ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ดินสอพอง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
Xqbot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: en:Marl; ประทิ่นเปลี่ยนแปลง
บรรทัด 1:
[[ไฟล์:Mineraly.sk - slien.jpg|right|thumb|ชิ้นส่วนของมาร์ลสโตน]]
'''ดินสอพอง''' หรือ '''มาร์ล''' หรือ '''มาร์ลสโตน''' มีองค์ประกอบทางเคมีเป็น[[แคลเซียมคาร์บอเนต]] หรือโคลนหรือหินโคลนที่อุดมไปด้วยเนื้อปูนที่มีองค์ประกอบที่แปรผันของแร่[[เคลย์]]และ[[อาราโกไนต์]] มาร์ลเป็นคำโบราณที่ถูกนำมาใช้เรียกวัตถุที่หลากหลายโดยส่วนใหญ่เป็นวัตถุเนื้อหลวมๆของดินที่มีองค์ประกอบหลักของเนื้อผสมระหว่างดินเคลย์และแคลเซี่ยมคาร์บอเนตเกิดขึ้นภายใต้สภาพแวดแวดล้อมที่เป็นน้ำจืดเป็นวัตถุเนื้อดินประกอบด้วยแร่เคลย์ร้อยละ 65 และคาร์บอเนตร้อยละ 65-35 <ref>Sedimentary Rocks. Pettijohn, F. J., Harper& Brothers New York 1957, p. 410</ref> คำเรียกที่ใช้ในปัจจุบันหมายถึงตะกอนที่ตกสะสมตัวในทะเลและในทะเลสาบที่แข็งตัวซึ่งเพื่อให้ถูกต้องแล้วต้องเรียกว่า[[มาร์ลสโตน]] มาร์ลสโตนเป็นหินที่แข็งตัวมีองค์ประกอบเดียวกันกับมาร์ลที่อาจเรียกว่าหินปูนเนื้อดิน มาร์ลมีการแตกแบบกึ่งก้นหอยและมีแนวแตกถี่ได้น้อยกว่าหินดินดาน คำว่า “มาร์ล” เป็นศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้เรียกกันอย่างกว้างขวางในทางธรณีวิทยา ขณะที่คำว่า “เมอร์เจิล” และ “ซีเกรด” (ภาษาเยอรมันเรียกว่า “ซีชอล์ค”) ถูกใช้เรียกกันในยุโรป
 
ทางด้านล่างของชั้นชอล์คไวต์คลิฟออฟโดเวอร์ประกอบไปด้วยชั้นมาร์ลเนื้อกลอโคไนต์ตามด้วยการแทรกสลับของชั้นหินปูนและชั้นมาร์ล การลำดับชั้นหินยุคครีเทเชียสตอนบนในเยอรมนีเปรียบเทียบได้กับแรงขับอันเกิดจากความแปรผันเป็นวัฏจักรของวงโคจรโลกแบบมิลานโกวิตช์ (Milankovitch orbital forcing)
บรรทัด 6:
มาร์ลเกิดในทะเลสาบพบได้ทั่วไปในตะกอบทะเลสาบปลายยุคน้ำแข็งโดยปรกติแล้วจะพบวางตัวอยู่ใต้ชั้นพีต มาร์ลมีประโยชน์เป็นตัวปรับสภาพดินและเป็นตัวการปรับสภาพดินที่เป็นกรดให้มีสภาพเป็นกลาง มีลักษณะอ่อน ร่วนซุย และเป็นวัตถุเนื้อดินที่มีองค์ประกอบที่แปรผันของแคลเซี่ยมคาร์บอเนต เคลย์ และตะกอนขนาดทรายแป้งและพบเป็นปฐมภูมิภายใต้สภาพแวดล้อมแบบน้ำจืด (Hubbard and Herman, 1990)
 
== ดินสอพองในประเทศไทย ==
พจนานุกรมศัพท์ธรณีวิทยา ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2544 ได้ให้นิยามดินสอพองว่าเป็นหินปูนเนื้อมาร์ล (marly limestone) ที่เป็นดินที่เนื้อเป็นสารประกอบแคลเซี่ยมคาร์บอเนตเป็นส่วนใหญ่ เมื่อเอามะนาวบีบใส่ น้ำมะนาวมีกรดซึ่งเมื่อทำปฏิกิริยากับแคลเซี่ยมคาร์บอเนตเกิดเป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็นฟองฟูขึ้น ดูเผินๆก็เห็นว่าดินนั้นพองตัว จึงเรียกกันว่า ดินสอพอง โบราณใช้ทำแป้งประร่างกายเพื่อให้เย็นสบาย เมื่อผสมน้ำหอมเข้าไปด้วยกลายเป็นแป้งกระแจะ ปัจจุบันนี้ใช้มากในการแก้ดินเปรี้ยว ผสมทำธูป ทำปูนซีเมนต์ เพราะเสียค่าขุดและค่าบดต่ำกว่าใช้หินปูนซึ่งมีเนื้อเป็นสารประกอบชนิดเดียวกัน แหล่งใหญ่ในประเทศไทยมีในท้องที่อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ และอำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี
 
== อ้างอิง ==
* Schurrenberger, D., Russell, J. and Kerry Kelts. 2003. ''Classification of lacustrine sediments based on sedimentary components.'' Journal of Paleolimnology 29: 141-154.
* [http://www.geologyshop.co.uk/chalk1.htm Chalk of Kent by C. S. Harris] Accessed 11/06/2005
บรรทัด 15:
* [http://www.the-conference.com/JConfAbs/5/782.pdf Palaeoenvironmental Interpretation of the Early Postglacial Sedimentary Record of a Marl Lake] Accessed 11/06/2005
{{Reflist}}
 
 
[[หมวดหมู่:หินปูน]]
เส้น 25 ⟶ 24:
[[da:Mergel]]
[[de:Mergel]]
[[esen:MargaMarl]]
[[eo:Marno]]
[[es:Marga]]
[[et:Mergel]]
[[es:Marga]]
[[eo:Marno]]
[[eu:Tupa]]
[[fr:Marne (roche)]]
[[he:חוואר]]
[[hr:Lapor]]
[[hu:Márga]]
[[io:Marno]]
[[it:Marna (roccia)]]
[[heli:חווארMergel]]
[[lt:Mergelis]]
[[li:Mergel]]
[[hu:Márga]]
[[nl:Mergel]]
[[pl:Margiel]]