วิกิพีเดีย

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อารีอานา กรานเด"

เรียกดูประวัติแบบโต้ตอบ
← การแก้ไขก่อนหน้าการแก้ไขถัดไป →
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
เห็นภาพข้อความวิกิ
แก้ไขราบละเอียด
บรรทัด 1:
{{ลิงก์ไปภาษาอื่น}}'''อารีอานา กรานเด-บูเทรา''' ({{lang-en|Ariana Grande-Butera}}) หรือชื่อในวงการคือ '''อารีอานา กรานเด''' อารีย์อนาถ กรอนเดิล ({{lang-en|Ariana Grande}}) เป็นนักร้องและนักแสดงชาวอเมริกัน เธอเริ่มงาน[[ละครบรอดเวย์]]เรื่อง ''[[13 (ละครเวที)|13]]'' ก่อนรับบทแคต วาเลนไทน์ ในซีรีส์โทรทัศน์''[[วิกทอเรียส]]'' ช่อง[[นิกเคโลเดียน]]ในปี ค.ศ. 2009 ซีรีส์ฉายจบสี่ซีซัน และกรานเดแสดงในภาคแยกเรื่อง ''[[แซมแอนด์แคต]]'' ฉายจบในปี ค.ศ. 2014 เธอยังมีบทบาทในละครเวที โทรทัศน์ และภาพยนตร์ และพากย์เสียงให้แอนิเมชันโทรทัศน์และภาพยนตร์ด้วย
{{ลิงก์ไปภาษาอื่น}}
{{Infobox person
| name = อารีอานา กรานเด
| image =File:Ariana Grande (32426962484) (cropped).jpg
| caption = อารีอานา กรานเดในปี ค.ศ. 2018
| birth_name = อารีอานา กรานเด-บูเทรา
| birth_date = {{birth date and age|1993|6|26}}
| birth_place = [[โบกาเรตัน (รัฐฟลอริดา)|โบกาเรตัน]] [[รัฐฟลอริดา]] [[สหรัฐอเมริกา]]
| occupation = {{flatlist|
* นักร้อง
* นักแสดง
}}
| years_active = 2008–ปัจจุบัน
| family = [[แฟรงกี กรานเด]] <br><small>(พี่ชายต่างบิดา)</small>
| module = {{Infobox musical artist|embed=yes
| background = solo_singer
| genre = {{flatlist|
* [[ป็อป]]
* [[อาร์แอนด์บีร่วมสมัย|อาร์แอนด์บี]]
}}
| label = [[รีพับลิกเรเคิดส์|รีพับลิก]]
| website = {{URL|arianagrande.com}}
}}
| signature = Ariana signature.png
}}
 
เพลงที่นางชอบที่สุดคือ suck with you
'''อารีอานา กรานเด-บูเทรา''' ({{lang-en|Ariana Grande-Butera}}) หรือชื่อในวงการคือ '''อารีอานา กรานเด''' ({{lang-en|Ariana Grande}}) เป็นนักร้องและนักแสดงชาวอเมริกัน เธอเริ่มงาน[[ละครบรอดเวย์]]เรื่อง ''[[13 (ละครเวที)|13]]'' ก่อนรับบทแคต วาเลนไทน์ ในซีรีส์โทรทัศน์''[[วิกทอเรียส]]'' ช่อง[[นิกเคโลเดียน]]ในปี ค.ศ. 2009 ซีรีส์ฉายจบสี่ซีซัน และกรานเดแสดงในภาคแยกเรื่อง ''[[แซมแอนด์แคต]]'' ฉายจบในปี ค.ศ. 2014 เธอยังมีบทบาทในละครเวที โทรทัศน์ และภาพยนตร์ และพากย์เสียงให้แอนิเมชันโทรทัศน์และภาพยนตร์ด้วย
 
นางเคยคบกับ คาดี้บือ ได้รับฉายา คู่รักหอยฉ่ำ
 
กรานเดเริ่มงานดนตรีด้วยเพลงประกอบซีรีส์ อัลบั้ม''[[วิกทอเรียส: มิวสิกฟรอมอะฮิตทีวีโชว์|เพลงจาปวิกทอเรียส]]'' (2011) เธอเซ็นสัญญากับค่าย[[รีพับลิกเรเคิดส์]]และออกสตูดิโออัลบั้มแรก ''[[ยัวส์ทรูลี (อัลบั้มอารีอานา กรานเด)|ยัวส์ทรูลี]]'' ในปี ค.ศ. 2013 เปิดตัวอันดับหนึ่งในชาร์ต[[บิลบอร์ด 200|''บิลบอร์ด'' 200]] ซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม "[[เดอะเวย์ (เพลงอารีอานา กรานเด)|เดอะเวย์]]" เปิดตัวที่อันดับ 10 ในชาร์ต[[บิลบอร์ดฮอต 100|''บิลบอร์ด''ฮอต 100]] นักวิจารณ์เปรียบช่วงเสียงของเธอกับช่วงเสียงของ[[มารายห์ แครี]]
เส้น 35 ⟶ 13:
== ชีวิตส่วนตัวและอาชีพ ==
 
=== 1 ===
=== 1993–2008: ชีวิตช่วงต้นและจุดเริ่มต้นของอาชีพ ===
'''อารีอานา กรานเด-บูเทรา''' เกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 1993 ในเมืองโบกาเรตัน รัฐฟลอริดา เป็นลูกสาวของ '''โจแอน แกรนเด''' และ '''เอ็ดเวิร์ด บูเทรา''' และมีพี่ชายต่างบิดา ชื่อ'''แฟรงกี้ กรานเด''' เป็นนักแสดง นักเต้น และโปรดิวเซอร์ ครอบครัวของเธอนั้น เป็นชาวอเมริกันที่มีเชื้อสายจากอิตาลี ครอบครัวของเธอแยกทางกัน ตอนที่เธออายุได้ประมาณ 8-9 ขวบ ส่วนชื่อของเธอนั้นมีที่มาจาก[[เจ้าหญิงออเรียน่า]] จากเรื่อง [[:en:Felix_the_Cat|เฟลิกซ์เดอะแคท]]
 
ตอนเด็ก ๆ เธอเคยแสดงในโรงภาพยนตร์ของเด็กในฟลอลิดา เล่นบทบาทแรกของเธอในฐานะ [[:en:Annie_(musical)|Annie]]รวมทั้งการแสดงในละครเพลง [[:en:Adaptations_of_The_Wizard_of_Oz|พ่อมดแห่งเมืองออซ]]และ [[โฉมงามกับเจ้าชายอสูร]] และตอนอายุได้ 8 ปี เธอได้ร้องเพลงร่วมกับวงออเคสต้า อย่างเช่น [[:en:Florida_Philharmonic_Orchestra|South Florida Philharmonic]], [[Florida Sunshine Pops]] และ [[Symphonic Orchestras]] และเธอได้ร้องเพลง "เดอะสตาร์สแปงเกิลด์แบนเนอร์ (เพลงชาติประจำ[[สหรัฐ]])" ในรายการโทรทัศน์แห่งชาติ เพื่อทีมฮ็อคกี้ [[:en:Florida_Panthers|ฟลอริด้า แพนเธอร์ส]]<ref>https://www.youtube.com/watch?v=QEwwhklDbVo</ref> และเธอได้จบการศึกษาจาก [[:en:Pine_Crest_School|Pine Crest School]]และ [[:en:North_Broward_Preparatory_School|North Broward Preparatory School]]
 
ตอนอายุได้ 13 ปี เธอเริ่มจริงจังกับอาชีพดนตรีมากขึ้น แต่เธอก็ยังคงทำแสดงละครอยู่ เมื่อเธอมาถึงเมือง [[ลอสแอนเจลิส]]ได้พบกับผู้จัดการของเธอ เธอตั้งใจจะทำอัลบั้มเพลงแนว [[ริทึมแอนด์บลูส์|อาร์แอนด์บี]]ตอนอายุ 14 ปี ในปี ค.ศ. 2008 เธอเริ่มงาน[[ละครบรอดเวย์]]เรื่อง ''[[:en:13_(musical)|13]]'' ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัล [[National Youth Theatre Association Award]] เมื่อเธอได้เข้ามาทำงานด้านเพลง เธอก็ออกจากโรงเรียนมัธยม [[:en:North_Broward_Preparatory_School|North Broward Preparatory School]]แต่เธอก็ยังลงทะเบียนเรียนอยู่ แต่เรียนกับติวเตอร์ และเธอยังร้องเพลงหลายครั้งที่ร้าน[[เบิร์ดแลนด์]] ใน [[นครนิวยอร์ก|นิวยอร์ก]]
 
=== 2009–2013: ช่อง[[นิกเคโลเดียน]]และอัลบั้ม ''Yours Truly'' ===
เธอได้เข้าไปออดิชั่นในเรื่อง [[:en:Victorious|วิกทอเรียส ของช่อง]][[นิกเคโลเดียน]]ในปี ค.ศ. 2009 เธอได้ไปแคสในบทบาทของ [[Cat Valentine (Victorious)|Cat Valentine]] ซึ่งเธอต้องย้อมผมสีแดงเพื่อรับบทบาทนี้ ซิตคอมเรื่องนี้ได้ออกอากาศใน ปี ค.ศ. 2010 ซึ่งได้รับกระแสตอบรับดีมาก ทำให้เธอเป็นที่รู้จักมากขึ้น ในฐานะ [[ไอดอลวัยรุ่น]] แต่เธอก็ยังสนใจในอาชีพนักร้องอยู่ เธอได้กล่าวว่า "อาชีพนักแสดงเป็นอะไรที่สนุก แต่อาชีพนักร้องยังเป็นสิ่งแรกและสิ่งที่ฉันอยากทำมากที่สุดมาโดยตลอด" ในปี ค.ศ 2010 เธอได้รับบทบาทเป็น มิเรียม ในละครเวที ''[[Cuba Libre]]'' ซึ่งเขียนและแต่งโดย นักแต่งเพลง [[เดสมอนด์ ไชลด์]]
 
หลังจากภาคแรกของ[[:en:Victorious|วิกทอเรียส]]จบลง. เธอตั้งใจที่จะทำงานในอาชีพนักร้อง และเริ่มทำอัลบั้มแรกในเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. 2010. เธอได้ทำเพลงแรกของเธอ มีชื่อว่า "Give It Up" เป็นเพลงประกอบ [[:en:Victorious|วิกทอเรียส]]ในปี ค.ศ. 2011 ตอนที่กำลังถ่ายทำเรื่อง วิกทอเรียส เธอได้อัดคลิปร้องเพลงโคฟเวอร์ศิลปินต่าง ๆ อาทิเช่น [[อะเดล]]<ref>https://www.youtube.com/watch?v=mQxiuSI8YHA</ref>, [[บียอนเซ่ โนวส์|บียอนเซ่]]<ref>https://www.youtube.com/watch?v=OV3mdqqxJwE</ref> และ [[อลิเชีย คีส์]]<ref>https://www.youtube.com/watch?v=muTcOalR4Wc</ref> และเธอได้อัปโหลดลง[[ยูทูบ|ยูทูป]] เพื่อนของ [[มอนเต ลิปแมน]] ผู้บริหารของบริษัท [[Republic Records]] ได้มาเจอกับคลิปของเธอ และเกิดประทับใจในเสียงของเธอ ได้ส่งลิงก์ไปให้ [[มอนเต ลิปแมน]] และเธอได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง [[Republic]] และเธอก็ได้ปล่อยซิงเกิลแรกของเธอ [["Put Your Hearts Up"]] ในปี ค.ศ. 2011 ซึ่งเป็นเพลงในหนึ่งอัลบั้มเพลงป๊อปวัยรุ่น และต่อมาเธอได้ปฏิเสธเพลงว่าเพลงไม่ใช่แนวทางของตน ไม่ใช่ประเภทเพลงที่ตนอยากทำ แต่ต่อมาเพลงได้รับการรับรองระดับโกลด์โดย[[สมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา]]
 
ชุดเพลงประกอบของซิตคอม [[วิกทอเรียส 2.0]] ได้ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ปี ค.ศ. 2012 อาริร่วมร้องในเพลง "[[Don't You (Forget About Me)]]".หลังจากภาคที่ 3 ของวิทอเรียส วิกทอเรียสก็ไม่ได้มีภาคต่ออีก ภาคที่ 3 และเพลงประกอบถูกปล่อยเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2012 เธอได้ร่วมร้องเพลง [["L.A. Boyz"]] ในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2012 เธอได้ร่วมร้องเพลงกับนักร้องชาวอังกฤษ [[มิคา]] ในเพลง "[[Popular Song (Mika song)|Popular Song]]"
 
และเธอได้แสดงซิตคอมเรื่อง ''[[Sam & Cat]]'' เธอได้รับบทเป็น [[Cat Valentine]] จากเรื่อง [[วิกทอเรียส]] และได้ร่วมแสดงกับ [[:en:Jennette_McCurdy|เจนเน็ตต์ แมคเคอร์ดี้]]ซึ่งรับบทเป็น [[Sam Puckett (iCarly)|Sam Puckett]] จาก ''iCarly'' ออกอากาศเมื่อ 8 มิถุนายน ปี ค.ศ. 2013 ได้กระแสตอบรับดีมาก
 
เธอได้บันทึกอัลบั้มเปิดตัวของเธอ ''[[Yours Truly (Ariana Grande album)|Yours Truly]]'' ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ชื่อแรกเริ่มของอัลบั้มคือ [[Daydreamin]] อัลบั้มถูกปล่อยเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ปี ค.ศ. 2013. เธอได้แต่งเพลงหลายเพลงในอัลบั้มนี้ ในเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 2013 อัลบั้มเปิดตัวอันดับหนึ่งในชาร์ต[[บิลบอร์ด 200|''บิลบอร์ด'' 200]] กับยอดขาย 138,000 ก๊อปปี้ ตั้งแต่สัปดาห์แรก
 
ซิงเกิลเดียวเพลง "[[The Way (Ariana Grande song)|The Way]]" ร่วมกับ [[แม็ก มิลเลอร์]], เปิดตัวอันดับ 10 บน [[Billboard Hot 100|''Billboard'' Hot 100]], และอันดับสูงสุดที่ได้คือ อันดับ 9 ใช้เวลาอยู่บนชาร์ตเป็นเวลา 26 สัปดาห์ เธอถูกฟ้องโดย Minder Music เหตุที่เลียนแบบเพลง "What we gotta do right here is go back, back in time" จาก 1972 song "[[Troglodyte (Cave Man)]]" โดย [[The Jimmy Castor Bunch]]. เธอได้รับการจัดอันดับจาก[[นิตยสารบิลด์บอร์ด]] ในหัวข้อ [["Music's Hottest Minors 2013"]] ซึ่งเธออยู่ในอันดับ 4. ต่อมาซิงเกิลเดียวเพลงที่สอง "[[Baby I]]" เปิดตัวที่อันดับ 21 บน [[Billboard Hot 100|''Billboard'' Hot 100]] และซิงเกิลที่ 3 "[[Right There (Ariana Grande song)|Right There]]" ร่วมกับ [[บิ๊ก ฌอน]] เปิดตัวที่อันดับที่ 84
 
ในปี 2013 เธอได้แสดงเรื่อง [[:en:Swindle_(2013_film)|Swindle]]รับบทเป็น [[Amanda Benson]] และในเดือนเดียวกัน เธอได้ปล่อยซิงเกิลซึ่งเธอทำร่วมกับ [[นาธาน ไซกส์]] หนุ่มอังกฤษจากวง [[เดอะวอนเทด]] "[[Almost Is Never Enough]]" และก็ยังไปร่วมคอนเสิร์ต [[Believe Tour]] ของ [[จัสติน บีเบอร์]] อีกด้วย และในปี 2013[[American Music Awards of 2013|American Music Awards]] เธอชนะรางวัล [["ศิลปินหน้าใหม่แห่งปี"]]. เธอปล่อยเพลงคริสมาสต์ 4 เพลง ในอัลบั้ม ''[[Christmas Kisses (EP)|Christmas Kisses]]'' ในช่วงเดือนธันวาคม. ประกอบไปด้วยเพลง "[[Last Christmas#Ariana Grande version|Last Christmas]]", "[[Love Is Everything]]", "[[Snow in California]]" และ "[[Santa Baby#Cover versions|Santa Baby]]"
 
=== 2014–2015: อัลบั้ม ''My Everything'' ===
มกราคม ปี 2014 เธอเริ่มทำอัลบั้มเพลงที่ 2 ของเธอกับ นักร้อง-นักแต่ง [[ไรอัน เท็ดเดอร์]] นักดนตรี [[เบนนี บลังโก]] และโปรดิวเซอร์ [[แมกซ์ มาร์ติน]] และเธอก็ยังแต่งเพลงหลายเพลงในอัลบั้มนี้อีกด้วย ในเดือนเดียวกันเธอได้รับรางวัล [[the Favorite Breakout Artist award]] ที่งาน [[40th People's Choice Awards|People's Choice Awards 2014]] มีนาคม ปี 2014 เธอได้ร่วมร้องเพลงที่[[ทำเนียบขาว]] [["Women of Soul: In Performance at the White House]]" และในเดือนต่อมา เธอก็ได้รับเชิญจาก[[บารัก โอบามา|ประธานาธิบดี บารัค โอบามา]]ให้มาแสดงในงาน [[Easter Egg Roll]] และได้ออกเพลงใหม่ที่ร่วมร้องเพลงกับนักร้องอาร์แอนด์บีอย่าง [[คริส บราวน์|คริส บาวน์]] [["Don't Be Gone Too Long"]] มีกำหนดการปล่อยวันที่ 24 มีนาคม แต่เกิดดีเลย์เพราะปัญหาด้านกฎหมายของคริส บราวน์ และเธอได้รับรางวัลศิลปินยอดเยี่ยมแห่งปีจาก [[the Music Business Association]]
 
เธอได้ปล่อยอัลบั้มที่สอง ''[[My Everything (Ariana Grande album)|My Everything]]'' เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ปี 2014 กับยอดขาย 169,000 ก๊อปปี้ ในสัปดาห์แรก ทำให้เพลง "[[Problem (Ariana Grande song)|Problem]]" ที่ได้ [[อิกกี อะเซเลีย|อิ๊กกี้ อาซาเลีย]]แรปเปอร์สาวจากออสเตรเลียมาร่วมร้องด้วย เปิดตัวด้วยอันดับที่ 3 บน [[Billboard Hot 100|''Billboard'' Hot 100]] และเปิดตัวอันดับที่ 1 บน [[UK Singles Chart]] เพลงที่สองคือเพลง "[[Break Free (song)|Break Free]]" ร่วมกับนักดนตรีชาวเยอรมัน [[เซดด์]] อันดับสูงสุดที่ทำได้คือ อันดับที่ 4 บน [[Billboard Hot 100|''Billboard'' Hot 100]] และเธอได้ขึ้นแสดงเปิดงาน [[2014 MTV Video Music Awards]] และยังได้รับรางวัลมิวสิควิดิโอเพลงป๊อปยอดเยี่ยม และเธอยังได้ไปร่วมร้องเพลง "[[Bang Bang (Jessie J, Ariana Grande and Nicki Minaj song)|Bang Bang]]" ที่ร่วมร้องกับ [[เจสซี เจ]] และ [[นิกกี มินาจ]]
 
27 กันยายน ปี 2014 เธอได้ขึ้นแสดงที่รายการ [[Saturday Night Live (season 40)|season 40]] และสามวันต่อมาเธอได้ปล่อยเพลงที่ 3 จากอัลบั้ม ''My Everything'', "[[Love Me Harder]]" ที่ได้ [[เดอะวีกเอนด์]] มาร่วมร้องด้วย และในเดือนพฤศจิกายน ปี 2014 เธอได้ไปร่วมร้องเพลงให้กับ [[เมเจอร์ เลเซอร์]] ในเพลง "[[All My Love (Major Lazer song)|All My Love]]" ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง [[เกมล่าเกม 3 ม็อกกิ้งเจย์ ภาค 1]] และในเดือนเดียวกัน เธอได้ปล่อยเพลงคริสมาสต์ "[[Santa Tell Me]]" ต่อมาเธอได้ปล่อยเพลงที่ 4 จากอัลบั้ม ''My Everything'', "[[One Last Time (Ariana Grande song)|One Last Time]]"
 
ต้นปี 2015 เธอได้ทัวร์ [[The Honeymoon Tour]] ที่อเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชีย และอเมริกาได้ รายได้ในการทัวร์ครั้งนี้สูงถึง 14 ล้านเหรียญสหรัฐ. และเธอได้ร่วมร้องเพลงให้กับ [[แคชเมียร์ แคท]] ในเพลง [[Adore (Cashmere Cat song)|"Adore"]] ซึ่งปล่อยในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีการทัวร์อยู่
 
ในปี 2015 เธอได้แขกรับเชิญหลายตอนในทีวีซีรีส์ของ [[Fox Broadcasting Company|Fox]] เรื่อง ''[[Scream Queens (2015 TV series)|หวีดสยองต้องเริ่ด]]'' เธอได้รับบทบาทเป็น [[Sonya Herfmann|Chanel #2]] และเธอก็ได้เปิดตัวน้ำหอม "Ari by Ariana Grande" เธอได้ถ่ายทำรายการ TV ของ [[Fox Broadcasting Company|Fox]] ''[[Knock Knock Live]]'' แต่รายการถูกยกเลิกก่อนที่ตอนของเธอจะออนแอร์ และในปี 2015 เธอได้เริ่มทำอัลบั้มที่ 3 ของเธอ ''[[Dangerous Woman (album)|Dangerous Woman]]'' ซึ่งตอนแรกมีชื่อว่า ''[[Moonlight]].'' ในเดือนตุลาคม ปี 2015 เธอได้ปล่อยซิงเกิลเดี่ยว "[[Focus (song)|Focus]]" ซึ่งเปิดตัวที่อันดับ 7 บน [[Billboard Hot 100|''Billboard'' Hot 100]] และระหว่างปี 2015 เธอได้ร่วมงานกับ [[อันเดรอา โบเชลลี]] ในเพลง "[[E Più Ti Penso]]" และได้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง [[Hercules]] เพลง [["Zero to Hero"]] ซึ่งรวมอยู่ในอัลบั้ม ''[[We Love Disney (2015 album)|We Love Disney]]'' และยังได้ร่วมร้องกับ [[เมแกน เทรนเนอร์]] และ [[ฮู อีส แฟนซี]] ในเพลง "[[Boys like You (Who Is Fancy song)|Boys like You]]" และเธอยังได้ปล่อยอัลบั้มคริสมาสต์ EP 2 ที่มีชื่ออัลบั้ม ''[[Christmas & Chill]]'' ซึ่งมีทั้งหมด 6 เพลง ประกอบไปด้วยเพลง [["Intro"|Intro]], [[Wit it this christmas]], [[December]], [[Not Just on Christmas]], [[True Love]] และ [[Winter Things]]
 
=== 2016–2017: อัลบั้ม ''Dangerous Woman'' และโปรเจกต์อื่น ๆ ===
มีนาคม ปี 2016 เธอได้ปล่อยเพลง "[[Dangerous Woman (song)|Dangerous Woman]]" ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับอัลบั้มที่ 3 ของเธอ เปิดตัวด้วยอันดับที่ 10 บน [[Billboard Hot 100|''Billboard'' Hot 100]] ต่อมาขึ้นมาอยู่อันดับ 8. 12 มีนาคม 2016 เธอได้รับเชิญเป็นโฮส ในรายการ ''[[แซเทอร์เดย์ไนต์ไลฟ์]]'' เธอได้ขึ้นแสดงเพลงในอัลบั้มใหม่ของเธอ เพลง "[[Be Alright (Ariana Grande song)|Be Alright]]" และต่อมาในวันที่ 18 มีนาคมเธอได้ปล่อยเพลง "[[Be Alright (Ariana Grande song)|Be Alright]]" ซึ่งเปิดตัวในอันดับที่ 48 บน [[Billboard Hot 100|''Billboard'' Hot 100]] ในเดือนพฤษภาคม เธอได้ไปโปรโมตอัลบั้มในรายการ ''[[The Voice (U.S. TV series)|The Voice]]'' season 10 เธอได้ร้องซิงเกิลที่ 2 จากอัลบั้มที่สามของเธอ ก็คือเพลง "[[Into You (Ariana Grande song)|Into You]]" และเธอยังได้ [[คริสตินา อากีเลรา]] มาร่วมร้องในเพลง "Dangerous Woman" เธอได้ปล่อยอัลบั้มเต็มในวันที่ 20 พฤษภาคม ปี 2016 เปิดตัวในอันดับที่ 2 บน [[บิลบอร์ด 200|''บิลบอร์ด'' 200]] อันดับ 1 ใน[[สหราชอาณาจักร]], อันดับ 2 ใน[[ญี่ปุ่น]] และอันดับ 1 อีกหลาย ๆ ประเทศ และต่อมาในเดือนกรกฎาคมที่งาน [[Summertime Ball]] ถูกจัดขึ้นที่ [[สนามกีฬาเวมบลีย์]] เธอได้ขึ้นแสดงเพลงในอัลบั้มของเธอทั้งหมด 3 เพลง และในเดือนสิงหาคมเธอได้ปล่อยซิงเกิลที่ 3 จากอัลบั้ม ''Dangerous Woman'' เพลง "[[Side to Side (song)|Side to Side]]" ที่ได้นักร้องชาวอเมริกันอย่าง [[นิกกี มินาจ]] ที่ก่อนหน้านี้เคยร่วมทำงานเพลงด้วยกันมาแล้ว อย่างเพลง [["On your knees"]] ทำให้เพลงได้รับกระแสตอบรับดีมาก จนได้อันดับที่ 4 บน [[Billboard Hot 100|''Billboard'' Hot 100]] และมิวสิควิดิโอเพลง "[[Side to Side (song)|Side to Side]]" มีผู้เข้าชมมากกว่า 1,700 ล้านครั้ง และอัลบั้ม ''Dangerous Woman'' ได้เข้าชิงรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการเพลงอย่าง Grammy Awards ในปี 2017
 
ในปี 2016 เธอได้ร่วมแสดงในเรื่อง [[ซูแลนเดอร์ 2]] (2016) ซึ่งรับบทเป็น [[Cameo]] ที่นำแสดงโดย [[เบน สติลเลอร์]] และ [[โอเวน วิลสัน]]. และเธอยังได้ร่วมแจมกับ [[MAC Cosmetics|แมค]] เป็นคอลเลคชั่นเครื่องสำอาง [[Ariana Grande's viva glam]] ซึ่งรายได้ทั้งหมดบริจาคให้กับ[[MAC AIDS Fund|มูลนิธิเอดส์ของแมค]] และต่อมาเธอได้เปิดตัวน้ำหอมเพิ่มเติม คือ กลิ่น [[Sweet like candy]] และได้ร่วมกับแบรนด์เสื้อผ้าอย่าง [[Lipsy London]]. และเธอได้ถ่ายโฆษณาทีวีสำหรับ [[T-Mobile|ที-โมบิล]] ซึ่งออนแอร์ในเดือนตุลาคม ปี 2016 และในเดือนธันวาคม เธอได้รับเป็น [[Penny Pingleton]] ในภาพยนตร์เรื่อง [[Hairspray Live]] และในเดือนเดียวกัน เธอได้ร่วมร้องเพลงกับ [[สตีวี วันเดอร์]] ในเพลง "[[Faith (Stevie Wonder song)|Faith]]" ประกอบภาพยนตร์เรื่อง [[:en:Sing_(2016_American_film)|ร้องจริง เสียงจริง]]
 
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ปี 2017 เธอได้เริ่ม [[Dangerous Woman Tour]] ตั้งแต่อเมริกาเหนือจนกลางเมษายน และยังคงต่อเนื่องไปจนถึง[[เวนิส]] ยุโรป ในเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน ปี 2017 ส่วนอเมริกาใต้ในเดือนกรกฎาคม และพักทัวร์สองเดือน และจบทัวร์ในเดือนกันยายนใน[[ออสเตรเลีย]] ส่วนแผนการทัวร์ในเอเชียมีขึ้นในเดือนสิงหาคม ประกอบด้วยประเทศญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไทย, ฟิลิปปินส์และจีน
 
และเธอได้ร่วมร้องเพลงกับ [[จอห์น เลเจนด์]] ในเพลง "[[Beauty and the Beast]]" ซึ่งประกอบภาพยนตร์เรื่อง [[โฉมงามกับเจ้าชายอสูร (ภาพยนตร์ พ.ศ. 2560)|โฉมงามกับเจ้าชายอสูร]] และเพลงของ [[Calvin Harris]] ในเพลง "Heatstroke" โดยร่วมกับ [[Young Thug]], [[Pharrell Williams]] ในอัลบั้มใหม่ของ Calvin Harris ในเดือนมิถุนายน
 
=== 2018 - ปัจจุบัน: อัลบั้ม ''Sweetener'' และ ''Thank U, Next'' ===
24 มีนาคม 2018 กรานเดได้ร่วมแสดงในงาน “[[มาร์ชฟอร์เอาเออร์ไลฟ์|March for Our Lives]]”<ref>http://www.dailymail.co.uk/tvshowbiz/article-5540083/Ariana-Grande-gives-rousing-performance-March-Lives-rally.html</ref> เพื่อสนับสนุนการเรียกร้องให้ยกเลิกการจำหน่ายอาวุธปืนเนื่องจากเหตุยิงกันในโรงเรียนมัธยมสโตนแมนดักกลาส เมืองพาร์คแลนด์ รัฐฟลอริดา โดยเธอขึ้นแสดงเพลง “Be Alright” จากอัลบั้ม ''Dangerous Woman'' หลังจากโอบกอดและถ่ายรูปกับบรรดานักเรียนโรงเรียนสโตนแมนดักกลาส
 
ส่วนทางด้านอัลบั้ม ''Sweetener'' ในปี ค.ศ. 2016 กรานเดเริ่มทำโปรเจกต์อัลบั้มใหม่ร่วมกับ “[[ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์]]” (Pharrell Williams) แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดหลังคอนเสิร์ต [[Dangerous Wonan Tour]] ของเธอที่กรุงแมนเชสเตอร์ ทำให้โปรเจกต์นี้ถูกล้มเลิกไปเนื่องจากสภาพจิตใจของเธอไม่ดีนัก<ref>[http://www.thefader.com/2018/05/30/ariana-grande-cover-story Tanzer, Myles (May 30, 2018). "Ariana Grande". ''The Fader''.]</ref>
 
หลังจากนั้นในวันที่ 20 เมษายน 2018 กรานเดได้ปล่อยซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม ''Sweetener'' อย่างเพลง “[[No Tears Left to Cry]]” พร้อมกับมิวสิควีดีโอ<ref>[https://www.rollingstone.com/music/music-news/hear-ariana-grandes-uplifting-new-song-no-tears-left-to-cry-629152/ Reed, Ryan (April 20, 2018). "Hear Ariana Grande's Uplifting New Song 'No Tears Left to Cry'". ''Rolling Stone''.]</ref> เปิดตัวพุ่งขึ้นเป็นอันดับที่ 3 บน [[Billboard Hot 100]]<ref>https://www.billboard.com/articles/columns/chart-beat/8412480/drake-nice-for-what-hot-100-number-one-ariana-grande-j-cole</ref> อัลบั้ม Sweetener เริ่มวางจำหน่ายรอบพรีออเดอร์ในวันที่ 20 มิถุนายน 2018 พร้อม ๆ กับปล่อยซิงเกลที่ 2 “[[The Light Is Coming]]” ที่ได้นักร้องสาวแร็ปเปอร์ชาวอเมริกันอย่าง[[นิกกี มินาจ|นิกกี้ มินาจ]] (Nicki Minaj) มาร่วมงาน และหลังจากนั้นในวันที่ 23 กรกฎาคม 2018 เธอปล่อยซิงเกิลที่ 3 “[[God Is a Woman]]” ตามมา
 
อัลบั้ม ''Sweetener'' เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 สิงหาคม 2018 มียอดขายในสัปดาห์แรก 402,000 ยูนิตในทั่วโลก ซึ่งมากกว่าผลงานทั้ง 3 อัลบั้มที่ผ่านมา 2 เท่าตัว เปิดตัวขึ้นเป็นอันดับที่ 1 บนชาร์ต [[Billboard 200|BillBoard 200]] และขึ้นเป็นอันดับที่ 1 บน “[[Worldwide iTunes Album]]” หลังจากเปิดตัววันแรก พร้อมกับเพลง “[[Breathin’]]” ที่เปิดตัวพุ่งขึ้นเป็นอันดับที่ 4 บน “Worldwide iTunes Song Chart” ในวันเดียวกัน โดยในระหว่างวันที่ 20 สิงหาคม – 4 กันยายน 2018 กรานเดได้เดินสายโปรโมทอัลบั้มใหม่ภายใต้ชื่อ “[[The Sweetener Sessions]]” ที่ Irving Plaza ในนครนิวยอร์ก The Vic Theatre ในชิคาโก Ace Theater ในลอสแอนเจลิส และ KOKO ในลอนดอน<ref>[https://www.rollingstone.com/music/music-news/ariana-grande-details-intimate-sweetener-sessions-concerts-708392/ Legaspi, Althea (August 8, 2018). "Ariana Grande Details Intimate ''Sweetener Sessions'' Concerts". ''Rolling Stone''.]</ref>
 
นอกจากนี้ในปี 2018 กรานเดชนะรางวัลสาขา “[[Choice Snap chatter]]” จาก ”[[2018 Teen Choice Awards|Teen Choice Award 2018]] ”<ref>https://www.billboard.com/articles/news/awards/8460836/teen-choice-awards-nominations-2018-nominees-list</ref> และรางวัลสาขา “Best Pop” จากงาน “[[MTV VMAs 2018]]” ด้วยผลงานเพลง “No Tears Left To Cry” ในงานครั้งนี้ เธอได้ขึ้นแสดงเพลง “God Is a Woman” ซึ่ง Billboard ได้จัดให้การแสดงของเธอเป็นการแสดงที่ยอมเยี่ยมอันดับที่ 2 รองมาจากการแสดง Hits Medley ของ[[เจนนิเฟอร์ โลเปซ]]<ref>https://www.billboard.com/articles/events/vma/8471375/video-music-awards-2018-best-performances-ranked</ref> อีกทั้งในงานประกาศรางวัล "MTV VMAs Japan 2018" กรานเดชนะรางวัลสาขา "Best Female Video (International)" จากผลงานมิวสิควีดีโอ “[[No Tears Left to Cry]]” จากฝีมือผู้กำกับ[[เดฟ เมเยอรส์]] (Dave Meyers)
 
ในปี 2019 กรานเดออกอัลบั้มที่ห้า ''Thank U, Next'' อัลบั้มนี้ได้รับการตอบรับในทางที่ดี โดยนิตยสาร[[โรลลิงสโตน]]กล่าวว่า ''Thank U, Next'' เป็น "หนึ่งในอัลบั้มเพลงป็อปที่ดีที่สุดในปี 2019"<ref name="RollingStone">{{cite web|url=https://www.rollingstone.com/music/music-album-reviews/ariana-grande-thank-u-next-album-review-793887/|title=Review: Ariana Grande Moves on in Spectacular Style With ‘Thank U, Next’|work=[[Rolling Stone]]|last=Sheffield|first=Rob|authorlink=Rob Sheffield|date=February 12, 2019|accessdate=February 12, 2019}}</ref> ซิงเกิลนำ "Thank U, Next" เปิดตัวเป็นอันดับที่ 1 ของชาร์ต[[บิลบอร์ดฮอต 100]] และกลายเป็นซิงเกิลอันดับที่ 1 ในสหรัฐซิงเกิลแรกของกรานเด<ref>{{Cite news| url=https://www.billboard.com/articles/columns/chart-beat/8484401/ariana-grande-thank-u-next-hot-100-first-number-one-debut| title=Ariana Grande Achieves First Billboard Hot 100 No. 1 as 'Thank U, Next' Debuts on Top|work=Billboard|access-date=November 13, 2018}}</ref>
 
ในปี 2020 เธอมีชื่อเสนอเข้าชิงรางวัลใหญ่ๆอย่าง[[Grammy Awards|แกรมมี่]] แต่ทว่าเธอกลับชวดไปทุกรางวัลใหญ่อย่างน่าเสียดาย
 
== ผลงานด้านการแสดง ==
{| class="wikitable sortable"
|+ ผลงานทางภาพยนตร์และโทรทัศน์
! ปี
! ชื่อเรื่อง
! แสดงเป็น
! class="unsortable" | Notes
|-
| 2552
| ''The Battery's Down''
| Bat Mitzvah Riffer
| (1 ตอน) "Bad Bad News" (ซีซั่น 2)
|-
| 2553–2556
| ''Victorious''
| Cat Valentine
| นักแสดงหลัก (ซีรีส์ซิทคอมทางช่อง Nickelodeon)
|-
| 2554
| ''iCarly''
| Cat Valentine
| (1 ตอน) "iParty with Victorious" (ซีซั่น 4)
|-
| 2554
| ''Winx Club''
| Princess Diaspro
| พากย์เสียง
|-
| 2556–2557
| ''Sam & Cat''
| Cat Valentine
| นักแสดงหลัก (ซีรีส์ซิทคอมทางช่อง Nickelodeon)
|-
| 2556
| ''Swindle''
| Amanda Benson
| นักแสดงหลัก (ภาพยนตร์)
|-
| 2557
| ''Family Guy''
| Italian Daughter
| พากย์เสียง
|-
|2558
|Scream Queen
|Chanel No.2
|(4 ตอน) นักแสดงสมทบ
|}
 
== ผลงานละครเวที ==
{| class="wikitable"
|- style="background:#b0c4de; text-align:center;"
! ปี
! ชื่อเรื่อง
! แสดงเป็น
|-
| 2551
| ''13''
| Charlotte / u/s Patrice
|-
| 2555
| ''Cuba Libre''
| Miriam
|-
| 2555
| ''A Snow White Christmas''<ref>{{cite web|url=http://www.pasadenaplayhouse.org/box-office/mainstage/a-snow-white-christmas.html |title=A Snow White Christmas « The Pasadena Playhouse |publisher=Pasadenaplayhouse.org |date=2012-12-30 |accessdate=2013-05-11}}</ref>
| Snow White
|}
 
== ผลงานด้านเพลง ==
=== อัลบั้ม ===
==== อัลบั้มเดี่ยว ====
{| class="wikitable plainrowheaders" style="text-align:center;"
! scope="col" rowspan="2" style="width:12em;" | ชื่ออัลบั้ม
! scope="col" rowspan="2" style="width:16em;" | รายละเอียดอัลบั้ม
! scope="col" colspan="7" | อันดับสูงสุด
! scope="col" rowspan="2" | ยอดขาย
|-
! scope="col" style="width:3em;font-size:90%;"| [[Billboard 200|US]]
! scope="col" style="width:3em;font-size:90%;"| [[Australia|AUS]]<ref name="ReferenceB">[https://itunes.apple.com/au/album/yours-truly/id685617992 iTunes - Music - Yours Truly by Ariana Grande<!-- Bot generated title -->]</ref>
! scope="col" style="width:3em;font-size:90%;"| [[Canada|CAN]]<ref>[https://itunes.apple.com/ca/album/yours-truly/id685066067 iTunes - Music - Yours Truly by Ariana Grande<!-- Bot generated title -->]</ref>
! scope="col" style="width:3em;font-size:90%;"| [[Japan|JPN]]
! scope="col" style="width:3em;font-size:90%;"| [[New Zealand|NZ]]
! scope="col" style="width:3em;font-size:90%;"| [[Ireland|IRL]]
! scope="col" style="width:3em;font-size:90%;"| [[UK Albums Chart|UK]]<ref>[https://itunes.apple.com/gb/album/yours-truly/id685617992 iTunes - Music - Yours Truly by Ariana Grande<!-- Bot generated title -->]</ref>
|-
! scope="row" | ''Yours Truly''
| style="text-align:left;"|
* วันจำหน่าย: 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556
* ค่ายเพลง: Republic Records
* รูปแบบ: CD, Digital Download
| 1 || 6 || 2 || 3 || 11 || 6 || 7
| style="text-align:left;"|
* US : 600,000+
* JPN : 125,000+
|-
! scope="row" | ''My Everything''
| style="text-align:left;"|
* วันจำหน่าย: 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557
* ค่ายเพลง: Republic Records
* รูปแบบ: CD, Digital Download
| 1 || 1 || 1 || 3 || 3 || 2 || 3
| style="text-align:left;"|
* US : 700,000+
* JPN : 180,000+
* UK : 180,000+
|-
! scope="row" | ''Dangerous Woman''
| style="text-align:left;"|
* วันจำหน่าย: 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
* ค่ายเพลง: Republic Records
* รูปแบบ: CD, Digital Download
| 2 || 1 || 2 || 2 || 1 || 1 || 1
| style="text-align:left;"|
* US : 500,000+
* JPN : 125,000+
* UK : 80,000+
|-
! scope="row" | ''Sweetener''
| style="text-align:left;"|
* วันจำหน่าย: 17 สิงหาคม พ.ศ. 2561
* ค่ายเพลง: Republic Records
* รูปแบบ: CD, Digital Download
| 1 || 1 || 1 || 5 || 1 || - || 1
| style="text-align:left;"|
* US: 213,000{{efn|group=upper-alpha|Sales of ''Sweetener'' in the United States as of January 2019.<ref name="SweetenerUS">{{cite web|url=http://hitsdailydouble.com/news&id=314588&title=2018-TOP-50-ALBUMS&title=YEAR-TO-c-ALBUMS|title=Top 50 Albums 2018|publisher= HITS}}</ref>}}
* JPN: 28,029{{efn|group=upper-alpha|Sales of ''Sweetener'' in Japan as of September 23, 2018.<ref name="Sweetener Japan">>{{cite news|url=https://www.oricon.co.jp/rank/ja/w/2018-10-01/p/5/|title=アルバムランキング|publisher=[[Oricon]]|accessdate=September 27, 2018}}</ref>}}
|-
! scope="row" | ''Thank U, Next''
| style="text-align:left;"|
* วันจำหน่าย: 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
* ค่ายเพลง: Republic Records
* รูปแบบ: LP, CD, digital download, cassette
| 1 || 1 || 1 || 12 || 1 || - || 1
| style="text-align:left;"|
* US: <!-- This column is for sales ONLY -->116,000<ref name="TUN BB200">{{cite web|url=https://www.billboard.com/articles/columns/chart-beat/8498762/ariana-grande-thank-u-next-debuts-at-no-1-on-billboard-200-chart-album|title=Ariana Grande's 'Thank U, Next' Debuts at No. 1 on Billboard 200 Chart With Biggest Streaming Week Ever for a Pop Album|work=Billboard|last=Caulfield|first=Keith|date=February 17, 2019|accessdate=February 18, 2019}}</ref>
* JPN: 14,483{{efn|group=upper-alpha|Sales of ''Thank U, Next'' in Japan as of March 3, 2019.<ref name="Thank U Next Japan">>{{cite web|url=https://www.oricon.co.jp/rank/ja/w/2019-03-11/p/5/|title=アルバムランキング|publisher=[[Oricon]]|accessdate=February 13, 2019}}</ref>}}
* UK: 118,279{{efn|group=upper-alpha|Sales of ''Thank U, Next'' in the United Kingdom as of March 1, 2019.<ref name="Thank U Next UK">{{cite web|url=http://www.musicweek.com/analysis/read/charts-analysis-ariana-grande-secures-third-week-at-no-1/075485|title=Charts analysis: Ariana Grande secures third week at No.1|publisher= Music Week|accessdate=March 3, 2019}}</ref>}}
|-
|}
 
==== อัลบั้ม EP ====
{| class="wikitable plainrowheaders" style="text-align:center;"
! scope="col" rowspan="2" style="width:12em;" | ชื่ออัลบั้ม
! scope="col" rowspan="2" style="width:16em;" | รายละเอียดอัลบั้ม
! colspan="3" scope="col" | อันดับสูงสุด
|-
! scope="col" style="width:3em;font-size:90%;"| [[Japan|JPN]]
!US ''Billboard'' 200
!US Holiday Albums
(''Billboard'')
|-
! scope="row" | Christmas Kisses - EP
| style="text-align:left;"|
* วันจำหน่าย: 17 ธันวาคม พ.ศ. 2556
* ค่ายเพลง: Republic Records
* รูปแบบ: CD, Digital Download
| 25
| -
| -
|-
!Christmas & Chill - EP
|
* วันวางจำหน่าย: 18 ธันวาคม 2558
* ค่ายเพลง: Republic Records
* รูปแบบ: CD, Digital Download
| -
|34
|3
|}
 
=== ซิงเกิล ===
==== เพลงโปรโมทจากอัลบั้ม ====
{| class="wikitable plainrowheaders" style="text-align:center;"
! scope="col" rowspan="2" style="width:20em;" | ชื่อเพลง
! scope="col" rowspan="2" | ปี
! scope="col" colspan="8" style="width:10em;" | อันดับสูงสุด
! scope="col" rowspan="2" style="width:10em;" | จากอัลบั้ม
|-
! scope="col" style="width:3em;font-size:90%;"|[[Billboard Hot 100|US]]
! scope="col" style="width:3em;font-size:90%;"|[[Australia|AUS]]
! scope="col" style="width:3em;font-size:90%;"|[[Belgium|BEL]]
! scope="col" style="width:3em;font-size:90%;"|[[Canada|CAN]]
! scope="col" style="width:3em;font-size:90%;"|[[Japan|JPN]]
! scope="col" style="width:3em;font-size:90%;"|[[Netherlands|NL]]
! scope="col" style="width:3em;font-size:90%;"|[[New Zealand|NZ]]
! scope="col" style="width:3em;font-size:90%;"|[[UK Singles Chart|UK]]
|-
! scope="row"| Put Your Hearts Up
| rowspan="1"| 2554
| — || — || — || — || — || — || — || —
| rowspan="1"| Put Your Hearts Up - Single
|-
! scope="row"| The Way <br /><span style="font-size:85%;"> (ร่วมกับ Mac Miller) </span>
| rowspan="3"| 2556
| 9 || 37 || 108 || 33 || 66 || 22 || 31 || 8
| rowspan="3"| Yours Truly
|-
! scope="row"| [[เบบีไอ]]
| 21 || 67 || — || 57 || 6 || 39 || — || 145
|-
! scope="row"| Right There <br /><span style="font-size:85%;"> (ร่วมกับ Big Sean) </span>
| 84 || 51 || — || — || — || — || — || 113
|-
! scope="row"| Problem <br /><span style="font-size:85%;"> (ร่วมกับ Iggy Azalea) </span>
| rowspan="5"| 2557
| 2 || 2 || 15 || 3 || 18 || 8 || 1 || 1
| rowspan="2"| My Everything
|-
! scope="row"| Break Free<br /><span style="font-size:85%;"> (ร่วมกับ Zedd) </span>
| 4 || 3 || 17 || 5 || 19 || 6 || 5 || 16
|-
! scope="row"| Bang Bang<br /><span style="font-size:85%;"> (ร่วมกับ Jessie J, Nicki Minaj) </span>
| 3 || 4 || 14 || 3 || 40 || 6 || 4 || 1
| rowspan="1"| Sweet Talker
|-
! scope="row"| Love Me Harder<br /><span style="font-size:85%;"> (ร่วมกับ The Weekend) </span>
| 7 || 19 || 45 || 10 || — || 13 || 28 || 48
| rowspan="1"| My Everything
|-
! scope="row"| Santa Tell Me
| 42 || 80 || 32 || 27 || 29 || 8 || — || 68
| rowspan="1"| Christmas Kisses Japan Edition
|-
! scope="row"| One Last Time
| rowspan="2"| 2558
| 13 || 15 || 22 || 12 || 72 || 11 || 22 ||2
| rowspan="1"| My Everything
|-
! scope="row"| Focus
| 7 || 10 || 14 || 8 || 1 || 9 || 16 || 10
| rowspan="4"| Dangerous Woman
|-
! scope="row"| Dangerous Woman
| rowspan="3"| 2559
| 8 || 18 || 31 || 10 || 73 || 21 || 16 || 17
|-
! scope="row"| Into You
| 13 || 11 || 29 || 13 || 25 || 21 || 9 || 14
|-
! scope="row"| Side to Side<br /><span style="font-size:85%;"> (ร่วมกับ Nicki Minaj) </span>
| 4 || 3 || 23 || 5 || 74 || 11 || 2 || 4
|-
|Everyday
(ร่วมกับ Future)
|2560
|33
|50
|—
|51
|—
|—
|—
|55
|Dangerous Woman
|-
|No Tears Left to Cry
| rowspan="5" |2561
|3
|1
|—
|1
|—
|—
|—
|1
| rowspan="3" |Sweetener
|-
|The Light Is Coming
|95
|6
|—
|7
|—
|—
|—
|3
|-
|God Is a Woman
|8
|7
|—
|3
|—
|—
|—
|5
|-
|Thank U, Next
|1
|1
|1
|1
|24
|3
|1
|1
| rowspan="2" |Thank U, Next
|-
|7 Rings
|1
|1
|1
|1
|21
|4
|1
|1
|}
 
=== ทัวร์คอนเสิร์ต ===
==== คอนเสิร์ตหลัก ====
เส้น 419 ⟶ 38:
 
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
 
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
{{Commons category|Ariana Grande|อารีอานา กรานเด}}
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/wiki/อารีอานา_กรานเด"