ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จอห์น ซ่ง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Dahlfred (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ปรับภาษา
บรรทัด 8:
| nationality = [[ประเทศจีน|จีน]]
| death_date = [[18 สิงหาคม]] ค.ศ. 1944
| death_place = [[ปักกิ่ง]], [[ประเทศจีน]]
| occupation = [[นักเทศนานักเทศน์]]
| religion = [[คริสเตียนศาสนาคริสต์|คริสต์]]
| denomination = [[เมทอดิสต์]]
| spouse =
บรรทัด 19:
}}
 
'''จอห์น ซุง''' (หรือ จอห์น ซง)({{zh|t=宋尚節|s=宋尚节|p=Sòng Shàng-Jíe|w=Sung4 Shang4-Chieh2|}})([[อังกฤษ]]:{{lang-en|John Sung}}) (27 กันยายน 1901 - 18 สิงหาคม 1944) เป็นนักเทศนาคริสเตียน[[การประกาศข่าวดี|ผู้ประกาศข่าวประเสริฐ]]นิกาย[[โปรเตสแตนต์]]ชาวจีน จอห์น ซุง ผู้มีบทบาทสำคัญในการนำการฟื้นฟูความเชื่อในหมู่ชาว[[จีนแผ่นดินใหญ่]] [[ไต้หวัน]] และ[[เอเชียตะวันออกกลางเฉียงใต้]] ในระหว่างปี ค.ศ. 1920-1930
 
==เบื้องหลังชีวิตของ จอห์น ซุง==
จอห์น ซุง เกิดเมื่อวันที่ 27 กันยายน ค.ศ.1901 ในมณฑล[[มณฑลฝูเจี้ยน|ฟูเกี้ยน]] (Fujjian)ในภาคตะวันออกของจีนบิดาของท่านเป็น[[ศิษยาภิบาล]] หรือครูสอนศาสนาคริสต์ของคณะใน[[คริสตจักรอเมริกาเวสเลย์ยานเมธอดิสต์เวสเลยันเมทอดิสต์]] (American Wesleyan Methodist Church) จอห์น ซุง มีบทบาทช่วยเหลือพ่อในคริสตจักร บางครั้งก็มีโอกาสเทศนาแทนเมื่อบิดาป่วย ซึ่งด้วยบทบาทหน้าที่ดังกล่าวทำให้สมาชิกคริสตจักรเรียกเขาว่า “ศิษยภิบาลตัวน้อย”
 
ในปี ค.ศ.1920 จอห์น ซุง ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยโอไฮโอไฮโอเวสเลยัน (Ohio Wesleyan University ) และต่อมาที่[[มหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮไอโอไฮโอสเตต]] (Ohio State University) ในสหรัฐอเมริกา เขาได้กลายเป็น ด๊อกเตอร์จบปริญญาเอกทาง[[เคมี]] เขาเป็นนักศึกษาดีเด่นของมหาวิทยาลัย ซึ่งผลงานการเขียนและค้นคว้าทางเคมียังคงปรากฏอยู่ในทุกวันนี้ในมหาวิทยาลัย แม้จะมีความสามารถสูงและมีโอกาสในการทำงานสูง แต่จอห์น ซุง ตัดสินใจทำงานด้านการเทศนาเรื่องรับใช้พระเยซูคริตคริสต์และการอุทิศตัวเพื่องานของคริสตจักร ดังนั้นในปี ค.ศ. 1926 ได้เข้าศึกษาศาสนศาสตร์เทววิทยาในพระคริสตธรรม Union Theological Seminary ใน[[สหรัฐอเมริกา]].
 
==การเปลี่ยนแปลงทางฝ่ายวิญญาณ==
ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1927 จอห์น ซุง กล่าวว่า[[พระวิญญาณบริสุทธิ์]]ได้เทลงมาบนเขา ซึ่งมีความหมายตามความเชื่อของคริสเตียนบางส่วนว่าเขาได้รับบัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ จอห์น ซุง กล่าวว่าเขาได้บังเกิดใหม่อีกครั้ง เขาใช้[[พระธรรม วรสารนักบุญลูกา]] บทที่ 23 อ้างถึง[[พระเมตตาของพระเจ้า]]และรู้สึกว่าพระเจ้าได้ให้อภัยความบาปผิดของเขา
 
จอห์น ซุง รู้สึกว่าตนเองได้รับแรงและมีความเข้มแข็งในการประกาศพระกิตตคุณกิตติคุณมากขึ้น ดังนั้นเขาจึงประกาศเรื่องพระกิตตคุณกิตติคุณกับเพื่อนๆเพื่อน ๆ และอาจารย์ในโรงเรียน เพื่อนๆเพื่อน ๆ และอาจารย์ในพระคริสต์ธรรม[[เซมินารี]]คิดว่าเขาดูมีความเชื่อที่เบี่ยงเบนมากเกินไปและอาจเครียดจากการเรียน จนกระทั่งโรงเรียนพระคริสต์ธรรมเซมินารีส่งตัวเขาไปที่โรงพยาบาลประสาท (โรงพยาบาลเพื่อผู้ป่วยทางจิตใจ) เป็นเวลา 193 วัน และในช่วงเวลาดังกล่าวเขายังอ่านพระ[[คัมภีร์ไบเบิล]]อย่างต่อเนื่อง 40 รอบ จนเขาคุ้นเคยกับพระคัมภีร์
 
==กลับประเทศจีนและงานเทศนา==
ในเดือน พฤศจิกายน ค.ศ. 1927 จอห์น ซุง กลับประเทศจีน เขาไม่ได้จบการศึกษาจากโรงเรียนพระคริสตธรรมเซมินารี เขาโยนใบรับรองทางการศึกษา รางวัลต่างๆต่าง ๆ จากการศึกษาที่เขาได้รับลงในทะเล ยกเว้นใบปริญญาเอก (ด๊อกเตอร์ทางเคมี) เพื่อพ่อของเขา เขาทำเช่นนี้เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อพระเจ้า เริ่มต้นการเทศนาที่เขตมิ่นใต้ของจัวหวัด ฟูเกี้ยนมณฑลฝูเจี้ยน เป็นเวลา 3 ปี หัวข้อหลักในการเทศนาคือ ไม้กางเขนและ[[พระโลหิตของพระเยซูคริสต์]] การบังเกิดใหม่ทางฝ่ายจิตวิญญาณและการแบกไม้กางเขน ปี ค.ศ. 1930 จอห์น ซุง เข้าร่วมโรงเรียนพระคัมภีร์ในเซี่ยงไห้เซี่ยงไฮ้ ท่านเทศนาและมีชาวจีนหลายคนตัดสินใจเชื่อเรื่องของพระเยซูคริสต
 
==การเทศนาที่ประเทศไทย==
ในปี ค.ศ. 1938-1939 ท่านได้เดินทางมาเทศนาในเมืองไทย ท่านเดินทางครั้งแรกสู่เมืองไทยในเดือนตุลาคมค.ศ.1938 ซึ่งคำเทศนาของท่านได้สร้างความประทับใจให้คริสเตียนชาวไทยและชาวจีนในไทย หลายคนกล่าวว่าหากผู้แปลคนใดลังเลใจในเรื่องที่จะแปลท่านจะไล่ลงจากเวทีทันที
ในช่วงเวลานี้ ดร.จอห์น ซุง ได้รู้จัก ศจ.[[บุญมาก กิตติสาร]] เลขาธิการของสภาคริสตจักรแห่งประเทศไทย ทั้งสองมีความสนิทสนมกัน ดังนั้นในปี ค.ศ. 1939 ศจ.[[บุญมาก กิตติสาร]] ชวน ดร.จอห์น ซุงกลับมาเมืองไทยอีก ท่านตระเวนเทศนาตามคริสตจักรแบ๊บติสส์และคริสตจักรสาธร อย่างไรก็ตามมีคณะกรรมการบริหารสภาคริสตจักรยังคงสงสัยในความเชื่อด้านศาสนศาสตร์ของท่าน และมองว่าการฟื้นฟูที่เน้นอารมณ์ร่วมนี้ไม่เหมาะสมกับคริสตจักรในประเทศไทย ก่อให้เกิดความแตกแยกของมิชชันนารีในสังกัด[[องค์การมิชชันคณะอเมริกันเพรสไบทีเรียน]] (American Presbyterian Mission) คือ กลุ่มอนุรักษนิยมและกลุ่มหัวสมัยใหม อย่างไรก็ตามการฟื้นฟูที่เกิดขึ้นก็ทำให้คริสตจักรไทย(โดยเฉพาะคริสตจักรจีนในไทย)มีการเคลื่อนไหวและได้เพิ่มจำนวนสมาชิกในช่วงนั้น ชาวคริสเตียนส่วนหนึ่งเชื่อว่าการมาของดร.จอห์น ซุง ได้นำรูปแบบคาริสเมติกเข้ามาในคริสตจักรไทยและเป็นการวางพื้นฐานเพื่อการก่อตั้งและขยายกลุ่มคณะเพ็นเทคอสตอลในภายหลัง
ในช่วงเวลานี้ ดร.จอห์น ซุง ได้รู้จัก ศจ.ศาสนาจารย์[[บุญมาก กิตติสาร]] เลขาธิการของ[[สภาคริสตจักรแห่งในประเทศไทย]] ทั้งสองมีความสนิทสนมกัน ดังนั้นในปี ค.ศ. 1939 ศจ.[[บุญมาก กิตติสาร]] ชวน ดร.จอห์น ซุงกลับมาเมืองไทยอีก ท่านตระเวนเทศนาตามคริสตจักรแบ๊บติสส์และคริสตจักรสาธร อย่างไรก็ตามมีคณะกรรมการบริหารสภาคริสตจักรยังคงสงสัยในความเชื่อด้านศาสนศาสตร์ทางเทววิทยาของท่าน และมองว่าการฟื้นฟูที่เน้นอารมณ์ร่วมนี้ไม่เหมาะสมกับคริสตจักรในประเทศไทย ก่อให้เกิดความแตกแยกของมิชชันนารีในสังกัด[[องค์การมิชชันคณะอเมริกันเพรสไบทีเรียน]] (American Presbyterian Mission) คือ กลุ่มอนุรักษนิยมและกลุ่มหัวสมัยใหม อย่างไรก็ตามการฟื้นฟูที่เกิดขึ้นก็ทำให้คริสตจักรไทย (โดยเฉพาะคริสตจักรจีนในไทย) มีการเคลื่อนไหวและได้เพิ่มจำนวนสมาชิกในช่วงนั้น ชาวคริสเตียนส่วนหนึ่งเชื่อว่าการมาของดรของ ดร.จอห์น ซุง ได้นำรูปแบบคาริสเมติกเข้ามาในคริสตจักรไทยและเป็นการวางพื้นฐานเพื่อการก่อตั้งและขยายกลุ่มคณะเพ็นเทคอสตอลในภายหลัง
==บุคลิคของ ดร.จอห์น ซุง==
บางครั้งท่านไม่สามารถควบคุมตนเองได้ หลายคนว่าท่านหยาบคายและใจร้อน ตัดสินคนอื่นโดยไม่คิด อย่างไรก็ตามท่านสามารถพลีทุกสิ่งเพื่อความเชื่อที่มีต่อพระเยซูคริสต์ ท่านเป็นคนตรงไปตรงมา ท่านรักการประกาศและมักตื่นเต้นกับการเทศนา บางครั้งระหว่างการเทศนาก็กระโดดและร้องเพลงนาน 20-30 นาที ท่านมักจะมีอุปกรณ์ต่างๆประกอบคำเทศนาเสมอเช่นครั้งหนึ่งเคยใช้โรงศพประกอบด้วย คำเทศนาส่วนมากมักเรียกให้คนรู้สึกผิดเสียใจต่อบาป มุ่งเน้นที่ความเสียใจต่อบาป ท่านเป็นนักอธิษฐาน ท่านมักจะจดรายชื่อและอธิษฐานเพื่อผู้อื่นเป็นเวลานาน งานเทศนาของท่านทำให้ท่านอยู่ห่างจากครอบครัวและดูเหมือนไม่สนใจครอบครัวมากนัก
==บุคลิก==
==ความตาย==
บางครั้งท่านไม่สามารถควบคุมตนเองได้ หลายคนว่าท่านหยาบคายและใจร้อน ตัดสินคนอื่นโดยไม่คิด อย่างไรก็ตามท่านสามารถพลีทุกสิ่งเพื่อความเชื่อที่มีต่อพระเยซูคริสต์ ท่านเป็นคนตรงไปตรงมา ท่านรักการประกาศและมักตื่นเต้นกับการเทศนา บางครั้งระหว่างการเทศนาก็กระโดดและร้องเพลงนาน 20-30 นาที ท่านมักจะมีอุปกรณ์ต่างๆประกอบคำเทศนาเสมอเช่นครั้งหนึ่งเคยใช้โรงศพประกอบด้วย คำเทศนาส่วนมากมักเรียกให้คนรู้สึกผิดเสียใจต่อบาป มุ่งเน้นที่ความเสียใจต่อบาป ท่านเป็นนักอธิษฐาน ท่านมักจะจดรายชื่อและอธิษฐานเพื่อผู้อื่นเป็นเวลานาน งานเทศนาของท่านทำให้ท่านอยู่ห่างจากครอบครัวและดูเหมือนไม่สนใจครอบครัวมากนัก
ดร.จอห์น ซุงเสียชีวิตในวันที่ 18 ปี เดือนสิงหาคม 1944 ด้วยอายุ 42 ปี
==ถึงแก่กรรม==
ดร. จอห์น ซุงเสียชีวิตในวันที่ 18 ปี เดือนสิงหาคม 1944 ด้วยอายุ 42 ปี
 
==อ้างอิง==
*ไลอัลล์ม, เลสลีย์ ที. ชีวประวัติของ ดร.จอห์น ซง. A Biography of John Sung. กรุงเทพฯ : คริสตจักรอิมมานูเอวแบ๊บติสต์, 2548
เส้น 43 ⟶ 52:
* คำเทศนาของ ดร. จอห์น ซง เรื่อง “การเติมเต็มด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์” ตอนที่ 1 (กิจการบทที่ 2), http://www.yimwhan.com/board/show.php?user=manako&topic=13&Cate=1
 
{{birth|1901}}{{death|1944}}
[[หมวดหมู่:คริสต์ศาสนิกชนนิกายโปรเตสแตนต์ชาวจีน]]
[[หมวดหมู่:ศาสนาคริสต์ในประเทศไทย]]
[[หมวดหมู่:ศาสนาคริสต์ในประเทศจีน]]