ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 แห่งอังกฤษ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Mattis (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Mattis (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 42:
[[ยุทธการโทว์ทัน]]ในปีเดียวกันจนกองกำลังของราชสกุลแลงคาสเตอร์ถูกกำจัดเกือบหมดสิ้น
 
===ถูกโค่นราชบัลลังก์===
หลังจากพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 เสด็จขึ้นครองราชย์แล้วเอิร์ลแห่งวอริคก็ยังพยายามใช้อิทธิพลทางการเมืองต่อไปและเชื่อว่ายังคงสามารถปกครองอังกฤษได้โดยผ่านพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดและพยายามหว่านล้อมให้พระองค์หาคู่เสกสมรสจากมหาอำนาจในยุโรป แต่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดกลับทรงแอบไปเสกสมรสอย่างลับๆ กับ[[เอลิซาเบธ วูดวิลล์ สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ|เอลิซาเบธ วูดวิลล์]]แม่หม้ายของผู้สนับสนุนราชวงศ์แลงคาสเตอร์ แม่ของเอลิซาเบธ[[แจเค็ตตาแห่งลักเซ็มเบิร์ก]] ดัชเชสแห่งเบดฟอร์ดเป็นผู้มีฐานะมั่งคั่ง แต่[[ริชาร์ด วูดวิลล์ เอิร์ลแห่งริเวอร์สที่ 1]] ผู้เป็นพ่อเป็นบารอนใหม่ที่มีความทะเยอทะยาน การแต่งงานของเอลิซาเบธจึงทำให้พี่ๆ น้องๆ สิบสองคนที่ยังมิได้แต่งงานกลายเป็นผู้ที่มีผู้ต้องการแต่งงานด้วย
 
บรรทัด 50:
 
แต่ในปี ค.ศ. 1470 เอิร์ลแห่งวอริคและดยุคแห่งแคลเรนซ์ก่อการปฏิวัติขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แต่พ่ายแพ้จนต้องหนีไปฝรั่งเศส และไปทำพันธมิตรกับ[[มาร์กาเร็ตแห่งอองชู สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ|พระราชินีมาร์กาเร็ต]] เอิร์ลแห่งวอริคสัญญาว่าจะถวายบัลลังก์คืนให้แก่[[สมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 6 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 6]] พระสวามีของมาร์กาเร็ต เป็นการแลกเปลี่ยนกับการหนุนหลังของฝรั่งเศสในการรุกรานอังกฤษในปี ค.ศ. 1470 ครั้งนี้พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำจนต้องหนีไปพึ่งน้องชายของวอริค[[จอห์น เนวิลล์ มาควิสแห่งมองตากิวที่ 1]] ที่เปลี่ยนข้างไปสนับสนุนฝ่ายแลงคาสเตอร์
 
===ฟื้นฟูราชบัลลังก์===
พระเจ้าเฮนรีที่ 6 กลับขึ้นครองราชบัลลังก์อีกครั้งในปี ค.ศ. 1470 ในสมัยที่เรียกว่า[[การฟื้นฟูพระเจ้าเฮนรีที่ 6]] (Readeption of Henry VI) พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเสด็จไปลี้ภัยใน [[ดยุคแห่งเบอร์กันดี|อาณาจักรดยุคแห่งเบอร์กันดี]]พร้อมกับ[[สมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ|ริชาร์ด ดยุคแห่งกลอสเตอร์]] ประมุขแห่งเบอร์กันดีคือ[[ชาร์ลส์ผู้กล้าหาญ]] (Charles the Bold) สามีของน้องสาว[[มาร์กาเร็ตแห่งยอร์ค]] แม้ว่าชาร์ลส์จะไม่เต็มใจช่วยเอ็ดเวิร์ดเมื่อเริ่มแรกแต่ฝรั่งเศสประกาศสงครามกับเบอร์กันดี ชาร์ลส์จึงตัดสินใจช่วยเอ็ดเวิร์ดและรวบรวมกำลังในการต่อสู้เพื่อจะชิงราชบัลลังก์คืน
 
พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเสด็จกลับอังกฤษกับกองทหารจำนวนน้อยเพื่อเลี่ยงการจับกุมโดยฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์ ในการประกาศอ้างสิทธิในราชบัลลังก์อังกฤษเช่นที่[[สมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 4 แห่งอังกฤษ|เฮนรี โบลลิงโบรค]]ได้ทำเจ็ดสิบปีก่อนหน้านั้นที่ทรงอ้างว่าเพื่อต้องการอ้างในสิทธิของอาณาจักรดยุคของตนเองเท่านั้น แต่เมือง[[ยอร์ค]]ปิดประตูเมืองแก่พระองค์แต่เมื่อทรงเดินทัพลงทางไต้พระองค์ก็ได้รับการสนับสนุนมากขึ้นและ[[จอร์จ แพลนทาเจเน็ท ดยุคแห่งแคลเรนซ์ที่ 1|ดยุคแห่งแคลเรนซ์]]ผู้เห็นว่าการเข้าข้างพระเชษฐาจะปลอดภัยกว่าก็เปลี่ยนข้างมาสนับสนุนพระองค์ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดและพระอนุชาจึงได้รับชัยชนะต่อเอิร์ลแห่งวอริคใน[[ยุทธการบาร์เน็ต]] (Battle of Barnet) เมื่อเอิร์ลแห่งวอริคเสียชีวิตพระองค์ก็ทรงดำเนินการกำจัดผู้ต่อต้านฝ่ายแลงคาสเตอร์ที่ยังหลงเหลืออยู่ที่[[ยุทธการทูคสบรี]] (Battle of Tewkesbury) ในปี ค.ศ. 1471 [[เอ็ดเวิร์ดแห่งเวสต์มินสเตอร์ เจ้าชายแห่งเวลส์]]รัชทายาทฝ่ายแลงคาสเตอร์สิ้นพระชนม์ในสนามรบหรือทันทีหลังจากนั้น สองสามวันต่อมาเมื่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเสด็จเข้าลอนดอน ในคืนนั้นพระเจ้าเฮนรีที่ 6 ก็ทรงถูกปลงพระชนม์เพื่อเป็นการกำจัดฝ่ายแลงคาสเตอร์ให้เสร็จสิ้น
 
พระอนุชาสองพระองค์ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด[[จอร์จ แพลนทาเจเน็ท ดยุคแห่งแคลเรนซ์ที่ 1|จอร์จ ดยุคแห่งแคลเรนซ์]] และ[[สมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ|ริชาร์ด ดยุคแห่งกลอสเตอร์]] (ต่อมา [[สมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ]]) แต่งงานกับ[[อิสซาเบลลา แพลนทาเจเน็ท ดัชเชสแห่งแคลเรนซ์|อิสซาเบลลา เนวิลล์]] และ[[แอนน์ เนวิลล์ สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ|แอนน์ เนวิลล์]] ทั้งสองคนเป็นลูกสาวของ[[ริชาร์ด เนวิลล์ เอิร์ลแห่งวอริคที่ 16]] กับ[[แอนน์ เนวิลล์ เคานเทสแห่งวอริคที่ 16|แอนน์ โบแชมพ์]] ผู้เป็นทายาทของมรดกจำนวนมหาศาลของมารดาผู้ยังมีชีวิตอยู่ ดยุคแห่งแคลเรนซ์และดยุคแห่งกลอสเตอร์มีความขัดแย้งกันตลอดรัชสมัยของเอ็ดเวิร์ด ในที่สุดดยุคแห่งแคลเรนซ์ก็ถูกกล่าวหาว่าวางแผนโค่นราชบัลลังก์ของเอ็ดเวิร์ดและถูกนำไปจำขังไว้ที่[[หอคอยแห่งลอนดอน]] และถูก “ประหารชีวิตเป็นการภายใน” (privately executed) (ตำนานเชคสเปียร์กล่าวว่าถูกถ่วงในถังไวน์มาล์มซีย์เมื่อวันที่ [[18 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1478]]
 
== พระราชวงศ์ ==