ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจมส์ บอนด์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 78:
|}
 
==== นวนิยายหลังเฟลมิ่งเฟลมมิ่ง ====
หลังเฟลเฟลมมิ่งเสียชีวิต คิงส์ลีย์ เอมิส ได้แต่งนวนิยายบอนด์ต่อ ในชื่อ ''[[Colonel Sun]]'' (ใช้นามปากกา [[โรเบิร์ต มาร์คแฮม]]) และตีพิมพ์ในปี[[พ.ศ. 2511]]<ref>{{cite web|title=Colonel Sun|url=http://www.ianfleming.com/pages/content/index.asp?PageID=81|work=The Books|publisher=Ian Fleming Publications|accessdate=2 November 2011}}</ref> ซึ่งก่อนหน้าเขาเคยเขียนหนังสือเกี่ยวกับนวนิยายบอนด์ของเฟลมิ่งด้วยเฟลมมิ่งด้วย ในชื่อ ''[[The James Bond Dossier]]'' เมื่อปี[[พ.ศ. 2508]]{{sfn|Benson|1988|p=32}} ต่อมานิยาย 2 เล่มจากภาพยนตร์ของอีโอเอ็น โปรดักชันส์ได้ตีพิมพ์ ในชื่อ ''[[James Bond, The Spy Who Loved Me]]'' และ ''[[James Bond and Moonraker]]'' โดยทั้งสองเล่มแต่งโดย คริสโตเฟอร์ วูด ซึ่งเป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์<ref name="IFP, Novelizations">{{cite web|title=Film Novelizations|url=http://www.ianfleming.com/pages/content/index.asp?PageID=163|work=The Books|publisher=Ian Fleming Publications|accessdate=2 November 2011}}</ref> หลังจากนั้นนิยายบอนด์ก็หยุดไป จนถึงปี[[พ.ศ. 2524]] นักเขียนแนวสยองขวัญ [[จอห์น การ์ดเนอร์]] ได้หยิบนวนิยายบอนด์ มาแต่งในชื่อ ''[[Licence Renewed]]''.{{sfn|Simpson|2002|p=58}} โดยการ์ดเนอร์ได้แต่งนวนิยายบอนด์ทั้งหมด 16 เล่ม โดยมี 2 เล่มเป็นนิยายจากภาพยนตร์ของอีโอเอ็น โปรดักชันส์ชื่อ ''[[Licence to Kill]]'' และ ''[[GoldenEye]]'' ถึงแม้ว่าผ่านไป 13 ปี การ์ดเนอร์ ยังคงให้ตัวละครยังอายุเท่าเดิมกับที่เฟลเฟลมมิ่งระบุเอาไว้{{sfn|Benson|1988|p=149}} ในปี [[พ.ศ. 2539]] การ์ดเนอร์ได้หยุดแต่งนวนิยายบอนด์ เนื่องจากปัญหาสุขภาพ<ref>{{cite news|last=Ripley|first=Mike|title=Obituary: John Gardner: Prolific thriller writer behind the revival of James Bond and Professor Moriarty|accessdate=14 November 2011|newspaper=[[The Guardian]]|date=2 November 2007|page=41}}</ref>
 
{| class="wikitable"
บรรทัด 121:
* 2545 ''[[Die Another Day]]''<ref name="IFP, Novelizations"/> (นิยาย)
|}
6 ปีผ่านไป [[เซบาสเตียน ฟอล์ค]] ได้รับมอบหมายจากสำนักพิมพ์เอียน เฟลมิ่งเฟลมมิ่ง ให้แต่งนวนิยายบอนด์ใหม่ โดยได้วางหน่ายวันที่ [[28 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2551]] ในวาระครบรอบ 100 ปีเอียน เฟลมิ่ง<ref>{{cite news|title=Faulks pens new James Bond novel|url=http://news.bbc.co.uk/1/hi/entertainment/6289186.stm|accessdate=3 November 2011|newspaper=[[BBC News]]|date=11 July 2007}}</ref> ในชื่อ ''[[Devil May Care (novel)|Devil May Care]]'' ซึ่งตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ แพนกวินบุค ในสหราชอาณาจักร และสำนักพิมพ์ ดับเบิลเดย์ ในสหรัฐอเมริกา<ref name="Faulks">{{cite web|title=Sebastian Faulks|url=http://www.ianfleming.com/pages/content/index.asp?PageID=177|work=The Books|publisher=Ian Fleming Publications|accessdate=3 November 2011}}</ref> ต่อมา นักเขียนชาวอเมริกัน เจฟฟรีย์ ดีฟเวอร์ ได้รับมอบหมายจากสำนักพิมพ์เอียน เฟลมมิง ให้แต่งนวนิยายบอนด์ในชื่อ [[Carte Blanche (novel)|''Carte Blanche'']] โดยได้วางหน่ายวันที่ [[26 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2554]]<ref>{{cite news|title=James Bond book called Carte Blanche|url=http://www.bbc.co.uk/news/entertainment-arts-12204547|accessdate=3 November 2011|newspaper=BBC News|date=17 January 2011}}</ref> ซึ่งเป็นรีบูทนวนิยายบอนด์ใหม่ โดยบอนด์จะไม่สังกัด MI5 หรือ MI6 โดยจะสังกัด Overseas Development Group แทน<ref>{{cite web|title=Jeffery Deaver|url=http://www.ianfleming.com/pages/content/index.asp?PageID=268|work=The Books|publisher=Ian Fleming Publications|accessdate=3 November 2011}}</ref>
 
==== พยัคฆ์ร้ายวัยทีน ====