ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ข้อมูลถูกต้องทั้งหมดแล้ว ขอความกรุณาอย่าย้อนข้อมูลอีกครับ ทำแบบนี้เหมือนคุณก่อกวนเองนะ
Octahedron80 (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาด
บรรทัด 1:
{{ต้องการอ้างอิง}}
{{กล่องข้อมูล มาสค์ไรเดอร์
| type = tv
| color = darkmagenta
| color2 = silver
| previous = เบลด
| next = คาบูโตะ
| title = มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิ
| runtime = 24-25 minutes (per episode)
| network = [[TV Asahi]]
| image = [[ไฟล์:Kamenrider06 hibiki 300.jpg|250px]]
| caption = Title screen.
| num_episodes = 48
| list_episodes = List of Kamen Rider Hibiki episodes
| producer = Atsushi Kaji<br>Shinichirō Shirakura<br>Shigenori Takadera<br>Masamichi Tsuchida
| co-producer = Takahito Ōmori
| creator = [[Shotaro Ishinomori]]
| writer = [[Shinji Ōishi]]<br>[[Tsuyoshi Kida]]<br>[[Toshiki Inoue]]<br>[[Shoji Yonemura]]
| starring = [[Shigeki Hosokawa]]<br>[[Rakuto Tochihara]]<br>[[Jouji Shibue]]<br>[[Shingo Kawaguchi]]
| first_aired = January 30, 2005
| last_aired = January 22, 2006
| asahi_website = hibiki/
| toei_website = tv/hibiki
| opentheme= ({{ญี่ปุ่น|"Kagayaki"|輝||"Radiance"}}) composed by [[Toshihiko Sahashi]]<br> ({{ญี่ปุ่น|"Hajimari no Kimi e"|始まりの君へ||"To the Original You"}}) performed by [[Akira Fuse]]
| endtheme= ({{ญี่ปุ่น|"Shōnen yo"|少年よ||"Boy!"}}) performed by Akira Fuse
| composer=[[Toshihiko Sahashi]]
}}
'''มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิ''' ({{ญี่ปุ่น|仮面ライダー響鬼(ヒビキ)|Kamen Raidā Hibiki}}) เป็นภาพยนตร์ซีรีส์[[มาสค์ไรเดอร์]]ลำดับที่ 15 ออกอากาศเมื่อวันที่ [[30 มกราคม]] [[ค.ศ. 2005]] ถึงวันที่ [[22 มกราคม]] [[ค.ศ. 2006]] ออกอากาศทั้งหมด 48 ตอน และตอนพิเศษทางภาพยนตร์อีก 1 ตอนคือ มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิกับสงคราม 7 ไรเดอร์อสูร (劇場版 仮面ライダー響鬼と7人の戦鬼)
บรรทัด 31:
 
== เนื้อเรื่อง ==
: '''ตำนานของเหล่าอสูร'''
เรื่องราวของเหล่าผู้ฝึกตนในวิถีของอสูรหรือที่คนในยุคปัจจุบันมักจะรู้จักกันในชื่อของไรเดอร์ ทั้งที่มีตัวตนอยู่จริงแต่กลับมีน้อยคนนักที่จะได้เห็นตัวจริงโดยมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ในสมัยอดีตกาลที่มนุษย์ยังคงโง่เขลาและวาดกลัวต่อปิศาจหรือที่เรียกกันว่ามากาโม่จึงจำเป็นที่จะต้องนำหญิงสาวมาเป็นเครื่องสังเวยแก่โอโรจิ (อสูรกายขนาดยักษ์รูปร่างหน้าตาคล้ายมังกรจีนหน้าตาดุร้าย ว่ายน้ำได้รวดเร็วสามารถลอยตัวบินอยู่กลางอากาศนอกจากนี้ยังพ่นไฟออกมาจากปากได้) โดยในการสังเวยนั้นจะต้องเป็นหญิงสาวที่ปิศาจได้ตีตราสัญลักษณ์ไว้ที่กลางฝ่ามือหากถึงเวลาที่กำหนดแล้วยังไม่ส่งตัวหญิงสาวคนนั้นมาเป็นเครื่องสังเวยเจ้าหล่อนก็จะเจ็บป่วยล้มตายไปในที่สุดด้วยระยะเวลาอันสั้น ส่วนการสังเวยในสมัยโบราณก็เพื่อเป็นการแสดงถึงความเคารพและการสยบต่อปิศาจ หากปิศาจพอใจก็จะไม่มารพกวนมนุษย์นั่นเอง นักรบอสูรเดิมทีก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่ฝึกตน และดำเนินชีวิตไปในวิถีของอสูรเท่านั้น จนกระทั่งมีผู้ที่สามารถบรรลุเปลี่ยนแปลงรูปร่างของตนเองไปเป็นนักรบอสูรอย่างเต็มตัวด้วยวิชาการรวมสมาธิและจิตแปลงร่างโดยใช้เสียงเป็นตัวกำหนดจิตปล่อยพลังอสูร (ชึ่งต่อมาเข้าใจว่าเพื่อที่จะพกพาง่ายจึงใช้เป็นส้อมเสียงเป็นตัวกำเนิดเสียงก่อนที่จะพัฒนาไปตามรูปแบบการใช้วิชาของนักรบอสูรแขนงต่างๆต่าง ๆ เช่นนักรบอสูรสายเครื่องดีดก็จะใช้สายรัดข้อมือที่ด้านในมีสายให้ดีดหรือสายเครื่องเป่าก็จะมีการใช้นกหวีดแทน) ทำให้นักรบอสูรเหล่านี้หันมาต่อสู้กับมาคาโม่เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่กระนั้นเหล่ามนุษย์ผู้โง่เขลาก็ยังคงหวาดกลัวและไม่ไว้ใจเหล่านักรบอสูรอยู่ดี มีตำนานเล่ากันต่อมาว่าบางครั้งที่นักรบอสูรไปปราบปิศาจสำเร็จจนได้รับของกำนัลซึ่งก็เป็นเพียงแค่หัวมันธรรมดานักรบอสูรได้บังเอิญหันไปสบตากับเด็กน้อยที่กำลังจ้องมองหัวมันนั้นด้วยตาเป็นประกายนักรบอสูรจึงคิดที่จะแบ่งให้ขณะที่เด็กกำลังเอื้อมมือรับนั่นเองแม่เด็กกลับร้องห้ามไม่ให้รับพร้อมบอกว่าของนั้นอสูรจับไปแล้ว ในสมัยอดีตเหล่านักรบอสูรปราบโอโรจิลงได้ก็จริงแต่ต่อมาก็มีการปรากฏตัวของป่าโคดามะ (ป่าอาถรรพ์ที่มีต้นไม้ต้นเดียวเป็นตัวกลางหากกำจัดต้นไม้ต้นนี้สำเร็จป่าโคดามะก็จะหายไปแต่น้อยคนนักที่จะหาพบ) ป่าที่เคลื่อนที่ได้ราวกับสิ่งมีชีวิตและจากนั้นไม่นานโอโรจิก็จะปรากฏตัวอีก เป็นเช่นนี้อยู่หลายครั้งจนเข้าใจว่าการปรากฏตัวของป่าคือสัญญาณบอกเหตุการมาของโอโรจิ จากนั้นนักรบอสูรจึงเสาะแสวงหาที่ที่เหมาะสมทำพิธีชำระผืนปฐพีด้วยวิชาการตีกลองส่งคลื่นเสียงชำระลงสู่ปฐพีโดยตรงโดยว่ากันว่าการประกอบพิธีจะต้องทำด้วยนักรบอสูรเพียงคนเดียวและในระหว่าทำพิธีจะมีโอโรจิจำนวนมากเข้ามาทำลายพิธีอีกซึ่งเป็นไปได้ว่ามักไม่ค่อยมีนักรบอสูรคนไหนรอดแต่สุดท้ายก็มีผู้ทำสำเร็จสามารถผนึกโอโรจิไม่ให้ออกมาสร้างความวุ่นวายได้อีกส่วนสถานที่ประกอบพิธีนั้นเมื่อนานเข้าผู้คนก็หลงลืมสถานที่ที่แน่นอนไปตามกาลเวลา
ในสมัยโบราณมีการตั้งกลุ่มขึ้นโดยใช้ชื่อว่า ทาเคชิ สาเหตุที่ใช้ชื่อนี้ก็เกิดขึ้นจากชายชื่อทาเคชิที่เป็นผู้ผึกตนในวิถีนักรบอสูรแต่ต้องเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุระหว่างฝึกตน จนทำให้นักรบอสูรผู้เป็นอาจารย์ประกาศยุติบทบาทการเป็นนักรบอสูรของตนซึ่งนั่นก็ทำให้โอซึมุน้องชายของทาเคชิเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นคนฆ่าทาเคชิ จากนั้นไม่นานก็เกิดสัญลักษณ์เครื่องสังเวยที่ผ่ามือของคู่หมั้นของโอซามุทำให้ต้องหาวิธีปราบโอโรจิก่อนที่จะถึงวันที่ประกอบพิธีสังเวยด้วยการรวบรวมเหล่านักรบอสูรเพื่อมาต่อกรกับโอโรจิ ซึ่งในเหล่านักรบอสูรเองก็ใช่ว่าจะเป็นคนดีทั้งหมดหนึ่งในนักรบอสูรที่โอซุมุขอร้องให้มาช่วยนั้นมีความเกลียดชังมนุษย์เพราะแค้นที่มนุษย์รังเกลียดตนจึงคิดที่จะปั่นหัวให้พวกนักรบอสูรฆ่ากันเองจนตายจนหมดและจะจัดการกับมนุษย์ทีหลังแต่นักรบอสูรที่เป็นอาจารย์ของทาเคชิปรากฏตัวขึ้นยุติเหตุเสียก่อนจึงไม่สำเร็จ ต่อมาโอซุมุไปพบกับดาบที่สลักชื่อของพี่ชายที่เข้าใจว่าตีเอาไว้เพื่อมอบให้แก่ผู้เป็นอาจารย์แต่ยังไม่สมบูรณ์จึงได้ซ่อนเอาไว้ด้วยความเชื่อมั่นของพี่ชายที่มีต่ออาจารย์ทำให้เขาคิดว่านักรบอสูรผู้นี้ไม่ใช่คนฆ่าพี่ชายเขาอย่างแน่นอนโอซุมุจึงขอร้องให้นักรบอสูรแปลงร่างเพื่อช่วยเหลือผู้คนอีกครั้ง ต่อมาเหล่านักรบอสูรได้รวมตัวกันจนสามารถปราบโอโรจิได้ ทำให้ได้รับการยกย่องสรรเสริญ และยังได้รับการไว้ใจจากคนในสมัยโบราณสืบมา ส่วนจุดประสงค์ในการตั้งกลุ่มก็เพื่อสำนึกในน้ำใจของนักรบอสูรที่คอยช่วยเหลือมนุษย์จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น อีกทั้งยังคอยช่วยเหลือเหล่านักรบอสูรในทุกๆทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นอาวุธ, ยานภาหนะ, ที่ฝึกวิชา, อุปกรณ์แปลงร่างมาตลอดจนกระทั่งถึงในยุคปัจจุบัน
การแปลงร่างของนักรบอสูรคือการระเบิดพลังจากภายในของตัวเองในรูปแบบต่างกันออกมาห่อหุ้มร่างกายโดยสีสันและรูปร่างจะเกิดจากภาวะจิตใจของร่างกายและความสามารถเฉพาะตัวนั่นเอง ในการต่อสู้หากเกิดแผลแต่ไม่สาหัสและยังพอมีสติก็สามารถที่จะใช้พลังสมานแผลได้เองทันทีนอกจากนี้นักรบอสูรยังต้องเรียนรู้วิธีคืนร่างเฉพาะส่วน (ส่วนหัว) ด้วยเพราะในการแปลงร่างแต่ละครั้งพลังจะทำการเผาไหม้ชุดที่นักรบอสูรสวมใส่อยู่ให้มอดไหม้ไปหากไม่ศึกษาไว้แล้วในตอนคืนร่างจะอยู่ในสภาพเปลือยทันทีดังนั้นจึงเห็นนักรบอสูรส่วนใหญ่จะมีกระเป๋าใส่เสื้อผ้าและอุปกรณ์ต่างๆต่าง ๆ ไม่ห่างตัวก็เพราะเหตุนี้นี่เอง
 
== ตัวละคร ==
=== ไรเดอร์อสูรตัวหลัก ===
: {{แถบสี|red}}'''มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิ''' (仮面ライダー響鬼) / '''มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิคุเรไน''' (響鬼紅) / '''มาสค์ไรเดอร์อาร์มฮิบิกิ''' (装甲響鬼) / '''ฮิดากะ ฮิโทชิ''' (日高 仁志)
: ชายหนุ่มอายุ 32 ปี มีจิตใจอ่อนโยนและรักความยุติธรรมอย่างแรงกล้า เป็นคนอารมณ์ดี ขี้เล่น แต่จริงจังกับงาน มีความพยายามที่เป็นเลิศ
: ในอดีต ฮิโทชิเคยได้รับการฝึกเพื่อเป็นไรเดอร์อสูรสายดีด แต่เนื่องด้วยความไม่ถนัดจึงได้เปลี่ยนเป็นสายตี แทน
: จุดอ่อนของฮิโทชิ คือ ความไม่ถนัดการใช้พาหนะประเภทเครื่องยนต์เช่นรถยนต์และมอเตอร์ไซต์ แต่ในภายหลังฮิโทชิได้พยายามฝึกจนสามารถขับขี่ได้จึงทำให้จุดอ่อนด้านนี้ถูกลบออกไป
: ตอนที่ ฮิบิคิ อายุ 16 เขาได้ก้าวข้ามความบอบช้ำทางจิตใจเรื่องเพื่อนหันมาฝึกฝนอย่างหนักจนได้รับพลังพิเศษแปลงร่างเป็นนักรบอสูรได้ นับแต่นั้นเขาออกต่อสู้ปราบมาคาโมไปทั่วผ่านประสบการณ์อย่างโชกโชน จนได้รับการยกย่องว่าเป็นอสูรที่แข็งแกร่งที่สุด ลูกศิษย์รุ่นแรกของเขาคือ อาสึมุ กับ เคียวสุเกะ
: '''ท่าไม้ตาย''' = โฮจุสึ โอนิบิ, โอนิซึเมะ (กรงเล็บอสูร), โดจุสึ เร็กกะดัน, โบจุสึ เร็กกะเคน
: {{แถบสี|blue}}'''มาสค์ไรเดอร์อิบูกิ''' (仮面ライダー威吹鬼) / '''อิสึมิ อิโอริ''' (和泉 伊織)
: เป็นคนที่ถือกำเนิดมาพร้อมชะตาชีวิตที่ต้องเป็นไรเดอร์อย่างเดียวเท่านั้นไม่อาจเปลี่ยนแปลงภายใต้สำนักทาเคชิจึงถือได้ว่าเขาเป็นไรเดอร์สายตรง โดยตั้งแต่ยังเด็กเขาจึงถูกเลี้ยงดูและปลูกฝังให้พร้อมที่จะตายในฐานะของไรเดอร์ ซึ่งเป็นชะตาที่เขาไม่ได้เลือกเองถึงแม้จะมีลูกศิตย์แล้วอย่างอากิระ สาวน้อยที่ต้องการเป็นไรเดอร์เพราะต้องการแก้แค้นมาคาโม่ แต่ก็มีบางครั้งเหมือนกันที่อิบุกิแสดงความอ่อนแอออกมาอย่างในช่วงที่ผนึกโอโรจิเป็นต้น โดยส่วนตัวเขาเป็นแข็งนอกอ่อนในพยยามทำตัวแข็มแข็งเพื่อที่จะเป็นอาจารย์ที่ดีนั่นเอง
: '''ท่าไม้ตาย''' = เซมปูจิน, โอนิซึเมะ (กรงเล็บอสูร), องเงคิชะ ชิปปูอิชเชน (音撃射・疾風一閃)
: {{แถบสี|green|1}}{{แถบสี|silver|1}}'''มาสค์ไรเดอร์โทโดโรกิ''' (仮面ライダー轟鬼) / '''โทดายามะ โทมิโซ''' (戸田山 登巳蔵)
: อดีตนายตำรวจที่เคยสืบเรื่องราวของมาคาโมและสนใจในคดีที่มาคาโมก่อขึ้น จึงได้ลาออกจากอาชีพตำรวจและหันเหเข้าสู่วถีแห่งไรเดอร์อสูร มีนิสัยอึดอดทนและรั่วอยูเป็นประจำกินข้าวจุชอบทำอะไรที่มักจะเกินตัวอยู่เป็นประจำ โดยหลังจากที่เขาคิดได้ว่าการอยู่กับซันกิต่อไปก็จะมีแต่ต้องพึ่งพาซันกิเท่านั้นจึงขอแยกตัวออกไปทำหน้าที่เพียงลำพัง จนในที่สุดชะตากรรมหน้าเศร้าก็ตกทอดมาถึงโทโรโดกิทำให้เขาไม่สามารถขยับร่างกายได้ตามปกติ จึงได้กลับเข้าสู่ความดูแลของอาจารย์ซันกิอีกครั้ง ซึ่งนั้นก็คือวาระสุดท้ายของอาจารย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเหล่าไรเดอร์
: '''ท่าไม้ตาย''' = ไรเงคิเคน, โอนิซึเมะ (กรงเล็บอสูร), องเงคิซัน ไรเดนเงคิชิน (音撃斬・雷電激震)
 
=== ไรเดอร์อสูร ตัวอื่นๆอื่น ๆ ===
: {{แถบสี|green|1}}{{แถบสี|gold|1}}'''มาสค์ไรเดอร์ซันกิ''' (仮面ライダー 勝鬼) / '''ไซสึฮาระ ซาโอมารุ''' (財津原 蔵王丸)
: ซาโอมารุ ในอดีตเคยเป็นศิษย์ของซูคิ ภายหลังได้เปลี่ยนสถานะจากลูกศิษย์เป็นอาจารย์สอนให้กับโทโดโรกิ เนื่องด้วยอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการต่อสู้ร่วมกับซุกิในการปราบมาคาโม ทำให้ซาโอมารุไม่สามารถแปลงร่างได้เพราะทุกครั้งที่แปลงร่างก็เท่ากับเร่งขีดจำกัดของร่างกายให้เร็วขึ้นเท่านั้นซึ่งเรื่องนี้ไม่มีใครรู้เลยจะรู้ก็เพียงเขากับหมอเท่านั้น จนกระทั่งโทโรโดกิก็กลับบาดเจ็บไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อีก ซาโอมารุหรือซังกิจึงกลับมาต่อสู้อีกครั้งเขารู้ดีว่าเขาจะต้องพบกับอะไรจึงได้ใช้วิชาต้องห้าม"ร่างอมตะ"และในที่สุดซาโอมารุได้สิ้นชีวิตลงหลังจากต่อสู้กับมาคาโมเพื่อที่จะดูแลลูกศิษย์ เขาจึงวนเวียนกลับมาดูแลโทโรโดกิ และปราบมากาโม่ไปด้วยจนในที่สุดโทโรโดกิรู้ความจริงจึงทำให้เขาฮึดสู้จนร่างกายเกิดปาฎิหารสามารถขยับได้เป็นปกติได้ตามซันกิไปปราบมากาโม่และที่นั่นเองที่ได้สองศิษย์อาจารย์ได้บรรเลงเพลงสุดท้ายโดยเป็นการปิดฉากของซันกิลงอย่างสมศักดิ์ศรี
: '''ท่าไม้ตาย''' = ไรเงคิเคน, โอนิซึเมะ (กรงเล็บอสูร), องเงคิซัน ไรเดนซันชิน (音撃斬・雷電斬震)
: {{แถบสี|blue}}'''มาสค์ไรเดอร์ดันกิ''' (仮面ライダー弾鬼) / '''ดันดะ ไดสุเกะ''' (段田 大輔)
: ไรเดอร์อสูรฝั่งคันโตมีนิสัยใจร้อนและต่อสู้ไร้ความปราณี ไม่ชอบเครื่องมือสื่อสาร
: '''ท่าไม้ตาย''' = องเงคิดะ ฮะไซ ซะซะเรชิ (音撃打・破砕細石) , องเงคิดะ ฟันคตสึ ไซชิน (音撃打・粉骨砕身)
: {{แถบสี|brown}}'''มาสค์ไรเดอร์ซาบากิ''' (仮面ライダー 勝鬼) / '''ซาเอคิ ซาคาเอะ''' (佐伯 栄)
: ไรเดอร์อสูรที่มีอายุมากที่สุดในญี่ปุ่น มีความถนัดในการต่อสู้สูงเนื่องจากมีวิชาของไรเดอร์อสูรทั้งสามสาย (สายดีด, สายตี, สายเป่า) รวมกันและมีอายุมากกว่าฮิบิกิและซันกิ
: '''ท่าไม้ตาย''' = โอนิซึเมะ (กรงเล็บอสูร), องเคคิซัน เอนมะซาบากิ (音撃斬・閻魔裁き)
: {{แถบสี|purple}}'''มาสค์ไรเดอร์เอกิ''' (仮面ライダー 鋭鬼)
: ไรเดอร์อสูรฝั่งคันโตมีร่างกายเล็กกว่าไรเดอร์อสูรตัวอื่นๆอื่น ๆ อายุ22ปีและเป็นไรเดอร์อสูรได้เพียง3ปี แต่กลับมีความสามารถสูงและสู้โดยไม่มีลูกศิษย์หรือผู้ช่วยมีนิสัยมุทะลุและใจร้อน
: '''ท่าไม้ตาย''' = องเงคิดะ ฮึซัตซึ ฮิชชู โนะ คาตะ (音撃打・必殺必中の型)
: {{แถบสี|yellow}}'''มาสค์ไรเดอร์บันกิ''' (仮面ライダー 蛮鬼)
: เป็นลูกศิษย์คนแรกของซาบากิมีอายุเท่ากับอิบุกิและทั้ง 2 ก็ยังเป็นเพื่อนกันด้วย มีความสามารถพิเศษสามารถใช้อาวุธรูปร่างกีต้าร์ 2 คอได้อย่างคล่องแคล่วนอกจากนี้มื่อถึงยามจำเป็นก็สามารถแยกกีต้าร์คู่ใจออกจากกันได้เป็นดาบ 2 เล่ม องเงคิเก็น โทเง็นเคียว และองเงคิชินจิโกคุเ
: {{แถบสี|lightblue}}'''มาสค์ไรเดอร์โกคิ''' (仮面ライダー 剛鬼)
: นักรบอสูรที่ถนัดการจัดการกับมาคาโม่ขนาดยักษ์โดยอยู่ในกลุ่มเดียวกับฮิบิกิ, เอคิ และดันคิ มีอาวุธที่เป็นเอกลักษณ์นอกจากกระบองประจำตัวทั้งสองแล้วก็ยังมีกระบองเหล็กติดหนามแหลม และโซ่ เอาไว้คอยปราบพวกพวกมาคาโม่อีกด้วย
: {{แถบสี|darkblue}}'''มาสค์ไรเดอร์โซคิ''' (仮面ライダー 勝鬼)
: นักรบอสูรสายเครื่องเป่าที่ใช้อาวุธในรูปแบบของปืนที่เป็นเครื่องหลัง เมื่อประกอบหัวเข็มขัดจะเป็นเครื่องดนตรีขนาดใหญ่ที่เรียกว่า ซูซ่าโฟน ยิงพลังคลื่นเสียงชำระล้างนอกจากนี้ก็ยังมีกงเล็บกุญแจ และเขี้ยววายุ (อาวุธที่หลังมือ) ที่คมกริซอีกด้วย
: '''ท่าไม้ตาย''' = องเงคิชา โบฟุ อิกกิ (音撃射・暴風一気)
: {{แถบสี|black}}'''มาสค์ไรเดอร์โทคิ''' (仮面ライダー 闘鬼)
: นักรบอสูรสายเครื่องเป่าที่กินจุ ดื่มจัด เจ้าของอาวุธยิงรูปร่างคล้ายปืนยาวแต่เมื่อเข้าสู่ โหมด ชำระล้างก็จะเป็นรูปแบบของเครื่องดนตรีทรอมโบน นอกจากนี้ที่เอวก็ยังเหน็บขวดเหล้าประจำกาย พร้อมกับมีดพกคู่ใจอีกด้วย
: {{แถบสี|darkred}}'''มาสค์ไรเดอร์ซูคิ''' (仮面ライダー朱鬼)
: อาจารย์ของซันกิ เป็นไรเดอร์ผู้หญิงที่สามารถใช้เวทย์ชั้นสูงมีอายุมาหลายร้อยปีแล้ว เธอได้ถูกขับไล่ออกจาก TAKESHI เนื่องจากเป็นคนที่จมปลักอยู่กับการแก็แค้นมาคาโมที่ได้ฆ่าพ่อแม่ของเธอส่วนสาเหตุที่เธอถูกขับออกจากลุ่มทาเคชิก็เพราะระหว่างที่ได้ต่อสู้กับมาคาโมพร้อมกับซันกิ ซันกิซึ่งในขณะนั้นเป็นไรเดอร์อ่อนหัดได้ถูกมาคาโมจับตัวซูกิจึงได้คิดกำจัดมาคาโม่ไปพร้อมกับซันกิจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ซันกิมีอาการบาดเจ็บเรื้อรังเรื่อยมาในช่วงเวลาที่ถูกขับไล่ออกจาก TAKESHI นั้น เธอได้เป็นอาจารย์สอนจัดดอกไม้ และล่าสุดได้ขโมยชุดเกราะต้องห้าม หลังจากที่รู้ว่ามาคาโมที่สังหารคนที่เธอรู้จักยังไม่ตาย เธอได้ใช้เกราะต้องห้ามเพื่อสร้างสถานการณ์และขโมยเฮนชินไคเกนของโทโดโรกิเพื่อแปลงร่างเป็นซูคิอีกครั้ง หลังจากที่เธอและซันกิได้ร่วมใจกันกำจัดมาคาโม เธอได้เสียชีวิตลงท่ามกลางดอกไม้ที่รายล้อมเธอ
: '''ท่าไม้ตาย''' = องเงคิเก็น คิทาระ (音撃弦・鬼太樂) , องเงคิโซ ชินเท็น โดชิ (音撃奏・震天動地)
 
=== ไรเดอร์อสูรจากภาคเดอะมูฟวี่ ===
: {{แถบสี|green|1}}{{แถบสี|red|1}}'''มาสค์ไรเดอร์คาบูกิ''' (仮面ライダー 歌舞鬼)
: นักรบอสูรแห่งเอโดะผู้มีพลังมหาศาล และเป็นหนึ่งในนักรบอสูร"โอนิ"เป็นนักรบอสูรคนแรกที่อาสุมุเดินทางไปพบ มีนิสัยจองหอง ทะเยอทะยานเพื่อให้ได้ทุกสิ่งที่ตนต้องการ
: '''ท่าไม้ตาย''' = องเงคิดะ โกขะ เคนรัน (音撃打・業火絢爛)
: {{แถบสี|white|1}}{{แถบสี|blue|1}}'''มาสค์ไรเดอร์โทวคิ''' (仮面ライダー 凍鬼)
: นักรบอสูรนักบวชแห่งฮอกไกโด มีร่างกายใหญ่โตและเป็นผู้มีพลังวิญญาณสูงส่ง มีอาวุธเป็นกระบองขนาดยักษ์
: '''ท่าไม้ตาย''' = องเงคิโอ อิชิเงกิ โดโต (音撃殴・一撃怒涛)
: {{แถบสี|orange|1}}{{แถบสี|black|1}}'''มาสค์ไรเดอร์คิราเมคิ''' (仮面ライダー 煌鬼)
: นักรบอสูรอารมณ์ดีแห่งนาโกย่า มีอาวุธประจำตัวคือ องเงคิ ชิมบารุ เร็ตสีบัง อาวุธวงแหวนคู่อันแสนคมกริบ
: '''ท่าไม้ตาย''' = องเงคิเฮียว เคโชว ฟุบากุ (音撃拍・軽佻訃爆)
: {{แถบสี|yellow|1}}{{แถบสี|black|1}}'''มาสค์ไรเดอร์นิชิคิ''' (仮面ライダー 西鬼)
: นักรบอสูรจอมโจรแห่งโอซาก้า มีอาวุธเป็นกระบอง3ท่อน องเงคิ ไทรแองเกิล เร็สเซ็ตสึ
: '''ท่าไม้ตาย''' = องเงคิเคียว อิรัชไช (音撃響・偉羅射威)
: {{แถบสี|darkgreen|1}}{{แถบสี|silver|1}}'''มาสค์ไรเดอร์ฮาบาทาคิ''' (仮面ライダー 羽撃鬼)
: นักรบอสูรผู้รักสงบแห่งฟุกุโอกะ มีอาวุธประจำตัวเป็นเครื่องเป่า
: '''ท่าไม้ตาย''' = องเงิคิโป เซ็นปู อิซเซ็น (音撃奏・旋風一閃)
 
=== ตัวละครหลัก (ไม่ใช่ ไรเดอร์อสูรและกำลังอยู่ในระหว่างการเป็นไรเดอร์อสูร) ===
: '''อาดาจิ อาสุมุ''' (安達 明日夢)
: เด็กหนุ่มอายุ 16 ได้พบกับฮิบิกิ จากเหตุการณ์บนเรือท่องเที่ยวจนเกิดประทับใจในตัวฮิบิกิซึ่งต่อมายิ่งรู้ว่าบ้านอยู่ใกล้กันจึงได้สนิทกันมากขึ้น อาดาจิซึ่งกำพร้าพ่อจึงได้แต่เฝ้ามองฮิบิกิผู้เป็นเหมือนผู้ที่มาเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปเป็นแบบอย่างให้แก่อาดาจิ จากนั้นอาดาจิจึงได้เรียนรู้และฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของฮิบิกิแต่สุดท้ายจนแล้วจนเล่าอาดาจิก็ไม่สำเร็จเพราะคิดว่าการช่วยเหลือผู้คนไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นไรเดอร์เพียงอย่างเดียวอาดาจิจึงผันตัวเองไปเป็นหมอรักษาคนป่วยแทนโดยมีบุคลิกขี้อาย อ่อนแอ ทำให้ฮิบิกิต้องคอยช่วยเหลืออยู่เสมอ
: '''มาสค์ไรเดอร์อามากิ''' / '''อามามิ อากิระ''' (天美 あきら)
: สาวน้อยอายุเดียวกับอาสุมุ และฮิโทมิ เป็นลูกศิษย์ของอิบูกิ คอยช่วยเหลือติดต่อเหล่าไรเดอร์อสูร เธอต้องการเป็นไรเดอร์ก็เพื่อที่จะกำจัดมาคาโม่ที่สังหารพ่อแม่เธอ เธอเองก็เคยเป็นลูกศิตย์ของซูกิเช่นกันแต่ก็เพียงเวลาสั้นๆสั้น ๆ เท่านั้นมีนิสัยเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไร ซึ่งเธอเองก็เป็นอีกคนที่ล้มเลิกการเป็นไรเดอร์เช่นกัน ซึ่งก่อนที่จะล้มเลิกเธอก็มีลูกศิตย์ของเธอเองด้วย นั่นก็คือ อาดาจิ และ เคียวสุเกะ ทั้งหมดก็เพื่อสิ่งที่อิบุกิสั่งสอนมาจะได้ไม่ศูนย์เปล่า อากิระเคยแปลงร่างเป็นไรเดอร์หนึ่งครั้งตอนที่ป่าโคดามะปรากฏตัวซึ่งนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายในการทำหน้าที่ของเธอนั่นเอง
: '''มาสค์ไรเดอร์เคียวคิ''' /'''คิริยะ เคียวสุเกะ''' (桐矢 京介)
: ลูกศิษย์อีกคนของฮิบิกิ มีความมุ่งมั่นและต้องการที่จะเป็นไรเดอร์จนเหมือนกับเป็นคนที่ทำทุกวิธีทางเพื่อให้เหนือกว่าอาดาจิ ทั้งหมดก็เพราะว่าต้องการช่วยเหลือผู้คนและก้าวข้ามพ่อของเขาไป นักดับเพลิงที่เสียสละชีวิตตนเองเพื่อช่วยผู้คนจนตายในกองเพลิงจนในที่สุดคิริยะก็ได้เป็นไรเดอร์อสูรสมใจมีชื่อว่า เคียวคิ มีสีเงินและทองเป็นสีประจำตัวว่ากันว่านั่นเป็นสีของชุดดับเพลิงของพ่อของคิริยะนั่นเอง
 
=== กลุ่ม TAKESHI ===
: '''ทาจิบานะ เชจิโร่'''
: '''ทาจิบานะ อิซากะ'''
: '''ทาจิบานะ คาซุมิ'''
: '''ทาคิซาวะ มิโดริ'''
: '''โคงุเระ โคโนะสุเกะ'''
 
=== ตัวละครตัวอื่นๆอื่น ๆ ===
: '''อาดาจิ ยูโกะ'''
 
=== ไรเดอร์อสูร สำหรับละครเวที ===
: ในการแสดงละครเวที (stage show) ได้มีการเพิ่มไรเดอร์อสูรขึ้นมาอีก 4 ตัว ได้แก่
: '''มาสค์ไรเดอร์คางายาคิ'''
: '''มาสค์ไรเดอร์ยูคิ'''
: '''มาสค์ไรเดอร์จาคิ'''
: '''มาสค์ไรเดอร์มุจาคิ'''
 
== อาวุธอุปกรณ์และพาหะนะของเหล่าไรเดอร์อสูร ==
=== อุปกรณ์แปลงร่าง ===
: '''องคาคุ'''
: อุปกรณ์แปลงร่างในรูปแบบคล้ายส้อมมีความสามารถอ่านข้อมูลของดีสค์แอนิมอล
: '''องเทคิ'''
: อุปกรณ์แปลงร่างในลักษณะคล้ายนกหวีดความสามารถอ่านข้อมูลของดีสค์แอนิมอล
: '''องโจ'''
: อุปกรณ์แปลงร่างในลักษณะคล้ายครื่องดีดขนาดเล็กความสามารถอ่านข้อมูลของดีสค์แอนิมอล
 
=== องเงคิ ===
: '''องเงคิโบ'''
: อาวุธรูปแบบกระบองตีกลอง 2 อันซึ่งใช้คู่กับกลององเงคิโกะ คาเอนสึสึมิ
:: '''องเงคิโบ เร็กกะ'''
:: กระบองตีกลองของฮิบิกิ
:: '''องเงคิโบ ยามาเซะ'''
:: กระบองตีกลองของอิบูกิ
:: '''องเงคิโบ ราคุไร'''
:: กระบองตีกลองของโทโรโทกิ
:: '''องเงคิโบ โรคุโซ'''
:: กระบองตีกลองของเอกิ
:: '''องเงคิโบ นาจิงุโระ'''
:: กระบองตีกลองของดันกิ
:: '''องเงคิโบ เร็ซซุย'''
:: กระบองตีกลองของคาบูกิ
: '''องเงคิเรปปู'''
: อาวุธประจำตัวของอิบุกิมีลักษณะเป็น[[ทรัมเป็ต]]
:: '''องเงคิเรปปู จูเงคิโหมด'''
:: โหมดที่สามารถใช้ในการยิง
:: '''องเงคิเรปปู องเงคิโหมด'''
:: โหมดพิฆาตซึ่งใช้ควบคู่กับนารุคาเซะ
: '''องเงคิเกนเร็ตสึไร'''
: อาวุธประจำตัวของโทโดโรกิมีลักษณะเป็น[[กีตาร์]]ซึ่งได้สืบทอดต่อกันมา
:: '''องเงคิเกนเร็ตสึไร เดนเงคิโหมด'''
:: โหมดดาบของโทโดโรกิสามารถฟันหินได้ทั้งสองท่อนได้
:: '''องเงคิเกนเร็ตสึไร องเงคิโหมด'''
:: โหมดพิฆาตซึ่งใช้ควบคู่กับไรโง
: '''องเงคิเกนเร็ตสึซัน'''
: อาวุธประจำตัวของซันกิมีรูปร่างคล้ายกับเร็ตสึไรซึ่งเป็นอาวุธของโทโรโทกิ
:: '''องเงคิเกนเร็ตสึซัน ไรเงคิโหมด'''
:: '''องเงคิเกนเร็ตสึซัน องเงคิโหมด'''
: '''องเงคิเกนคิทาระ'''
: '''องเงคิคานาโบเร็ตโต'''
: '''องเงคิชิมบารุเร็ตสึบัง'''
: '''องเงคิไทรแองเกิลเร็สเซ็ตสึ'''
: '''องเงคิฟลุทเร็คคู'''
: '''องเงคิโกะ คาเอนสึสึมิ'''
: หัวเข็มขัดของฮิบิกิสามารถขยายเป็นกลองคลื่นเสียงได้
: '''องเงคิเม นารุคาเซะ'''
: หัวเข็มขัดของอิบุกิสามารถต่อบนหัวขององเงคิเรปปูเป็นคลื่นเสียงซำระบาป
: '''องเงคิชิน ไรโง'''
: หัวเข็มขัดของโทโดโรกิสามารถเชื่อมต่อกับองเงคิเกนเร็ตสึไรเป็นคลื่นเสียงพิฆาตได้
: '''อาร์มเซเบอร์'''
: สุดยอดอาวุธของฮิบิกิโดยมีรูปร่างเป็นดาบสั้นผสมโทรโข่ง สามารถแปลงร่างเป็นฮิบิกิอาร์มได้
:: '''อาร์มเซเบอร์ เคนเงคิโหมด'''
:: โหมดอาวุธในรูปแบบดาบขนาดสั้น
:: '''อาร์มเซเบอร์ องเงคิโหมด'''
:: โหมดพิฆาตในการต่อสู้มีพลังสูงที่สุด
 
=== พาหนะ ===
: '''ทัตสึบาคิ'''
: มอเตอร์ไซค์ประจำตัวของอิบุกิคอยลาดตระเวณทุกพื้นที่ของเหล่ามาคาโม่
: '''ไกคะ'''
: มอเตอร์ไซค์ประจำตัวของฮิบิกิซึ่งฮิบิกิฝึกฝนการขับมอเตอร์ไซค์จนทำให้มีมอเตอร์ไซค์ประจำตัว
: '''ไรเดน'''
: รถยนต์ของโทโดโรกิและซันคิบรรจุอาวุธอุปกรณ์และดีสค์แอนิมอล
 
=== ดิสค์แอนิมอล ===
ดิสค์แอนิมอลคือสัตว์ในรูปแบบแผ่นดิสค์โดยทำหน้าที่สอดแนมของเหล่ามาคาโม่
 
: '''อาคาเนะทาคะ'''
: ดิสค์แอนิมอลรูปแบบเหยี่ยวแดง
:: '''ฮางาเนะทาคะ'''
:: ดิสค์แอนิมอลรูปแบบเหยี่ยวแดง-ดำ พัฒนามาจาก อาคาเนะทาคะ
: '''รูริ โองามิ'''
: ดิสค์แอนิมอลรูปแบบหมาป่าสีฟ้า
: '''เรียคุโอซารุ'''
: ดิสค์แอนิมอลรูปแบบลิงเขียว
:: '''คาบุโตะโอซารุ'''
:: ดิสค์แอนิมอลรูปแบบลิงแดง-ดำ พัฒนามาจาก เรียโคโอซารุ
: '''คิบาดะคานิ'''
: ดิสค์แอนิมอลรูปแบบปูสีเหลือง
:: '''โยโรยคานิ'''
:: ดิสค์แอนิมอลรูปแบบปูแดง-ดำ พัฒนามาจาก คิบาดะคานิ
: '''นิบิอิโระเฮบิ'''
: ดิสค์แอนิมอลรูปแบบงูดำ
: '''อาซางิวาชิ'''
: ดิสค์แอนิมอลรูปแบบอินทรีฟ้า
: '''คิอากะชิชิ'''
: ดิสค์แอนิมอลรูปแบบสิงโตส้ม
: '''เซจิคาเอรุ''' / '''เซจิคาเอล'''
: ดิสค์แอนิมอลรูปแบบกบเขียว
: '''โคงาเนโองามิ'''
: ดิสค์แอนิมอลรูปแบบหมาป่าทอง
: '''อิวาเบะนิชิชิ'''
: ดิสค์แอนิมอลรูปแบบสิงโตสีแดงเข้ม
: '''ชิโรเนริโอซารุ'''
: ดีสค์แอนิมอลรูปแบบลิงเผือก เป็นดิสค์แอนิมอลที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
: '''เคชิซึมิคาราสึ'''
: ดิสค์แอนิมอลรูปแบบอีกาดำสามารถเป็นยานพาหะนะในการต่อสู้บนทางอากาศ
 
== มาคาโม่ ==
: '''โดจิ''' / '''ซูเปอร์ โดจิ'''
: '''ฮิเมะ''' / '''ซูเปอร์ ฮิเมะ'''
: '''โอโรจิ'''
=== มาคาโม่ประเภทต่างๆต่าง ๆ ===
==== มาคาโม่ประเภทยักษ์ ====
: มาคาโม่ที่อาศัยอยู่กับมาคาโม่โดจิและฮิเมะ เพื่อให้มีพลังมากขึ้นจึงกินมนุษย์เป็นอาหารจนร่างกายขยายใหญ่ขึ้น
 
==== มาคาโม่ประเภทฤดูร้อน ====
บรรทัด 231:
 
== เพลงประกอบในเรื่อง ==
; เพลงเปิด
: "คางายาคิ" (輝) ทำนองโดย โทชิฮิโกะ ซาฮาชิ เพลงเปิดที่ 1 (ถูกใช้ในตอนที่1-33)
: "ฮะจิมาริ โนะ ฮิบิเอะ" (始まりの君へ) ร้องโดย [[อากิระ ฟูเซะ]] เพลงเปิดที่ 2 (ถูกใช้ในตอนที่ 34-39, 45-48 ส่วนตอนที่ 40-44 ใช้เป็นเพลงท่อนที่2)
; เพลงปิด
: "โซเนน โย" (少年よ) ร้องโดย อากิระ ฟูเซะ
; เพลงประกอบและเพลงตัวละคร
: "คิวะเมะเรบะ องเงคิ" ร้องโดย [[จิน ฮาชิโมโตะ]]
: "ฮิบิกิ เคนซัน!!" ร้องโดย [[โอโนะ มาซาโตชิ]]
: "ฟุงะยูเดน" ร้องโดย [[โทโมคาสึ เซกิ]]
: "ไรบุโกโก" ร้องโดย [[เอโซ ซาคาโมโต้]]
; เพลงประกอบภาพยนตร์
: "FLASHBACK" ร้องโดย [[ริน (วงดนตรี)|Rin']] และ [[M.c.A.T]] (ใช้ในภาพยนตร์ในเรื่อง) และ วง [[RIDER CHIPS]] (ออกเฉพาะในซิงเกิลเพลง)
 
{{มาสค์ไรเดอร์}}