ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วิกฤตการณ์ปากน้ำ"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 22:
==ภูมิหลัง==
ความขัดแย้งเกิดขึ้นเมื่อเรือการข่าว แองกองสตอง (Inconstant) และเรือปืน โกแมต (Comete) ของกองทัพเรือฝรั่งเศสเดินทางมาถึงปากแม่น้ำและขอ
เรือปืน 5 ลำจอดทอดสมออยู่ด้านหลังแนวสิ่งกีดขวาง ประกอบไปด้วย เรือมกุฎราชกุมาร, เรือทูลกระหม่อม, เรือหาญหักศัตรู, เรือนฤเบนทร์บุตรี และ เรือมูรธาวสิตสวัสดิ์ เรือ 2 ลำเป็นเรือรบทันสมัยขณะที่เรือที่เหลือเป็นเรือปืนเก่าหรือเรือกลไฟแม่น้ำที่ดัดแปลงมา มีการวางข่ายทุ่นระเบิด 16 ลูก ผู้บังคับบัญชาป้อมเป็นนายพลเรือชาว[[ประเทศเนเธอร์แลนด์|ดัตช์]]ซึ่งเป็นหนึ่งในชาว[[ยุโรป]]หลายคนที่เข้ารับราชการในกองทัพไทย พลเรือโท เจ้าพระยาชลยุทธโยธินทร์ เป็นผู้บังคับบัญชาเรือปืน
==ยุทธนาวี==
ฝรั่งเศสเลือกที่จะเข้าปากแม่น้ำหลังพระอาทิตย์ตกดินในวันที่ 13 กรกฎาคม มีวัตถุประสงค์คือแล่นผ่านการป้องกันของสยามถ้ามีการเปิดฉากยิงกันขึ้น สภาพอากาศครึ้มฝน ขณะนั้นสยามได้ประจำสถานีรบและเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด เรือรบฝรั่งเศสได้แล่นตามเรือกลไฟนำร่องฌองบัปติสต์เซย์ (Jean Baptiste Say) เมื่อเวลา 18.15 น. ฝนหยุดตก ทหารในป้อม
เวลา 18.30 น.ป้อมปืนเปิดฉากยิงเตือนด้วยกระสุนเปล่า 2 นัดแต่เรือรบฝรั่งเศสยังคงแล่นต่อไปในนัดที่สามใช้กระสุนจริงยิงเตือน กระสุนตกลงในน้ำหน้าเรือฌองบัปติสต์เซย์ เมื่อเห็นฝรั่งเศสเพิกเฉยต่อสัญญาณเตือนนัดที่สี่จากเรือปืน มกุฎราชกุมาร และ มูรธาวสิตสวัสดิ์ ก็เปิดฉากยิงเมื่อเวลา 18.50 น. เรือแองกองสตองได้ยิงตอบโต้กับป้อมในขณะที่โกแมตยิงสู้กับเรือปืนสยาม มีเรือขนาดเล็กที่บรรจุระเบิดถูกส่งมาพุ่งชนเรือฝรั่งเศสแต่พลาดเป้า การต่อสู้กินเวลาประมาณ 25 นาที
|