ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โรงพยาบาลหัวเฉียว"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
สุพิชชา ศศิภา (คุย | ส่วนร่วม)
แก้ไขรายละเอียด
สุพิชชา ศศิภา (คุย | ส่วนร่วม)
เนื้อหาที่ถูกต้องของโรงพยาบาล
บรรทัด 12:
| ที่ตั้ง = 665 [[ถนนบำรุงเมือง]] แขวงคลองมหานาค [[เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย]] [[กรุงเทพมหานคร]] 10100
| เว็บไซต์ = [http://www.hc-hospital.com โรงพยาบาลหัวเฉียว]
}}'''โรงพยาบาลหัวเฉียว  โรงพยาบาลเอกชนเพื่อสังคม  ในสังกัดมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง'''
}}
'''โรงพยาบาลหัวเฉียว''' ({{lang-zh|c=华侨|p=Huáqiáo}}) เป็น[[รายชื่อโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย|โรงพยาบาลเอกชน]]ทั่วไป (General Hospital) ที่ไม่มุ่งแสวงหาผลกำไร ในสังกัดมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ให้บริการทุกสาขาการแพทย์โรงพยาบาลหัวเฉียว ก่อตั้งโดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เริ่มจากเป็นสถานพยาบาลผดุงครรภ์เล็กๆ เปิดให้บริการทำคลอด ทั้งในและนอกสถานที่ ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2481 มีสถิติคนไข้นอกเพิ่มขึ้นเป็นลำดับจนสถานที่ไม่สามารถรองรับผู้มารักษาได้ แม้แต่ใน ช่วงปี พ.ศ. 2485 ซึ่งเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่กรุงเทพฯ ถูกโจมตี แพทย์และพยาบาลยังคงให้บริการทำคลอดและรักษาพยาบาลอย่างไม่ย่อท้อ
 
'''มีมาตรฐานบริการเทียบเท่าโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ'''
เมื่อสงครามสิ้นสุดลงเนื่องจากประชากรในกรุงเทพฯเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คณะกรรมการบริหารมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งดำริให้ย้ายโรงพยาบาลฯ จากบริเวณหลังวัดเทพศิรินทราวาสมายังสถานที่ตั้งปัจจุบัน โดยหันหน้าออกทางถนนกรุงเกษม และเริ่มต้นโครงการก่อสร้างอาคารถาวรและทันสมัยสมบูรณ์แบบขึ้นเพื่อรองรับ การบริการรักษาพยาบาลครอบคลุมทุกสาขาโรคโดยไม่คำนึงถึง เชื้อชาติ ศาสนาและฐานะ
 
รากฐานจากการผดุงครรภ์ การคลอดบุตร.. '''  กับการพัฒนาศักยภาพในทุกด้าน สู่การเป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ  ด้วยบริการ 8 ศูนย์ทางการแพทย์  รักษาโรคซับซ้อน  โรครักษายาก'''
อาคาร 22 ชั้น จึงได้กำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2513 ด้วยความร่วมมือและแรงใจของผู้มีจิตศรัทธา บริจาคทรัพย์สมทบทุนก่อสร้างและจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างไม่ขาดสาย การก่อสร้างเสร็จสิ้นลงในปี พ.ศ. 2521 และเปิดบริการในวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2521
 
โรงพยาบาลหัวเฉียว  หรือที่คนจีนเรียกว่า “ฮั่วเคี้ยวกิ้วหูอุยอี่”   เกิดขึ้นจากการจัดตั้งหน่วยผดุงครรภ์ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง   เริ่มเปิดให้บริการเมื่อวันที่  3 กรกฎาคม  พ.ศ. 2481  โดยจัดตั้งเป็นสถานผดุงครรภ์ขนาดเล็ก  8 เตียง  คำว่า  “หัวเฉียว”  หมายถึง  “คนจีนโพ้นทะเล”       
วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2522 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ฯ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดอาคาร 22 ชั้น โรงพยาบาลหัวเฉียว อย่างเป็นทางการ
 
 พ.ศ. 2488 โรงพยาบาลหัวเฉียวได้ย้ายที่ทำการใหม่มาตั้งบนถนนกรุงเกษม  ซึ่งมีประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญเกิดขึ้นใน พ.ศ.2489 เมื่อใช้เป็นสถานที่ถวายการต้อนรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล  รัชกาลที่ 8  และสมเด็จพระอนุชา  (พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  รัชกาลที่ 9) 
ปัจจุบัน โรงพยาบาลหัวเฉียว เติบโตก้าวหน้าขึ้นเป็นโรงพยาบาลทั่วไป (GENERAL HOSPITAL) ให้บริการทุกสาขาการแพทย์ และมุ่งมั่นที่จะดำเนินตามรอยปณิธานของหลวงปู่ไต้ฮง พร้อมให้บริการด้วยคุณภาพมาตรฐาน HA (Hospital Accreditation)<ref>{{Cite web|title=โรงพยาบาลหัวเฉียว--HUA CHIEW HOSPITAL|url=http://www.hc-hospital.com/about-huachiew.html|access-date=2021-01-03|website=www.hc-hospital.com}}</ref>
 
 โรงพยาบาลหัวเฉียวได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น มีสถิติการคลอดบุตรมากกว่าเดือนละ 1,000 คน คณะกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจึงเห็นความจำเป็นที่จะขยายและเพิ่มขีดความสามารถให้ดูแลคนไข้ได้ถึง  750 เตียง และปรับปรุงให้ทันสมัยได้มาตรฐานการแพทย์สมัยใหม่  รักษาได้ในทุกสาขาการแพทย์
 
พ.ศ. 2541   โรงพยาบาลหัวเฉียว  อาคาร 22 ชั้นจึงถือกำเนิดขึ้น  เป็นโรงพยาบาลที่สูงที่สุดในกรุงเทพฯ สมัยนั้น  มีความทันสมัยทั้งในด้านเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ และมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์เพื่อช่วยเหลือคนไข้ฉุกเฉิน  โดยยึดหมั่นในหลักการดำเนินงานโดยไม่หวังผลกำไร เพราะทุนทรัพย์ที่สร้างอาคารโรงพยาบาลหัวเฉียว  พร้อมจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์   มาจากเงินบริจาคของผู้มีจิตศรัทธาอันสูงสุด  นำโดย  ดร.อุเทน  เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
 
'''พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร  มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  บรมนาถบพิตร  (รัชกาลที่ 9)''' พร้อมด้วย'''สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ  เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์  อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี'''  (พระราชธิดาพระองค์เล็ก)  เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคาร 22 ชั้น   เมื่อวันที่ 8  พฤษภาคม พ.ศ. 2522  ยังความปลาบปลื้มและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น  เสด็จฯ ทอดพระเนตรห้องพักคนไข้  ห้อง  ICU  และลานจอดเฮลิคอปเตอร์
 
 เมื่อวันที่ 6  ธันวาคม  พ.ศ. 2543 '''สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในรัชกาลที่  9'''  เสด็จฯ ทอดพระเนตรกิจการศูนย์ไตเทียม โรงพยาบาลหัวเฉียว
 
 
'''ปัจจุบัน  โรงพยาบาลหัวเฉียว มุ่งมั่นพัฒนา ก้าวสู่โรงพยาบาลตติยภูมิระดับสูง  รักษาโรคซับซ้อน  โรครักษายาก''' ภายใต้การบริหารงานของคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลฯ  ที่มีวิสัยทัศน์และจิตใจอันเป็นกุศล มีความตั้งใจที่จะบริหารงานโดยยึดหลักคุณธรรมและเมตตาธรรม  ตามปณิธานของหลวงปู่ไต้ฮง  (ไต้ฮงกง) และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่มุ่งเน้นการพัฒนามาตรฐานและคุณภาพการรักษาพยาบาล รวมถึงการบริการให้เป็นที่พึงพอใจของผู้รับบริการ  โดยได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพโรงพยาบาล  จากสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล  ให้การบริการทุกสาขาการแพทย์ระดับทุติยภูมิ  และระดับตติยภูมิในหลากหลายสาขามีแพทย์ประจำกว่า  100 ท่าน  และแพทย์ที่ปรึกษากว่า  500 ท่าน มีขอบเขตการรักษาพยาบาลที่จำเป็นต้องใช้แพทย์เฉพาะทางสาขาต่อยอด  ( Sub – Specialty )  ในสาขาต่างๆ  ที่สามารถให้บริการรักษาพยาบาลถึงกลุ่มประชาชนที่มีเศรษฐานะปานกลางไปจนถึงระดับต่ำ  ให้สามารถเข้าถึงบริการทั้งระดับกว้างและลึก ทุกระดับฐานะทางสังคม 
 
โรงพยาบาลหัวเฉียวเริ่มมีการพัฒนาอย่างจริงจังเมื่อปลายปี  พ.ศ.2548 – ปัจจุบัน   เริ่มตั้งแต่ด้านอาคารสถานที่  เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์  เช่น  เครื่องตรวจวินิจฉัยด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า  (MRI) เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง  (CT Scan – 160 Slices) เครื่องตรวจวินิจฉัยมะเร็งเต้านม  (Digital  Mammogram)  ฯลฯ  และการพัฒนาด้านสารสนเทศและคอมพิวเตอร์   การเปิดบริการ  8 ศูนย์บริการทางการแพทย์  ได้แก่   ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด ศูนย์หลอดเลือดสมอง   ศูนย์ศัลยกรรม  ศูนย์กระดูกและข้อ   ศูนย์จักษุ   ศูนย์แม่และเด็ก   ศูนย์ทันตกรรม   ศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อ
 
ในด้านบริการทางการแพทย์สาขาอื่นๆ โรงพยาบาลหัวเฉียว  มีบริการอย่างครบครัน อาทิ  คลินิกอายุรกรรม   คลินิกหู คอ จมูก   ศูนย์ไตเทียม คลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด  ศูนย์ตรวจสุขภาพ รวมถึงมีโครงการเพื่อสังคมอีกมากมาย  เช่น โครงการธรรมโอสถ  โครงการธรรมรักษา   และโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  เช่น  การมอบทุนต้นกล้าพยาบาล การสงเคราะห์ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลและค่าฟอกไต เป็นต้น
 
โรงพยาบาลหัวเฉียว  มีหลักนโยบายบริหารเพื่อดำรงไว้ซึ่งการเป็นองค์กรเพื่อสังคม (Social Enterprise) 6 ด้าน ได้แก่   คุณภาพการรักษาพยาบาล   คุณธรรมจริยธรรมของบุคลากรทางการแพทย์    ธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจ     ความเอื้ออาทรต่อผู้ป่วยและครอบครัว   กำหนดอัตราค่าบริการที่สมเหตุสมผล และโครงการเพื่อสังคม  เพื่อให้โรงพยาบาลหัวเฉียว  เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง  และดำรงตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม  ดังเช่นวิสัยทัศน์ของโรงพยาบาลที่ว่า..   '''“ หัวเฉียวก้าวไกล   มั่นใจมาตรฐาน   ประทับใจบริการ   โรงพยาบาลเพื่อสังคม ”'''
 
== อ้างอิง ==