ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นกกระจอกบ้าน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
InternetArchiveBot (คุย | ส่วนร่วม)
Rescuing 4 sources and tagging 0 as dead.) #IABot (v2.0.8.6
บรรทัด 26:
* ''Loxia scandens'' <small>Hermann 1783</small>
* ''Passer arboreus'' <small>Foster 1817</small>
}}<gallery mode="packed" heights="140">
}}
 
'''นกกระจอกบ้าน'''<ref>จารุจินต์ นภีตะภัฎ และคณะ, คู่มือดูนก หมอบุญส่ง เลขะกุล นกเมืองไทย, ISBN 978-974-619-181-4</ref> ({{lang-en|Eurasian Tree Sparrow}}) เป็นนกเกาะคอนในวงศ์[[นกกระจอก]] มีสีน้ำตาลเข้มที่กระหม่อนและหลังคอ แก้มสีขาวมีจุดดำบนแก้มแต่ละข้าง นกกระจอกทั้งสองเพศมีชุดขนคล้ายกัน นกวัยอ่อนมีสีขนจืดกว่านกที่โตเต็มที่ นกชนิดนี้มีการกระจายพันธุ์เกือบทั้ง[[ทวีปยูเรเชีย]]และ[[เอเชียตะวันออกเฉียงใต้]] ซึ่งรู้จักกันในชื่อ '''Tree Sparrow''' (นกกระจอกต้นไม้) และมันถูกนำไปสู่ที่อื่นๆ รวมถึง สหรัฐอเมริกา ซึ่งรู้จักกันในชื่อ '''Eurasian Tree Sparrow''' (นกกระจอกต้นไม้ยูเรเชีย) หรือ '''German Sparrow''' (นกกระจอกเยอรมัน) เพื่อแยกความแตกต่างจากนกกระจอกต้นไม้อเมริกา (American Tree Sparrow) ซึ่งเป็นนกพื้นเมือง แม้ว่าจะมีหลายชนิดย่อยที่ได้รับการยอมรับ แต่ลักษณะที่ปรากฏของนกแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยตลอดแนวการกระจายพันธุ์ที่กว้างขวาง
 
นกกระจอกบ้านทำรังไม่เป็นระเบียบในโพรงธรรมชาติ รูในอาคาร หรือรังขนาดใหญ่ของ[[นกสาลิกาปากดำ]]หรือ[[นกกระสาขาว]] นกจะวางไข่คราวหนึ่งห้าถึงหกฟอง ไข่จะฟักเป็นตัวภายในสองอาทิตย์ นกกินเมล็ดพืชเป็นอาหารหลัก แต่บางครั้งจะกินสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเป็นอาหาร โดยเฉพาะช่วงฤดูผสมพันธุ์ นกกระจอกบ้านเหมือนกับนกขนาดเล็กทั่วไปซึ่งอาจเสียชีวิตจากการติดเชื้อจากปรสิต โรคภัยไข้เจ็บ และถูกล่าโดยนกล่าเหยื่อ ทำให้โดยทั่วไปมีช่วงชีวิตประมาณสองปี
 
นกกระจอกบ้านมีการกระจายพันธุ์เป็นวงกว้างในตัวเมืองและในมหานครของเอเชียตะวันออก แต่ในยุโรปกลับพบในป่าละเมาะในชนบท และพบร่วมกันกับ[[นกกระจอกใหญ่]]ที่จับคู่ผสมพันธุ์กันในเมืองหลายพื้นที่ ด้วยการกระจายพันธุ์ที่กว้างและมีประชากรจำนวนมาก ทำให้มั่นใจได้ว่านกนั้นไม่ตกอยู่ในสภาวะความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ แต่กระนั้น ก็มีการลดลงของประชากรจำนวนมากในยุโรปตะวันตก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำการเกษตร การใช้สารกำจัดวัชพืชเพิ่มขึ้น และการสูญเสียตอซังในฤดูหนาว ในเอเชียตะวันออกและออสเตรเลียตะวันตก บางครั้งนกชนิดนี้ถูกมองว่าเป็นศัตรูพืช แม้ว่าจะมีการยกย่องกันอย่างแพร่หลายในศิลปะตะวันออก
 
== ลักษณะ ==
นกกระจอกบ้านเป็นนกขนาดเล็กมาก หัวค่อนข้างใหญ่ คอสั้น ปีกสั้น ปลายปีกมน หางค่อนข้างสั้น ตัวยาว 12.5–14&nbsp;ซม. (5–5½&nbsp;นิ้ว)<ref name= Mullarney/> ช่วงปีกกว้าง 21&nbsp;ซม. (8.25&nbsp;นิ้ว) และหนัก 24&nbsp;กรัม (0.86&nbsp;ออนซ์)<ref name =BTO>{{cite web| title= Tree Sparrow ''Passer montanus'' [Linnaeus, 1758] |work= Bird facts | url= http://blx1.bto.org/birdfacts/results/bob15980.htm | publisher=[[British Trust for Ornithology]] |accessdate=30 January 2009 }}</ref> ทำให้มันเล็กกว่านกกระจอกใหญ่ประมาณ 10% <ref name = BWP>{{Harvnb|Snow|Perrins|1998|pp=1513–1515}}</ref> กระหม่อมและต้นคอของนกโตเต็มวัยมีสีสีน้ำตาลแก่ แก้มขาว มีแต้มสีดำรูปไตบริเวณขนคลุมหู คาง คอ และพื้นที่ระหว่างการปากและลำคอมีสีดำ ส่วนบนสีน้ำตาลอ่อนลายดำ ปีกสีน้ำตาลมีแถบสีขาวแคบๆ สองแถบ ขาเป็นสีน้ำตาลอ่อน และปากอ้วนสั้น เป็นปากกรวย เป็นสีน้ำเงินจากปลายในฤดูร้อนและกลายเป็นเกือบดำในฤดูหนาว<ref name= Clement/>
 
นกกระจอกนี้เป็นที่โดดเด่นในสกุลเพราะชุดขนไม่มีความแตกต่างระหว่างเพศ นกวัยอ่อนคล้ายนกโตเต็มวัยแต่มีสีทึบกว่า<ref name= Mullarney2>{{Harvnb|Mullarney|Svensson|Zetterstrom|Grant|1999|p=343}}</ref> ด้วยรูปแบบแต้มบนใบหน้าทำให้มันง่ายที่จะจำแนก<ref name= BWP/> อีกทั้งมีขนาดเล็ก กระหม่อนไม่เป็นสีเทายิ่งทำให้มันแตกต่างจากนกกระจอกใหญ่ตัวผู้<ref name= Mullarney>{{Harvnb|Mullarney|Svensson|Zetterstrom|Grant|1999|p=342}}</ref> นกกระจอกบ้านที่โตเต็มวัยและนกวัยอ่อนจะ[[การลอกคราบ|ผลัดขน]]อย่างช้าๆ จนเสร็จสมบูรณ์ในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งจะทำให้ดัชนีมวลร่างกายเพิ่มขึ้น แม้ไขมันที่สะสมจะลดลงก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของมวลกายเกิดขึ้นเพราะการเพิ่มขึ้นของเลือดเพื่อที่จะช่วยการงอกของขน และปริมาณความจุน้ำที่สูงขึ้นในร่างกาย<ref name= lind2>{{cite journal| last= Lind | first= Johan | coauthors= Gustin, Marco; Sorace, Alberto | year=2004 | title= Compensatory bodily changes during moult in Tree Sparrows ''Passer montanus'' in Italy | journal= Ornis Fennica | volume=81 | pages=1–9 | url = http://www.zoologi.su.se/research/anti-predator/LindEtAl2004OrnFenn.pdf| format = PDF | doi = }}</ref>
 
นกกระจอกบ้านไม่มีการร้องเพลงที่แท้จริง แต่การเปล่งเสียงของมันประกอบด้วย ชุดปลุกเร้าของเสียงร้อง ''ชิบ-ชิบ'' หรือ ''ชิชิบ-ชิชิบ'' โดยนกตัวผู้ที่ไม่มีคู่หรือกำลังเกี้ยวพาราสี เสียงร้องพยางค์เดียวอื่นๆ ถูกใช้ในการสื่อสารทางสังคม และเสียงร้องกระด้างขณะบิน ''แจ๊ก-แจ๊ก''<ref name= BWP/> ในการศึกษาเปรียบเทียบการเปล่งเสียงของประชากรนกกระจอกรัฐมิสซูรีกับนกจากเยอรมนีแสดงให้เห็นว่านกสหรัฐมีการใช้รูปแบบพยางค์ ([[มีม]]) น้อยกว่า และมีไวยากรณ์มากกว่านกกระจอกยุโรป ซึ่งอาจเป็นผลมาจากกลุ่มประชากรที่มีขนาดเล็กในทวีปอเมริกาเหนือและเนื่องมาจากการสูญเสีย[[ความหลากหลายทางพันธุกรรม]]<ref name=lang>{{cite journal | last= Lang | first= A. L. | coauthors= Barlow, J. C. | year= 1997 | title= Cultural evolution in the Eurasian Tree Sparrow: Divergence between introduced and ancestral populations | journal= [[The Condor (journal)|The Condor]] | volume= 99 | issue= 2 | pages= 413–423 | doi= 10.2307/1369948 | jstor= 1369948 | url= http://elibrary.unm.edu/sora/Condor/files/issues/v099n02/p0413-p0423.pdf | format= PDF | access-date= 2011-11-29 | archive-date= 2012-09-16 | archive-url= https://web.archive.org/web/20120916134210/http://elibrary.unm.edu/sora/Condor/files/issues/v099n02/p0413-p0423.pdf | url-status= dead }}</ref>
{{Listen|filename= Passer montanus.ogg|title=เสียงร้องของนก|description= เสียงร้องของนกกระจอกบ้าน ในกรุงมอสโคว์ รัสเซีย}}
 
== อนุกรมวิธาน ==
[[ไฟล์:Linnaeuspage183.jpg|thumb|เนื้อความที่บรรยายถึงนกกระจอกใหญ่และนกกระจอกบ้านจาก ''Systema naturae''<ref>Although Linnaeus gives the location as simply ''in Europa'', the type specimen was from [[Bagnacavallo]], Italy ({{cite journal| last= Clancy | first= Philip Alexander| year= 1948 | title= | journal= [[Bulletin of the British Ornithologists' Club]]| volume= 68 | issue= | page= 135 | doi = }}) Linnaeus's text for the Tree Sparrow translates "F[inch]. With dusky wings and tail, black and grey body paired white wing bars."</ref>]]
[[นกกระจอก]]โลกเก่าสกุล ''[[Passer]]'' เป็นนกจับคอนขนาดเล็กที่เชื่อกันว่ามีถิ่นกำเนิดจากทวีปแอฟริกา มีอยู่ประมาณ 15–25 ชนิดขึ้นอยู่กับผู้แต่ง<ref name= anderson>{{Harvnb|Anderson|2006| p=5}}</ref> โดยทั่วไปแล้ว สมาชิกในสกุลจะมีถิ่นอาศัยในพื้นที่เปิดโล่ง ป่าละเมาะ แม้ว่า หลายชนิดโดยเฉพาะ[[นกกระจอกใหญ่]] (''P. domesticus'') สามารถปรับตัวเข้ากับที่อยู่อาศัยของมนุษย์ได้ โดยมากนกในสกุลจะยาว 10–20&nbsp;ซม. (4–8&nbsp;นิ้ว) มีสีน้ำตาลหรือเทา หางเหลี่ยมสั้น ปากสั้นกลม กินเมล็ดพืชตามพื้นดิน บางครั้งกินสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเป็นอาหาร โดยเฉพาะช่วงผสมพันธุ์วางไข่<ref name= Clement2>{{Harvnb|Clement|Harris|Davis|1993| pp=442–467}}</ref> จากการศึกษาทางพันธุกรรมแสดงว่านกกระจอกบ้านแยกตัวจากสมาชิกในสกุลอื่นแต่แรก ก่อนชนิดใหม่อย่างนกกระจอกใหญ่ [[นกกระจอกตาล]] และ[[นกกระจอกสเปน]]<ref name=Allende>{{cite journal | last= Allende | first= Luis M. | coauthors= Rubio, Isabel; Ruíz-del-Valle, Valentin; Guillén, Jesus; Martínez-Laso, Jorge; Lowy, Ernesto; Varela, Pilar; Zamora, Jorge; Arnaiz-Villena, Antonio | year= 2001 | title= The Old World sparrows (genus ''Passer'') phylogeography and their relative abundance of nuclear mtDNA pseudogenes | journal= [[Journal of Molecular Evolution]] | volume= 53 | pmid= 11479685 | pages= 144–154 | url= http://chopo.pntic.mec.es/~biolmol/publicaciones/Passer.pdf | format= PDF | issue= 2 | archiveurl= https://web.archive.org/web/20110721034443/http://chopo.pntic.mec.es/~biolmol/publicaciones/Passer.pdf | archivedate= 2011-07-21 | doi= <!-- do not add if it does not work --> | access-date= 2011-11-29 | url-status= live }}</ref> นกกระจอกบ้านไม่ได้เป็นญาติใกล้ชิดกับ[[นกกระจอกต้นไม้อเมริกา]] (''Spizella arborea'') ซึ่งอยู่ใน[[วงศ์นกกระจอกอเมริกา]]<ref name= Byers>{{Harvnb|Byers|Curson|Olsson|1995| pp=267–268}}</ref>
 
ชื่อวิทยาศาสตร์ของนกกระจอกบ้านมาจากคำสองคำใน[[ภาษาละติน]]: ''passer'' ที่แปลว่า "นกกระจอก" และ ''montanus'' แปลว่า "แห่งภูเขา" (จากคำ ''mons'' ที่แปลว่า "ภูเขา")<ref name =BTO/> นกกระจอกบ้านได้รับการจำแนกครั้งแรกโดย[[คาโรลัส ลินเนียส]]ในงาน ''[[Systema Naturae]]'' ของเขาเมื่อปี ค.ศ. 1758 ในชื่อ ''Fringilla montana'',<ref name = linn>{{Harvnb|Linnaeus|1758| p=183}} ''F. remigibus rectricibusque fuscis, corpore griseo nigroque, alarum fascia alba gemina''</ref> แต่ถูกย้ายจากวงศ์[[นกฟินซ์]] (Fringillidae) พร้อมกับนกกระจอกใหญ่สู่สกุลใหม่ ''Passer'' ที่สร้างโดยนักสัตววิทยาชาวฝรั่งเศส มาทูริน จ็คซ์ บริซซัน (Mathurin Jacques Brisson) ใน ค.ศ. 1760<ref name= brisson>{{Harvnb|Brisson|1760|p=36}}</ref> ชื่อ Eurasian Tree Sparrow นั้นมาจากมันชอบทำรังในโพรงต้นไม้เป็นพิเศษ ชื่อนี้และชื่อวิทยาศาสตร์ ''montanus'' กลับไม่แสดงถึงถิ่นอาศัยของนกอย่างเหมาะสม รวมถึงชื่อใน[[ภาษาเยอรมัน]] ''Feldsperling'' ("นกกระจอกทุ่ง") ก็เช่นกัน<ref>{{Harvnb|Summers-Smith|1988|p=217}}</ref>
 
=== ชนิดย่อย ===
นกชนิดนี้มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยจากจากการกระจายพันธุ์ที่กว้างขวาง มีเพียง 8 [[ชนิดย่อย]]ที่ถูกจำแนกโดยคลีเมนต์ซึ่งน้อยมาก และยังมีชนิดย่อยอื่นอีก 15 ชนิดที่ถูกเสนอ แต่ได้รับการพิจารณาเป็นผลผลิตของเผ่าพันธุ์<ref name= Clement>{{Harvnb|Clement|Harris|Davis|1993|pp=463–465}}</ref><ref>{{cite journal|last= Vaurie |first= Charles|last2=Koelz|first2=W. |year=1949|title=Notes on some Ploceidae from western Asia|journal=American Museum Novitates |volume=1406|pages=22–26|id={{hdl|2246/2345}}}}</ref>
* ''P. m. montanus'' เป็นชนิดย่อยที่เป็นตัวอย่างในการจำแนกเป็นชนิด กระจายพันธุ์ทั่วทวีปยุโรป ยกเว้น ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ[[คาบสมุทรไอบีเรีย|ไอบีเรีย]], ตอนใต้ของ[[ประเทศกรีซ]], และ[[ยูโกสลาเวีย]] นอกจากนี้ยังมีการแพร่พันธุ์ในเอเชียไปทางตะวันออกถึง[[แม่น้ำลีนา]]และทางใต้ถึงพื้นที่ตอนเหนือของ[[ประเทศตุรกี]], [[คอเคซัส]], [[ประเทศคาซัคสถาน]], [[ประเทศมองโกเลีย]] และ[[ประเทศเกาหลี]]
* ''P. m. transcaucasicus'' จำแนกโดย เซอร์ไก อเล็กซานโดรวิช บูทราลิน (Sergei Aleksandrovich Buturlin) ในปี ค.ศ. 1906 แพร่พันธุ์จากตอนใต้ของคอเคซัสไปทางตะวันออกถึงตอนเหนือของ[[ประเทศอิหร่าน]] มันมีสีทึมกว่าและสีออกเทากว่าชนิดย่อย ''P. m. montanus''<ref name = Clement/>
* ''P. m. dilutus'' จำแนกโดย ชาร์ลีซ์ วอร์เวซ ริดมอน (Charles Wallace Richmond) ในปี ค.ศ. 1856 เป็นนกประจำถิ่นในทางตะวันออกเฉียงเหนือสุดของประเทศอิหร่าน, ภาคเหนือของ[[ประเทศปากีสถาน]] และบริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของ[[ประเทศอินเดีย]] และยังพบว่ามีจำนวนมากขึ้นในตอนเหนือจาก[[ประเทศอุซเบกิสถาน]]และ[[ประเทศทาจิกิสถาน]]ไปทางตะวันออกถึง[[ประเทศจีน]] เมื่อเทียบกับชนิดย่อย ''P. m. montanus'' มันมีสีจืดกว่าและมีส่วนบนสีน้ำตาลทราย<ref name = Clement/>
* ''P. m. tibetanus'' เป็นชนิดย่อยที่มีขนาดใหญ่ที่สุด จำแนกโดย สจ๊วต บาเคอร์ (Stuart Baker) ในปี ค.ศ. 1925 พบในตอนเหนือของ[[เทือกเขาหิมาลัย]] จาก[[ประเทศเนปาล]]ไปทางตะวันออก ผ่าน[[ทิเบต]]ถึงบริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน มันคล้ายกับชนิดย่อย ''P. m. dilutus'' แต่มีสีเข้มกว่า<ref name = Clement/>
* ''P. m. saturatus'' จำแนกโดย ลีออนฮาร์ด เฮสซ์ สเทตเนเจอร์ (Leonhard Hess Stejneger) ในปี ค.ศ. 1885 แพร่พันธุ์ใน[[เกาะซาฮาลิน]], หมู่เกาะคูริล (Kuril Islands), [[ประเทศญี่ปุ่น]], [[ไต้หวัน]] และ[[ประเทศเกาหลีใต้]] มันมีสีน้ำตาลเข้มกว่าชนิดย่อย ''P. m. montanus'' และมีปากใหญ่กว่า<ref name = Clement/>
* ''P. m. malaccensis'' จำแนกโดย อัลฟงส์ ดูโบอิส (Alphonse Dubois) ในปี ค.ศ. 1885 พบจากทางตอนใต้ของเทือกเขาหิมาลัยไปทางตะวันออกถึง[[มณฑลไหหลำ]]และ[[ประเทศอินโดนีเซีย]] มันมีสีเข้มคล้ายชนิดย่อย ''P. m. saturatus'' แต่มีขนาดเล็กกว่าและมีลายขีดหนามากกว่าบนส่วนบน<ref name = Clement/>
* ''P. m. hepaticus'' จำแนกโดย ซิดนีย์ ดิลลอน ริปพลีย์ (Sidney Dillon Ripley) ในปี ค.ศ. 1948 แพร่พันธุ์จากทางตะวันออกเฉียงเหนือของ[[รัฐอัสสัม]]ถึงบริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของ[[ประเทศพม่า]] มันคล้ายกับชนิดย่อย ''P. m. saturatus'' แต่มีสีออกแดงมากกว่าที่หัวและส่วนบน<ref name = Clement/>
<gallery mode="packed" heights="140">
ไฟล์:Tree-Sparrow-2009-16-02.jpg|''P. m. montanus''
ไฟล์:Eurasian Tree Sparrow Passer montanus Nathang Valley Sikkim India 03.11.2014.jpg|''P. m. tibetanus''
เส้น 65 ⟶ 34:
 
== การกระจายพันธุ์และถิ่นอาศัย ==
== ภถยะ้่ัยะทิีั ==
ช่วงการแพร่พันธุ์ตามธรรมชาติของนกกระจอกบ้านประกอบด้วย ยุโรปและเอเชียใต้ประมาณเส้นรุ้ง 68 องศาเหนือเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นเขตอากาศอบอุ่น (ทางเหนือหน้าร้อนมีอากาศหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยเดือนกรกฎาคมต่ำกว่า 12°C) และผ่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลงไปถึง[[เกาะชวา]]และ[[จังหวัดบาหลี]] ก่อนหน้านี้ยังมีการแพร่พันธุ์ใน[[หมู่เกาะแฟโร]], [[ประเทศมอลตา]] และ[[เกาะโกโซ]] (Gozo) ด้วย<ref name= BWP/><ref name= Clement/> ในเอเชียใต้โดยมากมักจะพบในเขตอากาศอบอุ่น<ref name = raju>{{cite journal | last1 = Raju | first1 = K. | last2 = Krishna | first2 = S. R. | last3 = Price | first3 = Trevor D. | year = 1973 | title = Tree Sparrow ''Passer montanus'' (L.) in the Eastern Ghats | url = | journal = Journal of the Bombay Natural History Society | volume = 70 | issue = 3| pages = 557–558 }}</ref><ref name = Rasmussen>{{Harvnb|Rasmussen|Anderton|2005|location=Volume 2. p.576}}</ref> นกชนิดนี้เป็นนกประจำถิ่น แต่ประชากรในตอนเหนือสุดของเขตการกระจายพันธุ์จะมีการอพยพลงใต้ในฤดูหนาว<ref name=Arlott>{{Harvnb|Arlott|2007|p=222}}</ref> รวมถึงกลุ่มประชากรขนาดเล็กที่จะย้ายถิ่นจากตอนใต้ของยุโรปไปยังตอนเหนือของแอฟริกาและตะวันออกกลาง<ref name= BWP/> นอกจากนี้ ชนิดย่อย ''P. m. dilutus'' ที่พบทางตะวันออกของเขตการกระจายพันธุ์จะอพยพมาถึงชายฝั่งของประเทศปากีสถานในฤดูหนาว และนกชนิดย่อยนี้อีกนับพันจะอพยพผ่านไปภาคตะวันออกของประเทศจีนในฤดูใบไม้ร่วง<ref name= Clement/>
 
นกกระจอกบ้าน[[ชนิดพันธุ์ต่างถิ่น|ถูกนำไปนอกแหล่งการกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติ]] แต่ไม่ได้กลายเป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นของสถานที่นั้นเสมอไป อาจเป็นเพราะการแข่งขันกับนกกระจอกใหญ่ มันถูกนำเข้าไปและสามารถแพร่พันธุ์จนกลายเป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นได้สำเร็จใน [[แคว้นปกครองตนเองซาร์ดิเนีย]], ภาคตะวันออกของประเทศอินโดนีเซีย, [[ประเทศฟิลิปปินส์]] และ[[ประเทศไมโครนีเซีย]] แต่เมื่อถูกนำเข้าไปใน[[ประเทศนิวซีแลนด์]] และ[[เบอร์มิวดา]]นั้นกลับปักหลักตั้งถิ่นฐานไม่ได้ นอกจากนี้ เรือยังได้นำนกไปสร้างอาณานิคมที่[[เกาะบอร์เนียว]] นกกระจอกชนิดนี้เป็นนกพลัดหลงตามธรรมชาติใน[[ยิบรอลตาร์]], [[ประเทศตูนิเซีย]], [[ประเทศแอลจีเรีย]], [[ประเทศอียิปต์]], [[ประเทศอิสราเอล]] และ[[ดูไบ]]<ref name= Clement/>
 
ในทวีปอเมริกาเหนือ ประชากรราว 15,000 ตัวได้ตั้งถิ่นฐานรอบ[[เซนต์หลุยส์]] และพื้นที่ใกล้เคียงอย่างบางส่วนของรัฐอิลลินอยส์และทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐไอโอวา<ref name=Cocker/> นกเหล่านี้สืบเชื้อสายมาจากนก 12 ตัวที่นำเข้ามาจากประเทศเยอรมนีและถูกปล่อยในปลายเดือนเมษายน ค.ศ. 1870 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการปรับปรุงนกพื้นเมืองในท้องถิ่นทวีปอเมริกาเหนือ ในพื้นที่การกระจายพันธุ์ที่จำกัดในอเมริกา นกกระจอกบ้านต้องแข่งขันกับนกกระจอกใหญ่ในเมือง และจะพบมากในสวนสาธารณะ ไร่นา และป่าละเมาะ<ref name=lang/><ref name = barlow>{{cite web| author = Barlow, Jon C.; Leckie, Sheridan N. | title= Eurasian Tree Sparrow (''Passer montanus'') | work= The Birds of North America Online |editor-first=A.|editor-last= Pool | url= http://bna.birds.cornell.edu/bna/species/560/articles/introduction | location= Ithaca |accessdate=30 January 2009| publisher = Cornell Laboratory of Ornithology }}</ref> ชาวอเมริกามักเรียกนกชนิดนี้ว่า "นกกระจอกเยอรมัน" (German Sparrow) เพื่อให้ต่างจากนกพื้นเมืองอย่างนกกระจอกต้นไม้อเมริกา (American Tree Sparrow) และนกกระจอกบ้านอังกฤษ ("English" House Sparrow) ที่แพร่พันธุ์มากขึ้น<ref name= forbush>{{Harvnb|Forbush|1907|p=306}}</ref>
[[ไฟล์:Nest of Passer montanus B.jpg|thumb|left|รังนกใต้แผ่นกระเบื้องไม้ในเมือง ประเทศญี่ปุ่น]]
ในประเทศออสเตรเลีย พบนกกระจอกบ้านใน[[เมลเบิร์น]], เมืองในตอนกลางและตอนเหนือของ[[รัฐวิกตอเรีย]] และตอนกลางบางส่วนในเขตริเวอริน่า (Riverina) บริเวณ[[รัฐนิวเซาท์เวลส์]] มันเป็นสัตว์ต้องห้ามใน[[รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย]] ซึ่งบ่อยครั้งที่มันเดินมาถึงพร้อมเรือจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้<ref name = oz>{{cite web | author = Massam, Marion | title = Sparrows | work = Farmnote No. 117/99 | url = http://www.agric.wa.gov.au/content/pw/vp/bird/f11799.pdf | format = PDF | publisher = Agriculture Western Australia | accessdate = 1 February 2009 | archive-date = 2008-08-12 | archive-url = https://web.archive.org/web/20080812133121/http://www.agric.wa.gov.au/content/pw/vp/bird/f11799.pdf | url-status = dead }}</ref>
 
แม้จะมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ''Passer montanus'' แต่นกชนิดนี้กลับไม่ได้เป็นสปีชีส์ที่พบบนภูเขาเท่านั้น และพบที่ความสูงเพียง 700&nbsp;เมตร (2,300&nbsp;ฟุต) ใน[[ประเทศสวิตเซอร์แลนด์]] แม้ว่า มันจะแพร่พันธุ์ที่ความสูง 1,700&nbsp;เมตร (5,600&nbsp;ฟุต) ในตอนเหนือของเทือกเขาคอเคซัสและสูง 4,270&nbsp;เมตร (14,000&nbsp;ฟุต) ในประเทศเนปาล<ref name= BWP/><ref name= Clement/> ในยุโรป พบนกได้บ่อยครั้งบนชายฝั่งที่มีหน้าผา อาคารที่ว่างเปล่า ในพุ่มไม้ของ[[การทำไม้ตัดเรือนยอด|ไม้ตัดเรือนยอด]]ที่ใกล้ทางน้ำที่ไหลช้าๆ หรือในพื้นที่เปิดในชนบทที่มีกลุ่มต้นไม้<ref name= BWP/> นกกระจอกบ้านแสดงอย่างเด่นชัดว่าชอบทำรังใกล้[[พื้นที่ชุ่มน้ำ]] และหลีกเลี่ยงที่จะผสมพันธุ์วางไข่ในพื้นที่เกษตรกรรมแบบผสมที่มีการจัดการอย่างหนาแน่น<ref name= field>{{cite journal| last= Field | first= Rob H. | coauthors= Anderson, Guy | year= 2004| title= Habitat use by breeding Tree Sparrows ''Passer montanus'' | journal= [[Ibis (journal)|Ibis]] | volume=146 | issue= 2| pages=60–68 | url = | doi =10.1111/j.1474-919X.2004.00356.x }}</ref>
 
เมื่อมีนกกระจอกบ้านและนกกระจอกใหญ่ในบริเวณเดียวกัน โดยทั่วไปแล้ว นกกระจอกใหญ่จะแพร่พันธุ์ในเขตเมือง ขณะที่นกกระจอกบ้านจะทำรังวางไข่ในเขตชนบท<ref name= Clement/> ในสถานที่ที่มีต้นไม้น้อยอย่างประเทศมองโกเลีย นกทั้งสองชนิดอาจใช้ประโยชน์จากสิ่งก่อสร้างของมนุษย์เป็นสถานที่ทำรัง<ref name= Melville>{{cite journal | last= Melville | first= David S. | coauthors= Carey, Geoff J. | year= 1998 | title= Syntopy of Eurasian Tree Sparrow ''Passer montanus'' and House Sparrow ''P. domesticus'' in Inner Mongolia, China | journal= [[Forktail (journal)|Forktail]] | volume= 13 | url= http://www.orientalbirdclub.org/publications/forktail/13pdfs/Melville-Sparrows.pdf | format= PDF | issue= | page= 125 | doi= | access-date= 2011-11-29 | archive-date= 2008-10-11 | archive-url= https://web.archive.org/web/20081011235642/http://www.orientalbirdclub.org/publications/forktail/13pdfs/Melville-Sparrows.pdf | url-status= dead }}</ref> นกกระจอกบ้านเป็นนกที่พบในเขตชนบทในทวีปยุโรป แต่เป็นนกในเขตเมืองในตะวันออกของทวีปเอเชีย ในเอเชียกลางและเอเชียใต้ นก ''Passer'' ทั้งสองชนิดอาจพบในเมืองและหมู่บ้าน<ref name = Clement/> ในบางส่วนของดินแดนแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เช่น ประเทศอิตาลี ทั้งนกกระจอกบ้านและนกกระจอกอิตาลีหรือนกกระจอกสเปนอาจพบในชุมชน<ref name="Summers-Smith 1988 220">{{Harvnb|Summers-Smith|1988|p=220}}</ref> ในประเทศออสเตรเลีย นกกระจอกบ้านเป็นนกส่วนใหญ่ในเมือง และมันเป็นนกกระจอกที่ใช้ประโยชน์จากถิ่นอาศัยทางธรรมชาติส่วนมาก<ref name = oz/>
 
ในประเทศไทย นกกระจอกบ้านเป็นนกประจำถิ่น พบทั่วประเทศ โดยเฉพาะตามบ้านคนหรือใกล้หมู่บ้าน<ref>[http://www.thaibiodiversity.org/Life/LifeDetail.aspx?LifeID=42367 Eurasian Tree-sparrow]{{ลิงก์เสีย|date=กันยายน 2021 |bot=InternetArchiveBot |fix-attempted=yes }} ศูนย์รวมข้อมูลสิ่งมีชีวิตในประเทศไทย สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) สืบค้นวันที่ 21 มิถุนายน 2555</ref>
 
== พฤติกรรมและนิเวศวิทยา ==
=== การสืบพันธุ์ ===
[[ไฟล์:Passer montanus montanus MHNT.ZOO.2010.11.209.jpg|thumb|right|ไข่ของนกกระจอกบ้าน]]
เส้น 87 ⟶ 42:
นกที่จับคู่ผสมพันธุ์วางไข่อาจอยู่แยกเดี่ยวหรืออยู่เป็นอาณานิคมแบบหลวมๆ <ref>{{cite journal|last=Hegyi|first=Z.|last2=Sasvári|first2=L.|year=1994|url=http://kornel.zool.klte.hu/pub/ornis/articles/OrnisHungarica_vol4_p9-18.pdf|title=Alternative reproductive tactics as viable strategies in the Tree Sparrow (''Passer montanus'')|format=PDF|journal=Ornis Hungaria|volume=4|pages=9–18|access-date=2011-11-29|archive-date=2011-07-21|archive-url=https://web.archive.org/web/20110721110450/http://kornel.zool.klte.hu/pub/ornis/articles/OrnisHungarica_vol4_p9-18.pdf|url-status=dead}}</ref> นกกระจอกบ้านสามารถใช้รังเทียมหรือบ้านนก (nest box) ได้จากการศึกษาในประเทศสเปน บ้านนกที่สร้างจากไม้และคอนกรีตมีอัตราเข้าใช้มากกว่าบ้านนกที่สร้างจากไม้เพียงอย่างเดียวถึง 76.5% ต่อ 33.5% ตามลำดับ นอกจากนี้ นกที่ทำรังในบริเวณบ้านนกที่ทำจากไม้และคอนกรีตมีการวางไข่ที่เร็วกว่า มีระยะเวลาการฟักที่สั้นกว่า และมีความพยายามจับคู่ผสมพันธุ์มากกว่าต่อหนึ่งฤดู จำนวนไข่และลักษณะของลูกอ่อนไม่มีความแตกต่างกันระหว่างบ้านนกทั้งสองชนิด แต่อัตรารอดสู่วัยเจริญพันธุ์ในบ้านนกที่ทำจากไม้และคอนกรีตมีอัตราสูงกว่า บางทีอาจเป็นเพราะบ้านสังเคราะห์อุ่นกว่าบ้านไม้ถึง 1.5&nbsp;°C ที่สภาพแวดล้อมเดียวกัน<ref name= garcia>{{cite journal | last= García-Navas | first= Vicente | coauthors= Arroyo, Luis; Sanz, Juan José; Díaz, Mario | year= 2008 | title= Effect of nestbox type on occupancy and breeding biology of tree sparrows ''Passer montanus'' in central Spain | journal= [[Ibis (journal)|Ibis]] | volume= 150 | issue= 2 | pages= 356–364 | url= http://www.ccma.csic.es/index.php/es/def/pdf1330?modelo=publicacion | archiveurl= https://web.archive.org/web/20100930134423/http://www.ccma.csic.es/index.php/es/def/pdf1330?modelo=publicacion | archivedate= 2010-09-30 | format= PDF | doi= 10.1111/j.1474-919X.2008.00799.x | access-date= 2011-11-29 | url-status= dead }}</ref>
 
นกตัวผู้จะส่งเสียงร้องจากใกล้ ๆ กับรังในฤดูใบไม้ผลิเพื่อประกาศความเป็นเจ้าของและดึงดูดคู่ครอง นกตัวผู้อาจนำวัสดุเข้าไปสร้างรังด้วย<ref name= "Clement">{{Harvnb|Clement|Harris|Davis|1993|pp=463–465}}</ref> รังนกกระจอกบ้านเก่ามักถูกใช้ซ้ำในฤดูใบไม้ร่วงโดยเฉพาะอย่างยิ่งรังที่ยังสมบูรณ์ แต่สำหรับกล่องรังที่ว่างเปล่า และรังนกกระจอกใหญ่หรือรังนกอื่น ๆ เช่น [[นกติต]], นกจับแมลงยุโรป หรือ นกเขน มักไม่ค่อยถูกใช้สำหรับออกไข่เลี้ยงดูลูกอ่อนในฤดูใบไม้ร่วง<ref name= Pinowski>{{cite journal| last= Pinowski | first= Jan | coauthors= Pinowska, Barbara; Barkowska, Miloslawa; Jerzak, Leszek; Zduniak, Piotr; Tryjanowski, Piotr | month= June | year=2006 | title= Significance of the breeding season for autumnal nest-site selection by Tree Sparrows ''Passer montanus'' | journal= Acta Ornithologica | volume=41 | issue= 1| pages= 83–87| url =http://www.ingentaconnect.com/content/miiz/actao/2006/00000041/00000001/art00012 | doi = }}</ref>
 
[[ไฟล์:Passer montanus 050526.jpg|บ้านนกที่ทำมาจากไม้|thumb|left]]
เส้น 98 ⟶ 53:
นกกระจอกบ้านมีการกระจายพันธุ์ที่กว้าง ประมาณ 98.3 ล้านตารางกิโลเมตร (38.0 ล้านตารางไมล์) และมีประชากรถึง 190–310&nbsp; ล้านตัว แม้ว่าจะมีการลดลงของประชากรนก แต่นกชนิดนี้ยังไม่เข้าใกล้เกณฑ์การลดของประชากรของ[[บัญชีแดงไอยูซีเอ็น]] (ลดลงมากกว่า 30% ในสิบปีหรือสามชั่วอายุ) ด้วยเหตุผลเหล่านี้ [[สถานะการอนุรักษ์]]ของนกกระจอกบ้านจึงเป็น[[สิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการสูญพันธุ์]]<ref name=IUCN/>
 
แม้ว่านกกระจอกบ้านจะขยายขอบเขตการกระจายพันธุ์ใน[[เฟนโนสแกนเดีย]] (Fennoscandia) และยุโรปตะวันออก แต่ประชากรในยุโรปตะวันตกส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดลง<ref name = "BWP">{{Harvnb|Snow|Perrins|1998|pp=1513–1515}}</ref><ref>{{cite book|author=BirdLife International|year=2004|title=Birds in Europe: population estimates, trends and conservation status|url=http://www.birdlife.org/action/science/species/birds_in_europe/index.html|location=Cambridge, England|publisher=BirdLife International|series=Conservation Series No. 12|chapterurl=http://www.birdlife.org/datazone/userfiles/file/Species/BirdsInEuropeII/BiE2004Sp8385.pdf|contribution=''Passer montanus'', Eurasian Tree Sparrow|access-date=2011-11-29|archive-date=2013-01-16|archive-url=https://web.archive.org/web/20130116172241/http://birdlife.org/action/science/species/birds_in_europe/index.html|url-status=dead}}</ref> แนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นในนกพื้นที่เกษตรอื่น ๆ ด้วย เช่น นก[[Alauda|สกายลาร์ค]], นกจาบปีกอ่อนไร่ข้าวโพด (corn bunting) และ นกกระแตเหนือ (northern lapwing) จากปี ค.ศ. 1980 ถึงปี ค.ศ. 2003 จำนวนนกในพื้นที่เกษตรลดลง 28% <ref name = europea>{{cite web | title= Research highlights decline of farm and forest birds | date= 8 June 2005 | url= http://www.birdlife.org/news/news/2005/06/european_indicators.html | publisher= [[BirdLife International]] | accessdate= 3 February 2009 | archive-date= 2007-06-07 | archive-url= https://web.archive.org/web/20070607155029/http://www.birdlife.org/news/news/2005/06/european_indicators.html | url-status= dead }}</ref> การล่มสลายของประชากรรุนแรงอย่างยิ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน[[บริเตนใหญ่]] มีการลดลง 95% ระหว่างปี ค.ศ. 1970 และ ค.ศ. 1998<ref>{{cite web|title= Tree sparrow | work=Conservation case studies | url= http://www.rspb.org.uk/ourwork/conservation/species/casestudies/treesparrow.asp | publisher= [[Royal Society for the Protection of Birds]] |accessdate=3 February 2009|archiveurl=https://web.archive.org/web/20100115014620/http://www.rspb.org.uk/ourwork/conservation/species/casestudies/treesparrow.asp|archivedate=15 January 2010}}</ref> และไอร์แลนด์มีนกเพียง 1,000-1,500 คู่ในปลายปีคริสต์ทศวรรษที่ 1990<ref name=BWP/><ref>{{cite news| url=http://www.rte.ie/news/2012/0123/sparrow.html | work=RTÉ News | title=Tree sparrow on the increase on east coast | date=23 January 2012}}</ref> ในเกาะอังกฤษการลดลงดังกล่าวอาจเกิดจากความผันผวนตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่านกกระจอกบ้านมีความเสี่ยง<ref name="Summers-Smith 1988 220">{{Harvnb|Summers-Smith|1988|p=220}}</ref> ประสิทธิภาพการขยายพันธุ์ของนกกระจอกบ้านจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อขนาดของประชากรลดลง ซึ่งบ่งชี้ว่าการลดลงของประชากรไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญของสาเหตุการลดลงและความอยู่รอดของประชากร<ref>{{cite web|title = Tree Sparrow ''Passer montanus'' | work= Breeding Birds in the Wider Countryside | url= http://www.bto.org/birdtrends2006/wcrtresp.htm | publisher=[[British Trust for Ornithology]] |accessdate=3 February 2009|archiveurl=https://web.archive.org/web/20080227005542/http://www.bto.org/birdtrends2006/wcrtresp.htm|archivedate=27 February 2008 }}</ref> จำนวนนกกระจอกบ้านที่ลดลงอย่างมากอาจเป็นผลมาจากการเพิ่มความเข้มข้นและความเชี่ยวชาญทางการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สารกำจัดวัชพืชที่เพิ่มขึ้นและแนวโน้มการเพาะปลูกในฤดูใบไม้ร่วง (การปลูกในฤดูใบไม้ผลิจะเกิดตอซังในฤดูหนาว) การเปลี่ยนจากการเพาะปลูกผสมผสานเป็นการทำฟาร์มแบบพิเศษเฉพาะและการใช้ยาฆ่าแมลงที่เพิ่มขึ้นทำให้ปริมาณแมลงซึ่งเป็นอาหารเลี้ยงลูกอ่อนลดลง<ref name = europea/>
 
== อ้างอิง ==