Tiwattiansiri
ศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชผักเขตร้อน แก้
ความเป็นมา แก้
ศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชผักเขตร้อน[1] (Tropical Vegetable Research Center หรือ TVRC) เริ่มต้นจาก โครงการพัฒนาพืชผักสู่ชนบท (Thailand outreach Program : TOP) ตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2525 โดยความร่วมมือจาก 3 ฝ่ายคือ
- รัฐบาลไทย
- ธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (Asian Delevelopment Bank หรือ ADB)
- และศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชผักแห่งเอเชีย (Asian Vegetable Research and Development Center หรือ AVRDC) ประเทศไต้หวัน
ต่อมา ในปีพ.ศ. 2532 ศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชผักเขตร้อนได้รับอนุมัติให้จัดตั้งขึ้นภายใต้สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อขยายงานที่ร่วมกับ AVRDC ทั้งงานวิจัยและการประสานงานวิจัยระหว่างนักวิจัยภายในและภายนอกประเทศเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตพืชผักให้ได้ผลดีและรวดเร็ว
ในปี พ.ศ. 2549 ศูนย์วิจัยและพัฒนาเพื่อผักเขตร้อนมีการเปลี่ยนแปลงจากที่เคยสังกัดสถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งชาติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปลี่ยนเป็นหน่วยงานในสังกัดสถาบันวิจัยและพัฒนา กำแพงแสนและได้ดำเนินการเรื่อยมา
ในปี พ.ศ. 2556 สภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีคำสั่งให้ยุบเลิกสถาบันและพัฒนา กำแพงแสน และให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชผักเขตร้อนอยู่ภายใต้สังกัด ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
การดำเนินงาน แก้
ศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชผักเขตร้อน เป็นหน่วยงานที่ดำเนินงานด้านการรวบรวมพันธุกรรม พืชผักชนิดต่างๆ และพักพื้นบ้านภายในประเทศ เพื่อรักษาพันธุ์ไม่ให้สูญหาย รวมทั้งมีการศึกษาลักษณะพันธุ์ บันทึกข้อมูล ขยายพันธุ์ และเก็บรักษาพันธุ์ ในรูปเมล็ดพืช ในห้องควบคุมอุณหภูมิและความชื้น ปัจจุบัน มีเชื้อพันธุกรรมที่เก็บรวบรวมไว้ประมาณ 13,000 accession จัดทำแปลงรวบรวมพันธุ์ผักพื้นบ้านกว่า 200 สายพันธุ์
- เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และรักษาต้นพันธุ์
- มีการประเมินลักษณะที่ดีลักษณะสำคัญทางเศรษฐกิจของเชื้อพันธุกรรมพืชผัก เพื่อใช้ประโยชน์ของเชื้อพันธุกรรมพืชผักที่มีอยู่ให้ได้ประโยชน์สูงสุด
- มีการคัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์พืชผักให้ใช้ผลประโยชน์ในทางในการวิจัยต่อยอดและใช้ประโยชน์โดยเกษตรกร
- มีการศึกษาวิจัยระบบการผลิตผักที่เหมาะสมและปลอดภัยกับผู้บริโภค รวมทั้งวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชผักให้มีคุณภาพดี
ผลงานวิจัยการพัฒนาพันธุ์พืชที่สามารถเผยแพร่และมีการนำไปใช้ประโยชน์ และในนามของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาคือผักเขตร้อนมีหน้าที่ประสานงานและร่วมดำเนินการวิจัยและฝึกอบรมกับศูนย์ AVRDC - The World Vegetable Center for East and Southeast Asia (AVRDC-ESEA)
สถานที่ติดต่อ แก้
ที่ตั้ง : ศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชผักเขตร้อน ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ. นครปฐม 73140
โทรศัพท์ : 034-281509,034-281389
โทรสาร : 034-351393
Facebook : <https://www.facebook.com/tvrcku/. />
วัตถุประสงค์[1] แก้
- เพื่อศึกษาวิจัยให้ได้พันธุ์พืชผักและระบบการผลิตที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของประเทศไทย
- เพื่อวิจัยและพัฒนาการผลิตเมล็ดพันธุ์ผักให้ได้ผลผลิตและคุณภาพสูง
- เพื่อรวบรวม เก็บรักษา และใช้ประโยชน์พันธุกรรมพืชผักของประเทศไทย
- ประสานงานวิจัยและร่วมดำเนินการฝึกอบรมนานาชาติกับ ARC/AVRDC
- ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตพืชผักเขตร้อน
งานบริการ[1] แก้
- ให้คำแนะนำ เผยแพร่และถ่ายทอดความรู้ด้านการปลูก ปฏิบัติดูแลรักษาพืชผักชนิดต่างๆ
- ดำเนินการฝึกอบรมหลักสูตรระยะสั้นแก่นิสิต นักศึกษาและเจ้าหน้าที่ทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อเพิ่มพูนความรู้และความชำนาญเฉพาะด้านที่เกี่ยวกับพืชผัก
- ให้บริการการปฏิบัติงานวิจัยในแปลงทดลองแก่อาจารย์ นักวิจัย ผู้ร่วมโครงการหรือนักวิจัยจากหน่วยอื่นๆ
- ให้บริการเมล็ดพันธุ์ผักที่มีคุณภาพดี เช่น มะเขือเทศ ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วเหลืองฝักสด ถั่วฝักยาว แตงกวา เป็นต้น
งานวิจัย[1][2] แก้
- พัฒนาพันธุ์ถั่วเขียวที่ให้ผลผลิตสูง และต้านทานโรค 2 พันธุ์ คือ กำแพงแสน1 และ กำแพงแสน2
- พัฒนาพันธุ์มะเขือเทศทนร้อนสำหรับรับประทานสด ผลเล็กสีชมพู และปลูกได้ตลอดทั้งปี คือ พันธุ์ “สีดาทิพย์” และพันธุ์ลูกผสม “สีดาทิพย์ 92” นอกจากนี้ยังมีมะเขือเทศเชอรี่คือพันธุ์ “สวีทเชอรี่” ซึ่งให้ผลผลิตสูงเป็นที่ต้องการของตลาด
- พัฒนาพันธุ์พริกเผ็ดและพริกหวานพันธุ์ต่างๆ คือ พริกชี้ฟ้าพันธุ์ TVRC 365,พริกขี้หนูพันธุ์ TVRC 398,พริกหวานพันธุ์ TVRC 500 และ TVRC 651
- พัฒนาพันธุ์ถั่วเหลืองฝักสด “KPS 292” ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ปลูกได้ตอดปี ให้ผลผลิตสูง ขนาดฝักโต
- พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์ผักชนิดต่างๆ ตลอดจนพัฒนาวิธีการเพิ่มคุณภาพของเมล็ดพันธุ์
การตรวจสอบคุณภาพเมล็ดพันธุ์[3] แก้
เมล็ดพันธุ์ผักทุกชนิดที่ผลิตโดยศูนย์วิจัยพืชผักเขตร้อน จะต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพ ตามมาตรฐานนานาชาติ (International Seed Testing Association) คือ ความชื้น ความบริสุทธิ์และความงอกก่อนเผยแพร่ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัย ด้านการจัดหามาตรฐาน การตรวจสอบคุณภาพ เมล็ดพันธุ์ผักชนิดต่าง ๆ ที่ผลิตได้ในประเทศไทย
การปลูกพืชไม่ใช้ดิน[3] แก้
การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินเป็นวิธีการปลูกพืชที่มีการให้น้ำ อากาศ และธาตุอาหารแก่รากพืชโดยตรง ไม่ผ่านทางดิน จึงสามารถควบคุมปริมาณน้ำ และธาตุอาหารที่ให้แก่พืช ได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้พืชเจริญเติบโตรวดเร็ว ปลอดจากการรบกวนของศัตรูพืช ได้ดีกว่าระบบปลูกพืชปกติ จึงสามารถลดการใช้สารป้องกันกำจัดโรค และแมลงลงได้มาก
ศูนย์วิจัยพืชผักเขตร้อนร่วมกับภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร ศึกษาหาเทคโนโลยีในการปลูกพืชผักโดยไม่ใช้ดินที่เหมาะสมสำหรับสภาพอากาศของไทย โดยศึกษาการปลูกักโดยไม่ใช้ดินในระบบต่าง ๆ เช่น การปลูกโดยใช้สารละลาย (Water culture) และการปลูกโดยใช้วัสดุปลูกที่ไม่ใช่ดิน (Substrate culture) รวมทั้งดัดแปลงวัสดุปลูกที่มีอยู่ในประเทศเพื่อลดการนำเข้า และหาวิธีการลดสารไนเตรทในพืชผักเพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
อ้างอิง แก้
- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 “ศูนย์วิจัยพืชผักเขตร้อน” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา: <http://www.rdi.ku.ac.th/division/thai/tropical.html. />. (18 เมษายน 2559)
- ↑ axiom_solution. 2556. “งานวิจัยและงานบริการของศูนย์วิจัยพืชผักเขตร้อน” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา: <http://www.oknation.net/blog/horti-asia/2013/04/11/entry-1. />. (18 เมษายน 2559)
- ↑ 3.0 3.1 #สำนักบริการคอมพิวเตอร์. “ศูนย์วิจัยพืชผักเขตร้อน” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา: <http://www.ku.ac.th/e-magazine/october44/agri/plant_hot.html. />. (18 เมษายน 2559)