สำหรับในยุคนี้ เราคงจะหลีกเลี่ยงหรือหนีคำว่า Social Media ไปไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็จะพบเห็นมันอยู่ตลอดเวลา Social Media หมายถึงสังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้เป็นผู้สื่อสาร หรือเนื้อหา เรื่องราว Social Media โดยทั่วไปเปรียบได้หลายรูปแบบ ทั้ง กระดานความคิดเห็น เว็บบล็อค รูปภาพ และวิดีโอ ส่วนเทคโนโลยีที่รองรับเนื้อหาเหล่านี้ก็รวมถึง เว็บบล็อค เว็บไซต์แชร์รูปภาพ, เว็บไซต์แชร์วิดีโอ, เว็บบอร์ด, อีเมล์, เว็บไซต์แชร์เพลง,

  Social Media  สื่อสังคมออนไลน์ที่มีการตอบสนองทางสังคมได้หลายทิศทาง โดยผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต   โต้ตอบกันได้

พื้นฐานการเกิด Social Media ก็มาจากความต้องการของมนุษย์หรือคนเราที่ต้องการติดต่อสื่อสาร กัน จากเดิมเรามีเว็บในยุค 1.0 ซึ่งก็คือเว็บที่แสดงเนื้อหาอย่างเดียว บุคคลแต่ละคนไม่สามารถติดต่อหรือโต้ตอบกันได้ แต่เมื่อเทคโนโลยีเว็บพัฒนาเข้าสู่ยุค 2.0 ก็มีการพัฒนาเว็บไซต์ที่เรียกว่า web application ซึ่งก็คือเว็บไซต์มีแอพลิเคชันหรือโปรแกรมต่างๆ ที่มีการโต้ตอบกับผู้ใช้งานมากขึ้น ผู้ใช้งานแต่ละคนสามารถโต้ตอบกันได้ผ่านหน้าเว็บ

  5 ปีที่ผ่านมานั้น Social Media ได้เติบโตแล้วพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นหนึ่งในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงโลกไปแล้วในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตจากสังคมเล็ก ๆ การเพิ่มเทคโนโลยีในการเชื่อมต่อ ขยายตัวเองไปสู่อุปกรณ์พกพาต่างๆ ฯลฯ สิ่งที่หลายคนอาจจะนึกคิดอยู่คือในอนาคต 5 ปีหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น และทิศทางของ Social Media จะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งก็มีคนได้ทำการวิเคราะห์เอาไว้บางส่วนดังต่อไปนี้ในด้านเทคโนโลยี
    การเติบโตของ Social Media ที่ผ่านมานั้นนอกจากจะมีปัจจัยสำคัญคือเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตนั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ประกอบเพิ่มมา เช่น การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่มากขึ้นหรือแม้กระทั่ง เทคโนโลยีของโปรแกรม Flash  ในขณะเดียวกันการเติบโตของ Mobile Application ต่างๆ นั้นก็มาจากการเติบโตแบบก้าวกระโดดของตลาดด้านเครือข่ายของโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้น
   ณ ปัจจุบันเราคงต้องมองไปถึงวันที่ Smartphone จะทำงานบนเครือข่าย 4G รวมทั้งโทรศัพท์มือถือต่าง ๆ ที่จะออกมารองรับเทคโนโลยีดังกล่าว อย่างไรก็ตามก็ต้องไม่ลืมว่ากว่าที่เทคโนโลยีเหล่านี้จะครอบคลุมพื้นที่ส่วน ใหญ่ก็จำเป็นต้องใช้เวลาโดยมีการคาดการณ์ไว้ว่าจะมีผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต ไร้สายมากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลกภายในปี 2013

นอกจากนี้แล้วเราก็ยังคงต้องดูทิศทางของรัฐบาลในหลาย ๆ ประเทศที่จะสนับสนุนระบบสาธารณูปโภคด้านไอทีอย่างไร เอกชนที่ธุรกิจ Broadband Internet ในแต่ละประเทศจะมีการลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพของผลิตภัณฑ์ตัวเองมากเพียงใด ซึ่งทิศทางตัวนี้จะเป็นตัวชี้ว่าระดับมาตรฐานของแต่ละประเทศที่จะเอื้อต่อ การเติบโตของ Social Media จะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งปัจจัยตามที่กล่าวมานี้จะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เราเห็นนวัตกรรมของ Social Media ใหม่ ๆ ขึ้นมาอีกแน่นอน

  ประวัติของ Social Media ในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นเหตุการณ์ที่ Social Site ใหม่ ๆ เกิดขึ้นและทำได้ดีกว่าของที่มีอยู่ และทำให้ Social Site เดิมกลายเป็นผู้แพ้ในสงครามไป (ดังเช่นกรณีของ Friendster / Hi5 / MySpace) แต่กับความเป็นไปได้ที่ว่า Facebook / Twitter เจอสถานการณ์เดียวกันในอนาคตข้างหน้านั้นก็กลับจะตรงกันข้ามเสียมากกว่า
 ปัจจุบัน Facebok กลายเป็น Social Site ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากรที่มีความหลากลายมากและกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของบริการใหญ่ ๆ ในโลกอินเทอร์เน็ต ส่วน YouTbue ก็ยังเป็นเวบที่รวบรวม Video ไว้มากมายรวมทั้งการเจรจาทางธุรกิจกับพันธมิตรใหม่ ๆ ก็ดูจะเป็นการยากที่คู่แข่งอื่น ๆ จะสามารถสร้างความสั่นคลอนได้ เช่นเดียวกับกรณีของ Twitter ที่ตอนนี้กลายเป็นหนึ่งใน Platform ที่ยอมรับกันโดยกว้างขวาง มี Application ที่พัฒนาขึ้นมากกว่า 300,000 โปรแกรมและถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดในรูปแบบต่าง ๆ มากมาย
   สิ่งใหม่ ๆ ที่เราจะเห็นต่อไปนับจากวันนี้คือการทำให้โทรทัศน์สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้ มากขึ้น (เช่นการมี Application) การทำให้กิจกรรมอย่างอ่านหนังสือหรือฟังเพลงกลายเป็น Social Network ให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์ได้ โดยส่วนใหญ่จะหาทางเชื่อมกับความสามารถของ Facebook / Twtitter / Youtube

พรหมแดนใหม่ของ Social Media

    ก้าวกระโดดสำคัญของ Social Media คือการไม่จำกัดตัวเองอยู่ในหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น ในอีกห้าปีข้างหน้าเราคงจะเป็นอุปกรณ์ประเภทต่าง ๆ ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Social Media ได้ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์หรือวิทยุและจะขยายตัวไปมากกว่าที่เห็นอยู่ การขยายตัวของอินเทอร์เน็ตจะส่งผลที่เห็นชัดมากขึ้นอย่างเช่นกรณีของ Blip.tv ที่มีคนเข้าชมรายการซึ่งออกอากาศเฉพาะทางอินเทอร์เน็ตมากถึง 100 ล้านครั้งต่อเดือน
   กระแสดังกล่าวเห็นได้ชัดจากการประกาศเกมรบของ Google TV หรือแม้แต่ Apple TV ที่เพิ่งเปิดตัว นอกจากนี้เราอาจจะได้เห็นการนำ Social Media อย่าง Twitter Facebook และ YouTube มาใช้สร้างประสบการณ์ต่าง ๆ บนอุปกรณ์พกพาไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือหรือ Tablet ต่างๆ ซึ่งเราจะให้วิธีการเข้าถึง Video และรายการทีวีที่มากขึ้นกว่าเดิมอีกมากให้ผู้บริโภคได้เลือก ซึ่งก็ไม่แตกต่างไปจากวงการวิทยุที่จะเห็นการ Streaming ที่มากขึ้น และไปสู่อุปกรณ์ที่มากขึ้นด้วย
    นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้วนั้น ยังมีเทรนด์ใหม่ๆ ที่ยังมีการคาดการณ์ไว้ เช่น การเชื่อมกิจวัตรประจำวันต่างๆ รวมทั้งรายละเอียดต่างๆ ของชีวิตให้กลายเป็น Social Media ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นการสร้างพฤติกรรมใหม่ ๆ ให้กับเราในไม่ช้าก็เร็ว เหมือนกับที่ทุกวันนี้การเช็ค Email หรือ Facebook กลายเป็นเรื่องปกติ

ประโยคนี้เป็นเนื้อหาที่อ้างอิงมาจากhttp://www.nattapon.com/blog/2010/05/what-is-social-media/