ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วัดพระแม่สกลสงเคราะห์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ZenithZealotry (คุย | ส่วนร่วม)
เพิ่มหมวดหมู่:คริสต์ศาสนสถาน
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
บรรทัด 6:
วัดพระแม่สกลสงเคราะห์ บางบัวทอง ถือกำเนิดขึ้น จากดำริของคุณพ่อบรัวซาร์ ที่เห็นว่ามี[[คริสตัง]] (คริสตศาสนิกชนในนิกายโรมันคาทอลิก) จำนวนหนึ่ง ย้ายถิ่นฐานจากย่าน[[สามเสน]] ใน[[จังหวัดพระนคร]] เข้ามาทำงานที่เมืองบางบัวทองแห่งนี้ ซึ่งสถานที่ประกอบศาสนพิธี ก็มีความจำเป็นกับกลุ่มบุคคลเหล่านี้ โดยในช่วงเวลานั้น พวกเขาได้รับ[[ศีลล้างบาป]]จากคุณพ่อแฟร์เลย์ ซึ่งเดินทางเข้ามาที่บางบัวทองอยู่บ้าง และต้องอาศัยการพายเรือไปร่วมศาสนพิธีสำคัญต่างๆ ถึง[[วัดนักบุญฟรังซิสเซเวียร์]] ที่สามเสน ที่มีระยะทางไกล และเดินทางยากลำบากอย่างมาก
 
เมื่อปี [[ค.ศ. 1924]] คุณพ่อบรัวซาร์จึงซื้อที่ดิน แปลงซึ่งเป็นวัดพระแม่สกลสงเคราะห์ในปัจจุึบันปัจจุบัน พร้อมกับ[[ห้องแถว]]หลังหนึ่ง ในตลาดสดเทศบาลเมืองบางบัวทอง เพื่อใช้ประกอบศาสนพิธี รวมถึงเป็นสถานที่อบรมวิชาคำสอน ให้แก่เยาวชนคริสตัง เป็นการชั่วคราว จึงนับว่าคุณพ่อบรัวซาร์เป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดบางบัวทองนับแต่นั้น พร้อมกันนั้น คุณพ่อบรัวซาร์ก็ดำเนินการเปิดโรงเรียน ให้ชื่อว่า ''แม่พระสกลสงเคราะห์'' ซึ่งอยู่ในความดูแลของภคินีพระหฤทัย โดยให้เด็กชายเรียนที่ห้องแถว และแยกนักเรียนหญิงมาเรียนในอาคารไม้ ที่สร้างขึ้นเป็นหลังแรกบนที่ดินดังกล่าว นับเป็นโรงเรียนเด็กหญิงแห่งแรกในเมืองบางบัวทอง ต่อมาภายหลัง จึงย้ายนักเรียนชายเข้ามาเรียนในที่ดินของวัดด้วยกัน และในปีต่อมา (ค.ศ. 1925) คุณพ่อบรัวซาร์ก็เตรียมการซื้อไม้สำหรับกา่รสร้างการสร้างวัดไว้พร้อมแล้ว แต่ในเดือน[[มิถุนายน]] [[ค.ศ. 1926]] คุณพ่อก็ได้รับคำสั่งให้ย้ายไปเป็นเจ้าอาวาส ที่วัดบ้านปลายนา จึงยังไม่ทันจะดำเนินการจัดสร้างวัดบางบัวทอง
 
จากนั้น คุณพ่อตาปี เจ้าอาวาสวัดสามเสนในขณะนั้น จึงเข้าดำเนินการจัดสร้างอาคารไม้สองชั้น หันหน้าไปทาง[[ทิศตะวันออก]] พื้น[[ไม้สัก]]ยกสูง หล่อเสาปูนขึ้นเพื่อตอกเป็นตอม่อ มีระเบียงสามด้านโดยรอบอาคาร ชั้นล่างเป็นห้องเรียนส่วนขยาย เพิ่มเติมจากอาคารเรียนเดิม ส่วนชั้นบนเป็นวัด โดยมี[[บันได]]ทอดอยู่ทางขวาของอาคาร ส่วน[[หอระฆัง]]ตั้งขึ้นต่างหาก บริเวณซ้ายมือของอาคาร จนกระทั่งก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ ประกอบพิธีเสกวัดหลังแรกนี้ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1927 โดยมี พระสังฆราช เรอเน แปร์รอส เป็นประธานสงฆ์ และมอบไว้ในความอุปถัมภ์ ของแม่พระสกลสงเคราะห์ ตามที่คุณพ่อบรัวซาร์ เจ้าอาวาสองค์แรก ตั้งความปรารถนาไว้ นอกจากนี้ คุณพ่อตาปี ยังดำเนินการเปลี่ยนชื่อวัดและโรงเรียนเป็น ''พระแม่สกลสงเคราะห์'' ซึ่งใช้มาจนถึงปัจจุบัน, จัดสร้างบ้านพักพระสงฆ์ ตลอดจนซื้อที่นาในบริเวณใกล้เคียงไว้เป็นของวัด โดยให้คริสตังชาวจีนเช่าทำสวน ส่งผลให้สัตบุรุษ (คริสตัง) ของวัดบางบัวทอง รวมถึงจำนวนนักเรียน ก็มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในเวลาต่อมา
 
แต่ทว่า ในกลางดึกคืนหนึ่ง ของเดือน[[มิถุนายน]] [[ค.ศ. 1931]] วัดบางบัวทองหลังแรกนี้ ก็เกิดเหตุ[[เพลิงไหม้]]จนเสียหายไปทั้งหมด คุณพ่อตาปีจึงกล่าวเปรียบเปรยถึงเหตุการณ์นี้ ตามพระวาจาของพระเจ้าว่า ''ผู้หว่านข้าวรดนาด้วยน้ำตา'' พร้อมทั้งจัดสร้างวัดหลังที่สองขึ้น ในปีต่อมา ([[ค.ศ. 1932]]) จนเสร็จสมบูรณ์ และประกอบพิธีเสกวัดหลังนี้ ในเดือน[[มกราคม]] [[ค.ศ. 1933]] โดยคุณพ่อตาปี ยังมอบหมายให้ คุณพ่อหลุยส์ สง่า สังขรัตน์ ปลัดประจำวัดสามเสน มาดูแลวัดแทนในบางโอกาส จนถึงปี [[ค.ศ. 1940]] คุณพ่อตาปีจึงมอบหมายให้คุณพ่อหลุยส์ เข้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางบัวทองเป็นการถาวร หลังจากที่คุณพ่อตาปี ดำรงตำแหน่งอยู่ถึง 14 ปี ดังนั้น วัดพระแม่สกลสงเคราะห์ จึงปกครองตนเองอย่างเป็นอิสระ มิได้ขึ้นตรงกับวัดสามเสนนับแต่นั้น โดยคุณพ่อหลุยส์ ดำเนินการจัดสร้างบ้านพักพระสงฆ์หลังใหม่ เป็นอาคารไม้สองชั้น บริิเวณบริเวณด้านหน้าวัด
 
[[ไฟล์:PM_Logo.png|130px|thumb|ตราสัญลักษณ์ของโรงเรียนฯ ในปัจจุบัน]]
 
ในปี [[ค.ศ. 1950]] คุณพ่อยวน บัปติสตา กิมฮั้ง แซ่เล้า ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสองค์ต่อมา โดยดำเนินการจัดสร้างอาคารเรียนสองชั้น ปรับปรุงบริเวณที่ดินของวัด เพื่อปลูก[[ต้นไม้]]ต่างๆ อาทิ [[มะม่วง]] และ[[มะพร้าว]] เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ คุณพ่อยวน บัปติสตา ยังส่งเสริมให้ลูกๆ ในวัด มีโอกาสฝึกขับร้องเพลงเกรกอเรียน อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ระหว่างบทเทศน์ใน[[พิธีมิสซา]] โดยมีทั้งบทร้อง[[ภาษาไทย]] และ[[ภาษาจีน]] คุณพ่อยวน บัปติสตา เป็นเจ้าอาวาสอยู่ถึง 18 ปี จนกระทั่งปี [[ค.ศ. 1965]] ก็ต้องย้ายไปประจำที่วัดอื่น โดยมีคุณพ่อกาเบรียล โรเชอโร เข้ารับตำแหน่งสืบแทน ขณะนั้น อาคารเรียนในโรงเรียนของวัด มีเพียงอาคารไม้สองชั้นเพียงหลังเดียว มีห้องเรียนที่ใช้การได้เพียง 8 ห้องเท่าั้นั้นเท่า้นั้น คุณพ่อโรเชอโรจึงระดมทุนสนับสนุน เพื่อดำเนินการต่อเติมอาคารไม้เดิม ให้แล้วเสร็จอีก 2 ห้องเรียน พร้อมทั้งจัดสร้างอาคารชั้นเดียว แนวขนานกับวัดทาง[[ทิศเหนือ]] อีก 5 ห้องเรียน รวมถึงมีคำขอเข้าอยู่ภายใต้การดูแลของภคินีคณะเซนต์ปอลเดอชาตร์ด้วย เป็นผลให้มีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นทุกปี
 
คุณพ่อโรเชอโรยังขอเจรจา ให้ผู้เช่าที่ดินของวัดหลายราย ย้ายออกจากพื้นที่ เพื่อจัดสร้างถนน[[คอนกรีต]]มาตรฐา่นมาตรฐาน ขนาด 8 เมตร จากตลาดสดเทศบาลเมืองบางบัวทอง เข้ามาถึงบริเวณวัด ซึ่งนำความเจริญเข้ามาสู่วัดเป็นอันมาก แต่ทว่าเหลืองบที่เพียงพอสำหรับการสร้างเพียงครึ่งเดียวเท่าันั้นเท่านั้น ซ้ำร้ายคุณพ่อโรเชอโรยังประสบอุบัติเหตุ ตกจากหน้าต่างห้องนอนลงมาที่ชั้นล่าง จนถึงแก่มรณภาพ ที่[[โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์]] เมื่อปี [[ค.ศ. 1971]] คุณพ่อมิกาแอล อดุลย์ คูรัตน์ จึงเข้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางบัวทองต่อมา ท่านมีดำริในการส่งเสริม ให้เด็กและเยาวชนคริสตังของวัด เข้าร่วมกิจกรรมปรับปรุงบริเวณวัดและโรงเรียน ให้สะอาดและสวยงามยิ่งขึ้น รวมถึงดำเนินการจัดสร้างกำแพงคอนกรีตหน้าวัด เพื่อทดแทนรั้วไม้ของเดิมที่ชำรุดทรุดโทรม ตลอดจนความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว และตรงไปตรงมา ของคุณพ่อมิกาแอล ซึ่งเป็นที่ยกย่องนับถืออย่างยิ่ง ของสัตบุรุษชาววัดบางบัวทอง นอกจากนี้ ยังฝึกหัดให้เด็กๆ ขับร้องเพลงให้ไพเราะด้วย
 
ต่อมา คุณพ่อยอแซฟ วิจิตร ลิขิตธรรม ก็เข้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาส ต่อจากคุณพ่อมิกาแอล เมื่อปี [[ค.ศ. 1973]] โดยคุณพ่อยอแซฟ เป็นผู้นำให้วัดมีปฏิสัมพันธ์กับสังคมภายนอก เช่นสัตบุรุษต่างวัด หรือพี่น้องต่างศาสนา ที่กว้างไกลยิ่งขึ้น รวมถึงสนับสนุนการสร้างแผ่นคอนกรีต สำหรับปูถนนผ่านบ้านพักคริสตัง และสวนผักต่างๆ รอบบริเวณวัด เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าร่วมพิธีมิสซา แก่เหล่าสัตบุรุษวัดบางบัวทองทั้งหลาย ต่อมาในวันที่ [[10 พฤษภาคม]] [[ค.ศ. 1981]] มีพิธีวางศิลาฤกษ์ ''ศาลาแม่พระ'' ซึ่งคุณพ่อปอล ถาวร กิจสกุล เจ้าอาวาสองค์ที่ 11 มีดำริให้จัดสร้างขึ้น เพื่อเป็นที่สวดศพ ตลอดจนเป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ ของวัดและโรงเรียน ซึ่งแล้วเสร็จในสมัยของ คุณพ่อยอแซฟ บรรจบ โสภณ เป็นเจ้าอาวาส เมื่อวันที่ [[8 กันยายน]] ปีเดียวกัน ท่านเป็นผู้วางกำหนดเขตธรณีสงฆ์ให้ชัดเจน และเตรียมการสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ จากนั้น เมื่อคุณพ่อยวน ไพริน เกิดสมุทร เป็นเจ้าอาวาส ราวปี [[ค.ศ. 1986]] ท่านมีดำริให้ฟื้นพิธีแห่แม่พระ ในทุก[[วันเสาร์]]ต้นเดือนขึ้นอีกครั้ง รวมทั้งดำเนินการปรับปรุงบริเวณวัดให้สวยงามมากขึ้น
 
ยุคพัฒนาวัดและโรงเรียนอย่างเต็มรูปแบบ เกิดขึ้นในสมัยที่ คุณพ่อเปโตร สุรสิทธิ์ ชุ่มศรีพันธุ์ เข้ามา้มาเป็นเจ้าอาวาส เมื่อปี [[ค.ศ. 1987]] โดยท่านมีโครงการจัดสร้างอาคารเรียนประถมศึกษา-มัธยมศึกษา 1 หลัง และอาคารเรียนระดับอนุบาลอีก 1 หลัง โรงอาหาร พัฒนาวัด สุสาน ศาลาสวดศพ ตลอดจนจัดสร้างโรงเลี้ยงขึ้นที่ข้างศาลาสวดศพอีกด้วย ซึ่งเริ่มจากถมที่ดิน ขุดบ่อน้ำ จัดร่องสวน ในบริเวณโดยรอบวัดและโรงเรียน แล้วจึงเริ่มดำเนินการจัดสร้าง อาคารเรียนคอนกรีตเสริมเหล็กหลังแรกของโรงเรียน สูง 5 ชั้น สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้น เมื่อเดือน[[สิงหาคม]] [[ค.ศ. 1989]] จนกระทั่งแล้วเสร็จ เปิดใช้อย่างไม่เป็นทางการ ใันในปีการศึกษา 2533 ([[ค.ศ. 1990]]) จากนั้นจึงเริ่มดำเนินการจัดสร้างสุสานขึ้นใหม่ ในราวปลายปีเดียวกัน พร้อมกันนั้น ได้ดำเนินการสร้างเขื่อนริมคลองขุนพระพิมลราชา ตั้งแต่บริเวณหน้าวัด ไปจรดกับที่ดิน ซึ่งมาสเตอร์สะอาด ธรรมภิรักษ์เช่าไว้ จนเสร็จสิ้นในยุคนี้เช่นกัน
 
ช่วงเวลาใกล้เคียงกันนี้ บรรดาผู้เช่าที่ดินบริเวณหลังวัดเพื่อทำสวน ต่างก็คืนสิทธิการเช่ากลับคืนแก่ทางวัด เพื่อดำเนินการถมที่ดิน ปรับปรุงเป็นหมู่บ้านคริสตัังคริสตัง โดยราวกลางเดือนมกราคม ค.ศ. 1990 มีการประชุมกับผู้เช่าเหล่านั้น ซึ่งส่วนมากเป็นลูกวัด ที่จำเป็นต้องย้ายออกจากที่เช่าเดิม ไปยังที่ดินซึ่งจัดเตรียมไว้ จากนั้น ราวต้นเดือนมีนาคม ปีเดียวกัน จึงเริ่มการรื้อถอนเพื่อนำไปปลูกบนที่ดินซึ่งได้รับการจัดสรร ต่อมา เมื่อเดือนเมษายน ก็เริ่มดำเนินการย้ายสุสานเดิม ซึ่งอยู่บริเวณหลังวัด ไปยังสุสานแห่งใหม่ บริเวณติดกับหมู่บ้านคริสตัง โดยบริเวณเดิมปรับปรุงเป็นสนามบาสเกตบอล ถัดจากนั้น จึงเริ่มจัดสร้างอาคารเรียนคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง 4 ชั้น เป็นรูปเกือกม้า บริเวณถัดจากอาคารโรงอาหาร สำหรับนักเรียนระดับชั้นอนุบาล
 
สืบเนื่องจากพิธีฉลองวัดพระแม่สกลสงเคราะห์ ในโอกาสครบรอบ 50 ปี เมื่อเดือน[[พฤษภาคม]] ค.ศ. 1990 ซึ่งพระอัครสังฆราชเรนาโต มาร์ติโน ผู้แทนถาวรแห่ง[[รัฐวาติกัน]]ประจำ[[สหประชาชาติ]]ในขณะนั้น เดินทางมาร่วมงาน พร้อมทั้งแสดงความปรารถนากับ [[พระคาร์ดินัล ไมเกิล มีชัย กิจบุญชู]] ว่าสมควรดำเนินการจัดสร้างวัดหลังใหม่ ให้แก่คริสตังชาวบางบัวทอง ดังนั้น เมื่อมีพิธีวางศิลาฤกษ์วัดหลังใหม่ เมื่อวันที่ [[14 กรกฎาคม]] [[ค.ศ. 1991]] พระอัครสังฆราชเรนาโต มาร์ติโน จึงให้เกียรติเดินทางมาเป็นประธานสงฆ์ เพื่อร่วมขอบพระคุณพระเป็นเจ้า ในวโรกาสดังกล่าว พร้อมกันนี้ ท่านให้เกียรติประกอบพิธีเปิดอาคารเรียน ระดับชั้นประถมศึกษา และมัธยมศึกษา อย่างเป็นทางการด้วย ทั้งนี้ ในปีนั้นเอง คุณพ่อเปโตร ก็หมดวาระในตำแหน่งที่วัดบางบัวทองลง และมี คุณพ่อยอแซฟ ทวีศักดิ์ กิจเจริญ ซึ่งเพิ่งจบการศึกษาจากประเทศอิตาลี เข้ารับเป็นเจ้าอาวาสสืบมา และเริ่มการพัฒนาวัดและโรงเรียน ต่อเนื่องจากที่คุณพ่อเปโตรดำเนินการไว้ทันที รวมถึงบ้านพักพระสงฆ์ และภคินี จนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์ครบถ้วน ในราวกลางปี ค.ศ. 1992 พร้อมทั้งได้มีพิธีเสกวัดหลังปัจจุบัน เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ปีเดียวกัน
บรรทัด 53:
* [http://www.catholic.or.th/archive/archbkk/church/church3/archbkk34.html ข้อมูลทั่วไป วัดพระแม่สกลสงเคราะห์ บางบัวทอง] จาก[[เว็บไซต์]] [http://www.catholic.or.th อัครสังฆมณฑลคาทอลิกกรุงเทพฯ]
* [http://haab.catholic.or.th/church/bangbauthong.html ประวัติ วัดพระแม่สกลสงเคราะห์ บางบัวทอง] จาก[[เว็บเพจ]] [http://haab.catholic.or.th หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ]
{{โครงศาสนา}}
[[หมวดหมู่:คริสต์ศาสนสถาน]]
[[หมวดหมู่:คริสต์ศาสนาในประเทศไทย]]
[[หมวดหมู่:อำเภอบางบัวทอง]]
{{โครงศาสนา}}