ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฮือโค ฟัน เดอร์คุส"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Mattis (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Mattis (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 31:
ในปี [[ค.ศ. 1475]] หรือหลายปีต่อมาฮูโกก็บวชเป็นพระที่สำนักสงฆ์ Rooklooster ไม่ไกลจาก[[บรัสเซลส์]]ที่เป็นของ[[นิกายวินเดสไฮม์]] (Windesheim Congregation) และยังคงทำงานจิตรกรรมต่อจนกระทั่งเสียชีวิตในปี [[ค.ศ. 1482]] หรือในปี [[ค.ศ. 1483]] ในปี [[ค.ศ. 1480]] ฮูโกถูกเรียกตัวไปเมือง[[ลูแวง]] (Leuven) เพื่อไปเขียน “Justice Scenes” ที่[[เดียริค เบาท์]]เขียนค้างไว้ก่อนที่จะเสียชีวิตในปี [[ค.ศ. 1475]] หลังจากนั้นไม่นานขณะที่ฮูโกเดินทางกลับจากโคโลญกับพระในสำนักก็เกิดความรู้สึกอยากจะฆ่าตัวตายและประกาศตัวเองว่าเป็นผู้ที่ถูกแช่ง แต่เมื่อกลับมาถึง Rooklooster ฮูโกก็หายและเสียชีวิตที่นั่น ระยะเวลาที่พำนักที่สำนักสงฆ์ถูกบันทึกโดย Gaspar Ofhuys นักบวชอีกองค์หนึ่ง รายงานโดยแพทย์ชาวเยอรมัน [[เฮียโรนิมัส มึนสเซอร์]] (Hieronymus Münzer) ในปี [[ค.ศ. 1495]] ทีกล่าวถึงจิตรกรชาวเก้นท์ตกอยู่ในอารมณ์เศร้าเพราะความกดดันที่จะเขียนภาพให้ดีเท่า[[ฉากแท่นบูชาเก้นท์]] อาจจะหมายถึงฮูโก
 
งานเขียนชิ้นที่สำคัญที่สุดที่ยังเหลืออยู่คือ[[ฉากแท่นบูชาพอร์ตินาริ]] ([[หอศิลป์อุฟฟิซิ]], [[ฟลอเรนซ์]]) ที่เป็นงานที่จ้างสำหรับวัดซานอีจิดิโอในโรงพยาบาลของวัดซานตามาเรียนูโอวาในฟลอเรนซ์ โดย [[โทมัสโซโทมมาโซ พอร์ตินาเลพอร์ตินาริ]] (Tommaso Portinari]] ผู้จัดการสาขาบรูดจ์ของ[[ธนาคารเมดิชิ]] ฉากแท่นบูชามาถึงฟลอเรนซ์ในปี [[ค.ศ. 1483]] หลายปีหลังจากที่ฮูโกเขียนเสร็จ เป็นงานที่ชื่นชมกันในฟลอเรนซ์ [[จอร์โจ วาซารี]]ในหนังสือ “[[ชีวิตศิลปิน]]” ของปี [[ค.ศ. 1550]] เรียกฮูโกว่า “Ugo d'Anversa” (ฮูโกแห่งอันเวิร์พ) ซึ่งเป็นหลักฐานเดียวที่ยืนยันว่าฮูโกเป็นผู้เขียนภาพ งานชิ้นอื่นใช้การวิจัยลักษณะการเขียนโดยการเปรียบเทียบกับฉากแท่นบูชานี้ในการบ่งว่าฮูโกเป็นผู้วาด<ref>National Gallery Catalogues (new series): ''The Fifteenth Century Netherlandish Paintings'', Lorne Campbell, p.240, 1998, ISBN 185709171</ref>
ดูเหมือนว่าฮูโกจะทิ้งงานร่างไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะใช้โดยผู้นิยมในการสร้างงานเขียนที่ฮูโกไม่ได้วาดด้วยตนเอง<ref>Campbell, op. & page cit</ref> ร่างภาพ “เจคอปและเรเชล” อยู่ที่[[ไครสต์เชิร์ช (อ๊อกซฟอร์ด)|ไครสต์เชิร์ช]] เชื่อเป็นงานที่ลงชื่อในจำนวนไม่กี่ชิ้นที่เหลืออยู่