ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คาร์ล เทโอดอร์ ฟ็อน ดาลแบร์ค"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
HRoestBot (คุย | ส่วนร่วม)
r2.6.5) (โรบอต เพิ่ม: pt:Karl Theodor von Dalberg
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{ใช้ปีคศ|width=280px}}
{{กล่องข้อมูล ขุนนาง
| name = คาร์ล ทีเทโอดอร์ อันโทน ฟอน ดาลแบร์กดัลแบร์ก<br /><small>Karl Theodor Anton Maria<br />von Dalberg</small>
| image = KTDalberg.jpg
| caption =
| titles = ดยุคแห่งบาวาเรีย
| birth_date = [[8 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1744]]
| birth_place =
บรรทัด 17:
| wikilinks = [[:หมวดหมู่:นักการเมืองเยอรมัน|นักการเมืองเยอรมัน]]
}}
'''คาร์ล ทีโอดอร์ ฟอน ดาลแบร์ก''' หรือ '''คาร์ล ทีเทโอดอร์ อันทอนโทน มาเรีย ฟอน ดาลแบร์กดัลแบร์ก''' ({{lang-en|Karl Theodor Anton Maria von Dalberg}}) ([[8 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1744]] - [[10 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1817]]) มีตำแหน่งเป็น[[อาณาจักรอัครสังฆราชแห่งไมนซ์|อัครสังฆราชเลือกตั้งแห่งไมนซ์อาร์ชบิชอปแห่งไมนซ์]], [[พรินซ์อีเล็คเตอร์เจ้านครรัฐผู้คัดเลือก|อัครเสนาบดี]]แห่ง[[จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์]], [[ราชรัฐเรเกนสบวร์ก|เจ้าผู้ครอง[[ราชรัฐเรเกนสบวร์กเกนส์บูร์ก]], ประมุข[[เจ้าชายไพรเมต]]แห่ง[[สมาพันธรัฐแห่งลุ่มแม่น้ำไรน์]] และ [[อาณาจักรแกรนด์ดยุคแห่งฟรังเฟิร์ต|แกรนด์ดยุคดยุกแห่งฟรังเฟิร์ตแฟรงก์เฟิร์ต]]
 
== ประวัติ ==
คาร์ลเกิดที่แฮร์เร็นไฮม์เป็นบุตรของฟรันซ์ ไฮน์ริคเจ้าหน้าที่บริหารแห่ง[[เวิร์มส์,วอร์มส์ เยอรมนี|เวิร์มส์วอร์มส์]], หนึ่งในหัวหน้าคณะที่ปรึกษาผู้นำของ[[พรินซ์อีเล็คเตอร์|อีเล็คเตอร์เจ้านครรัฐผู้คัดเลือก]]แห่ง[[อาณาจักรอัครสังฆราชแห่งรัฐผู้คัดเลือกไมนซ์|ไมนซ์]] คาร์ลอุทิศตนเองให้แก่การศึกษา[[คริสต์ศานกฎบัตรกฎหมายศาสนจักร]]และเข้ารับ[[ศีลเป็นนักบวช;บวช]] หลังจากได้รับแต่งตั้งในปี ค.ศ. 1772 ให้เป็นข้าหลวงแห่ง[[แอร์เฟิร์ต]]คาร์ลก็ได้รับความก้าวหน้าเพิ่มขึ้นในรบการบริหาร; ในปี ค.ศ. 1787 ก็ได้รับเลือกให้เป็นผู้ช่วยผู้บริหารของพระสังฆราช[[มุขนายกรอง|โคแอดจูเตอร์บิชอป]]แห่งไมนซ์และ[[อาณาจักรสังฆราชแห่งเวิร์มส์ราชรัฐมุขนายกวอร์มส์|เวิร์มส์วอร์มส์]], ในพอถึงปี ค.ศ. 1788 ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็น[[อาณาจักรสังฆราชแห่งคอนสแตนซ์|สังฆราชบิชอปแห่งคอนสแตนซ์]]; และในปี ค.ศ. 1802 ได้เป็นอัครสังฆราชเลือกตั้งอาร์ชบิชอปผู้คัดเลือกแห่งไมนซ์ และ อัครเสนาบดีแห่งจักรวรรดิ
 
ในฐานะรัฐบุรุษคาร์ลเป็นนักการเมืองผู้มีความดีเด่นที่มาจากทัศนคติของความอุทิศตนเองไม่ว่าจะเป็นทางด้านศาสนาหรือความพยายามในการจัดระบบอันแตกแยกของจักรวรรดิให้เป็นระบบบริหารที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของรัฐบาลเยอรมัน เมื่อไม่สำเร็จคาร์ลก็หันไปหา[[นโปเลียน]]ผู้ที่กำลังรุ่งเรืองขึ้นมา โดยมีความเชื่อว่าได้พบรัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ผู้มีความปรีชาสามารถ ผู้มีความสามารถที่จะเป็นผู้นำผู้เดียวที่ผู้มีพลังพอที่จะช่วยให้เยอรมันรอดจากความหายนะ
 
ตาม[[สนธิสัญญาลูเนวิลล์]] ที่ลงนามกันในปี ค.ศ. 1801 ที่ระบุให้ดินแดนบนฝั่งซ้ายของแม่น้ำไรน์ทั้งหมดตกไปเป็นของฝรั่งเศส คาร์ลต้องสูญเสียเวิร์มส์,วอร์มส์ คอนสแตนซ์ และไมนซ์ แต่ยังคงปกครอง[[ราชรัฐอาสชาฟเฟ็นบวร์กชัฟเฟนบูร์ก|อาสชาฟเฟ็นบวร์กชัฟเฟนบูร์ก]] และในปี ค.ศ. 1803 ก็ได้รับนครรัฐอิสระ[[เว็ทซลาร์เวทซลาร์]] และ [[เรเกนสบวร์กเกนส์บูร์ก]] และดินแดนที่เป็นของ[[อาณาจักรสังฆราชบิชอปแห่งเรเกนสบวร์ก|สังฆราชแห่งเรเกนสบวร์กเกนส์บูร์ก]] เมื่อไมนซ์ถูกผนวกโดยฝรั่งเศสคาร์ลก็เขต[[อัครมุขมณฑล]]จึงถูกย้ายสังฆมณฑลไปยังเรเกนสบวร์กเกนส์บูร์ก ดินแดนทางตะวันตกของคาร์ลเรียกกันว่า[[ราชรัฐเรเกนสบวร์กเกนส์บูร์ก]]
 
ในปี ค.ศ. 1806 หลังจากการยุบตัวล่มสลายของ[[จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์]] คาร์ลและเจ้าผู้ครองนครองค์อื่นๆอื่น ๆ ก็รวมตัวกันเป็น[[สมาพันธรัฐแห่งลุ่มแม่น้ำไรน์]] คาร์ลลาออกจากการเป็นอัครเสนาบดีของจักรวรรดิในจดหมายถึง[[สมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ที่ฟรันซ์ที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์|สมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ที่ฟรันซ์ที่ 2]] และได้รับแต่งตั้งโดยนโปเลียนให้เป็น[[พรินซ์ไพรเมทเจ้าชายไพรเมต]]หรือประมุขของ[[สมาพันธรัฐแห่งลุ่มแม่น้ำไรน์]]
 
ในปี ค.ศ. 1806 [[รัฐสภา]]แห่ง[[นครรัฐอิสระฟรังเฟิร์ตเสรีนครแฟรงก์เฟิร์ต|ฟรังเฟิร์ตแฟรงก์เฟิร์ต]] ก็ได้รับการรวมเข้ามาเป็นดินแดนในการปกครองของคาร์ลหลังจาก[[สนธิสัญญาเชินบรุนน์]] (Treaty of Schönbrunn) จากนั้นคาร์ลก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็น[[อาณาจักรแกรนด์ดยุคดยุกแห่งฟรังเฟิร์ต|แกรนด์ดยุคแห่งฟรังเฟิร์ตแฟรงก์เฟิร์ต]] หลังจากนั้นคาร์ลก็ขยายดินแดนออกไปมากขึ้นแม้ว่าจะต้องเสียบางส่วนของเรเกนสบวร์กให้แก่เกนส์บูร์กให้แก่[[ราชอาณาจักรบาวาเรีย]]
 
ในปี ค.ศ. 1813 คาร์ลก็ลาออกจากตำแหน่งนอกจากตำแหน่งอัครสังฆราชอาร์ชบิชอปแห่งเรเกนสบวร์กเกนส์บูร์ก ให้แก่พระราชโอรสบุญธรรมของนโปเลียน[[เออแฌน เดอ โบอาร์เนส์เน]] (Eugène de Beauharnais) ผู้เป็นทายาทผู้มีสิทธิโดยตรงมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1810
 
คาร์ลเสียชีวิตลเสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1817 ในฐานะอัครสังฆราชอาร์ชบิชอปแห่งเรเกนสบวร์กเกนส์บูร์ก
 
การที่คาร์ลจะยอมทำตามนโยบายของนโปเลียนตลอดมา ทำให้เป็นไม่เป็นนิยมกันมาหลายชั่วคน แต่อันที่จริงแล้วคาร์ลก็เป็นนักการศึกษาและนักประพันธ์ เป็นผู้อุปถัมภ์วรรณกรรม และเป็นเพื่อนกับกวีและนักปรัชญาเช่น [[โยฮันน์ โวล์ฟกัง ฟอน เกอเธอ|เกอเธอ]], [[ฟรีดิช ชิลเลอร์]] และ [[คริสตอฟ มาร์ติน วีลันด์]] (Christoph Martin Wieland)