ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อรอำไพ โกมารกุล ณ นคร"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 24:
| footnotes =
}}
'''ท่านหญิงอรอำไพ โกมารกุล ณ นคร''' พระธิดาลำดับที่ 54 ใน[[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์]] พระนัดดาใน[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] สิ้นชีพิตักษัยในรัชกาลปัจจุบัน
 
==พระประวัติ==
'''ท่านหญิงอรอำไพ โกมารกุล ณ นคร''' พระนามเดิมว่า '''หม่อมเจ้าหญิงอรอำไพ เกษมสันต์''' ประสูติเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2453 - เป็นธิดาลำดับที่ 54 ใน[[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์]] พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอมมารดาแพ และเป็นธิดาลำดับที่ 5 ที่ประสูติในหม่อมทองสุก เกษมสันต์ ณ อยุธยา (พ.ศ. 2416 - พ.ศ. 2487) ทรงมีเชษฐาและเชษฐภคินีร่วมมารดา 4 องค์ คือ <ref>{{อ้างหนังสือ
| ผู้แต่ง = [[สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์]]
เส้น 41 ⟶ 42:
* [[หม่อมเจ้ากิติเกริกไกร เกษมสันต์]] (พ.ศ. 2449 - พ.ศ. 2464)
 
เมื่อทรงพระเยาว์ ได้ติดตามหม่อมทองสุก ซึ่งถวายงานเป็นต้นเครื่อง ในรัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ไปประทับที่[[พระราชวังพญาไท]] และในเวลานั้นเอง ท่านหญิงอรอำไพยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณฯ ให้ถวายงาน[[สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี พระวรราชชายา]]อีกด้วย ต่อมา ท่านหญิงอรอำไพได้ตามเสด็จหม่อมเจ้าหญิงจันทรจำรัส ซึ่งเข้าไปถวายงาน[[สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า]] ไปประทับที่[[วังสระปทุม]] และเมื่อหม่อมเจ้าหญิงจันทรจำรัสได้รับพระราชทานทุนจากสมเด็จพระพันวัสสาฯ ให้ไปเรียนการพยาบาลที่[[โรงพยาบาลศิริราช]] จึงได้ทรงเข้าเรียนกับแหม่มโคล ซึ่งขณะนั้นเป็นครูใหญ่โรงเรียนวังหลัง โดยโรงเรียนฯ ตั้งอยู่ที่บริเวณวังหลัง อันเป็นส่วนหนึ่งของ[[โรงพยาบาลศิริราช]] ก่อนที่ท่านหญิงอรอำไพจะย้ายมาเรียนที่[[โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย]]จนจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากนั้นจึงได้ตามเสด็จ[[หม่อมเจ้าชัชวลิตชัชวลิต เกษมสันต์]]ไปศึกษาหลักสูตรระยะสั้นต่อที่[[ประเทศอังกฤษ]] และนอกจากท่านหญิงอรอำไพ จะเป็นนักเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยรุ่นแรกแล้ว ยังทรงเป็นประธานชมรมนักเรียนเก่ามาแตร์เดอีวิทยาลัยองค์แรก ก่อนที่จะเปลี่ยนสถานะเป็นสมาคมอีกด้วย
 
==การทรงงาน==
ด้านการทำงาน ท่านหญิอรอำไพทรงเป็นครูมาโดยตลอด โดยเริ่มสอนวิชาภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์ ที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ก่อนที่จะกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2485 <ref>{{อ้างหนังสือ
| ผู้แต่ง = ศุภวัฒย์ เกษมศรี, พลตรี หม่อมราชวงศ์, และรัชนี ทรัพย์วิจิตร
เส้น 53 ⟶ 55:
| หน้า = หน้าที่
| จำนวนหน้า = 360
}}</ref> เพื่อสมรสกับนายโฉลก โกมารกุล ณ นคร และติดตามสามี ซึ่งไปดำรงตำแหน่งทูตการคลัง ประจำที่[[ประเทศอังกฤษ]] ครั้นกลับ[[ประเทศไทย]] ท่านหญิงอรอำไพได้รับเชิญจากอาจารย์ ดร.[[อดุล วิเชียรเจริญ]] ไปเป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชาภาษาอังกฤษในช่วงที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งคณะศิลปศาสตร์ [[มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์]]ได้ไม่นาน ก่อนที่จะย้ายมาเป็นอาจารย์ประจำสอนวิชาภาษาอังกฤษ และเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาที่[[โรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย]] จนชันษา 80 โดยในระหว่างนั้น ได้รับสนองพระราชเสาวนีย์[[สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ]] ไปถวายพระอักษรหลักภาษาอังกฤษแด่ [[สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี]] และ[[สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี]]เมื่อครั้งยีงทรงพระเยาว์ ระหว่างที่ทรงศึกษาอยู่ที่[[โรงเรียนจิตรลดา]]
 
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 มีการบำเพ็ญกุศลเนื่องในการเจริญชันษาครบ 100 ท่านหญิงอรอำไพ โกมารกุล ณ นคร ณ ห้องประชุมชั้น 7 โรงเรียนวัดปทุมวนาราม ในพระราชูปถัมภ์ของ[[สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี]]และ การนี้[[สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี]]ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำสังข์ และเสด็จพระราชดำเนินไปในงานเลี้ยงฉลองร้อยมงคลเป็นการส่วนพระองค์ ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 อีกด้วย
 
ท่านหญิงอรอำไพ ยังมีพระพี่นางร่วมพระบิดาที่ยังทรงพระชนม์ในปัจจุบัน คือ [[ท่านหญิงไตรทิพย์สุดา วิเศษกุล]] '' (พระนามเดิม คือ หม่อมเจ้าหญิงไตรทิพย์สุดา เกษมสันต์) (พ.ศ. 2453) '' ด้วยชันษากว่า 100 ปี
 
==สิ้นชีพิตักษัย==
ท่านหญิงอรอำไพ สิ้นชีพิตักษัยเมื่อวันพฤหัสที่ 4 พฤศจิกายน 2553 ด้วยโรคหลอดโลหิตหทัยตีบ สิริพระชนม์ 100 ปี การนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานหีบทองทึบประกอบศพ ฉัตรเบญจาตั้งประดับ ปี่ กลองชนะประโคมเวลาพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และทรงรับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์โดยตลอด โดย [[สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี]] เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ ณ ศาลาสุวรรณวณิชกิจ [[วัดเทพศิรินทราวาส]] ท่านหญิงอรอำไพ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณฯ เลื่อนชั้นเกียรติยศประกอบศพจากหีบทองทึบ เป็นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโกศโถ ฉัตรเบ็ญจาตั้งประดับ ณ ศาลาภาณุรังษี และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์พระราชทานเพลิงศพ โดย[[สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี]] เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาราชอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554
 
== อ้างอิง ==