ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มิตซูบิชิ แลนเซอร์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
Apple1968 (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 141:
ทางด้านของ Lancer Evolution ก็ออกรุ่น Evolution X ออกมาเพื่อเป็นรถสปอร์ตแรลลี่อีกด้วย เช่นเดียวกับโฉมต่างๆ ก่อนหน้า
 
ใน[[ประเทศญี่ปุ่น]] ใช้ชื่อรุ่นนี้ว่า '''มิตซูบิชิ กาแลนต์ ฟอร์ติส''' เนื่องจากกาแลนต์รุ่นจริงได้ยกเลิกการทำตลาดในญี่ปุ่นแล้ว กาแลนต์จึงเหลือการทำตลาดในแถบอเมริกาเหนือแทน (ในปี 2556 เลิกจำหน่ายแล้ว) ที่สำคัญคือ การใช้ชื่อแลนเซอร์ชื่อเดิมจึงไม่เหมาะกับการใช้ชื่อในการทำตลาดโฉมนี้ในญี่ปุ่นนัก เนื่องจากตลาดของแลนเซอร์โฉมนี้ในญี่ปุ่นได้อยู่กึ่งกลางระหว่างตลาด C-Segment และ D-Segment ส่วนประเทศไทยใช้ชื่อในการขายว่า '''Lancer EX''' เนื่องจากยังมีการขายรุ่นที่ 8 อยู่ เพราะต้องการแบ่งแยกตลาดให้ชัดเจน ก่อนแต่รุ่นนี้ไม่ประสบความสำเร็จในทุกตลาดที่นำเข้าไปจำหน่าย เนื่องจากหน้าตาที่ดุดันมาก สมรรถนะแนว GT ไม่เอาใจสุภาพสตรีซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ C-Segment โดยเฉพาะในประเทศไทย และมีข่าวว่า Mitsubishi Lancer จะไม่มีการเปลี่ยนโฉมรุ่นต่อไปที่พัฒนาโดย Mitsubishi Motors เอง เนื่องจากสถานะทางการเงินที่ในปีขณะนี้ต้องพึ่งพา [[พ.ศ.Renault 2557]]ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของฝรั่งเศส ซึ่งมีข้อตกลงว่า Renault โดยจะลดขนาดตัวถังต้องผลิตรถยนต์นั่ง C-Segment ให้เล็กลงกับ ประหยัดน้ำมันMitsubishi Motors เพื่อส่งไปขายในตลาดโลก และเอาใจกลุ่มลูกค้าสุภาพสตรีเหมือนเดิมผลิตรถยนต์นั่ง เนื่องD-Segment ให้กับ Mitsubishi Motors ส่งไปขายในตลาดอเมริกาเหนือ แต่ต้องผลิตจากรุ่นปัจจุบันโรงงาน Renault และอาจมีหน้าตาความเป็นไปได้ที่ดุดันมาก จนMitsubishi Lancer ที่เปลี่ยนตราจาก C-Segment ซึ่งก็คือรุ่น Megane ของ Renault จะไม่สามารถเอาใจลูกค้าสุภาพสตรีได้เลยมาทำตลาดในไทย โดยรถยนต์นั่งที่ Mitsubishi Motors จะต้องพัฒนาต่อไปแน่นอนคือ Mirage และ Attrage และอาจจะมีรถยนต์สมรรถนะสูงสืบทอดตำนานของ Lancer Evolution ออกมาอีกรุ่นหนึ่ง นอกจากนั้นไม่มีแล้ว นั่นหมายความว่า Mitsubishi Motors จะต้องเน้นตลาด Eco Car ,Crossover ,SUV และรถกระบะอย่างจริงจัง โดยต้องยอมทิ้งตลาดรถยนต์ Sedan 4 ประตูไปทั้งหมด
 
;รุ่นย่อยทั้งหมด (เดือนมีนาคม 2553)