ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ผีชีวะ ปฐมบทแห่งเมืองผีดิบ"

ในช่วงทศวรรษ 1980 แคลร์ เรดฟิลด์ และพี่ชาย คริส เป็นเด็กกำพร้าที่อาศัยในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของเมืองแร็คคูนซิตี้หลังจากสูญเสียพ่อแม่ไปในอุบัติเหตุรถยนตร์, ที่นั่น แคลร์ได้ผูกมิตรกับลิซ่า เทรเวอร์ เด็กสาวหน้าตาอัปลักษณ์ที่ถูกทดลองโดยฝีมือ ดร. วิลเลี่ยม เบอร์กิน พนักงานของ[[อัมเบรลลาคอร์ปอเรชัน]] ที่คอยจับตามองเหล่าเด็กกำพร้าและพาพวกเขาไปทดลองเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่แคลร์ที่สัมผัสได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น เมื่อเธอได้รับการอุปการะโดยครอบครัวบุญธรรมปริศนาโดยปราศจากพี่ชาย เธอตัดสินใจหลบหนีออกมาก่อนที่จะโดนคนของวิลเลี่ยมจับไปทดลองได้สำเร็จ เธอเติบโตกลายเป็นคนไร้บ้านและต้องดิ้นรนใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง และฝึกฝนการใช้อาวุธปืน โดยได้รับความร่วมมือจากแหล่งข้อมูลที่คอยสืบหาข่าวของอัมเบรล่ามาให้

 

 

แคลร์เดินทางมาถึงที่บ้านของคริส เพื่อเตือนเขาถึงการทดลองของอัมเบรล่าที่กำลังจะทำให้ทั้งเมืองปั่นป่วนผ่านแหล่งน้ำ เปิดเผยว่า เบน เบอร์โตลุคชี่เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญของเธอ แต่คริสกลับไม่เชื่อเธอ เนื่องจากความห่างเหินที่แคลร์หนีออกมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า และทิ้งให้เขาต้องดิ้นรน อดทน เติบโตจนกลายเป็นฮีโร่ตำรวจประจำเมือง ด้วยความช่วยเหลือของดร. วิลเลี่ยม ก่อนจะเดินทางไปสถานีตำรวจของเมือง โดยปล่อยแคลร์ไว้ให้อยู่ภายในบ้าน และสงสัยว่าทำไมคริสถึงไม่มีอาการแปลก ๆ เพราะบริโภคแหล่งน้ำของเมืองเหมือนกับพลเรือน ทันใดนั้น ก็มีเด็กคนหนึ่งบุกเข้ามาในบ้าน หลังหนีออกมาจากแม่ของเขาที่มีอาการแปลก ๆ ผมร่วงและแววตามีเลือด สภาพจิตใจไม่เหมือนมนุษย์ ก่อนที่จะบุกโจมตีแคลร์ แคลร์ต่อสู้จนหลบหนีออกมาได้ด้วยมอเตอร์ไซค์ของคริสที่จอดไว้หลังบ้าน ระหว่างนั้นเธอขับรถสวนทางกับครอบครัวของวิลเลี่ยมที่มีภรรยาอย่าง แอนเนตต์ และลูกสาว เชอร์รี่ ที่กำลังจะออกมาจากบ้าน หลังได้รับสัญญาณเตือนภัยของอัมเบรลล่าเช่นเดียวกับทุกคนในเมือง

เมื่อมาถึงที่หมายอย่างสเปนเซอร์ แมนชั่น ทีมอัลฟ่ากลับพบว่าแมนชั่นร้างนั้นเต็มไปด้วยฝูงผีดิบที่ออกไล่ล่าเหยื่อเป็นกลุ่ม คริสและริชาร์ดโดนเล่นงานโดยผีดิบที่กำลังกัดกินร่างของเอนริโก้ มารินี่ สมาชิกของทีม บราโว่จนเสียชีวิต ก่อนที่ริชาร์ดที่พยายามจะช่วยเหลือคริสกลับถูกกินทั้งเป็น ทิ้งให้คริสต้องเผชิญหน้ากับฝูงผีดิบ ในขณะที่เวสเกอร์และจิลที่แยกมาอีกทางจนมาถึงที่ห้องสมุดที่มีปริศนาเปียโนซ่อนอยู่ เวสเกอร์ใช้เครื่องมือที่ได้รับจากตู้ล็อคเกอร์ก่อนมาถึงแมั่น เล่นมันจนเปิดทางลับออกมา แต่ขณะที่กำลังตะลึงอยู่นั่น จิลก็พาเวสเกอร์หลบออกจากห้องสมุดเมื่อเฮลิคอปเตอร์ของทีมที่คนขับถูกซอมบี้กัดจนกลายพันธุ์พุ่งชนเข้าใส่จนเกิดระเบิด โชคดีที่ทั้งสองปลอดภัย แต่ความจริงก็เปิดเผยว่า เวสเกอร์นั้นเป็นสายลับไม่ทราบฝั่งที่ได้รับมอบหมายให้ขโมยเชื้อไวรัสของเบอร์กินส์ โดยใช้แหล่งข้อมูลวงในนำทาง เขาเบื่อชีวิตที่ไร้ซึ่งความเจริญในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ จิลผิดหวังและเสียใจในตัวเวสเกอร์ที่ทิ้งเพื่อนให้ตายอยู่ในแมนชั่น เพราะเธอมีความรู้สึกดี ๆ ให้เขา เวสเกอร์ทิ้งจิลไว้ในห้องสมุดและหายเข้าไปในทางลับที่นำไปสู่ห้องทดลองใต้ดิน จิลตัดสินใจกลับไปช่วยเหลือคริส และพากันหาทางออกไปจากแมนชั่น

 

 

คริสโดนฝูงผีดิบรวมถึง เควิน ดูลีย์ เจ้าหน้าที่คนสุดท้ายของทีม บราโว่ เล่นงานในคฤหาสน์ จิลมาช่วยไว้ได้ทันและเปิดเผยความจริงเรื่องเวสเกอร์กับเขา ก่อนทั้งคู่จะพากันหนีไปยังทางลับที่เปิดทิ้งไว้ เบอร์กิ้นที่ตอนนี้พาครอบครัวมาอยู่ที่แล็บใต้ดินกำลังเก็บไวรัสเตรียมที่จะหนี ถูกเวสเกอร์ที่ตามมาใช้ปืนยิง แอนเนตต์พยายามใช้ปืนของสามีป้องกันลูกกับตัวเองถูกยิงตายทันที เชอร์รี่ช็อคและเสียใจมาก รีบหนีไปหลบซ่อน เมื่อสบโอกาสจึงหยิบปืนมาเล็งเวสเกอร์ เวสเกอร์ตั้งท่าจะเหนี่ยวไก แต่จิลที่ตามมาถึงห้องทดลองยิงเขาได้ทันพอดี จิลที่ยังมีความเป็นห่วงเวสเกอร์รู้สึกเสียใจที่เรื่องกลายเป็นแบบนี้ เวสเกอร์สั่งเสียเธอเป็นครั้งสุดท้ายว่า อัมเบรลล่ากำลังจะทำลายล้างที่นี่ ทางออกเดียวที่มีคือ รถไฟใต้ดินที่จะพาไปยังเขตนอกเมือง ก่อนจะแน่นิ่งไป จิลและคริสพาเชอร์รี่ที่เสียขวัญหลบหนีไปยังจุดหมาย โดยไม่รู้เลยว่าเบอร์กิ้นได้ฉีด "จีไวรัส" เข้าตัวเองและกลายพันธุ์ไล่ล่าและโจมตีคริส เยาะเย้ยว่าคริสนั้นโง่ที่หลงเชื่อในสิ่งที่เขาพูด มากกว่าน้องสาวของตัวเอง และตั้งใจจะเอาคริสไปทดลอง แคลร์ตามมายิงช่วยไว้ได้ทัน ก่อนที่คริสจะยิงซ้ำอีกที ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันและกันแบบพี่น้อง โดยมีลีออนที่เตรียมตัวพร้อมในทุกสถานการณ์หลังเข้าใจเรื่อง ทั้งสามตามไปสมทบกับจิลและเชอร์รี่ที่ใช้เครื่องมือของเวสเกอร์เดินทางมาถึงชานชาลาของรถไฟใต้ดิน