ผู้ใช้:Uareclub/กระบะทราย

สมาพันธ์นักเรียนเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทย

โลโก้สมาพันธ์นักเรียนเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทย
ก่อตั้ง	12 พฤศจิกายน 2555
ประเภท	เคลื่อนไหวด้านการศึกษา
วัตถุประสงค์	การศึกษาที่สร้างเสริมคุณค่าให้มนุษย์
สมาชิก	40 คน ตามบัญชี
เลขาธิการคนแรก	เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล
เว็บไซต์	สมาพันธ์นักเรียนฯ
หมายเหตุ	ปัจจุบันหยุดการเคลื่อนไหวแล้ว

แฟนเพจสมาพันธ์นักเรียนไทย เพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทย ก่อตั้งขึ้น ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และขณะนี้มียอดกดไลท์เพิ่มขึ้นจากเดิม 200 ไลท์อย่างรวดเร็ว หลังจากเปิดการรณรงค์ เรื่องให้กระทรวงศึกษาธิการยกเลิกระเบียบการไว้ทรงผมหัวเกรียนของผู้ชาย และผมยาวระดับติ่งหูของผู้หญิง การทำแฟนเพจนี้ เป็นการรวมกลุ่มกันของนักเรียนจากทั่วประเทศที่มีแนวคิดอยากเห็นระบบการศึกษาไทยมีการเปลี่ยนแปลง โดยคิดว่าการศึกษาไทยมีข้อบกพร่อง พวกเขาจึงใช้การสื่อสารผ่านเฟซบุ๊ก พวกเขายอมรับว่าหลังจากเรื่องการรณรงค์ปัญหาทรงผมของนักเรียน แฟนเพจนี้ก็มีทั้งเสียงชมและตำหนิในคราวเดียวกัน แต่ทางกลุ่ม ก็ยังเห็นว่าต้องเดินหน้ากิจกรรมที่พวกเขาคิดว่า จำเป็นต่อการศึกษาไทยต่อไป นั่นคือการปรับปรุงระบบการศึกษาไทย ทั้งหลักสูตรการเรียนการสอน คุณภาพครู เนื้อหาในการสอน การลดจำนวนนักเรียนต่อห้อง และเพิ่มจำนวนโรงเรียนให้มากขึ้น เช่นเดียวกับการแข่งขันระหว่างเรียน การสอบที่เกินหลักสูตร จนเป็นเหตุให้นักเรียนต้องเรียนพิเศษกันมากขึ้น แต่ไม่สนใจการเรียนในห้องเรียนโดยพวกเขา บอกว่า การปฏิวัติเรื่องทรงผม ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะทำให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันหรือไม่ก็ตาม และยังเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะการเปลี่ยนทีละนิด ที่ผ่านการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จนหาข้อสรุปได้ ถือเป็นสิ่งที่ดี ที่พวกเขาต้องการให้เกิดขึ้นในสังคมไทย

การเคลื่อนไหว

สารตะกั่ว

จากการสำรวจโรงเรียนต่าง ๆ ในบางอำเภอของจังหวัดระยองพบเด็กที่ได้รับสารตะกั่วจำนวนมาก อันเนื่องมาจากการใช้สารประกอบตะกั่วในอุตสาหกรรมสี ทำให้เกิดการปนเปื้อนสารตะกั่วขึ้นในสีที่ใช้ทาเครื่องเล่น โต๊ะอาหารอาคารโรงเรียน ฯลฯ ทางสมาพันธ์ฯจึงมีการออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงใยต่อนักเรียนที่อาจได้รับสารตะกั่ว อาจทำให้มีอาการป่วยต่าง ๆ อาทิ โลหิตจาง ปวดตามข้อ กระดูกจะผุหักง่าย นอกจากนั้น ยังสะสมในไขมัน และระบบร่างกายต่าง ๆ ทำให้เกิดอาการเรื้อรัง เช่น อาการทางของระบบทางเดินอาหาร อาการพิษทางประสาทและสมอง ซึมไม่รู้สึกตัว ชัก เป็นอัมพาต และอาจถึงแก่ชีวิตได้

นโยบายการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก

ระยะเวลานี้ ทางกระทรวงศึกษาธิการได้มีนโยบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการศึกษามากมาย 1 ในนั้นคือนโยบายการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก ทางสมาพันธ์ฯจึงออกแถลงการณ์ต่อกรณียุบโรงเรียนขนาดเล็กใจความว่า "หากจะต้องยุบจริง ๆ ควรจะมีการพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป ไม่ควรยุบแบบเหมารวม นอกจากจะเป็นการไม่เคารพในศักดิ์ศรีของท้องถิ่นนั้น ๆ แล้ว การยุบโดยไม่ฟังเสียงของชุมชนนั้นยังอาจสร้างปัญหาตามมา"

ทรงผม

จากปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนการโรงเรียนไทยหลายๆโรงเรียน โดยเฉพาะอย่างยื่งเรื่องทรงผมทางสมาพันธ์จึงได้ทำแคมเปญ Change.org ขึ้นเพื่อยกเลิกการบังคับทรงนักเรียนในโรงเรียนไทย และได้รับแรงสนับสนุนอย่างดี จนกระทั่งกระทรวงศึกษาธิการได้ออกประกาศระเบียบทรงผมฉบับใหม่ขึ้น ให้นักเรียนชายสามารถไว้รองทรงได้ และ นักเรียนหญิงสามารถซอยผมสั้นหรือยาวก็ได้ แต่ถึงแม้จะมีการประกาศระเบียบทรงผมฉบับใหม่ขึ้นมา ก็ยังพบโรงเรียนโดยมากที่ยังบังคับทรงนักเรียนอยู่มาก พร้อมกันนี้สมาพันธ์ฯได้มีการทำหนังสือเผยรายชื่อโรงเรียนบังคับเกรียนร้องเรียกถึงกระทรวงศึกษาธิการ และแคมเปญ Change.org "เรียกร้องให้โรงเรียนบังคับใช้กฎระเบียบให้สอดคล้องกับกระทรวงศึกษาฯฉบับล่าสุด" ทั้งนิวยอร์กไทม์เขียนบทความเกี่ยวกับโรงเรียนไทยขึ้นใจความว่า "In Thailand’s Schools, Vestiges of Military Rule" และการละเมิดสิทธิมนุษยชนในโรงเรียนยังคงดำเนินต่อไป ในวันที่ 13 สิงหาคม2556 ทางสมาพันธ์ฯได้มีหนังสือเรียนองค์สิทธิมนุษยชนต่างๆกว่า 6 องค์กร ถึงเรื่องการบังคับกฎเกณฑ์เรื่องทรงผม โดยบังคับให้นักเรียนชายต้องตัดผมทรงเกรียนและนักเรียนหญิงต้องไว้ผมสั้นเสมอติ่งหู ได้ผลักดันในเรื่องนี้แต่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีศึกษาคนปัจจุบัน ดูจะทิ้งเรื่องนี้ไป

จม. ถึงรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่

ทางสมาพันธ์นักเรียนได้ร่างจดหมายถึง ท่านรัฐมนตรีคนใหม่ นาย จาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ด้วยกัน 6 เรื่องดังนี้ เร่งจี้ปฏิรูปข้อสอบส่วนกลางที่เน้น "ท่องจำ" มากเกินความเกินไปข้อสอบที่ดีควรเน้น "คิด วิเคราะห์" วิชาสอบที่อันมากมายของเด็กไทย การเรียนกลายเป็นการแข่งขัน และ ความล้ำเหลื่ยมในการเข้าถึงทรัพยากรของการศึกษา

25 ตุลาคม 2556

จากการที่สมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทยจะจัดงานเดินขบวนแสดงจุดยืนวันที่ 25 ตุลาคม 2556โดยร่วมกับองค์กรการศึกษาอื่นๆด้วย ทางสมาพันธ์ฯได้มอบหมายให้นายธรรมากร อารยางกูรสมาชิกของสมาพันธ์ฯ เป็นผู้ติดต่อประสานงานกับทางกระทรวงศึกษาธิการเพื่อแจ้งให้ทราบล่วงหน้าถึงกิจกรรมที่จะเกิดขึ้น ทั้งขอความอนุเคราะห์ด้านสถานที่ด้วยรวมถึงได้ขอให้กระทรวงศึกษาธิการช่วยอำนวยความสะดวกอุปกรณ์ต่างๆ ให้คำตอบที่ได้รับกลับมาก็คือ ไม่มีการอำนวยความสะดวกด้านอุปกรณ์เครื่องเสียงหรือเต็นท์ที่พักให้ อันนี้ก็แล้วแต่ดุลยพินิจทางกระทรวงศึกษาซึ่งทางสมาพันธ์นักเรียนฯมิได้มีความวิตกกังวลอย่างใด แต่เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น คือได้มีหนังสือราชการลับส่งไปยังโรงเรียนที่นายธรรมากร กำลังศึกษาอยู่แจ้งเรื่องที่จะการเดินขบวนทางโรงเรียนได้เรียกนายธรรมากรไปพูดคุย และมีการต่อว่าเป็นเรื่องที่ประหลาดใจคือ ทางโรงเรียนทราบได้อย่างไร นอกจากทางกระทรวงศึกษาที่นายธรรมากรแจ้งกลับมาทางโรงเรียนทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเองก็ได้เข้ามาร่วมด้วย โดยได้ขอคุยกับนายธรรมากรชี้แนะในเรื่องต่างๆ

ในวันที่ 25 ต.ค.2556 เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. แนวร่วมนักเรียนนักศึกษาผลักดันปฏิรูปการศึกษาไทยประมาณ 30 คน นำโดยเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ได้รับการปล่อยตัวจาก สน.ดุสิต หลังถูกจับที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ขณะเตรียมเดินขบวนไปกระทรวงศึกษาธิการ โดยตำรวจตั้งข้อหาใช้รถดัดแปลง ซึ่งทั้งหมดโดนปรับรวม 500 บาท ปิยรัฐ จงเทพ นักศึกษาหนึ่งในผู้ถูกจับกุม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตำรวจมีความพยายามแจ้งข้อหาในความผิดตาม พ.ร.บ.ความมั่งคงด้วย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณาจากข้อเรียกร้อของแนวร่วมฯ ไม่มีประเด็นทางการเมืองจึงยอมไม่เอาความ แต่ทางกลุ่มตนเตรียมแจ้งความกลับตำรวจในข้อหาใช้รถไม่ติดทะเบียน ล่าสุดตำรวจได้นำรถตู้จำนวน 2 คันนำนักเรียนนักศึกษากลุ่มดังกล่าวมาส่งที่กระทรวงศึกษามารับเข้าเพื่อไปยื่นหนังสือ โดยมี สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการออกมารับหนังสือแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กลุ่มดังกล่าวต้องการเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการรูปการศึกษาให้มีความเป็นธรรม รวมถึงจัดสว้สดิการการศึกษาในแบบรัฐสวัสดิการ และยกเลิกกฎระเบียบทางการศึกษาที่โบราณขัดหลักสิทธิเสรีภาพต่างๆ

โดยก่อนหน้านี้ นายเนติวิทย์ พร้อมกับเพื่อน ได้เดินทางไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อแจกใบปลิวและปราศรัยเรียกร้องการปฏิรูปการศึกษา เพื่อให้บรรดาประชาชนได้รู้ว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำการศึกษาไทยให้ดีขึ้น แต่แล้วนายเนติวิทย์ ก็ถูกจับยกคัน ข้อหาปราศรัยโดยใช้รถดัดแปลง เนื่องจากใช้เครื่องเสียงติดรถรณรงค์ปฏิรูปการศึกษา

กิจกรรม

ทางสมาพันธ์ได้ร่วมงานกับสถาบันยุวชนสยาม ซึ่งเป็นสถาบันที่ได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อการสอนกิจกรรมวิชาการ ที่เน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ที่หลากหลาย นักเรียนให้มีความเป็นเลิศในทุกด้าน ทั้งด้านการเรียนรู้เชิง จริยธรรม และสอนให้นักเรียนรู้ถึงความงาม ความดี และ ความจริงของชีวิต ซึ่งจะสอนโดยผู้มีความเป็นเลิศในแขนงวิชาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อาจารย์ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ , อาจารย์ ดุษฎี พนมยงค์ และ อาจารย์ สมณะจัฏเสฐโฐ เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมนี้จะเป็นเสมือนห้องเรียนตัวอย่าง