ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ตุ๊กตาบลายธ์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
Pinpanstar (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 7:
 
ปัจจุบัน นักสะสมตุ๊กตาพากันสะสมตุ๊กตาบลายธ์รุ่นแรก จนทำให้ราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากตัวละ 35 [[เหรียญสหรัฐ]]ในปี พ.ศ. 2515 เป็นไม่ต่ำกว่า 1,000 เหรียญสหรัฐ บริษัทแฮสโบรได้ผลิตตุ๊กตาบลายธ์ขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ. 2543 เรียกว่า "นีโอ บลายธ์" ราคาจำหน่ายระหว่าง 60 เหรียญสหรัฐ ถึง 300 เหรียญสหรัฐ
 
ตุ๊กตาบลายธ์ถือเป็นสิ่งที่สิ้นเปลืองเป็นอย่างมาก ด้วยราคาที่แพง และหาประโยชน์ไม่ได้ ควรนำเงินมาซื้อ Mac Book หรือ iPhone เสียมากกว่า
 
<!--ในสหรัฐอเมริกา โชคร้ายสำหรับเค็นเนอร์ ที่ตุ๊กตาขายไม่ดี เลยผลิตจำหน่ายแค่เพียงปีเดียวก็ยุติการผลิต แต่เป็นโชคดีของผู้มีตุ๊กตาบลายธ์ที่ผลิตในปีนั้นไว้ในครอบครอง เพราะปัจจุบัน นักสะสมตุ๊กตาระดับมืออาชีพ ต่างควานหาตุ๊กตารุ่นนี้กันให้ควั่ก แถมให้ราคาดี ซึ่งจะ”ดีมาก” หรือ “ดีมากๆ” ขึ้นอยู่กับสภาพของตุ๊กตา กล่าวกันว่าราคาซื้อขายทั่วไปจะอยู่ที่ตัวละ 1,000 กว่าดอลลาร์ขึ้นไป ส่วนตุ๊กตาบลายธ์ที่ผลิตใหม่ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา ที่เรียกว่า นีโอ บลายธ์ (Neo Blythe) เวลาจะขายทอดตลาดก็มักได้ราคาไม่ต่ำไปกว่าราคาที่ซื้อมา เรียกว่ามีไว้ไม่ขาดทุน ยิ่งถ้าเป็นรุ่นที่ผลิตออกมาในจำนวนจำกัด (limited edition) ก็ยิ่งได้ราคาดี
เส้น 13 ⟶ 15:
 
ดีไซเนอร์ที่ร่วมทีมออกแบบ ตุ๊กตาบลายธ์เมื่อปี 2515 มี 3 คนสังกัดบริษัท มาร์วิน กลาส สตูดิโอ ซึ่งโด่งดังมากในเรื่องการออกแบบของเด็กเล่น รูเบ็น เทอร์เซียน เป็นผู้ออกแบบลูกตา ซึ่งตอนแรกเขาตั้งใจจะใช้กับตุ๊กตาสุนัข ส่วนลำตัวของตุ๊กตา แรกๆทีมงานก็ออกแบบให้ยาวได้สัดส่วนกับหัวที่มีขนาดใหญ่ของตุ๊กตา แต่ปรากฏว่ากล่องใส่มีขนาดสั้น จึงต้องลดสัดส่วนความยาวลำตัวให้บรรจุได้พอดี [http://www.xn--12c3bbmj2cu6hc8c7l6a.co.cc/ ตุ๊กตาบลายธ์]จึงหัวโตตัวสั้น ดูเหมือนการ์ตูน-->
 
 
==แหล่งข้อมูลอื่น==