ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เอฟ-14 ทอมแคท"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
Elite501st (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 146:
เครื่องยนต์ทีเอฟ30 นั้นมีข้อด้อยมาตั้งแต่เริ่มต้นเพราะการที่มันง่ายที่จะเกิดอาการคอมเพรสเซอร์หยุดทำงานเมื่อบินในระดับสูง เครื่องยนต์เอฟ110 พิสูจน์ให้เห็นว่ามันมีแรงขับที่มากพอถึง 27,600 ปอนด์เมื่อใช้สันดาปท้าย แรงขับพื้นฐานของเครื่องยนต์โดยไม่ใช้สันดาปท้ายก็ทรงพลังพอแล้วที่จะส่งมันขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบินซึ่งยิ่งเร็วก็ยิ่งปลอดภัย อีกข้อได้เปรียบหนึ่งคือมันทำให้ทอมแคทบินอย่างประหยัดเชื้อเพลิงได้ในระดับ 30,000 ฟุต ซึ่งเพิ่มโอกาสรอดและพิสัยของมัน เอฟ-14บีนั้นเกิดขึ้นทันเวลาของสงครามอ่าวพอดี
 
ในปลายทศวรรษที่ 2533 เอฟ-14บี 67 ลำถูกพัฒนาให้มีอายุการใช้งานมากขึ้นและมีการพัฒนาระบบป้องกันและโจมตีให้ดียิ่งขึ้น เครื่องบินที่ได้รับการดัดแปงกลายดัดแปลงกลายมาเป็น''เอฟ-14บี อัพเกรด'' (''F-14B Upgrade'')<ref name="GS_Variants"/>
 
===เอฟ-14ดี===
 
แบบสุดท้ายของเอฟ-14 คือเอฟ-14ดี ซูเปอร์ทอมแคท รุ่นดีทำการส่งมอบครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2534 เครื่องยนต์เดิมแบบทีเอฟ30 ถูกแทนที่ด้วยเครื่องยนต์จีอี เอฟ110-400 เหมือนกับของรุ่นบี เอฟ-14ดียังมีระบบอิเลคทรอนิกแบบดิจิตอลที่ใหม่กว่าในห้องนักบินกระจกและแทนที่เรดาร์เอดับบลิวจี-9 ด้วยเรดาร์เอเอ็น/เอพีจี-71 ระบบอื่นๆ ยังรวมทั้งเครื่องรบกวนการป้องกันตนเองทางอากาศหรือเอเอสพี (''Airborne Self Protection Jammer, ASPJ'') ระบบเกื้อหนุนข้อมูลทางยุทธวิธีร่วมหรือเจทีไอดีเอส (''Joint Tactical Information Distribution System, JTIDS'') เก้าอี้ดีดตัวรุ่นเอสเจยู-17(วี) และอินฟราเรดค้นหาและติดตาม
 
แม้ว่าเอฟ-14ดีจะเป็นรุ่นที่แตกต่างจากทอมแคทธรรมดา แต่ก็ไม่มีกองบินใดที่ได้รับรุ่นดีเลย ในปีพ.ศ. 2532 รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม[[ดิก เชนีย์]]ได้ปฏิเสธที่จะอนุมัติการซื้อเอฟ-14ดีมู,ค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐและเอาเงิน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปใช้้กับการพัฒนาเอฟ-14 รุ่นเก่าแทน สภาคองเกรสตัดสินใจที่จะไม่หยุดการผลิตและให้ทุนกับเครื่องบิน 55 ลำ มีเครื่องบินใหม่ 37 ลำที่ถูกสร้างขึ้นมาและเอฟ-14เอ 18 ลำได้ถูกพัฒนาเป็นรุ่นดี<ref name="MATS_BN"/>
 
== รายละเอียด เอฟ-14ดี ทอมแคท ==