ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 3:
[[ไฟล์:บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ.jpg|thumb|รูปภาพบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ]]
 
<!--ยังไม่ได้ปรับปรุง รอการตรวจสอบก่อน
บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ เป็นบึงน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,700 ไร่ อยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองสุพรรณประมาณ 64 กิโลเมตร บึงฉวากมีพื้นที่ติดต่อกับอำเภอหันคา จังหวัดชัยนาทและอำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนที่อยู่ในเขตอำเภอเดิมบางนางบวชมีพื้นที่ประมาณ 1,700 ไร่
 
 
บึงฉวาก ได้รับประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่ามาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2526 และในปีพ.ศ. 2541 ได้รับการจัดให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับชาติตามอนุสัญญาแรมซาร์ที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคี เนื่องจากความหลากหลายของพันธุ์พืชและสัตว์ที่มีในบึง ลักษณะที่เรียกว่าเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำตามอนุสัญญาแรมซาร์ คือ พื้นที่ลุ่ม พื้นที่ราบลุ่ม พื้นที่ลุ่มชื้นแฉะ พื้นที่ฉ่ำน้ำ มีน้ำท่วม น้ำขัง พื้นที่พรุ พื้นที่แหล่งน้ำ ทั้งที่เกิดเองตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้าง ทั้งที่มีน้ำขังหรือน้ำท่วมถาวรและชั่วคราว ทั้งแหล่งน้ำนิ่งและน้ำไหล แหล่งน้ำจืด น้ำกร่อยและน้ำเค็ม รวมไปถึงพื้นที่ชายฝั่งทะเลและทะเลในบริเวณซึ่งเมื่อน้ำลดต่ำสุด น้ำลึกไม่เกิน 6 เมตร ซึ่งบึงฉวากเข้าข่ายลักษณะดังกล่าว คือเป็นบึงน้ำจืดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีความลึกเฉลี่ยประมาณ 1–3 เมตร พื้นที่บึงฉวากอยู่ในความดูแลของหน่วยราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เช่น กรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมการเกษตรและอุตสาหกรรม เป็นต้น
 
ริมบึงฉวากมีบรรยากาศร่มรื่น ลมพัดเย็นสบายตลอด ในบริเวณบึงเต็มไปด้วยดอกบัวสีแดงและชมพู ในช่วงตอนเช้าบัวจะบานสวยงาม นกเป็ดแดงฝูงใหญ่จับกลุ่มอยู่ตามกอบัวในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคมและนกจะทยอยกลับในช่วงเดือนเมษายน มีศาลาสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน มีบริการขี่จักรยานน้ำ นักท่องเที่ยวสามารถขออนุญาตกางเต็นท์พักแรมริมบึง ปัจจุบันกำลังมีการพัฒนาบึงฉวากให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดสุพรรณบุรี
 
มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่ในความดูแลเช่น
 
สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ เป็นหน่วยงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี ภายในอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำรวบรวมพันธุ์ปลาน้ำจืด ปลาสวยงามและพันธุ์ปลาหายากเอาไว้ให้ประชาชนได้ศึกษา แบ่งเป็น 3 อาคาร
อาคารสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำหลังที่ 1 จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืดและสัตว์น้ำเค็ม ทั้งพันธุ์ปลาไทย และพันธุ์ปลาต่างประเทศกว่า 50 ชนิดเช่น ปลาบึก ปลากระโห้ ปลาม้า ปลากราย ปลาช่อนงูเห่า ปลาเสือตอ เป็นต้น
อาคารสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำหลังที่ 2 ประกอบด้วยตู้ปลาขนาดใหญ่สวยงามบรรจุน้ำได้กว่า 400 ลูกบาศก์เมตร และมีอุโมงค์ความยาวประมาณ 8.5 เมตร ผู้ชมสามารถเดินลอดผ่านใต้ตู้ปลาได้บรรยากาศเหมือนอยู่ใกล้สัตว์น้ำ ซึ่งถือว่าเป็นอุโมงค์ปลาน้ำจืดแห่งแรกของประเทศไทย มีนักประดาน้ำหญิงสาธิตการให้อาหารปลา นอกจากนั้นโดยรอบยังมีตู้ปลาน้ำจืดอีก 30 ตู้ และตู้ปลาทะเลสวยงามอีก 7 ตู้
การแสดงตู้ปลาใหญ่มีเฉพาะในวันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มี 4 รอบ ตั้งแต่เวลา 10.30-16.00 น. สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ เปิดให้เข้าชมทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
อาคารสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำหลังที่ 3 (สวรรค์แห่งโลกใต้ทะเล) จัดแสดงพันธุ์ปลาทะเลมากมายหลายชนิดให้ได้ชมกัน มีตู้ปลาขนาดใหญ่ และตู้ปลารูปทรงแปลกตา เพื่อคอยบริการนักท่องเที่ยวให้ได้ชื่นชมกับความสวยงาม และบรรยากาศของโลกใต้ท้องทะเล รวมทั้งตื่นตาตื่นใจกับอุโมงค์ปลา และบันไดเลื่อน ขนาดความยาว 75 เมตร เพื่อให้ได้ศึกษาสภาพความเป็นอยู่ของสัตว์ทะเลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งบ้านของเจ้าแห่งท้องทะเล หรือ ปลาฉลาม อาคารสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำหลังที่ 3 (สวรรค์แห่งโลกใต้ทะเล) เปิดให้เข้าชมทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 180 บาท เด็ก 50 บาท วันจันทร์-ศุกร์ เปิดเวลา 08.30–17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดเวลา 08.30–18.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3543 0043-4, 0 3543 0033 โทรสาร 0 3543 9208
 
เวทีริมบึง มีการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของนักเรียน นักศึกษาในจังหวัดสุพรรณบุรี นำการแสดงศิลปะพื้นบ้านที่หาดูได้ยากมาให้ชมในช่วงวันหยุดเทศกาล
บ่อจระเข้น้ำจืด เป็นบ่อจระเข้ที่ได้จำลองให้มีสภาพใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด พื้นที่ประมาณ 3 ไร่ มีจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยขนาด 1.5–4.0 เมตร ประมาณ 60 ตัว ซึ่งผู้ชมจะได้เห็นความเป็นอยู่แบบธรรมชาติของจระเข้และสามารถเข้าชมอย่างใกล้ชิด มีการแสดงจระเข้วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รอบ 11.00 น., 12.30 น., 14.00 น. และ 15.30 น.
 
 
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท วันจันทร์-ศุกร์ เปิดเวลา 08.30–17.00 น. วันเสาร์ - อาทิตย์ เปิดเวลา 08.30–18.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3543 0043-4, 0 3543 0033 โทรสาร 0 3543 9208
-
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก เปิดทุกวัน จันทร์-ศุกร์ 08.00–16.30 น. เสาร์-อาทิตย์ 08.00–18.00 น. โทร. 0 3543 9206, 0 3543 9210 สำนักงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก โทร. 0 3548 1250
 
การเดินทาง จากถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340) เมื่อถึงอำเภอเดิมบางนางบวช สามารถเข้าไปได้ 2 ทาง คือ เมื่อถึงสี่แยกทางเข้าตัวอำเภอเดิมบางนางบวช เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ตรงไปจนพบสามแยกตัดกับถนนเลียบคลองชลประทาน ให้เลี้ยวขวาไปตามถนนเลียบคลองชลประทาน
 
*********************
รายละเอียดแหล่งท่องเที่ยว
ภายในอุโมงค์แก้วใต้น้ำ แห่งสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ บึงฉวาก คือเสมือนเมืองบาดาลซึ่งเราสามารถเดินอยู่ใต้น้ำได้ ฝูงปลาน้ำจืดหลากชนิดแหวกว่ายอยู่รอบๆ ตัว ปลาเสือตอ ปลาบึก ปลาทรงเครื่อง และอีกมากมายซึ่งล้วนแต่หายาก หากแต่ที่ บึงฉวาก นี้ มนุษย์กับเหล่ามัจฉาเหมือนจะสัมผัสกันได้ชิดใกล้ที่สุด ด้วยความสมบูรณ์ของพรรณไม้น้ำ บึงฉวาก จึงเป็นที่อยู่อาศัยของนกน้ำนกทุ้งกว่า 70 ชนิด และปลาหลายชนิด และได้รับการประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ในปี 2525 และเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำตามสนธิสัญญาแรมซาร์ เมื่อปี พ.ศ. 2541 เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและทางเกษตร ที่มีโครงการด้านการศึกษาและวิจัยหลายอย่าง เช่น สวนรวมพันธุ์ไก่ บ่อจระเข้น้ำจืด อุทยานผักพื้นบ้าน สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ฯลฯ ซึ่งสามารถพบเห็นวิถีของชาวบ้านในละแวกพื้นที่ที่ออกมาหาปลาตามบริเวณบึงน้ำด้วยการใช้อุปกรณ์แบบพื้นบ้าน เก็บฝักบัว ไปบริโภค หรือจำหน่าย
 
อุทยานผักพื้นบ้าน บนเนื้อที่ 26 ไร่ภายใน บึงฉวาก กรมส่งเสริมการเกษตรได้นำเอา ผักพื้นบ้าน ของทุกภาคทั้งที่พบได้ทั่วไป และหายากมาเพาะปลูกเพื่อการอนุรักษ์และเผยแพร่ โดยใช้ใช้วิธีการปลูกทางชีวภาพคือ การใช้ตัวห้ำ ตัวเบียน กบเขียดในการกำจัดแมลง รวมทั้งการใช้สารสะกัดจากสะเดาในการกำจัดแมลงต่างๆ มีการจัดสรรพื้นที่แสดงการประดับสวนด้วย ผักพื้นบ้าน และการปรับสภาพแวดล้อมให้มีความเหมาะสมของพืชพันธุ์นั้นๆ ทั้งนี้ จะมีเจ้าหน้าที่พาชมพร้อมบรรยาย
 
สินค้า 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ (OTOP)
จักสานงานไม้ไผ่ เนื่องจากแต่ก่อนรอบรั้วบ้านชาวอำเภอบางปลาม้า แวดล้อมไปด้วยดงไผ่หลากหลายพันธุ์ ชาวบ้านตัดมาทำตอกมัดข้าว สานเป็นเครื่องใช้ไม้สอยจำพวกงอบ พัด และเครื่องมือดักปลา ประกอบกับฝีมือ และนิสัยช่างคิดช่างดัดแปลง จึงกลายมาเป็นตะกร้า ฝาชี หมวก แจกัน กระเป๋าจักสานไม้ไผ่ลายละเอียดมากคุณค่าน่าใช้ ผลิตกันมากที่บ้านโพธิ์ศรี อำเภอบางปลาม้า
การเดินทาง
จากถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340) ถึงสี่แยกทางเข้าตัวอำเภอเดิมบางนางบวช เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ตรงไปจนพบสามแยกตัดกับถนนเลียบคลอง ชลประทาน ให้เลี้ยวขวาไปตามถนนเลียบคลองชลประทาน
 
ข้อมูลการติดต่อ
ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยว จังหวัดสุพรรณบุรี โทรศัพท์ 0 3553 6030 และ ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยว ( Call Center) 1147 บึงฉวาก อำเภอเดิมบางนางบวช โทรศัพท์ 0 3543 9208-9
ข้อแนะนำ
บึงฉวาก เปิดให้เข้าชมทุกวัน วันธรรมดา 10.00-17.00 นาฬิกา วันหยุด 09.00-18.00 นาฬิกา ค่าผ่านประตู ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท
***************************
----------------------------
 
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งของจังหวัดสุพรรณบุรี ที่มองข้ามไปไม่ได้เมื่อมีโอกาสมาถึงจังหวัดสุพรรณบุรีก็คือ บึงฉวาก เพราะบึงฉวากมีธรรมชาติที่สวยงามและมีจุดเด่นที่น่าสนใจ ตรงที่มีสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ซึ่งถือว่าเป็น Under Water World แห่งแรกของประเทศไทย ตามมานะครับ เรามาเที่ยวบึงฉวากกัน
 
บึงฉวาก บนพื้นที่กว่า 2,000ไร่ กินเนื้อที่ระหว่างอำเภอเดิมบาง-นางบวชจังหวัดสุพรรณบุรีไปอำเภอหันคา
จังหวัดชัยนาท เป็นบึงน้ำจืดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีความลึกเฉลี่ยประมาณ 1-3 เมตร กลางบึงเต็มไปด้วยดอกบัวหลวง ทั้งสีขาวและสีชมพู บึงฉวากนั้นเดิมเคยเป็นส่วนหนึ่งของสายน้ำท่าจีน เมื่อผ่านระยะเวลาและการทับถมของตะกอนดินโคลน จึงทำให้ส่วนหนึ่งของแม่น้ำแยกตัวออกมาเป็นบึงรูปโค้ง ฯพณฯบรรหาร ศิลปอาชา ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ จัดทำโครงการพัฒนาบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯทรงครองราชย์เป็นปีที่50 ได้จัดสร้างสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำขึ้นและเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2541 โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อให้เป็นสถานที่ศึกษาพฤติกรรมสัตว์น้ำที่สำคัญให้กับ นักวิชาการ ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนผู้สนใจโดยทั่วไป เพื่อปลูกสร้างจิตสำนึกให้รู้จัก และรักษาทรัพยากร อันมีค่ายิ่งของไทย
 
-->
== บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ ==
บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติแต่เดิมเป็นพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัตว์ที่ห้ามล่าเป็นสัตว์จำพวก[[นก]] มีมากกว่า 50 ชนิด<ref>http://www.ontotour.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=335245&Ntype=3</ref>ปัจจุบันได้จัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสทรงครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 50 ปี โดยมีการสร้างกรงนกขนาดใหญ่ มีตู้ปลาน้ำจืด ตู้ปลาน้ำเค็ม ตู้ปลาช่อนอเมซ่อน บ่อ[[จระเข้]] และอุทยานผักพื้นบ้านเพื่อการยังชีพ<ref>http://www.suphan.biz/bungchawak.htm</ref><ref>http://www.ontotour.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=335245&Ntype=3</ref>