ผู้ใช้:Webganzter/หม่อมราชวงศ์ เล็ก ศิริวงศ์

หม่อมราชวงศ์เล็ก ศิริวงศ์ เกิควันอังคาร เดือน ๘ อุตราสาธ  แรม ๓ ค่ำ ปีเถาะสัปตศก จุลศักราช ๑๒๓๗ ตรงกัยวันที่ ๓๑ เดือนกรกฎาคม พระพุทธศักราช ๒๓๙๗ เป็นบุตรพระสัมพันธวงศ์เธอพระองค์เจ้าประเสริฐศักดิ์  มารคาซื่อหม่อมพริ่ง   ( ราชนิกูลบางช้าง )ซึ่งเป็นหลานท่านเจ้าพระยาวงศาสุริยศักดิ์ (แสง) ที่สมุหพระกระลาโหม รัชกาลที่ ๒   เมื่ออายุหม่อมราชวงศ์ล็กได้ ๒ เดือน พระองค์เจ้าประเสริฐศักดิ์ผู้เปนบิดาได้ทรงนําไปพร้อมด้วยคอกไม้ธูปเทียนถวายตัวเป็นข้าในพระบาทสมเด็จ ๆพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตังแต่ยังทรงคํารงพระยศอยู่ในที่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ได้เรียนหนังสือโทยอยู่ในสํานักพระญาณสมโพธิ (ตํา) พระราชาคณะวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ เมื่อพระบาทสมเด็จ ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕  เสด็จทรงพระผนวซเณรประทับอยู่วัดบวรนิเวศวิหาร ไต้ตามเสด็จไปเรียนหนังสือขอมอยู่ในสำนักวัดนั้นด้วย พระพุทธศักราซ ๒๔๓๐ โกนจุกที่วังพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมขุนราชสีหวิกรม พระยาทสมเด็จ ฯพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูหัว เมือดำรงพระยศเป็นกรมขุนพินิตประชานาถ เสด็จพระราชทานน้ำพระพุทธมนต์
เมือพระบาทสมเด็จ ฯพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ หม่อมราชวงศ์เล็ก ศิริวงศ์ ไค้เข้ารับราชการ ไห้รับพระราชทานเงิน  ซึ่งทรงพระมหากรุณาโปรคเกล้า ฯ พระราชทานให้แก่ข้าหลวงเดิม ๑๒๐ บาท และได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดปีละ ๘๐ ขาท ครั้นต่อมาในพระพุทธศักราช ๒๔๑๓ อายูได้ ๑๖ปี ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นนายขัน หุ้มแพร นายยามมหาดเล็กเวรเดช ได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดเพิ่มขึ้นเป็น ๑๐๐ บาท เมื่อพระพุทธศักราซ ๒๔๑๔ ได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดเพิ่มขึ้นอีกเป็น ๑๒๐ บาท กับเงินเดือนๆ ละ ๓๐ บาท ได้ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้า ฯ กรมหลวงจักรพรรดิพงศ์เสด็จไปทูลขอ หม่อมราชวงศ์หญิง แจ่มแจ้ง บุตรีพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิตราภรณ์ ในพระเจ้าพี่ยาเธอกรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส  แต่สมเด็จพระไปยิกาเธอ กรมสมเด็จพระสุดารัตน์ราชประยูร ( ซึ่งเรียกกันว่าทุลกระหม่อมแก้ว ) พระราชทานให้เป็นภรรยา ค่อมาในพระพุทธคักราช ๒๔๑๖  ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานสัญญาบัตรเลื่อนขึ้นเป็นนายจ่าเรศ เวรฤทธิ์ ได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดเพิ่มขึ้นเย็นปีละ ๑๖๐ บาท พระพุทธศักราซ์ ๒๔๑๗ ได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดเพิ่มขึนอีก ๘๐ บาทรวมเป็น ๒๔๐ บาท พระพุทธศักราช ๒๔๑๙ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเลื่อนขึ้นเป็นหลวงนายฤทธิ์ นายเวรเครื่องขวา ได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดเพิ่มขึ้นอีก ๔๐ บาท รวมเปน ๒๘๐ บาท และได้ทรงพระมหากรุณาให้เป็นนาคหลวง   ทําขวัญที่พระะที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย อุปสมบทในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสตาราม จำพรรษาอยู่ณวัดราชบพิธ สมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์เปนพระอุปัชญาย์ สมเด็จพระสังฆราช (สา ) เป็นพระกรรมวาจา ครั้นลาสิกขาแล้ว  ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เป็นเจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ หัวหมื่นมหาดเล็ก ได้รับพระราชทานหีบหมากทองคํา, โต๊ะทองคํารองหีบ, กานํ้าเย็นทองคํา, กระบี่ด้ามเป็นรูปศีร์ษะนาคโกร่งฝักทองคํา เครื่องยศในตําแหน่งหัวหมื่น และได้รัยพระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์มงกุฎสยามชั้นที่ ๔ ภัทราภรณ์ ๑ และได้ตราต่างประเทศมงกุฎอิตาเลี่ยน ๑ และในพระพุทธศักราช ๒๔๒๕ นี้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์ชั้น ๓ ตติยจุลจอมเกล้า  และได้รับพระราชทานเงินเบี้ยหวัดเพิ่มขีนอีก ๔๐ บาท เป็น ๓๒๐ บาท เงินเดือนๆละ ๓๐ บาทตามเดิม พระพุทธศักราช ๒๔๒๕ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ๆ ให้ออกไปรับคนสมัครเข้ารับราชการทหารที่มณฑลราชบุรี ได้รับพระราชทานยศทหารเปนนายพันโท  รับพระราชทานเงินเดือนๆละ ๑๒๐ บาท และได้รับราชการทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน ในพระพุทธศักราช ๒๔๒๕ ได้ทรงพระกรุณาโปรกเกล้า ๆ ให้เปนนายด้านรับผิดชอบจัดการรักษาพิพิธภัณฑ์ ( เนชั่นแนลเอสมีแช่น ) ในคราวครบรอบศตวรรษ ( ๑๐๐ ปี ) ไต้รับพระราชทานรางวัลเหรียญทองคําหนัก ๑๐ บาท มีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จพระบรมราชเทวี (ซึ่งปรากฏพระนามในเวลานี้ว่า สมเด็จพระมาตุจฉาเจ้า พระบรมราชเทวี ) พระพุทธศักราช ๒๕๒๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นไปทรงนมัสการพระพุทธบาท ได้เป็นผู้บังคับบัญชาทหารตามเสด็จพระราชดำเนินคราวนั้น ครั้นไปถึงพระพุทธบาท ทหารได้เกิดวิวาทขึ้นกับราษฎร ทหารใช้ปืนยิงขิ้นไปบนไหล่เขาพระพุทธบาท ๓ นัด กระสุนปืนกระทบหน้าผาแล้วสะท้อนกลับตกลงในค่ายหลวง นายทหาร ๒ นายต้องรับพระราชอาญา และหม่อมราชวงค์เล็กซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามีความผิดฐานเลินเล่อต่อหน้าที่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ๆ ยกออกเสียจากหน้าทีราชการ
พระพุทธศักราช ๒๔๓๐ ได้กลับเข้ารับราชการทหารเปนนายพันเอก ได้รับพระราชทานเงินเดือน ๆ ละ ๑๒๐ บาท แล้วได้ไปเปนผู้ช่วยเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี แม่ทัพไปปราบฮ่อเมื่องหลวงพระบาง ได้รับพระราชทานเงินเดือนเพิ่มขึ้นอีกเปนเดือนละ ๒๔๐ บาท
พระพุทธศักราช ๒๔๓๒  ได้ไปเป็นผู้ช่วยในการจําหน่ายฝิ่นทางลำนํ้าโขง ได้รับพระราชทานเงินเดือนเพิ่มขึ้นอีก ๑๖๐ ปาท รวมเปนเดือนละ ๔๐๐ บาท
พระพุทธศักราช ๒๔๓๓ ได้เปนผู้ช่วยเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ข้าหลวงพิเศษปราบโจรผู้ร้ายทางมณฑลตะวันออก
พระพุทธศักราช ๒๔๓๔  ได้เปนแม่กองเก็บเงินอากรสวนใหญ่ ได้รับพระราชทานรายได้เปนส่วนลดร้อยละ ๕ จากจำนวนเงินที่เก็บใด้ และยังคงคําการจําหน่ายฝิ่น รับพระราชทานเงินเดืยน ๆ ละ ๔๐๐ บาทด้วยอีกแผนกหนึ่ง
พระพุทธศักราช ๒๔๔๐ บังเกิดโรคภัยเบียดเบียน มิสามารถจะรับราชการสนองพระเดชพระคุณตอไป จึงไค้กราบถวายบังคมลาออกจากหน้าที่ราชการ ครั้นต่อมาในวันที่ ๑๒ สิงหาคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๕ หม่อมราชวงศ์เล็ก ศิริวงศ์ ถึงแก่กรรมด้วยโรคชราอายูได้ ๖๘ ปี
หม่อมราชวงศ์เล็ก ศิริวงศ์.มีภรรยา ๔ คน บุตรชาย ๗ หญิง ๕ ภรรยาคนแรก คือหม่อมราชวงค์หญิงแจ่มแจ้งมีบุตรี ๑ พระบาทสมเด็จ ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้า ฯ พระราชทานนามว่าหม่อมหลวงหญิงพัวพัน เพราะทรงนับว่าเปนพระสัมพันธญาติอันใกล้ชิดในพระองค์ทั้ง๒ ฝ่าย คือหม่อมราชวงค์เล็ก ศิริวงศ์ เป็นหลานสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชชนนิพระพันปีหลวง และหม่อมราชวงค์หญิงแจ่มแจ้งก็เปนหลานพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส และหม่อมหลวงหญิงพัวพันผู้นี้ เปนหม่อมในหม่อมเจ้าอุดมดิเรกลาภ ภรรยาคนที่ ๒ ชื่อเจ้าแก่นคำ เจ้าลาวเมีองหลวงพระบาง มีบุตรี ๒ คน คือหม่อมหลวงหญิงสงวน, หม่อมหลวงหญิงรําจวน ภรรยาคนที ๓ มีบุตร ๕ คน บุตรชายคนใหญ่ คือนายร้อยตรี หม่อมหลวงสุภาพ, นายร้อยตรี หม่อมหลวงถวิล, นักเรียนนายดาบ หม่อมหลวงครุณ, หม่อมหลวงซายโอภาส, หม่อมหลวงหญิงจรัส ภรรยาคนที่ ๔ มีบุตร ๔ คน คือหม่อมหลวงหญิงแฉล้ม, หม่อมหลวงชายนระทิพ, หม่อมหลวงชายปราโมชย์, หม่อมหลวงชายประดิษฐ์

[1]

  1. ปัญญาสชาดก ประชุมนิทานในประเทศนี้แต่โบราณ ๕๐ เรื่อง ภาค๑ เรื่องสมุททโฆสชาดก กับ เรื่องสุธนชาดก พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ หม่อมราชวงศ์เล็ก ศิริวงศ์ เมื่อปีชวด พ.ศ. ๒๔๖๗