ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระมหากัสสปะ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
→‎ดูเพิ่ม: * [http://www1.mod.go.th/heritage/religion/priest/priest4.html ตำนาน เรื่อง พระมหากัสสปะ กับ พระเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ...
Octahedron80 (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาด ลบลิงก์ไม่เกี่ยวข้อง
บรรทัด 2:
| name = พระมหากัสสปะ
| img = Mahakashyapa.JPG
| img_size =
| img_capt = ภาพวาดพระมหากัสสปะ ตามคติมหายานฝ่ายจีนนิกาย
| ชื่อเดิม =
บรรทัด 10:
| วันเกิด =
| วันประสูติ =
| สถานที่เกิด =
| สถานที่ประสูติ = มหาติตถะ [[เมืองราชคฤห์]] [[แคว้นมคธ]]
| สถานที่บวช = [[ต้นไทร]]พหุปุตตนิโครธ ระหว่าง[[เมืองราชคฤห์]] กับ[[นาลันทา]]
| วิธีบวช = [[ธรรมทายาท]]
| สถานที่บรรลุธรรม = [[ป่า]]
| ตำแหน่ง =
| เอตทัคคะ = ผู้มีธุดงค์มาก
| อาจารย์ = [[พระโคตมพุทธเจ้า]]
| ลูกศิษย์ =
| เสียชีวิต =
| นิพพาน =
| สถานที่เสียชีวิต =
| สถานที่นิพพาน = [[ภุเขากุกกุฏสัมปาตบรรพต]]
| ชาวเมือง =
| นามบิดา =
| นามพระบิดา =
| นามพระราชบิดา = [[กปิลพราหมณ์]]
| นามมารดา =
| นามพระมารดา =
| นามพระราชมารดา = [[สุมนเทวีพราหมณี]]
| วรรณะเดิม = [[พราหมณ์]]
| ราชวงศ์ =
| การศึกษา = จบ[[ไตรเพท]]
| อาชีพ =
| ชื่อสถานที่ = ประตูถ้ำสัตตบรรณคูหาข้างภูเขาเวภาระ [[เมืองราชคฤห์]] [[แคว้นมคธ]] สถานที่ทำสังคายนาครั้งแรก
| หมายเหตุ =
}}
'''พระมหากัสสปะ''' เป็นพระสาวกองค์หนึ่งของ[[พระโคตมพุทธเจ้า]] เป็นพระที่รวบรวมพระธรรมหลักคำสอนเพื่อบันทึกไว้เป็นหมวดหมู่ เรียกว่าการสังคายนา[[พระไตรปิฎก]]เป็นครั้งแรก เป็นพระสาวกที่ยกย่อง และถือเป็นแบบอย่างใน[[พุทธศาสนา]] ได้รับยกย่องเป็น[[เอตทัคคะ]]ในด้าน '''ผู้มีธุดงค์มาก'''
 
== พระราชประวัติ ==
'''พระมหากัสสปะ''' มีพระนามเดิมว่า '''ปิปผลิ''' เป็นพระราชโอรสของ[[กปิลพราหมณ์]] และ[[สุมนเทวีพราหมณี]] ประสูติที่เมืองราชคฤห์ ตอนวัยเด็ก ขณะที่ปิปผลิกุมารได้วิ่งเล่นออกจากพระราชวังนั้น ได้เห็น[[ภิกษุ]]รูปหนึ่ง กำลังทำ[[สมาธิ]] จึงเกิดความเลื่อมใส คิดอยากจะออกบวชในวัยหนุ่ม เมื่ออายุเข้าย่างสู่ 20 ปี ทรงมีพระมเหสี มีพระนามว่า[[ภัททกาปิลานี]] อาศัยอยู่ใน[[เมืองสาคละ]] [[แคว้นมัททะ]] ซึ่งมีพราหมณ์คนหนึ่งตามมาขอพระราชธิดา และทั้งก็ได้แต่งงานกันอย่างสมเกียรติ และหลังจากแต่งงาน [[นางภัททกาปิลานี]]ก็ได้มาอยู่ที่บ้านของปิปผลิภาณพ ครั้งที่พระราชโอรส และพระราชธิดากำลังเสด็จประพาสอุทยานก็เห็นถึง[[สัตว์]]กิน[[อาหาร]] และได้นึกถึง[[สังขาร]]จึงออกบวชด้วยกันทั้งคู่ แต่ทั้งสองก็ได้ตกลงว่าต้องแยกกันแล้ว เพราะเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ปิปผลิได้ออกบวชใน[[พุทธศาสนา]] ระหว่าง[[เมืองราชคฤห์]] กับ[[นาลันทา]] (บ้านเกิด[[พระสารีบุตร]])
 
== การทำสังคายนา ==
{{บทความหลัก|ปฐมสังคายนา}}
=== สังคายนาในสังขาร ===
==== ครั้งที่ 1 ====
[[ไฟล์:Sattapanni.jpg|thumb|left|[[ถ้ำสัตบรรณคูหา]] สถานที่ทำสังคายนาครั้งแรก ]]
พระมหากัสสปเถระได้ทราบข่าวปรินิพพานของพระพุทธเจ้า เมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้วได้ 7 วัน ขณะที่ท่านกำลังเดินทางอยู่ ณ เมืองปาวาพร้อมด้วยหมู่ศิษย์จำนวนมาก เมื่อได้ทราบข่าวนั้น เหล่าศิษย์ของ[[พระมหากัสสปะ]]ซึ่งยังเป็นปุถุชนอยู่ ได้ร้องไห้คร่ำครวญกัน ณ ที่นั้น จึงมีพระภิกษุบวชเมื่อแก่องค์หนึ่ง ชื่อว่า'''สุภัททะ''' ได้กล่าวขึ้นว่า "หยุดเถิด หยุดเถิด ท่านอย่าร่ำไรไปเลย พระสมณะ นั้นพ้น (ปรินิพพาน) แล้ว เราจะทำอะไรก็ได้ตามพอใจ ไม่ต้อง เกรงบัญชาใคร" พระมหากัสสปะได้ฟังเช่นนั้น คิดจะทำนิคคหกรรม (ทำโทษ) แต่เห็นว่ายังมิควรก่อน และดำริขึ้นว่าพระพุทธเจ้าปรินิพพานเพียง 7 วัน ก็มีผู้คิดที่จะทำให้เกิดความแปรปรวน หรือประพฤติปฏิบัติให้วิปริตไปจากพระธรรมวินัยเช่นนี้ จึงควรจะทำการสังคายนาและจะชักชวนพระเถระผู้เป็นพระ[[อรหันต์]]ทั้งหลาย ซึ่งล้วนทันเห็นพระพุทธเจ้า ได้ฟังคำสอนของพระองค์มาโดยตรง เป็นผู้รู้คำสอนของพระพุทธเจ้า และได้อยู่ในหมู่สาวกที่เคยสนทนาตรวจสอบกันอยู่เสมอ รู้ว่าสิ่งใดที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ให้มาประชุมกัน เพื่อช่วยกันแสดง ถ่ายทอด รวบรวม ประมวลคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แล้วตกลงวางมติไว้ จากนั้นท่านจึงเดินทางไปยังเมือง[[กุสินารา]]เพื่อเป็นประธานในการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ ใช้เวลา 7 เดือน พระเจ้าอชาตศัตรู เป็นผู้อุปถัมภ์
 
การทำสังคายนาพระธรรมวิทัยครั้งที่ 1 จึงได้จัดขึ้นที่ถ้ำสัตบรรณคูหา [[เมืองราชคฤห์]] ตามคำปรารภของพระมหากัสสปะเถระ โดยมีพระเจ้าอชาตศัตรูเป็นองค์อุปถัมภ์ ใช้เวลาในการสังคายนารวบรวมพระธรรมวินัยอยู่ 7 เดือนจึงแล้วเสร็จ โดยในครั้งนั้น [[พระมหากัสสปะ]]เถระเป็นประธานทำสังคายนา [[พระอานนท์]]เป็นองค์วิสัชชนาแสดงพระธรรมวินัยในหมวด สุตตันตปิฎกและอภิธรรมปิฎก [[พระอุบาลี]] เป็นองค์วิสัชชนาพระวินัยปิฎก ซึ่งแนวการวางระเบียบพระธรรมวินัยในครั้งนั้นจัดเป็นรูปแบบที่เรียกว่า พระไตรปิฎก และยังคงมีการรักษาสิ่งที่ได้จัดรวบรวมในครั้งปฐมสังคายนาอยู่ในพระไตรปิฎกฉบับเถรวาทโดยไม่มีการปรับแก้มาจนปัจจุบัน
 
=== สังคายนานอกสังขาร ===
==== ครั้งที่ 2 ====
[[ไฟล์:Anandastupa.jpg|thumb|left|200px|เมืองเวสาลี สถานที่ทำทุติยสังคายนา]]
 
การทำสังคายนาครั้งที่สองเกิดขึ้นเมื่อ [[พ.ศ. 100|พ.ศ. 100]] ที่[[วาลิการาม]] [[เมืองเวสาลี]] [[แคว้นวัชชี]] ประเทศอินเดีย โดยมี[[พระยสะ กากัณฑกบุตร]] เป็นผู้ชักชวน [[พระเถระ]]ผู้ใหญ่ที่เข้าร่วมทำสังคายนาครั้งนี้ได้แก่ [[พระสัพพกามี]] [[พระสาฬหะ]] [[พระขุชชโสภิตะ]] [[พระวาสภคามิกะ]] (ทั้งสี่รูปนี้เป็น[[ปาจีนกะ|ชาวปาจีนกะ]]) [[พระเรวตะ]] [[พระสัมภูตะ สาณวาสี]] [[พระยสะ กากัณฑกบุตร]] และ[[พระสุมนะ]] (ทั้งสี่รูปนี้เป็น[[ปาฐา|ชาวปาฐา]]) ในการนี้พระเรวตะทำหน้าที่เป็นประธานผู้คอยซักถาม และพระสัพพกามีเป็นผู้นำในการวิสัชนาข้อวินัย การทำสังคายนาครั้งนี้มีพระสงฆ์มาประชุมร่วมกัน 700 รูป ดำเนินการอยู่เป็นเวลา 8 เดือน จึงเสร็จสิ้น
 
ข้อปรารภในการทำสังคายนาครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อ พระยสะ กากัณฑกบุตร พบเห็นข้อปฏิบัติย่อหย่อน 10 ประการทางพระวินัยของภิกษุ[[วัชชีบุตร]] เช่น ควรเก็บเกลือไว้ใน[[เขาสัตว์]]เพื่อรับประทานได้ ควรฉันอาหารยามวิกาลได้ ควรรับเงินทองได้ เป็นต้น พระยสะ กากัณฑกบุตรจึงชวนพระเถระต่างๆ ให้ช่วยกันวินิจฉัย แก้ความถือผิดครั้งนี้
บรรทัด 61:
โดยรายละเอียดของปฐมสังคายนาและการสังคายนาครั้งที่สอง มีกล่าวถึงในพระวินัยปิฎก จุลลวรรค แม้ในวินัยปิฎกจะไม่กล่าวถึงคำว่าพระไตรปิฎกในการปฐมสังคายนาและการสังคายนาครั้งที่สองเลย แต่ใน[[สมันตัปปาสาทิกา]] ซึ่งเป็น[[อรรถกถา]]อธิบายวินัยปิฎกนั้น บอกว่าการจัดหมวดหมู่คำสอนของพระพุทธศาสนาให้เป็นรูปเป็นร่างอย่างพระไตรปิฎกนั้น มีมาตั้งแต่ครั้งปฐมสังคายนาแล้ว
 
==== ครั้งที่ 3 ====
{{Infobox Monarch
| สี = gold
| ภาพ =
| พระบรมนามาภิไธย = ปิปผลิ
| พระปรมาภิไธย =
| วันพระราชสมภพ =
| วันสวรรคต =
| พระอิสริยยศ = ตระกูลกษัตริย์แห่ง[[แคว้นมคธ|ราชวงศ์หารยังกะ]]
| พระราชบิดา = กปิลพราหมณ์
| พระราชมารดา = สุมนเทวีพราหมณี
| พระมเหสี = นางภัททกาปิลามี
| พระราชสวามี =
| พระราชโอรส/ธิดา =
| ราชวงศ์ = [[แคว้นมคธ|ราชวงศ์หารยังกะ]]
| ทรงราชย์ =
| พิธีบรมราชาภิเษก =
| ระยะเวลาครองราชย์ =
| รัชกาลก่อนหน้า =
| รัชกาลถัดมา =
|} }
[[ไฟล์:Mauryan Hall pillar.JPG|thumb|200px|left|1 ใน 80 เสาห้องโถงแห่งอโศการาม [[กรุงปาฏลีบุตร]] สถานที่ทำตติยสังคายนาของพระพุทธศาสนา]]
 
การทำสังคายนาครั้งที่สามเกิดขึ้นเมื่อ [[พ.ศ. 235|พ.ศ. 235]] ที่[[อโศการาม]] กรุง[[ปาฏลีบุตร]] ประเทศอินเดีย โดยมี[[พระโมคคลีบุตร ติสสเถระ]] เป็นประธาน การทำสังคายนาครั้งนี้มีพระสงฆ์มาประชุมร่วมกัน 1,000 รูป ดำเนินการอยู่เป็นเวลา 9 เดือน จึงเสร็จสิ้น
 
ข้อปรารภในการทำสังคายนาครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อ มีพวก[[เดียรถีย์]] หรือนักบวชศาสนาอื่นมาปลอมบวช แล้วแสดงลัทธิศาสนาและความเห็นของตนว่าเป็นพระพุทธศาสนา พระโมคคลีบุตร ติสสเถระ จึงได้ขอความอุปถัมภ์จาก[[พระเจ้าอโศกมหาราช]]สังคายนาพระธรรมวินัยเพื่อกำจัดความเห็นของพวกเดียรถีย์ออกไป
บรรทัด 90:
ในการทำสังคายนาครั้งนี้ พระโมคคลีบุตร ติสสเถระ ได้แต่ง[[คัมภีร์กถาวัตถุ]] ซึ่งเป็นคัมภีร์หนึ่งในพระอภิธรรมไว้ด้วย และเมื่อทำสังคายนาเสร็จแล้ว ก็มีการส่งคณะทูตไปประกาศพระพุทธศาสนาในประเทศต่างๆ ในที่นี้มี[[พระมหินทเถระ]] ผู้เป็นโอรสของพระเจ้าอโศกมหาราช ที่นำพระพุทธศานาไปประดิษฐานใน[[ประเทศศรีลังกา|ลังกา]] รวมทั้ง[[พระโสณะเถระ]]และ[[พระอุตตระเถระ]] ที่นำพระพุทธศาสนามาเผยแผ่ยังดินแดน[[สุวรรณภูมิ]]ด้วย
 
==== ครั้งที่ 4 ====
การทำสังคายนาครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ [[พ.ศ. 643|พ.ศ. 643]] ที่เมือง[[ชาลันธร]] แต่บางหลักฐานก็กล่าวว่าทำที่[[กัศมีร์]]หรือ[[แคชเมียร์]] การสังคายนาครั้งนี้มีลักษณะของ[[ศาสนาพราหมณ์]]และ[[มหายาน|พระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน]]เข้ามาผสม ทำให้ฝ่ายเถรวาทไม่นับว่าเป็นหนึ่งในการสังคายนาในการสังคายนาครั้งนี้มีพระภิกษุมา800รูปและใช้เวลา12เดือนทีเดียวและมีพระอับปาหัมเป็นประธาน
 
==== ครั้งที่ 5 ====
การทำสังคายนาครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 460 ที่[[อาโลกเลณสถาน]] [[มตเลชนบท]] ประเทศศรีลังกา โดยมี[[พระรักขิตมหาเถระ]]เป็นประธาน การทำสังคายนาครั้งนี้เพื่อต้องการจารึกพระพุทธวัจนะเป็นลายลักษณ์อักษรมีพระฤทธิ์เดชเป็นผู้ถามและมีพระรำเคนเป็นผู้ตอบและมีจำนวนพระภิกษุสงมา 1200 รูปใช้เวลาการสังคายนา 10 เดือน
 
== อ้างอิง ==
==ดูเพิ่ม==
* โอม รัชเวทย์. '''พระมหากัสสปะ ''' ฉบับการ์ตูนสี่สี. พิมพ์ครั้งที่ ๒ กรุงเทพฯ:เครืออมรินทร์,๒๕๕๒
 
== ดูเพิ่ม ==
* [[พระวิปัสสีพุทธเจ้า]] (พระชาติก่อนของพระเถระ)
* [[เอตทัคคะ]]
เส้น 102 ⟶ 105:
* [[การสังคายนาพระธรรมวินัยในพุทธศาสนา]]
 
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
* [http://www1.mod.go.th/heritage/religion/priest/priest4.html ตำนาน เรื่อง พระมหากัสสปะ กับ พระเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า]
* [http://nalanda-onthemove.blogspot.com/2012/04/aerial-photography-at-gurpa.html Aerial Photography at Gurpa (Kukkutapadagiri)] -[https://maps.google.com/maps?ll=24.547045,85.300426&spn=0.043253,0.054502&t=h&z=14&lci=com.panoramio.all maps.google]
 
==บรรณานุกรม==
* โอม รัชเวทย์. '''พระมหากัสสปะ ''' ฉบับการ์ตูนสี่สี. พิมพ์ครั้งที่ ๒ กรุงเทพฯ:เครืออมรินทร์,๒๕๕๒
 
{{เริ่มกล่อง}}
{{สืบตำแหน่ง
| สี1 = #E9E9E9
| สี3 = #E9E9E9
| ตำแหน่ง = ประธานการสังคายนาครั้งที่ 1
| ก่อนหน้า = —
| ถัดไป = [[พระเรวตะ]]<br /> <small>ประธานการสังคายนาครั้งที่ 2</small>
| ช่วงเวลา =
}}
{{จบกล่อง}}
 
{{เอตทัคบุคคล}}
{{บุคคลในพุทธประวัติ}}
{{บุคคลศักดิ์สิทธิ์ในคติพุทธศาสนาแบบจีน}}
[[หมวดหมู่:พระภิกษุสงฆ์]]