ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เทศกาลกินเจ"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 1:
{{ต้องการอ้างอิง}}
{{แก้รูปแบบ}}
'''เทศกาลกิน
== ประวัติ ==
ประเพณีถือศีลกินขี้หรือกิน
== ตำนาน ==
=== ตำนานที่ 1 ===
กล่าวกันว่า การกิน
=== ตำนานที่ 2 ===
บรรทัด 18:
=== ตำนานที่ 3 ===
ผู้ถือศีลกิน
รวมเป็น 9 พระองค์(หรือ “เก้าอ๊อง”)ทรงตั้งปณิธานจักโปรดสัตว์โลก จึงได้แบ่งกายมาเป็นเทพเจ้า 9 พระองค์ด้วยกันคือ ไต้อวยเอี๊ยงเม้งทัมหลังไทแชกุน ไต้เจียกอิมเจ็งกื้อมึ้งงวนแชกุน ไต้กวนจิงหยิ้งลุกช้งเจงแชกุน ไต้ฮั่งเฮี่ยงเม้งม่งเคียกนิวแชกุน ไต้ปิ๊กตังง้วนเนี้ยบเจงกังแชกุน ไต้โพ้วปั๊กเก๊กบู๊เอียกกี่แชกุน ไต้เพียวเทียนกวนพัวกุงกวนแชกุน ไต้ตั่งเม้งงั่วคูแชกุน ฮุ้ยกวงไตเพียกแชกุน เทพเจ้าทั้ง 9 พระองค์ ทรงอำนาจตบะอันเรืองฤทธิ์บริหารธาติดิน น้ำ ลม ไฟ และทอง ทั่วทุกพิภพน้อยใหญ่สารทิศ
=== ตำนานที่ 4 ===
กิน
=== ตำนานที่ 5 ===
บรรทัด 30:
จนวันหนึ่งชาวกังไสเกิดความแตกสามัคคีและเอาเปรียบกัน เทพยดาทราบว่าอีกไม่นานกังไสจะเกิดภัยพิบัติจึงหาผู้อาสาช่วยแต่ชาวบ้านจะพ้นภัยได้ก็ต่อเมื่อได้สร้างผลบุญของตนเอง ดวงวิญญาณพระราชโอรสองค์โตรับอาสาและเพ่งญาณเห็นว่าควรเริ่มที่บ้านเศรษฐีใจบุญ ลีฮั้วก่าย
คืนวันหนึ่งคนรับใช้แจ้งเศรษฐีลีฮั้วก่ายว่ามีขอทานโรคเรื้อนมาขอพบเศรษฐีจึงมอบเงินจำนวนหนึ่งให้เป็นค่าเดินทาง แต่ขอทานไม่ไปและประกาศให้ชาวเมืองถือศีลกิน
เล่าเอี๋ยเกิดศรัทธาประเพณีกิน
=== ตำนานที่ 6 ===
บรรทัด 41:
เมื่อถึงเขาโพถ้อซัวขณะที่เล่าเซ็งก้มลงกราบไหว้พระโพธิสัตว์นั้น เขาเห็นแม่ลอยอยู่เหนือกระถางธูปที่คนอื่นมองไม่เห็น ขณะเดินทางกลับเขาได้แยกทางกับหญิงสาวและได้พบเด็กชายคนหนึ่งยืนร้องไห้อยู่จึงเข้าไปถามไถ่ได้ความว่าเป็นลูกของเขากับภรรยาที่เลิกกันไปนานแล้ว เขาจึงพาไปอยู่ด้วยแล้ววันหนึ่งหญิงสาวที่นำทางไปเขาโพถ้อซัวมาขออาศัยอยู่ด้วย ทั้งสามอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
หญิงสาวผู้นั้นเป็นสาวบริสุทธิ์ประพฤติตนเป็นคนดีอยู่ในศีลธรรมและถือศีลกิน
== ความหมายของ เจ ==
{{ต้นฉบับ}}
[[ไฟล์:Chinese vegetarian symbol.jpg|right|frame|ธงที่ใช้ประดับหน้าร้านอาหารเจ มีตัว[[อักษรจีน]]สีแดง 齋 บนพื้นสีเหลือง หรือใช้คำว่า "เจ" แทนก็ได้|100px]]
คำว่า เจ ใน[[ภาษาจีน]]ทาง[[พุทธศาสนา]][[นิกายมหายาน]]มีความหมายเดียวกับคำว่า [[อุโบสถ]] ดังนั้นการกิน
ในภาษาจีนมีคำหรือวลีที่ใช้อักษรแจ (เจ, 齋/斋) เป็นตัวประกอบร่วมด้วยหลายคำ แต่คำว่าโป๊ยกวนแจไก่ (八關齋戒) แปลว่า ศีลบริสุทธิ์แปดประการ อันหมายถึง [[อุโบสถศีล]] ซึ่งเป็นศัพท์ของทางพุทธศาสนา การแปลและเข้าใจคลาดเคลื่อนดังกล่าวยังถูกใช้เป็นบรรทัดฐานในการอธิบายวัตรปฏิบัติของการกิน
ในทางอักษรศาสตร์จีน อักษรตัว “แจ” มีพัฒนาการมาจาก ตัวอักษร ฉี “ 齊 ” ซึ่งแปลว่าบริบูรณ์ , เรียบร้อย อักษรแจเกิดจากการเพิ่มเส้นตั้งและสองจุด ( 小 ) เข้าไปกลางอักษรฉี ทำให้เกิดตัว ซื ( 示 ) ซึ่งแปลว่าการสักการะ อยู่ในแก่นกลางของตัวฉี
บรรทัด 70:
* เหล่าที่ถือมั่นแต่การฉันอาหารเจ เรียกถี่สู่ /持素
เจียะแจ (食齋) เป็นการออกเสียงตามสำเนียงถิ่นแต้จิ๋ว ศัพท์คำนี้ใช้และเป็นที่เข้าใจแต่ทางตอนใต้ของจีนโดยเฉพาะแถบลุ่มอารยธรรมหลิ่งหนาน (領南) ในมณฑลกวางตุ้ง อันเป็นแหล่งอาศัยดั้งเดิมของคนแคะ แต้จิ๋ว กวางตุ้งและไหหนำ ซึ่งเป็นชาวจีนกลุ่มใหญ่ในประเทศไทย เจียะหรือเจี๊ยะ (食) ในภาษาถิ่นใต้ แปลว่า ''กิน'' ส่วน แจ (齋) แปลว่า ''บริสุทธิ์'' (อ้างตามปทานุกรมพุทธศาสนาฉบับ วัดฝอกวงซัน ไต้หวัน) เจียะแจตรงกับคำว่า ชือซู่ (吃素) ในภาษาจีนกลาง และตรงกับคำไทยที่นิยมใช้กันว่า กิน
== จุดประสงค์ของการกิน
ผู้ที่กิน
# กินเพื่อสุขภาพ อาหารเจเป็นอาหารประเภท[[ชีวจิต]] เมื่อกินติดต่อกันไปช่วงเวลาหนึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดการปรับตัวให้อยู่ในสภาวะสมดุล สามารถขับพิษของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายได้ ปรับ[[ระบบไหลเวียนโลหิต]] [[ระบบทางเดินอาหาร]]ให้มีเสถียรภาพ
บรรทัด 80:
== อาหารเจ ==
อาหารเจเป็นอาหารที่ปรุงขึ้นโดยไม่มีเนื้อสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ (เช่น นม ไข่ น้ำผึ้ง น้ำปลา [[เจลาติน]] [[คอลลาเจน]]) และไม่ปรุงด้วยผักฉุนทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ [[กระเทียม]] [[หอม]] (ทุกชนิดอาทิ [[ต้นหอม]] [[หัวหอม]] [[หอมแดง]]) [[หลักเกียว]] [[กุยช่าย]] และใบ[[ยาสูบ]] เพราะผักเหล่านี้ทำอันตรายต่ออวัยวะในร่างกาย กระเทียมให้โทษต่อหัวใจ หอมให้โทษต่อไต หลักเกียวให้โทษต่อม้าม กุยช่ายให้โทษต่อตับ และใบยาสูบให้โทษต่อปอด บ้างเชื่อว่าผักเหล่านี้เพิ่มความกำหนัดหรือมาจากเลือดของสัตว์ตามตำนานจีน<ref name="doctorcos"/> ทำให้อาหารเจไม่มีกลิ่นคาว เนื่องจากการงดเนื้อสัตว์ ทำให้ผู้ที่กิน
== หลักธรรมในการกิน
ในทัศนะของคนกิน
การกิน
# ไม่เอาชีวิตของสัตว์ทั้งหลายมาต่อเติมบำรุงเลี้ยงชีวิตของตน
บรรทัด 93:
การรับประทานสิ่งใดก็ตามที่ทำลายสุขภาพร่างกายของตนให้ทรุดโทรม คือ การเบียดเบียนตนเอง ปัจจุบันวิทยาการเจริญก้าวหน้าได้พิสูจน์ยืนยันว่าเลือดและเนื้อของสัตว์ที่ถูกฆ่าตายเต็มไปด้วยพิษภัยมากมาย
ดังนั้นการกิน
== การปฏิบัติตนในช่วงกิน
ในช่วงเทศกาลกิน
# รับประทาน "[[#อาหารเจ|อาหารเจ]]"
บรรทัด 105:
# นุ่งขาวห่มขาว
สำหรับผู้ที่เคร่งครัดเพื่อการกิน
== เทศกาลถือศีลกินผัก จังหวัดภูเก็ต ==
[[ไฟล์:Vegetarian Festival.jpg|thumb|"ม้าทรง" ใช้เหล็กเสียบแทงตนเอง ในเทศกาลกิน
จังหวัดภูเก็ตไม่มีประเพณีกิน
ประเพณีเจี๊ยะฉ่าย ได้เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกที่หมู่บ้าน ไล่ทู (ในทู) ซึ่งเป็นหมู่บ้าน[[กะทู้]] [[ตำบลกะทู้]] [[จังหวัดภูเก็ต]]ในปัจจุบัน [[คนจีน]]เหล่านั้นได้อพยพเข้ามาทำเหมืองแร่ตั้งแต่สมัย[[กรุงศรีอยุธยา]] (ในสมัยรัชสมัย[[สมเด็จพระนารายณ์มหาราช]]) มีการค้าขาย[[แร่ดีบุก]]กับ[[ปอร์ตุเกส]] [[ฮอลันดา]] [[ฝรั่งเศส]] [[อังกฤษ]] เป็นต้น [[คนจีน]]เหล่านั้นได้หลั่งไหลเข้ามามากที่สุดก่อนปี พ.ศ.[[2368]] คือหลังจากเมือง[[ภูเก็ต]]และเมือง[[ถลาง]]ถูก[[พม่า]]รุกรานเมื่อปี พ.ศ.[[2352]] พลเมืองได้กระจัดกระจายไปอยู่ตามที่ต่างๆ ครั้น[[พระยาถลาง]] (เจิม)ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมือง[[ถลาง]] และได้ตั้งเมือง[[ภูเก็ต]]ที่บ้านเก็ตโฮ่ ให้พระ[[ภูเก็ต]] (แก้ว) มาเป็นเจ้าเมือง (ระหว่าง พ.ศ. 2368-2400)
บรรทัด 134:
== สี ==
สีในเทศกาลกิน
'''สีแดง''' เป็นสีที่ชาวจีนเชื่อว่าเป็นสีศิริมงคล ดังจะเห็นได้ว่าในงานมงคลต่างๆ ของคนจีนไม่ว่าจะเป็นงานแต่ง [[วันตรุษจีน]]
บรรทัด 172:
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
*[http://horoscope.sanook.com/941960/ ไหว้เทพเจ้าเสริมสิริมงคลในเทศกาลกิน
*[http://horoscope.sanook.com/942057/ 10 อานิสงส์ ของการไม่ทานเนื้อสัตว์]
*[http://women.sanook.com/1056250/ 8 ข้อหลักง่ายๆ กิน
*[http://men.sanook.com/345/ กิน
|