ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วิวัฒนาการของมนุษย์"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Rescuing 2 sources and tagging 0 as dead.) #IABot (v2.0.9.2 |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 1:
เป็นกระบวนการ
▲เป็นกระบวนการ[[วิวัฒนาการ]]ที่นำไปสู่การปรากฏขึ้นของ "'''[[มนุษย์ปัจจุบัน]]'''" ({{lang-en|modern human}} มีนามตาม[[อนุกรมวิธาน]]ว่า ''Homo sapiens'' หรือ ''Homo sapiens sapiens'')
ซึ่งแม้ว่าจริง ๆ แล้วจะเริ่มต้นตั้งแต่บรรพบุรุษแรกของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด
แต่บทความนี้ครอบคลุมเพียงแค่ประวัติ
และการปรากฏขึ้นของมนุษย์
การศึกษาเกี่ยวกับวิวัฒนาการมนุษย์นั้นต้องอาศัยความรู้ทาง
รวมทั้ง
กระบวนการวิวัฒนาการเป็นความเปลี่ยนแปลงของลักษณะสืบสายพันธุ์ (trait) ของกลุ่ม
เป็นกระบวนการที่ทำให้เกิดความหลายหลากกับสิ่งมีชีวิตในทุก
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกสืบสายมาจากบรรพบุรุษเดียวกันที่มีชีวิตประมาณ 3.8 พันล้านปีก่อน
การเกิดสปีชีส์ใหม่ ๆ และการแยกสายพันธุ์ออกจากกันของสิ่งมีชีวิต สามารถอนุมานได้จากลักษณะสืบสายพันธุ์ทาง
คือ ลักษณะสืบสายพันธุ์และลำดับดีเอ็นเอที่มีกำเนิดเดียวกัน จะมีความคล้ายคลึงกันระหว่างสปีชีส์ที่มีบรรพบุรุษร่วมกันเร็ว ๆ นี้มากกว่าระหว่างสปีชีส์ที่มีบรรพบุรุษร่วมกันมานานแล้ว ดังนั้นความคล้ายคลึงกันและความแตกต่างกันจึงสามารถใช้สร้างแบบของต้นไม้สายพันธุ์สิ่งมีชีวิต ที่แสดงความสัมพันธ์เชิงญาติ โดยใช้สิ่งมีชีวิตที่ยังมีอยู่หรือใช้
รูปแบบความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในโลกเปลี่ยนแปลงไปเพราะการเกิดขึ้นของสปีชีส์ใหม่ ๆ และการสูญพันธุ์ไปของสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่<ref>{{cite book | editor1-last=Cracraft | editor1-first=J. |year = 2005 |url = http://books.google.ca/books?id=61XTPOYU6kC&printsec=frontcover&dq=Assembling+the+tree+of+life#v=onepage&q&f=false |editor2-last=Donoghue | editor2-first=M. J. |title = Assembling the tree of life |publisher = Oxford University Press |isbn = 0-19-517234-5 }}</ref>
งานวิจัยต่าง ๆ ทาง
โดยมี
ส่วนลิง
แล้วลิงวงศ์ Ponginae (ลิง) ก็แยกออกจากสายพันธุ์เมื่อประมาณ {{Ma|14}}
จากนั้น '''การเดินด้วยสองเท้า''' (bipedalism) ซึ่งเป็นการปรับตัวพื้นฐานที่สุดของสัตว์
▲งานวิจัยต่าง ๆ ทาง[[พันธุศาสตร์]]แสดงว่า สัตว์[[อันดับวานร]]รวมทั้ง[[มนุษย์]]แยกออกจาก[[สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม]]ประเภทอื่น ๆ เมื่อประมาณ {{Ma|85}}
▲โดยมี[[ซากดึกดำบรรพ์]]ปรากฏเป็นครั้งแรกสุดเมื่อประมาณ {{Ma|55}}<ref name=Fleagle2011>{{cite web |title=Primate Evolution |year=2011 |url=http://alltheworldsprimates.org/John_Fleagle_Public.aspx |first1=J |last1=Fleagle |first2=C |last2=Gilbert |accessdate=2014-09-04}}</ref>
ก็เริ่มปรากฏในสัตว์สองเท้าแรกสุดใน
▲ส่วนลิง[[วงศ์ชะนี]] (Hylobatidae) แยกสายพันธุ์ออกจากสายพันธุ์[[วงศ์ลิงใหญ่]] (Hominidae) รวมทั้งมนุษย์ ซึ่งเป็นวงศ์หนึ่ง ๆ ของสัตว์อันดับวานรนั้น เมื่อ {{Ma|17}}<!--*** เริ่มเชิงอรรถ ***-->{{Efn-ua|name=DivergenceEstimate |
หรือ ''Orrorin''<ref name="Henke2007" /> ({{Ma|6.1}})▼
โดยมีสกุล ''Ardipithecus'' ซึ่งเป็นสัตว์สองเท้าที่มีหลักฐานชัดเจนกว่า ตามมาทีหลัง<ref name="BBC20091001" /> ({{Ma|5.8}})▼
คือลิงกอริลลาเมื่อ {{Ma|6|10}}<ref name="Bradley2008">{{cite journal | author = Bradley, B. J. | year = 2008 | title = Reconstructing Phylogenies and Phenotypes: A Molecular View of Human Evolution | journal = Journal of Anatomy | volume = 212 | issue = 4 | pages = 337-353 | pmid = 18380860 | doi = 10.1111/j.1469-7580.2007.00840.x | pmc = 2409108}}</ref>▼
และลิงชิมแปนซีเมื่อ {{Ma|4|8}}<ref name="Bradley2008" />▼
▲จากนั้น '''การเดินด้วยสองเท้า''' (bipedalism) ซึ่งเป็นการปรับตัวพื้นฐานที่สุดของสัตว์[[เผ่า (ชีววิทยา)|เผ่า]] '''Hominini'''<!--*** เริ่มเชิงอรรถ ***-->{{Efn-ua|name=hominini|
โดยอาจจะมี ''Sahelanthropus'' เป็นบรรพบุรุษสุดท้ายร่วมกันระหว่างชิมแปนซีและมนุษย์<ref name="Brunet2002" />▼
สัตว์สองเท้ายุคเริ่มต้นเหล่านี้ในที่สุดก็วิวัฒนาการมาเป็นเผ่า hominini เผ่าย่อย '''Australopithecina''' (
▲ซึ่งเป็นสายพันธุ์ของมนุษย์ที่ลิง[[ชิมแปนซี]]ได้แยกออกไปแล้ว
▲ก็เริ่มปรากฏในสัตว์สองเท้าแรกสุดใน[[สกุล (ชีววิทยา)|สกุล]] ''Sahelanthropus''<ref name=Brunet2002 /> ({{Ma|7}})
▲หรือ ''Orrorin''<ref name=Henke2007 /> ({{Ma|6.1}})
▲โดยมีสกุล ''Ardipithecus'' ซึ่งเป็นสัตว์สองเท้าที่มีหลักฐานชัดเจนกว่า ตามมาทีหลัง<ref name=BBC20091001 /> ({{Ma|5.8}})
▲คือลิงกอริลลาเมื่อ {{Ma|6|10}}<ref name=Bradley2008>{{cite journal | author = Bradley, B. J. | year = 2008 | title = Reconstructing Phylogenies and Phenotypes: A Molecular View of Human Evolution | journal = Journal of Anatomy | volume = 212 | issue = 4 | pages = 337-353 | pmid = 18380860 | doi = 10.1111/j.1469-7580.2007.00840.x | pmc = 2409108}}</ref>
▲และลิงชิมแปนซีเมื่อ {{Ma|4|8}}<ref name=Bradley2008 />
▲โดยอาจจะมี ''Sahelanthropus'' เป็นบรรพบุรุษสุดท้ายร่วมกันระหว่างชิมแปนซีและมนุษย์<ref name=Brunet2002 />
▲สัตว์สองเท้ายุคเริ่มต้นเหล่านี้ในที่สุดก็วิวัฒนาการมาเป็นเผ่า hominini เผ่าย่อย '''Australopithecina''' ({{lang-en|australopithecine}} ปกติรวมสกุล ''Australopithecus'', ''Paranthropus'', และในบางที่ ''Ardipithecus'') ที่ {{Ma|4.2}} และหลังจากนั้นจึงเป็นเผ่าย่อย '''Hominina''' ซึ่งรวมเอามนุษย์สกุล ''โฮโม'' เท่านั้น<ref name=Wood2000 />
มนุษย์สกุล''โฮโม''ที่มีหลักฐานยืนยันพวกแรกที่สุดเป็น[[สปีชีส์]] ''Homo habilis'' ซึ่งเกิดขึ้นประมาณ {{Ma|2.3}}<ref name=AusMus-habilis2013 />{{efn-ua |name=NoteOldestHabilis}}▼
โดยเชื่อกันว่า สืบสายพันธุ์มาจาก homonin ในสกุล ''Australopithecus''<ref name=Encarta2006>{{Citation |last=Potts |first=Richard B. |year=2006 |title = Human Evolution |work=Microsoft Encarta 2006}}</ref>▼
▲มนุษย์สกุล''โฮโม''ที่มีหลักฐานยืนยันพวกแรกที่สุดเป็น
▲โดยเชื่อกันว่า สืบสายพันธุ์มาจาก homonin ในสกุล ''Australopithecus''
และการปรับตัวของสายพันธุ์มนุษย์อีกอย่างหนึ่งคือ '''การขยายขนาดของสมอง'''<!--*** เริ่มเชิงอรรถ ***-->{{Efn-ua|name=encephalization|
'''การขยายขนาดของสมอง''' ({{lang-en|encephalization}}) เป็นการขยายขนาดของสมองเมื่อเทียบกับตัว คือสัตว์ที่มีร่างกายใหญ่โตต้องมีสมองที่ใหญ่กว่า ดังนั้น การขยายขนาดสมองของมนุษย์จริง ๆ แล้วเป็นการขยายขนาดของสมองในระดับที่สูงกว่าการขยายขนาดของตัว
}}<!--*** จบเชิงอรรถ ***-->
(encephalization) ก็ได้เริ่มขึ้นที่มนุษย์ยุคต้นนี้ ซึ่งมีขนาดสมองที่ประมาณ 610 ซม<sup>3</sup> คือมีขนาดใหญ่กว่าของลิง
(ระหว่าง 300-500 ซม<sup>3</sup><ref name="O'Neil2012-transitional" />)
มีนักวิทยาศาสตร์ที่เสนอว่า นี้อยู่ในช่วงเวลาที่[[ยีน]]มนุษย์ประเภท SRGAP2 มีจำนวนเป็นสองเท่าเทียบกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ <ref>{{Cite doi|10.1016/j.cell.2012.03.033}}<!-- {{cite journal | author = Dennis MY, et al. | title = Evolution of human-specific neural SRGAP2 genes by incomplete segmental duplication | journal = Cell | volume = 149 | issue = 4 pages = 912-22 date=May 2012 1 pmid = 22559943 | pmc = 3365555 }}--></ref><ref>{{Cite doi|10.1016/j.cell.2012.03.034}} <!-- {{cite journal | author = Charrier C et A.| title = Inhibition of SRGAP2 function by its human-specific paralogs induces neoteny during spine maturation | journal = Cell | volume = 149 1 issue = 4 1 pages = 923-935 date=May 2012 1 pmid = 22559944 | pmc = 3357949 }}--></ref>
ซึ่งทำให้เกิดการพัฒนาของ
ในมนุษย์ '''SRGAP2''' เป็น[[ยีน]]ที่เข้ารหัส[[โปรตีน]] "SLIT-ROBO Rho GTPase-activating protein 2"<ref>{{Cite doi|10.1016/j.molbrainres.2004.01.002}}<!-- {cite journal I author = Madura T et Al. I title = Changes in mRNA of Slit-Robo GTPase-activating protein 2 following facial nerve transection I journal = Brain Res. Mol. Brain Res. I volume = 123 1 issue = 1-2 pages = 76-80 Idate=April 2004 1 pmid = 15046868 }} --></ref><ref>{{Cite doi |10.1016/50092-8674 (01) 00530-X}} {{PDFlink |1=[http://linkinghub.elsevier.com/retrieve/pii/S0092-8674 (01) 00530-X Full Article]}}<!--{{cite journal I author = Wong K et Al. I title = Signal transduction in neuronal migration: roles of GTPase activating proteins and the small GTPase Cdc42 in the Slit-Robo pathway I journal = Cell I volume = 107 1 issue = 2 I pages = 209-21 date=October 2001 1 pmid = 11672528 1 doi = }}--></ref>
เป็นหนึ่งใน 23 ยีนที่เกิดการก๊อปปี้ในมนุษย์ที่ไม่ปรากฏใน[[ไพรเมต]]ประเภทอื่น<ref>{{Cite doi |10.1126/science.1197005}}<!--{{cite journal I author = Sudmant PH et Al, 1000 Genomes Project, title = Diversity of Human Copy Number Variation and }4ulticopy Genes I journal volume = 330 1 issue = 6004 1 pages = 64 -6 Idate=Oct 2010 1 pmid = 21030649 doi = }}--></ref>
เส้น 73 ⟶ 55:
ต่อมา มนุษย์สปีชีส์ ''Homo erectus/ergaster'' ก็เกิดขึ้นในช่วงประมาณ {{Ma|1.9}} ที่มีปริมาตรกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของลิงชิมแปนซีคือ 850 ซม<sup>3</sup><ref name=Swisher2002>{{cite book |last1=Swisher |first1=Carl C. |last2=Curtis |first2=Garniss H |last3=Lewin |first3=Roger |title=Java Man |publisher=Abacus |year=2002 |isbn=0-349-11473-0}}</ref>
การขยายขนาดของสมองเช่นนี้เทียบเท่ากับมี
สปีชีส์นี้เชื่อว่าเป็นพวกแรก ๆ ที่สามารถควบคุมไฟ<ref name="discover2013"><!-- Fire by Homo Erectus at Wonderwerk Cave in South Africa (1.8 Ma) - lay information --> {{cite web|title=Archaeologists Find Earliest Evidence of Humans Cooking With Fire|last1=Miller|first1=Kenneth|date=2013-12-07|publisher=Discover Magazine|url=http://discovermagazine.com/2013/may/09-archaeologists-find-earliest-evidence-of-humans-cooking-with-fire#.UpHIM2tYCSN}}</ref>
และใช้เครื่องมือหินที่มีเทคโนโลยีที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น<ref name=raven2002 /> เป็นมนุษย์
ดังนั้น การวิวัฒนาการของสายพันธุ์มนุษย์ก่อนหน้านี้ล้วนเป็นไปใน
ส่วนกลุ่มมนุษย์โบราณที่เรียกใน
หลังจากนั้น
ตาม
มนุษย์ปัจจุบันได้วิวัฒนาการในทวีปแอฟริกาแล้วจึงอพยพออกจากทวีปประมาณ 50,000-100,000 ปีก่อน (ต่างหากจากมนุษย์ในยุคก่อน ๆ)
ไปตั้งถิ่นฐานแทนที่กลุ่มมนุษย์สปีชีส์ ''H. erectus'', ''H. denisova'', ''H. floresiensis'' และ ''H. neanderthalensis'' ในที่ต่าง ๆ ที่เป็นเชื้อสายของมนุษย์ที่อพยพออกมาจากทวีปแอฟริกาในยุคก่อน ๆ
{{cite web | title = The first migrations out of Africa | publisher = Australian Museum | url = http://australianmuseum.net.au/The-first-migrations-out-of-Africa | date = 2011-01-04 | accessdate = 2014-09-09}}</ref><ref name=AusMus-FirstSEAsaia2010>
{{cite web | title = The first modern humans in Southeast Asia | publisher = Australian Museum | date = 2010-01-04 | url = http://australianmuseum.net.au/The-first-modern-humans-in-Southeast-Asia | accessdate = 2014-09-09}}</ref>
โดยอาจได้ผสมพันธุ์กับมนุษย์โบราณก่อน ๆ เหล่านั้น<ref name=Anthropology2012-ch12 />
หลักฐานโดย
มี
และว่า Neanderthal และมนุษย์โบราณสกุลอื่น ๆ เช่นที่รู้จักกันว่า ''Denisova hominin'' (
ซึ่งบอกเป็นนัยถึง การผสมพันธุ์กัน
อย่างไรก็ดี การผสมพันธุ์มีระดับค่อนข้างที่จะต่ำ
และยังเป็นไปได้ว่า กรรมพันธุ์ของ Neanderthal หรือของมนุษย์โบราณอื่น ๆ ที่พบในมนุษย์ปัจจุบันอาจจะอธิบายได้โดยลักษณะสืบสายพันธุ์ (trait) ที่สืบมาจากบรรพบุรุษร่วมกันเมื่อ 500,000-800,000 มาแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเพราะผสมพันธุ์กันเร็ว ๆ นี้
ส่วนการเปลี่ยนมามี
พร้อมกับพัฒนาการของ
ภาษา และเทคโนโลยีหินแบบเฉพาะงานเริ่มขึ้นที่ประมาณ 50,000 ปีก่อนตามข้อมูลทางมานุษยวิทยา
แม้ว่าจะมีนักวิทยาศาสตร์บางส่วนที่เสนอว่า ความจริงเป็นการพัฒนาทางพฤติกรรมอย่างค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปในช่วงระยะเวลาที่ยาวนานยิ่งกว่านั้นที่อาจนานถึง 300,000 ปี
และเริ่มมีหลักฐานแล้วว่าพฤติกรรมปัจจุบันนั้น ความจริงมีปรากฏแล้วก่อนหน้านั้น
ในปัจจุบันนี้ วิวัฒนาการของมนุษย์ปัจจุบันก็ยังเป็นไปอยู่ แต่ที่ปรากฏเร็ว ๆ นี้ดูเหมือนจะจำกัดอยู่ในเรื่องภูมิต้านทานต่อโรคติดต่อโดยมาก<ref name=Diamond2002 />
แต่เพราะไร้เหตุกดดัน
นอกจากนั้นแล้ว ยังปรากฏอีกด้วยว่า ทั้งมนุษย์ทั้ง
คำว่า "มนุษย์" ในบริบทของวิวัฒนาการมนุษย์ จะหมายถึงมนุษย์
== การจัดชั้นและการใช้ชื่อในบทความ ==
นักวิทยาศาสตร์มีความเห็นไม่เหมือนกับในการ[[การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์|การจำแนกชั้น]]ของสัตว์ใน[[วงศ์ลิงใหญ่]]<ref name="Encarta2006">{{Citation|last=Potts|first=Richard B.|title=Human Evolution|work=Microsoft Encarta 2006|year=2006}}</ref>
แผนผังด้านล่างแสดงการจำแนกชั้น''แบบหนึ่ง''ของ[[ไพรเมต]]/[[วงศ์ลิงใหญ่]]ที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นการจำแนกชั้นที่ให้ความสำคัญกับความใกล้เคียงกันทาง[[กรรมพันธุ์]]ของมนุษย์และลิง[[ชิมแปนซี]]<ref name=Wood2000 /><!--<ref>{{cite book | last1 = Cartmill | first1 = M. | last2 = Smith | first2 = F. He | title = The Human Lineage | publisher = John Wiley & Sons | year = 2011 | isbn = 978-1-118-21145-8 |url = http://books.google.com/books?id=X058kYnhxCOC&pg=PA90}}</ref><ref>{{cite book |title=Primate Taxonomy |publisher=Smithsonian Institution Press |year=2001 |author=Groves, C. P. |isbn=1-56098-872-X}} </ref> -->
โดยมีชื่อตาม[[อนุกรมวิธาน]]
เส้น 465 ⟶ 439:
ซึ่งพร้อมกับแบบจำลองของการอพยพออกจาก[[แอฟริกาตะวันออก]]
เป็นแบบกำเนิดมนุษย์ที่[[ความเห็นพ้องทางวิทยาศาสตร์|หมู่วิทยาศาสตร์ยอมรับ]]มากที่สุดจนถึงปี ค.ศ. 2006<ref name=Liu2006>
{{cite journal | author = Liu, H; Prugnolle, F; Manica, A; Balloux, F | title = A geographically explicit genetic model of worldwideDD human-settlement history | journal = Am. J. Hum. Genet. | volume = 79 | issue = 2 | pages = 230-7 | date = 2006-08 | pmid = 16826514 | pmc = 1559480 | doi = 10.1086/505436 | quote = Currently available genetic and archaeological evidence is supportive of a recent single origin of modern humans in East Africa. However, this is where the consensus on human settlement history ends, and considerable uncertainty clouds any more detailed aspect of human colonization history. }}</ref><ref>{{Cite doi|10.1126/science.308.5724.921g}}<!--{{cite journal | title = Out of Africa Revisited | journal = Science | volume = 308 | issue = 5724 | page = 921 | date = 2005-05-13 }}--></ref><ref name="Johanson2001">{{cite web|author=Johanson, D|date=May 2001|title=Origins of modern humans: multiregional or out of Africa?|url=http://www.actionbioscience.org/evolution/johanson.html|url-status=live|publisher=ActionBioscience|accessdate=2014-09-09|archiveurl=https://www.webcitation.org/5uQpZnojk?url=http://www.actionbioscience.org/evolution/johanson.html|archivedate=2010-11-22}}</ref>
โดยเปรียบเทียบกัน "'''[[สมมติฐาน]]วิวัฒนาการภายในหลายเขต'''" (Multiregional Evolution) เสนอว่ามนุษย์สกุล''โฮโม'' มีเพียงสปีชีส์เดียวที่มีกลุ่มประชากรต่าง ๆ ที่มีการติดต่อกันตั้งแต่ต้น ไม่ใช่มีสปีชีส์ต่าง ๆ กัน
เส้น 502 ⟶ 476:
'''Genetic admixture''' เกิดขึ้นเมื่อสัตว์หรือบุคคลจากกลุ่มประชากรที่ก่อนหน้านี้อยู่แยกขาดจากกันเกิดการผสมพันธุ์กัน มีผลเป็นการสร้างสายพันธุ์ใหม่ในประชากร ซึ่งบางครั้งมีผลเป็นการทำการปรับตัวต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ (local adaptation) ให้เนิ่นช้า เพราะว่าได้รับเอา[[ลักษณะทางพันธุกรรม]] (genotype) ที่ไม่ได้มีการปรับตัว ที่ไม่เหมือนกับของบุคคลในพื้นที่ มีผลเป็นการป้องกันการเกิดสปีชีส์ใหม่เพราะทำกลุ่มต่าง ๆ ให้เหมือนกัน
}}<!--*** จบเชิงอรรถ ***-->
กันระหว่าง[[มนุษย์ปัจจุบัน]]กับ[[สปีชีส์]]ต่าง ๆ ของกลุ่ม[[มนุษย์โบราณ]]อีกด้วย<ref name="Alves2012">{{Cite doi|10.1371/journal.pgen.1002837}} <!-- Isabel Alves et al. (2012) Genomic Data Reveal a Complex Making of Humans --> {{PDFlink|[http://www.plosgenetics.org/article/fetchObject.action?uri=info%3Adoi%2F10.1371%2Fjournal.pgen.1002837&representation=PDF Full Article]}} </ref><ref name="Abi-Rached2011">{{Cite doi|10.1126/science.1209202}} [http://digitalcommons.unl.edu/cgi/viewcontent.cgi?article=1122&context=publichealthresources archive (Aug 2011)]<!-- {{cite journal| author=Abi-Rached, L et Al. |title=The shaping of modern human immune systems by multiregional admixture with archaic humans |journal=Science |volume=334 |issue=6052 |date=2011-08-25 |doi=10.1126/science.1209202 |pmid=21868630 |bibcode = 2011Sci...334...89A | pages=89-94 | pmc=3677943 }}--></ref>
คือ ในปี ค.ศ. 2010 [[การหาลำดับดีเอ็นเอ]]ของ Neanderthal (''Homo neanderthalensis'')
และของ Denisovan (''Denisova hominin'')
|