ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าฌูเอาที่ 6 แห่งโปรตุเกส"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Novaskosia (คุย | ส่วนร่วม)
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่คำผ่านการค้นหา: 'ทรงโปรด'→'โปรด'
บรรทัด 120:
เมื่อทรงพระเยาว์ขณะทรงดำรงเป็นเจ้าชายฌูเอา พระองค์มีพระบุคลิกภาพที่แตกต่างออกไป ทรงศรัทธาในศาสนาอย่างแรงกล้า ทรงดำรงพระชนม์ชีพท่ามกลางบาทหลวงและเข้าร่วมพิธีมิสซาในโบสถ์ประจำวัน อย่างไรก็ตาม [[โอลิเวียรา ลิมา]]ได้ยืนยันว่าทรงค่อนข้างแสดงพระองค์ศรัทธาในศาสนาอย่างแรงกล้า สิ่งนี้ได้สะท้อนให้เก็นถึงวัฒนธรรมโปรตุเกสในยุคสมัยนั้นเพียงเท่านั้น และพระมหากษัตริย์... {{quote|....ทรงเข้าพระทัยในศาสนา ด้วยส่วนประกอบของขนบธรรมเนียมประเพณีและระเบียบวินัยทางศีลธรรม เท่านั้นสามารถเป็นประโยชน์สำหรับรัฐบาลที่ดีในรูปแบบ, การปกครองแบบบิดาและลักษณะเฉพาะของพระองค์ เพื่อราษฎรที่ซึ่งถูกปกครองสืบต่อด้วยพระราชอำนาจ เนื่องมาจากสิ่งนี้ พระองค์ทรงเป็นอย่างซ้ำ ๆ ในฐานะแขกของคณะสงฆ์และทรงอุปถัมภ์นักประพันธ์[[เพลงศาสนา]] แต่ก็มิได้ทรงถูกอธิบายว่าเป็นคนเจ้าสำราญและมีรสนิยมมีการยอมรับในอิสระของพระองค์ทางความคิดหรือทรงผิดธรรมชาติในการอดทนกับความกังขาของบุคคลอื่น ...พระองค์มักสร้างโรงครัวจำนวนมากในพระอารามและห้องสวดมนต์ เพราะว่า (ในเวลาต่อมา) เกี่ยวกับการปฏิบัติกิจทางศาสนาและใน(ก่อนหน้านี้)การคำนึงถึงศาสตร์ในการทำอาหาร และในระยะเวลาของการปฏิบัติกิจทางศาสนาทรงเน้นการปฏิบัติที่เพียงพอสำหรับพระองค์เอง ในห้องสวดมนต์หลวง พระองค์ทรงพอพระทัยอย่างยิ่งด้วยสติสัมปชัญญะจากนั้นทรงสวดมนต์ด้วยจิตวิญญาณ:'' andantes'' ทรงประทับนั่งสมาธิ<ref name="Lima">'''...compreendia que a Igreja, com seu corpo de tradições e sua disciplina moral, só lhe podia ser útil para o bom governo a seu modo, paternal e exclusivo, de populações cujo domínio herdara com o cetro. Por isso foi repetidamente hóspede de frades e mecenas de compositores sacros, sem que nessas manifestações epicuristas ou artísticas se comprometesse seu livre pensar ou se desnaturasse sua tolerância cética.... Aprazia-lhe o refeitório mais do que o capítulo do mosteiro, porque neste se tratava de observância e naquele se cogitava de gastronomia, e para observância lhe bastava a da pragmática. Na Capela Real mais gozava com os sentidos do que rezava com o espírito: os andantes substituíam as meditações.'' [http://www.consciencia.org/el-rei-d.joao-vi-no-brasil-oliveira-lima Lima, Oliveira. cap. XXIV]</ref>}}
 
พระองค์ทรงให้คุณค่ากับบทเพลงทางศาสนาอย่างมากและทรงเป็นนักอ่านที่ยอดเยี่ยมในงานทางศิลปะแต่พระองค์ไม่ทรงโปรดกิจกรรมการออกกำลังกายอย่างมาก พระองค์ทรงทุกข์ทรมานจาก[[ภาวะซึมเศร้า]]อย่างรุนแรงเป็นครั้งคราว<ref name=Gomes-152-157>Gomes, pp. 152–157</ref> ซึ่งอาจจะทรงได้รับพันธุกรรมโรคนี้มาจากพระมารดาหรือพระอัยกา ทรงเกลียดชังในการเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวันรวมทั้งฉลองพระองค์ พระองค์ทรงฉลองพระองค์ตัวเดียวจนกระทั่งขาด ทรงบังคับให้มหาดเล็กในวังของพระองค์เย็บฉลองพระองค์ตัวนั้นในตอนที่ทรงสวมอยู่ขณะที่บรรทม พระองค์ทรงทรมานจากพระอาการตื่นตกใจอย่างรุนแรงเมื่อทรงได้ยินเสียงฟ้าร้อง โดยทรงประทับแต่ในห้องด้วยหน้าต่างที่ถูกปิดและทรงไม่ต้อนรับผู้ใด<ref>Gomes, pp. 157–158</ref>
 
ชีวิตการอภิเษกสมรสของพระองค์ถือเป็นคู่ที่ไม่มีความสุข ได้มีข่าวลือแพร่กระจายว่าเมื่อมีพระชนมายุ 25 พรรษา พระองค์ทรงตกหลุมรักยูจีเนีย ฌูเซ เดอ เมเนเซส หญิงชาวสเปนผู้ติดตามพระมเหสีของพระองค์ เธอได้ตั้งครรภ์และมีการสงสัยว่าพระองค์ทรงเป็นบิดาของบุตรในครรภ์ กรณีนี้ถูกทำให้เงียบและหญิงสาวถูกส่งตัวกลับสเปนที่ได้ให้กำเนิดบุตร เธอได้ให้กำเนิดบุตรสาว ซึ่งไม่มีหลักฐานปรากฏชื่อของเธอ ยูจีเนียดำรงชีวิตอย่างสงบในสำนักชีและพระองค์ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เธอเสมอมา นักประวัติศาสตร์ โทเบียส มอนเตย์โรและแพทริค วิลค์เคนได้บันทึกเป็นสัญญาณว่า พระเจ้าฌูเอามีพระบุคลิกไปในทางความสัมพันธ์แบบ[[รักร่วมเพศ]]ได้นำมาซึ่งหายนะในชีวิตสมรสของพระองค์ ที่ซึ่งทรงประทับห่างจากพระมเหสีโดยมักทรงปรากฏพระองค์ร่วมกันในงานพระราชพิธีสำคัญ คู่รักของพระองค์ในความสัมพันธ์ครั้งนี้เป็นคนรับใช้คนโปรดของพระองค์ [[ฟรานซิสโก เดอ เซาซา โลบาโต]] ผู้ซึ่งตามบันทึกของนักประวัติศาสตร์ โดยปกติเขามักจะมีหน้าที่[[การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง|สำเร็จความใคร่]]ให้กับเจ้านาย ในขณะที่อาจจะได้รับการปองร้ายทีเดียว บาทหลวงนามว่า มีเกล ได้พบกับฉากนั้นโดยบังเอิญและเป็นผลให้บาทหลวงถูกส่งตัวไปยัง[[แองโกลา]]แต่ก็ไม่ได้เขียนบันทึกคำให้การก่อนที่จะออกไป โดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริงและความไม่ถูกต้องของการเรียกร้อง รูฟิโน เดอ เซาซาได้รับเกียรติยศมากมาย ซ้อนท่ามกลางข้อครหาในที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์ เขาได้เป็นเลขาธิการแห่ง[[คาซา โด อินเฟนตาโด]], เลขาธิการสำนักคุณธรรมและอำนวยการ (Mesa de Consciência e Ordens) และเป็นผู้ว่าการป้อมปราการซานตา ครูซ และได้รับพระอิศริยยศชั้น [[บารอน]]และหลังจากนั้นเป็น[[ไวส์เคานท์แห่งวิลลา โนวา ดา ไรน์ฮา]]<ref name=Gomes-152-157/>
 
ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัยและฉุกเฉินของรีโอเดจาเนโรที่ประทับส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์เป็นอย่างง่าย ๆ ในทางกลับกันกับพระญาติที่แยกตัวโดดเดี่ยวในโปรตุเกส พระองค์ทรงกลายเป็นผู้กระตือรืนร้นทางร่างกายมากขึ้นและมีความสนพระทัยในธรรมชาติ พระองค์ทรงย้ายบ่อย ๆ ระหว่างปาโค เดอ เซา กริสโตบาวและวังอุปราชในเมือง ทรงพำนักบางครั้งที่[[เกาะปาเควตา]], [[เกาะโกเวอร์นาดอร์]] ที่พราเอีย แกรนเดอ(ชายหาดที่[[นิเตรอย]]) และที่[[พระตำหนักหลวงแห่งซานตา ครูซ]] พระองค์เสด็จออกล่าสัตว์และบรรทมอย่างมีความสุขในเต้นหรือภายใต้ต้นไม้ พระองค์ทรงโปรดชนบททั้ง ๆ ที่มีบึงแห่งยุงชุมและแมลงอื่น ๆ และความร้อนในป่าเขตร้อนที่ไหม้เกรียมที่ซึ่งเป็นสภาพที่ชาวโปรตุเกสและชาวต่างชาติส่วนใหญ่เกลียดมาก<ref>Martins, Ismênia de Lima. "Dom João – Príncipe Regente e Rei – um soberano e muitas controvérsias". In: ''Revista Navigator'', nº 11, p. 39. In Portuguese.</ref>
 
==พระราชมรดก==