ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อารามอ็อทโทบ็อยเริน"

| ชื่อสิ่งก่อสร้าง = แอบบีอ็อตโตบิวเร็นอารามออทโทบอยเริน

| ชื่อภาษาอื่น = OttobeurenKloster AbbeyOttobeuren

| คำบรรยายภาพ = ด้านหน้าวัดอารามออกแบบโดย[[โยฮันน์ ไมเคิลมีชาเอล ฟิชเชอร์ฟีเชอร์]] (Johann Michael Fischer)

| ฐานะวัด = สำนักสงฆ์แอบบีย์

| แบบสถาปัตยกรรม = บาโรกรอก

| เมืองที่ตั้ง = อ็อตโตบิวเร็นออทโทบอยเริน

| ผู้สร้าง = นักบุญบุญราศีโทโท

| ผู้สร้าง2 = เจ้าอาวาสอธิการรูเปิร์ต เนส

| สถาปนิก = โยฮันน์ ไมเคิลมีชาเอล ฟิชเชอร์ฟีเชอร์ (ด้านหน้า)

| ตกแต่งภายใน = [[โยฮันน์ มิเคมีชาเอล ฟ็อยค์เมเยอร์ (ผู้ลูก)]]

'''แอบบีอ็อตโตบิวเร็นอารามออทโทบอยเริน''' (ภาษาอังกฤษ:{{lang-de|Kloster '''Ottobeuren Abbey'''}}) เดิมเป็น[[สำนักสงฆ์แอบบีย์]]ของ[[ลัทธิเบ็นนาดิคตินคณะเบเนดิกติน]] ที่ปัจจุบันเป็นตั้งอยู่ที่เมืองอ็อตโตบิวเร็นออทโทบอยเริน ในบริเวณ[[รัฐบาวาเรีย]] [[ประเทศเยอรมนี]]

แอบบีอ็อตโตบิวเร็น อารามออทโทบอยเรินก่อตั้งเมื่อขึ้นใน ค. ศ. 764 โดย[[บุญราศี|นักบุญราศี]]โทโท (Toto) อุทิศให้[[นักบุญเซนต์]]อเล็กซานเดอร์ผู้พลีชีพมรณสักขี (St. Alexander, the Martyr) หลักฐานทางประวัติศาสตร์มีเหลืออยู่เพียงว่านักบุญบุญราศีโทโทเป็นเจ้าอาวาส[[อธิการอาราม]]องค์แรกและเสียชีวิตเมื่อ ค. ศ. 815 และนักบุญอุริคลริช (St. Ulrich) เป็นเจ้าอาวาสอธิการอารามเมื่อ ค. ศ. 972 เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 11 วินัยทางวัดก็เสื่อมลงจนกระทั่งแอบบอตอดาลฮาลมอธิการอาดัลฮาล์ม (Abbot Adalhalm) มาเป็นเจ้าอาวาสอธิการอารามระหว่างปี ค.ศ. 1082 ถึงปี ค.ศ. 1094 ท่านก็เริ่ม “การปฏิรูปเฮอร์เชา”เฮียร์เซา” (Hirsau Reformation) นอกจากนั้นท่านก็ยังบูรณะปฏิสังขรณ์สิ่งก่อสร้างที่เสื่อมโทรมไปจนเสร็จ

เมื่ออธิการรูเปิร์ตเพิร์ท (Abbot Rupert I) มาเป็นเจ้าอาวาสอธิการอารามต่อมาระหว่างปี ค.ศ. 1102 ถึงปี ค.ศ. 1145 ท่านก็ได้เพิ่มอารามสำหรับชีนักพรตหญิงที่มาจากครอบครัวมีสกุล และสร้างแอบบีอารามมาเรียนเบิร์กรีนแบิร์ก (Marienberg Abbey) โดยเลือกพระนักพรตไปจากสำนักสงฆ์อ็อตโตบิวเร็นอารามออทโทบอยเรินไปประจำ

[[ไฟล์:Ottobeuren-basilika flickr-2.jpg|thumb|275px|left|การตกแต่งภายในแบบศิลปะ[[ศิลปะโรโคโค|โรโคโคโกโก]]]]

แอบบอตอิอธิการอิเซนกริม (Abbot Isengrim) เจ้าอาวาสอธิการองค์ต่อมา ระหว่างปี ค.ศ. 1145 ถึงปี ค.ศ. 1180 เขียน “Annales minores”<ref>[[:en:Monumenta Germaniae Historica|Monumenta Germaniae Historica]]: ''Scriptores'', XVII, 315 sq.</ref> และ “Annales majores”<ref>ibid., 312 sq.</ref>

นักบุญบุญราศีคอนราดแห่งอ็อตโตบิวเร็น (Blessed Conrad of Ottobeuren) ออทโทบอยเรินมาเป็นเจ้าอาวาสอธิการระหว่างปี ค.ศ. 1193 จนเมื่อสิ้นชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 1227 ซึ่งพระ[[ลัทธิเบ็นนาดิคติน|เบ็นเนดิคติน]]กล่าวนักพรตเบเนดิกตินกล่าวถึงท่านว่าเป็นผู้ "ที่รักทั้งพระของภราดาและคนยากจน" [http://www.saintpatrickdc.org/ss/0727.htm#conr]

เมื่อปี ค.ศ. 1153 และปี ค.ศ. 1217 สำนักสงฆ์อารามถูกไฟไหม้ เมื่อถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 และคริสต์ศตวรรษที่ 15 วัดอารามก็อยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมมาก จนเมื่อมาถึงสมัยเจ้าอาวาสอธิการโยฮันน์ เชดเลอร์ (Abbot Johann Schedler) ระหว่างปี ค.ศ. 1416 ถึงปี ค.ศ. 1443 สำนักสงฆ์อารามก็มีพระนักพรตเหลืออยู่เพียง 6 หรือ 8 องค์และรายได้ประจำปีก็ตกลงไปไม่เกิน 46 มาร์คเงิน (silver marks)

ภายใต้เจ้าอาวาสเลนนาร์ดเอธิการเลโฮนาร์ด วีเดอมันอมันน์ (Abbot Leonard Wiedemann) ระหว่างปี ค.ศ. 1508 ถึงปี ค.ศ. 1546 สำนักสงฆ์อารามก็เริ่มรุ่งเรืองขึ้นมาอีก ท่านก่อตั้งโรงพิมพ์และสถานศึกษาสำหรับพระเบ็นเนดิคตินในชวาเบียนักพรตเบเนดิกตินในชวาเบีย (Swabia) แต่ก็มาถูกปิดไม่นานหลังจากที่เปิดเพราะผลจาก “[[สงครามสามสิบปี]] ”

อ็อตโตบิวเร็นอารามออทโทบอยเรินได้รับการแต่งตั้งเป็น[[ราชสำนักสงฆ์อิมพีเรียลแอบบีย์]] ในปี ค. ศ. 1299 แต่ไปเสียตำแหน่งให้กับสังฆมลฑลอ็อกสเบิร์ก ไปเมื่อ[[สมเด็จพระสังฆราชบิชอปแห่งออกสเบิร์กเอาก์สบูร์ก]]ได้รับแต่งตั้งให้มาปกครองสำนักสงฆ์อารามในฐานะที่เรียกว่า “[[:en:Vogt|Vogt]]” แต่สิทธิเหล่านี้ก็มาถูกยกเลิกเมื่อตามคำสั่งศาลหลวง “[[:en:Reichskammergericht|Reichskammergericht]]” ในปี ค. ศ. 1624

อ็อตโตบิวเร็นอารามออทโทบอยเรินได้รับแต่งตั้งกลับไปเป็นวัดหลวงอารามหลวงตามเดิมเมื่อ ค. ศ. 1710 แต่ไม่ได้อยู่ใน[[กลุ่มชวาเบีย]] (Swabian Circle)

อ็อตโตบิวเร็นอารามออทโทบอยเรินมารุ่งเรืองที่สุดในสมัยที่รูเปิร์ตเพิร์ท เนสเนสส์ (Abbot Rupert Ness) มาเป็นเจ้าอาวาสอธิการระหว่างปี ค.ศ. 1710 ถึง ค. ศ. 1740 และรุ่งเรืองต่อมาจนมาถึงสมัย “[[การปฏิรูปสถาบันคริสต์ศาสนา|ปฏิรูป]]” เมื่อ ค. ศ. 1802 ระหว่างปี ค.ศ. 1711 ถึง ค. ศ. 1725 เจ้าอาวาสอธิการรูเปิร์ตเพิร์ทสร้างสำนักสงฆ์อารามที่เห็นกันในปัจจุบันซึ่งเป็นวัดอารามที่ใหญ่โตหรูหราจนเปรียบได้ว่าเป็น “มหาวิหารเอสโคเรียลแห่งชวาเบีย” (the Swabian Escorial) เมื่อ ค. ศ. 1737 ท่านก็ได้สร้างตัวโบสถ์ซึ่งมาเสร็จโดยเจ้าอาวาสอัลเซลมอธิการอัลเซล์ม เอิร์บแอร์บ (Abbot Anselm Erb) ซึ่งเป็นเจ้าองค์ต่อมาในปี ค.ศ. 1766 เมื่อปี ค.ศ. 1803 อ็อตโตบิวเร็นออทโทบอยเรินย้ายไปขึ้นอยู่กับบาวาเรีย ขณะนั้นอ็อตโตบิวเร็นออทโทบอยเรินมีประชากร 12,000 คนและเนื้อที่ 165 ตารางกิโลเมตร

เมื่อปีค. ศ. 1834 พระเจ้าหลุยส์แห่งบาวาเรียทรงตั้งอ็อตโตบิวเร็นเรียทรงตั้งอารามออทโทบอยเรินให้เป็นสำนักสงฆ์[[ลัทธิเบ็นนาดิคติน]]อารามเบเนดิกตินขึ้นอยู่กับแอบบีเซ็นต์สตีเฟนที่อ็อกสเบิร์กอารามเซนต์สตีเฟนที่เอาก์สบูร์ก (St. Stephen's Abbey) และได้รับเลื่อนให้เป็นสำนักสงฆ์อิสระเมื่อปีค. ศ. 1918

เมื่อปีค. ศ. 1910 อ็อตโตบิวเร็นประกอบด้วยสังฆมลฑล อารามออทโทบอยเรินมีโรงเรียน และโรงเรียนอาชีพสำหรับเด็กยากจน มีพระบาทหลวงด้วยกัน 5 องค์และ [[:en:Lay brother|Lay brother]]) ภราดาฆราวาสอีก 16 คนและ lay novice อีกโนวิซฆราวาสอีก 1 คน

* [[ศิลปะโรโคโคโกโก]]

* [http://commons.wikimedia.org/wiki/Basilika_Ottobeuren ภาพแอบบีอ็อตโตบิวเร็นอารามออทโทบอยเริน]

* [http://commons.wikimedia.org/wiki/Altars_in_the_Basilika_of_Ottobeuren ภาพแท่นเทศน์ต่างๆต่าง ๆ และรายละเอียดภายในแอบบีอ็อตโตบิวเร็นอารามออทโทบอยเริน]

* [http://www.abtei-ottobeuren.de/ แอบบีอ็อตโตบิวเร็นเว็ปไซท์อารามออทโทบอยเรินเว็ปไซท์] {{de icon}}

ไฟล์:Ottobeuren-001.JPG|'''[http://commons.wikimedia.org/wiki/Category:Facade_of_Ottobeuren ด้านหน้าวัดอาราม]'''

ไฟล์:BasilikaOttobeurenHauptschiff11.JPG|'''[http://commons.wikimedia.org/wiki/Category:Baptismal_font_in_Basilika_Ottobeuren อ่างศีลจุ่มล้างบาป]'''

{{เรียงลำดับ|อ็อตโตบิวเร็นออทโทบอยเริน}}