ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โบสถ์คริสต์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาด
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาด
บรรทัด 1:
{{ลิงก์ไปภาษาอื่น}}
{{ใช้ปีคศ|width = 300px}}
[[ไฟล์:Ettal abbey 001.JPG|thumb|300px|[[อารามเอททัล]]]]
[[ไฟล์:Monteu roero st nicolao 01.jpg|thumb|220px|โบสถ์แบบฟื้นฟูคลาสสิกเซนต์นิโคโลที่เมืองมองทู โรโร ประเทศอิตาลี]]
บรรทัด 15:
 
== บาซิลิกา ==
: ''ดูบทความหลักที่ [[บาซิลิกา]]''
"[[บาซิลิกา]]" หรือ "มหาวิหาร" มาจากคำว่า “Basiliké Stoà” ใน[[ภาษาละติน]] ที่แปลว่า “สิ่งก่อสร้างแบบบาซิลิกา” เดิมเป็นคำที่หมายถึงสิ่งก่อสร้างสาธารณะแบบ[[สถาปัตยกรรมโรมันโบราณ|สถาปัตยกรรมโรมัน]]ลักษณะหนึ่ง เช่นเดียวกับศาลของ[[ประเทศกรีซ|กรีซ]] ซึ่งมักจะตั้งอยู่ในเมืองโรมัน ในเมืองกรีซบาซิลิกาเริ่มปรากฏราว 2 ศตวรรษก่อนคริสต์ศาสนา หลังจาก[[จักรวรรดิโรมัน]]หันมานับถือศาสนาคริสต์ ความหมายของคำก็ขยายไปคลุมโบสถ์ใหญ่และสำคัญที่ได้รับแต่งตั้งโดย[[พระสันตะปาปา]] ฉะนั้นในปัจจุบันคำว่า “บาซิลิกา” จึงมีความหมายทั้งทางสถาปัตยกรรมและศาสนา
 
== อาสนวิหาร ==
: ''ดูบทความหลักที่ [[อาสนวิหาร]]''
"[[อาสนวิหาร]]" ({{lang-en|Cathedral}}) คือศาสนสถานของ[[คริสต์ศาสนา]] เป็นทีตั้งของ “[[คาเทดรา]]” (บัลลังก์ของมุขนายก) เป็นสถานที่ทางศาสนาที่ใช้ใน[[การนมัสการ]]พระเจ้า (โดยเฉพาะสำหรับคริสตจักรที่มี[[การจัดระเบียบองค์การแบบอิปิสโคปัล]] เช่น [[โรมันคาทอลิก]] [[ออร์ทอดอกซ์]] [[แองกลิคัน]] และ[[ลูเทอแรน]]) มหาวิหารจะเป็นโบสถ์ที่เป็นที่ตั้งบัลลังก์ของ[[มุขนายก]] ที่ใช้เป็นศูนย์กลางของ[[เขตมิสซัง]]ที่อยู่ภายใต้การปกครองของ[[มุขนายก]]ที่กำหนดไว้<ref>New Standard Encyclopedia, 1992 by Standard Educational Corporation, Chicago, Illinois; page B-262c</ref>
 
== โบสถ์ ==
"โบสถ์"<ref name="รายงานการศาสนา ประจำปี ๒๕๔๓">กรมการศาสนา, ''รายงานการศาสนา ประจำปี ๒๕๔๓'', กรมการศาสนา, 2543, หน้า 195</ref><ref name="พจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากล อังกฤษ-ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน">ราชบัณฑิตยสถาน, ''พจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากล อังกฤษ-ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน'', ราชบัณฑิตยสถาน, 2548, หน้า 183, 236</ref> เป็นคำที่ใช้เรียกคริสต์ศาสนสถานโดยรวม ๆ ทั้งหมด หรือคริสต์ศาสนสถานที่มิได้เป็นแบบใดแบบหนึ่งที่อธิบายในบทความนี้ เช่น [[โบสถ์ประจำเขตแพริช]]
:* '''Collegiate church''' ภาษาไทยเรียกว่า '''โบสถ์ดคอลเลจิเอท'''. '''โบสถ์คอลเลจิเอท''' คือโบสถ์ที่ปกครองโดยกลุ่มนักบวชที่เรียกว่าแคนัน (Canon) หรือ “Prebendary” ซึ่งมี “Dean” หรือ “Provost” เป็นประมุข การปกครองของโบสถ์แบบคอลเลจิเอทจะคล้ายคลึงกับการปกครองของมหาวิหารเพียงแต่โบสถ์คอลเลจิเอทไม่มีบาทหลวงประจำเท่านั้น
:* [[โบสถ์ประจำเขตแพริช]] หรือ '''โบสถ์ประจำท้องถิ่น''' (เมื่อเป็นคำอธิบาย). '''โบสถ์ประจำเขตแพริช''' คือโบสถ์ที่เป็นศูนย์กลางของ[[เขตแพริช]] มักจะใช้กับโบสถ์ในชนบท เช่น “Parish church of St. Mary” ก็จะเรียกเพียง “โบสถ์เซนต์แมรี”
 
== โบสถ์น้อย ==
: ''ดูบทความหลักที่ [[โบสถ์น้อย]]''
"[[โบสถ์น้อย]]" หรือ "ชาเปล" คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มักจะมีขนาดเล็กแต่บางครั้งก็ใหญ่ ที่อาจจะสร้างเป็นอิสระจากสิ่งก่อสร้างอื่นๆ หรือเป็นส่วนหนึ่งของอาคารที่ใหญ่กว่าเช่น โบสถ์ใหญ่ ๆ วัง วิทยาลัย โรงพยาบาล คุก หรือสุสาน บางครั้งชาเปลที่สร้างในมหาวิหารจะสร้างเพื่อจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นพิเศษ เช่น “ชาเปลพระแม่มารี” ที่มักจะสร้างเป็นชาเปลที่อยู่ทางตะวันออกสุดของตัวโบสถ์ หรือ “โบสถ์[[ศีลศักดิ์สิทธิ์]]” ที่ตั้งติดกับตัวโบสถ์และใช้เป็นที่เก็บ[[ไวน์]] และขนมปังที่ใช้ในพิธี[[ศีลมหาสนิท]] ถ้าชาเปลมีขนาดค่อนข้างเล็กที่สร้างเป็นคูหาภายในทางด้านข้างหรือทางด้านหลังของมหาวิหารหรือโบสถ์ก็อาจจะเรียกว่า “คูหาสวดมนต์”
:* '''Chantry chapel''' ภาษาไทยใช้ '''ชาเปลสวดมนต์''' หรือ '''ชาเปลแชนทรี'''. '''ชาเปลสวดมนต์''' เป็นศาสนสถานที่ที่ผู้สร้างจะเป็นผู้มีอันจะกินหรือเป็นบาทหลวงที่อุทิศเงินให้สร้างชาเปลส่วนตัว ชาเปลชนิดนี้ที่เป็นสมบัติของผู้สร้าง การสร้างจะสร้างในตัวมหาวิหารหรือโบสถ์ใหญ่ๆ และใช้เป็นที่ที่ให้นักบวชมาสวดมนต์ให้ผู้สร้างหลังจากที่เสียชีวิตไปแล้ว ชาเปลลักษณะนี้มักจะสร้างในขณะที่ผู้อุทิศเงินยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นห้องแคบๆ เล็กๆ ภายในบางทีจะเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์ของผู้ตาย มีประตูทางเข้าทางหนึ่งออกทางหนึ่งเพื่อให้ผู้สวดมนต์เดินเข้าออก การสร้างก็พยายามให้ใกล้แท่นบูชาเอกที่สุดเท่าที่กำลังทรัพย์จะอำนวย “Chantry chapel” มาจากภาษาละตินว่า “Cantaria” ซึ่งแปลว่า “ใบอนุญาตให้สวดมนต์” ภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า “chapellenie”
:* '''โบสถ์น้อยแม่พระ''' หรือ '''เลดีชาเปล'''. “ชาเปลแม่พระ” มักจะเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิหารหรือโบสถ์ใหญ่ๆ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของตัวโบสถ์และอุทิศให้[[พระนางมารีย์พรหมจารี]] และมักจะเป็นชาเปลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโบสถ์
:* '''Side chapel''' ภาษาไทยใช้ '''คูหาสวดมนต์'''. '''คูหาสวดมนต์''' คือบริเวณภายในอาสนวิหารหรือโบสถ์ใหญ่ ๆ ที่อุทิศให้เป็นบริเวณแยกจากส่วนกลางซึ่งอาจจะใช้เป็นทำพิธีย่อยหรือสวดมนต์วิปัสนาเป็นการส่วนตัว ที่ตั้งอาจจะเป็นมุขยื่นออกไปจากสองข้างทางเดินข้าง หรือรอบมุขด้านตะวันออก หรือบางครั้งก็ยื่นออกไปจากแขนกางเขน
:* "โบสถ์น้อนริมทาง" คือเป็นศาสนสถานที่ใช้เป็นที่สักการะของคริสต์ศาสนิกชนที่มีขนาดเล็กและมักจะตั้งอยู่ในชนบท
 
== อาราม ==
ภาษาไทยใช้เรียกว่า '''[[อาราม]]''' หมายถึงสถานที่ที่[[นักพรต]]หรือ[[นักพรตหญิง]]มาอยู่ร่วมกันเป็นชุมชน และถือวินัยเดียวกัน สิ่งก่อสร้างมักจะประกอบอาคารสถานหลายอาคารที่จะมีโบสถ์ใหญ่เป็นหลัก นักพรตที่เป็นหัวหน้าอารามเรียกว่าอธิการ (หากเป็นเพศหญิงเรียกว่าอธิการิณี)
:* "[[แอบบีย์]]" มาจาก[[ภาษาละติน]] “abbatia” ซึ่งมาจากคำว่า “abba” ในภาษาซีเรียคที่แปลว่า “คุณพ่อ” เป็น[[อาราม]]หรือ[[คอนแวนต์]]ชนิดหนึ่งในนิกายโรมันคาทอลิก ที่ปกครองโดย[[อธิการอาราม]] หรืออธิการิณีอาราม (Abbess) ซึ่งเปรียบเหมือนพ่อแม่ผู้เป็นผู้นำทางความศรัทธาของชุมชนที่อยู่ใต้การนำสำนัก “แอบบีย์”
:* "[[คอนแวนต์]]" คืออารามของ[[นักพรต]] [[นักพรตหญิง]] [[ภราดาฆราวาส]] หรือ[[ภคินี]] ในนิกาย[[โรมันคาทอลิก]]และ[[แองกลิคัน]] แต่ความหมายในปัจจุบันมักจะจำกัดว่าเป็นอารามของภคินีเท่านั้น ขณะที่คำว่า “monastery” ใช้สำหรับนักบวชผู้ชาย แต่ในประวัติศาสตร์สองคำนี้ใช้เปลี่ยนกันได้
:* "[[อาศรม]]" หรือ '''เฮอร์มิเทจ''' ในปัจจุบัน '''เฮอร์มิเทจ''' จะหมายถึงสถานที่อยู่ของนักบวชที่ใช้ชีวิตอย่างสันโดษ เฮอร์มิเทจมักจะใช้กับผู้ตั้งถิ่นฐานอยู่ด้วยกันอย่างสันโดษไกลจากตัวเมืองหรือหมู่บ้าน เฮอร์มิเทจเป็นคริสต์ศาสนสถานอย่างหนึ่งของอาราม
:* "[[มินสเตอร์]]" แต่เดิมเป็นคำที่ใช้เรียกอาราม หรือสาขาซึ่งปกครองโดยนักบวชนักพรตมิใช่[[บาทหลวง]] แต่ในปัจจุบันหมายถึงโบสถ์ที่เคยเป็นอารามมาก่อนหรือโบสถ์ใหญ่
:* '''อารามนักพรตหญิง''' คือสำนักชีทางคริสต์ศาสนาหรือคอนแวนต์ ที่ปกครองโดยอธิการิณี (Abbess) ซึ่งเปรียบเหมือนแม่ผู้เป็นผู้นำทางความศรัทธาของชุมชนที่อยู่ใต้การนำสำนัก “อาราม”
:* "[[ไพรออรี]]" เป็นอารามทางคริสต์ศาสนา ที่ปกครองโดย “[[ไพรเออร์]]” ซึ่งเป็นตำแหน่งต่ำกว่าอธิการอาราม (abbot)
 
== โบสถ์แม่ ==
: ''ดูบทความหลักที่ [[โบสถ์แม่]]''
"[[โบสถ์แม่]]" อาจจะเป็นตำแหน่งที่แสดงลำดับความสำคัญของโบสถ์ เช่น “[[มหาวิหารนักบุญยอห์น ลาเตรัน]]” ซึ่งถือเป็นโบสถ์แม่ของคริสตจักรโรมันคาทอลิก หรืออาสนวิหารประจำมุขมณฑลก็ถือว่าเป็น “โบสถ์แม่” ของมุขมณฑลนั้น ๆ คำนี้มักจะใช้กับโบสถ์ในนิกายคาทอลิกหรือแองกลิคันและจะไม่ค่อยใช้กันในนิกาย[[โปรเตสแตนต์]] ยกเว้น “First Church of Christ” ที่ [[บอสตัน]] ใน[[รัฐแมสซาชูเซตส์]]ที่มักจะเรียกกันว่า “โบสถ์แม่”
 
== ออราทอรี ==
บรรทัด 52:
 
== ออสซัวรี ==
"ออสซัวรี" ({{lang-en|Ossuary}}) '''โบสถ์บรรจุกระดูก''' หรือ '''ชาเปลบรรจุกระดูก'''. '''โบสถ์บรรจุกระดูก''' เป็นสถานที่ที่ใช้เก็บกระดูก[http://en.wikipedia.org/wiki/ภาพ:Bonehouse1.jpg]
 
== อนุสาวรีย์ตรีเอกภาพและอนุสาวรีย์พระแม่มารีย์ ==
ภาษาไทยใช้ '''อนุสาวรีย์ตรีเอกภาพ''' หรือ '''อนุสาวรีย์พระแม่มารีย์'''. '''อนุสาวรีย์ตรีเอกภาพ''' เป็นอนุสาวรีย์ทางศาสนาสร้างเพื่ออุทิศแก่[[พระนางมารีย์พรหมจารี]]หรือพระ[[ตรีเอกภาพ]]เพื่อแสดงความขอบคุณที่[[แบล็กเดท]]หยุดลงหรือในกรณีอื่น ๆ การสร้างอนุสาวรีย์ตรีพระแม่มารีย์มีความนิยมกันระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 17 ถึง 18 และเป็นส่วนหนึ่งของ[[สถาปัตยกรรมบาโรก]] ตัวอนุสาวรีย์มักตั้งอยู่กลางเมือง
 
== สักการสถาน ==
: ''ดูบทความหลักที่ [[ศาลเจ้า]]''
"สักการสถาน" ({{lang-en|shrine}}) มาจากภาษาละติน “scrinium” ซึ่งแปลว่า “กล่อง” หรือโต๊ะเขียนหนังสือ ในสมัยแรกหมายถึงกล่องที่ทำด้วยอัญมณีมีค่าเป็นที่เก็บ [[เรลิก]] หรือ[[รูปเคารพ]]ต่าง ๆ ต่อมาความหมายก็ขยายเพิ่มโดยรวมถึงสถานที่ที่เป็นที่เก็บเรลิกหรือที่ฝังศพที่อุทิศให้กับวีรบุรุษ มรณสักขี นักบุญ หรือบุคคลที่เป็นที่นับถือ
 
== หอล้างบาป ==
: ''ดูบทความหลักที่ [[หอล้างบาป]]''
"[[หอล้างบาป]]" เป็นอาคารที่สร้างเป็นอิสระจากสิ่งก่อสร้างอื่นโดยมี[[อ่างล้างบาป]]เป็นศูนย์กลาง หอศีลจุ่มอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของโบสถ์หรือ[[อาสนวิหาร]]ซึ่งมีแท่นบูชาและคูหาสวดมนต์ โบสถ์ใน[[ศาสนาคริสต์ยุคแรก]]จะเป็นสถานสำหรับเรียนรู้เรื่องศาสนาก่อนจะรับบัพติศมา และเป็นที่ทำ[[พิธีบัพติศมา]]ด้วย
 
== อ้างอิง ==