ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ภาษาอีสาน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
+pp notice
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 25:
|image=Isan_text.png|imagesize=280px|imagecaption=[[อักษรไทน้อย]]ใช้ในอดีต (บน)<br/>[[อักษรไทย]]ใช้ในปัจจุบันนี้ไม่เป็นมาตรฐาน (ล่าง)}}
 
'''ภาษาอีสาน'''<ref>{{cite news |title=กลุ่มชาติพันธุ์ : ลาวอีสาน |url=https://www.sac.or.th/databases/ethnic-groups/ethnicGroups/62 |accessdate=13 January 2022 |work=ศูนย์ข้อมูลมานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)}}</ref> หรือ '''ภาษาลาวอีสาน'''<ref>{{Cite web|date=2020-04-19|title=ภาษาลาวอีสานที่ถูกกำกับโดยศูนย์กลางอำนาจส่วนกลาง|url=https://theisaanrecord.co/2020/04/19/central-thai-and-isaan-languages/|website=เดอะอีสานเรคคอร์ด|language=th}}</ref> หรือ '''ภาษาไทยถิ่นตะวันออกเฉียงเหนือ''' หรือที่นิยมกล่าวถึงในเอกสารราชการไทยว่า '''ภาษาไทยถิ่นอีสาน'''<ref>{{cite journal |first1=วิไลศักดิ์ |last1= กิ่งคำ |title=ภาษาไทยถิ่นอีสาน : มรดกวัฒนธรรมบ้านเกิด |journal=วารสารภาษาไทยและวัฒนธรรมไทย |date=2007 |volume=1 |issue=1 |pages=58-75 |url=https://kukr2.lib.ku.ac.th/kukr_es/kukr/search_detail/result/200055}}</ref> เป็นการพัฒนาในท้องถิ่นของ[[ภาษาลาว]]ในประเทศไทย ผู้พูดในท้องถิ่นยังคงคิดว่าเป็นภาษาลาว<ref name="Identity">Keyes, Charles F. (1966). "Ethnic Identity and Loyalty of Villagers in Northeastern Thailand". ''Asian Survey''.</ref> รัฐบาลไทยยอมรับภาษานี้เป็นสำเนียงภาษาไทย ทั้งชาวไทยและลาวมีความเข้าใจร่วมกันยาก เพราะแม้ว่าจะมีคำร่วมเชื้อสายในพจนานุกรมกว่าร้อยละ 80 ทั้งลาวและอีสานมีระดับเสียงวรรณยุกต์ที่ต่างกันมากและมักใช้คำจากภาษาไทย จึงทำให้เกิดการขัดขวางความเข้าใจระหว่างกันโดยไม่มีการเปิดรับก่อน<ref name="DraperJ2004">{{cite journal |last1 = Draper |first1 = John |year = 2004 |title = Isan: The planning context for language maintenance and revitalization |journal = Second Language Learning and Teaching |volume = 4 |url = http://www.apacall.org/member/sonjb/sllt/4/Draper04.html |url-status = dead |archive-url = https://web.archive.org/web/20140311070346/http://www.apacall.org/member/sonjb/sllt/4/Draper04.html |archive-date = 2014-03-11 }}</ref>
 
ภาคอีสานมีบริเวณทางการเกษตรเป็นจำนวนมากและเป็นหนึ่งในภาคที่ยากจนและพัฒนาช้าที่สุดในประเทศไทย ด้วยชาวภาคอีสานหลายที่คนที่ไม่ค่อยมีการศึกษามักไปทำงานที่กรุงเทพหรือเมืองอื่นและแม้แต่ต่างประเทศในฐานะคนงาน, คนทำอาหาร, คนขับแท็กซี, คนงานก่อสร้าง และอื่น ๆ รวมกับอคติทางประวัติศาสตร์อย่างเปิดเผยต่อชาวภาคอีสานและภาษาของพวกเขา ได้เป็นเชื้อเพลิงของความเข้าใจในแง่ลบในภาษานี้ ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 20 ตัวภาษาได้เปลี่ยนภาษาไปเป็นภาษาไทยอย่างช้า ๆ ส่งผลถึงความอยู่รอดของภาษา<ref>Simpson, A. & Thammasathien, N. (2007). "Thailand and Laos", Simpson, A. (ed.) in ''Language and National Identity in Asia''. Oxford: Oxford University Press. (p. 401).</ref><ref>Chanthao, R. (2002). ''Code-mixing between Central Thai and Northeastern Thai of the Students in Khon Kaen Province''. Bangkok: Mahidol University.</ref> อย่างไรก็ตาม ด้วยมุมมองที่ผ่อนคลายลงในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา ทางนักวิชาการไทยในมหาวิทยาลัยในภาคอีสานได้ดำเนินงานวิจัยเกี่ยวกับภาษานี้ โดยบางส่วนได้เริ่มมีผลในการช่วยรักษาภาษาที่กำลังหายไป อุปถัมภ์ด้วยการเติบโตในด้านการรับรู้และชื่นชมวัฒนธรรม, วรรณกรรม และประวัติศาสตร์ท้องถิ่น<ref name="Toad">Phra Ariyuwat. (1996). ''Phya Khankhaak, the Toad King: A Translation of an Isan Fertility Myth in Verse .'' Wajuppa Tossa (translator). (pp. 27–34). Lewisburg, PA: Bucknell University Press.</ref><ref name="DraperJ2004"/>