมเด็จพระมหาวีรวงศ์]] จาตุรงคประธานวิสุต พุทธพจนมธุรธรรมวาที ตรีปิฎกปริยัติโกศล วิมลศีลาจารวัตร พุทธบริษัทปสาทกร ธรรมยุตติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัณยวาสี"'''<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/00040365.PDF ราชกิจจานุเบกษา,พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์], ตอนที่ 24 ข, เล่ม 118, วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2544, หน้า 4-7</ref> สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ นับเป็นรูปที่ 7 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

[[หมวดหมู่:สมเด็จพระราชาคณะ|มหาวีรวงศ์|มานิต ถาวโร]]

[[หมวดหมู่:พระภิกษุในนิกายเถรวาท (สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย)]]