ผู้ใช้:Mongkol kimtong/กระบะทราย

ไฟล์:Mongkol.jpg
ชื่อ - สกุล : นายมงคล คิมทอง
ชื่อเล่น : โต
วันเกิด : 2 สิงหาคม พ.ศ. 2536
รหัสนักศึกษา : 561531023021-4

ประวัติส่วนตัว

แก้
ชื่อ:มงคล คิมทอง  ที่อยู่:613 หมู่2 ถ.เพชรมาตุคลา ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา 30000 
ชอบเล่นเกม:Dota 2  ชอบดูการ์ตูน:One Piece 

การศึกษา

แก้

ตำแหน่งงานด้านไอทีที่สนใจ

แก้
นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst)เพราะคิดว่าสามารถวิเคราะห์ได้ดี(คิดไปเอง)

บทความด้าน IT

แก้

อยากเป็นเว็บดีไซเนอร์ที่เก่ง ต้องหา Inspiration ที่ไหน?

แก้

เทคนิคหนึ่งที่ดีไซเนอร์ทุกคนใช้เหมือนกันในการหา Inspiration มาทำงานออกแบบ ก็คือ “การดูงานของคนอื่น” ซึ่งจากประสบการณ์ของผมที่ย้ายจากสายโปรแกรมเมอร์มาเป็นกึ่งดีไซเนอร์ การเรียนรู้จากงานคนอื่นเป็นวิธีเรียนรู้ที่เร็วที่สุดจริง ๆ ครับ วันนี้ผมก็มี 5 เว็บไซต์เด็ด ๆ สำหรับหา Inspiration มาแนะนำกันครับ ลอง Bookmark ไว้แล้วเข้าไปดูวันละนิดละหน่อย รับรองว่าวิธีคิดด้านดีไซน์ของคุณจะพัฒนาขึ้นแน่นอน

DRIBBBLE : สุดยอดเว็บไซต์สำหรับ UI DESIGN

แก้

ในวงการดีไซเนอร์ต่างประเทศ น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักเว็บไซต์ Dribbble ครับ เว็บไซต์นี้เปิดโอกาสให้ดีไซเนอร์จากทั่วทุกมุมโลกมาลงงานดีไซน์ของตัวเอง โดยแต่ละงานก็สวย ๆ ทั้งนั้น เพราะไม่ใช่ใครก็ลงผลงานในเว็บนี้ได้ แต่ต้องมี Invite จากดีไซเนอร์ที่อยู่ใน Dribbble อยู่แล้วเท่านั้นครับ งานที่ลงเว็บไซต์นี้ ส่วนใหญ่จะเป็นงาน WIP (Work in Progress) คือยังอยู่ระหว่างการทำ แต่เอามาลงใน Dribbble อวดชาวโลกก่อน แต่ก็มีบางงานที่ทำเสร็จแล้ว เอาดีไซน์มาโพสพร้อม Link เว็บไซต์ให้เข้าไปดูเลยก็มีครับ งานที่ลงหลัก ๆ จะมีพวก UI Design, Web Design, App Design, Logo Design สิ่งที่ผมชอบที่สุดของ Dribbble คือ จะมีดีไซเนอร์เก่ง ๆ มาแจกกราฟฟิกสวย ๆ ฟรีครับ บางทีก็เป็นเซ็ตไอคอนฟรี, UI แจกฟรี, PSD เว็บไซต์ฟรี, ฟ้อนต์ฟรี ฯลฯ ซึ่งถ้าอยากดูเฉพาะของฟรีจาก Dribbble ก็มีเว็บไซต์ที่รวบรวมมาให้ นั่นคือ Freebbble และ Psddd (ชื่อเว็บไซต์แต่ละอันนี่จำยากมาก = =) ถ้าใครมีโอกาสได้ Invite เว็บไซต์นี้ก็โชว์ผลงานให้เต็มที่เลยครับ ถ้างานเราดีมีฝรั่งมาจ้างแน่นอน ผมเคยอ่านบลอคของดีไซเนอร์ที่ Google คนหนึ่ง เค้าบอกว่าตอนแรกเค้าเป็นดีไซเนอร์ที่ไม่ดังเลย แต่พอลงงานดีไซน์ใน Dribbble ก็มีคนมาจ้างเค้าออกแบบ และได้ Offer ให้ไปทำงานที่ Google สาขาใหญ่ในที่สุด

BEHANCE : PORTFOLIO ออนไลน์สำหรับดีไซเนอร์

แก้

เว็บไซต์ Behance ก็เป็นเว็บชื่อดังในวงการดีไซเนอร์ต่างประเทศเช่นกันครับ คนไทยก็มีอยู่ไม่น้อย ซึ่งในเว็บไซต์นี้จะมีงานดีไซน์ทุกแขนงให้ดู ไม่ว่าจะเป็น Print Design, Web Design, Package Design, Branding, Typography และอื่น ๆ อีกมากมายใน Behance.net ใครก็สามารถสมัครสมาชิกแล้วลงผลงานได้ครับ โดยคอนเซปต์ของเว็บไซต์ Behance คือต้องการให้เป็น Online Portfolio ฟรีสำหรับดีไซเนอร์ ถ้างานไหนสวย มีคนกด Like เยอะ ก็จะถูกนำมาจัดแสดงในหน้าแรก ซึ่งจะมีดีไซเนอร์เทพ ๆ โผล่มามากมาย ถ้าชอบผลงานใครก็ไป Follow เอาไว้ เวลาเค้าอัพงานใหม่มันจะมีอีเมลมาบอกเราครับ ถ้าผลงานไหนเด็ดมาก ๆ ทาง Behance ก็จะเอางานของเราไปช่วยโปรโมทในเว็บไซต์เฉพาะสายดีไซน์นั้น ๆ (ซึ่งเป็นของ Behance เอง) เช่น WebDesignServed จะรวมงานเว็บดีไซน์สวย ๆ จาก Behance หรือ AppDesignServed จะรวมงานด้านดีไซน์ Mobile App สวย ๆ จาก Behance สามารถดูเว็บไซต์แนวนี้ทั้งหมดในเครือได้ที่ Behance Curated Sites

PINTEREST : ที่สุดของ INSPIRATION สำหรับ DESIGNER

แก้

ตอนที่ Pinterest ออกมาใหม่ ๆ ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจครับว่าทำไมมันถึงฮิต จนได้มาทำงานร่วมกับดีไซเนอร์หลาย ๆ คน เลยเห็นประโยชน์ว่ามันเป็นเว็บไซต์ที่เอาไว้หา Inspiration ได้ดีมาก เสิร์จอะไรก็เจอ แถมการแสดงผลเป็น Grid แบบ Pinterest ทำให้สามารถดูดีไซน์ได้ทีละเยอะ ๆ เวลาใช้หน้าจอ iMac ใหญ่ ๆ ของดีไซเนอร์ด้วย เรื่องน่ารู้: Pinterest ใช้การแสดงผลแบบ Card Design ครับ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Card Design – User Interface เทรนด์ใหม่ที่คุณต้องรู้จัก นอกจากนั้นใน Pinterest จะให้ผู้ใช้สามารถสร้าง Board ของตัวเองได้ ก็จะมีคนทำ Board ที่รวบรวมพวก Design แขนงต่าง ๆ ไว้ครับ เราสามารถไปตาม Follow บอร์ดที่ชอบได้ (ผมจะชอบบอร์ดพวก Web Design, UI Design, Branding อะไรพวกนี้) เวลาแต่ละบอร์ดอัพเดทอะไรมันก็จะมาขึ้นในหน้าแรกทันที สะดวกมาก ๆ ครับ

AWWWARDS : รวมสุดยอดเว็บดีไซน์สวย ๆ ระดับโลก

แก้

เว็บไซต์ Awwwards จะรวมเว็บสวย ๆ จากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งแต่ละวันมีเว็บไซต์ส่งเข้ามาเข้ามามากมาย เว็บไซต์ไหนได้คะแนนโหวตเยอะที่สุดก็จะถูกเลือกเป็น Site of the day และได้กราฟฟิกริบบิ้นสวย ๆ ไปติดโชว์ในเว็บครับ ส่วนเว็บไซต์ที่ไม่ชนะก็จะถูกลบไปตามกาลเวลา เหมือนเป็นการแข่งขันของเว็บไซต์จากทั่วโลกเลยครับ การส่งเว็บไซต์เข้ามาในระบบของ Awwwards ไม่ฟรีนะครับ ต้องเสียเงินด้วย แต่ก็จะได้คนดูเว็บเยอะมาก ๆ ถ้าได้เป็น Site of the day เพราะดีไซเนอร์ทั่วโลกจับตาดู Awwwards อยู่ตลอดครับ (หรืออาจจะได้งานเพิ่มด้วย) มีอยู่ช่วงนึงที่ผมเข้าเว็บไซต์นี้ทุกวันเลย ดูเว็บเทพ ๆ ของต่างประเทศแล้วได้อะไรเยอะดีครับ ทั้งในด้านไอเดีย / ดีไซน์ / โค้ด ใครอยากส่งเว็บตัวเองสามารถไปดูราคาที่หน้า Awwwards / Submit ได้ครับ สนนราคาประมาณ 30 Euro (1300 บาท) ต่อการส่ง 1 ครั้ง

PTTRNS : รวม MOBILE USER INTERFACE จากแอพสวย ๆ มากมาย

แก้

เว็บไซต์ Pttrns มีดีไซน์แอพให้ดูเยอะมากครับ และมีการจัดแบ่งหมวดหมู่ตามฟังก์ชั่นต่าง ๆ เรียบร้อย เช่น ถ้าเราต้องการดูเฉพาะดีไซน์ของ หน้า Login ก็สามารถคลิกเมนูด้านซ้ายได้เลยครับ ผมชอบเว็บไซต์ Pttrns ตรงที่เค้าแบ่งเป็น iPhone กับ iPad ให้ด้วยครับ เวลาอยากดูเฉพาะดีไซน์ของหน้าจอแบบไหนก็กด Filter ได้ โดยเว็บไซต์นี้จะมีงานดีไซน์เป็นภาพนิ่งให้ดูเท่านั้นครับ ซึ่งจริง ๆ แล้วในการออกแบบแอพ Effect, Transition อะไรต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ควรจะให้ความสำคัญด้วยครับ ขอแนะนำอีกเว็บไซต์หนึ่ง นั่นคือ Capptivate ที่จะรวบรวม App Design แบบเป็นอนิเมชั่นเลย พอเราเอาเม้าส์ไปชี้งานไหน งานนั้นก็จะ Animate ให้เราดูครับ สะดวกมาก ๆ

เทคนิคการออกแบบโลโก้

แก้

หลักการออกแบบโลโก้ต่างกับการออกแบบกราฟฟิกทั่ว ๆ ไป ตรงที่ Logo จะต้องนำไปใช้กับแบรนด์ กับสินค้าของลูกค้า เพราะฉะนั้นจึงต้องคำนึงธุรกิจว่าจะลงสื่อไหนบ้าง หรือคำนึงถึงลูกค้าว่าจะจดจำได้ง่ายขนาดไหน โลโก้ของแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะทำให้คนจำสินค้า จำธุรกิจเราได้ หรือถ้าทำออกมาไม่ดีเค้าก็อาจจะจำเราสับสนกับแบรนด์คู่แข่งไปเลยก็ได้ ซึ่งจากประสบการณ์ออกแบบโลโก้มาหลายปีของผู้เขียน เค้าก็สรุปมาเป็น 6 หลักการคิดเพื่อออกแบบโลโก้ออกมาให้ดี

อยากให้โลโก้ “สื่ออารมณ์” แบบไหน

แก้

ก่อนจะเริ่มเลือกสี เลือกรูปทรง เราต้องรู้ก่อนว่าอยากให้ออกมามีอารมณ์แบบไหน ซึ่งอารมณ์ที่เราเลือกก็ควรจะสอดคล้องกับหน้าตาของแบรนด์ที่เราต้องการด้วยครับlogo-design-compare ตัวอย่างเช่น โลโก้ของ Disney สื่อถึง “ความสนุก” และ “การมองโลกในแง่ดี” โดยตัวอักษรโค้งทำให้ดูสนุก และสอดคล้องกับแบรนด์ที่เป็นการ์ตูนน่ารัก ๆ สำหรับเด็กอีกด้วย ซึ่งถ้าเราเอาโลโก้แบบ Disney ไปใช้กับธุรกิจร้านขายของเท่ ๆ ก็คงไม่เหมาะ นอกจากการดูรูปทรงแล้ว นักออกแบบโลโก้ควรศึกษาเรื่องการใช้สี และอารมณ์ของสีด้วย เช่น สีเขียว มีความหมายเกี่ยวกับการเติบโต สุขภาพ และธรรมชาติ นอกจากนั้นยังให้อารมณ์สดชื่น ผ่อนคลายอีกด้วย ในขณะที่ สีแดง สื่อถึงอันตราย และความกระตือรือร้น font-compare การเลือก Font ให้สื่อถึงอารมณ์ก็สำคัญ ฟ้อนต์ Garamond, Helvetica, Comic Sans ต่างให้อารมณ์คนละแบบ ฟ้อนต์มีหาง (Serif) เช่น Garamond สื่อถึงความเคารพ ดั้งเดิม ซึ่งเหมาะกับเว็บไซต์ข่าว หรือมหาวิทยาลัยเก่าแก่ (แต่แอดมินรู้สึกว่าเว็บไซต์มหาวิทยาลัยในไทยส่วนใหญ่จะเน้นความ Modern มากกว่าความเก่าแก่ ใช้ฟ้อนต์ไม่มีหางเท่ ๆ กันหมด)ส่วนฟ้อนต์แบบไม่มีหาง (Sans-serif) เช่น Helvetica จะให้ความรู้สึก Modern สะอาดตา เหมาะกับธุรกิจเทคโนโลยี หรือสื่อโฆษณา ฟ้อนต์อีกแบบคือแนวน่ารัก ๆ ไม่เป็นทางการ (Casual) แบบ Comic Sans ซึ่งจะเหมาะกับธุรกิจการ์ตูน อนิเมชั่น หรือร้านขายของเล่น ในการทำโลโก้ให้ออกมาดี เราต้องเข้าใจถึงเรื่องรูปทรง, สี, และตัวอักษร จึงจะทำให้โลโก้สื่ออารมณ์ที่เราต้องการได้

อยากให้โลโก้มี “ความหมาย” อย่างไร

แก้

โลโก้ที่ดีทุกโลโก้ล้วนมีความหมายอยู่เบื้องหลัง โลโก้ที่ดีของแบรนด์ไม่ใช่แค่โลโก้ที่เอาชื่อแบรนด์มาจับคู่กับรูปทรงนั้น ๆ เฉย ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมจึงไม่ควรเอาโลโก้สำเร็จรูปมาใช้กับธุรกิจเรา นักออกแบบโลโก้ต้องเข้าใจว่าแบรนด์ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร มีอัตลักษณ์อย่างไร มี Vision อย่างไร ถึงจะออกแบบมาเป็นโลโก้ที่ดีได้amazon-logoดูตัวอย่างจากโลโก้ของเว็บไซต์ชื่อดัง Amazon.com จะเห็นว่ามีลูกศรสีส้มชี้จากใต้ตัว A ไปถึงตัว Z เป็นการบ่งบอกว่า “Amazon มีทุกอย่างขาย ตั้งแต่ A ถึง Z” นอกจากนั้นลูกศรสีส้มยังโค้งเหมือนรอยยิ้ม สื่อถึงหน้าของลูกค้าที่จะยิ้มเมื่อได้รับสินค้าที่ถูกใจนั่นเอง

โลโก้ของเราจะมีอายุยืนยาวขนาดไหน

แก้

แน่นอนว่าคงไม่มีแบรนด์ไหนที่เปลี่ยนโลโก้ทุกปีเพื่อให้ลูกค้างงเล่น เพราะฉะนั้นนักออกแบบโลโก้ต้องคิดเสมอว่าในอีก 5 ปี, 10 ปี, 20 ปี โลโก้ของเราจะยังดูดีอยู่มั้ย การเลือกดีไซน์โลโก้ตามเทรนด์ประจำปี หรือโทนสีประจำปีเป็นความคิดที่ไม่ดีครับ เพราะเทรนด์พวกนี้อยู่ไม่กี่ปีก็จะกลายเป็นของเก่าไป นอกจากนั้นเราจะพบว่ามีโลโก้หน้าตา โทนสีคล้าย ๆ เราเต็มไปหมดอีกด้วย โลโก้ที่มีอายุยืนยาวมักจะเป็นโลโก้ที่เรียบง่าย และจดจำได้ง่าย ซึ่งอาจจะใช้ได้เป็น 10 – 20 ปีโดยที่ไม่ดูเก่าไปเลยด้วยซ้ำ เทคนิคทดสอบว่าโลโก้เราจะมีอายุยืนยาวมั้ย ให้ทำเสร็จแล้วปล่อยทิ้งไว้สักระยะหนึ่งก่อนนำไปใช้จริงครับ ดูมันทุกวัน ๆ แล้วเรารู้สึกเบื่อมันมั้ย ถ้าเรารู้สึกเบื่อแปลว่าโลโก้ของเราคงมีอายุอยู่ได้ไม่นานครับ

โลโก้ของเรามี “ลักษณะเฉพาะ” มั้ย? โลโก้จดจำง่ายมั้ย?

แก้

โลโก้ที่ดีต้องมีลักษณะเฉพาะ ไม่เหมือนใคร และจดจำได้ง่าย ลูกค้าควรจะจดจำรูปทรงโลโก้ของเราได้ตั้งแต่แรกเห็น วิธีการทดสอบง่าย ๆ ว่าโลโก้ของเราจดจำง่ายหรือยาก คือ ให้ลองเอาโลโก้ไปให้เพื่อนของคุณดู เสร็จแล้วอีก 1 สัปดาห์กลับมาถามเพื่อนว่าโลโก้ที่เคยให้ดูมีลักษณะเป็นยังไง คนที่ไม่เคยเห็นโลโก้มาก่อนจะช่วยบอกได้ว่าโลโก้เรามีส่วนไหนที่จดจำง่าย โลโก้ที่คล้ายกับโลโก้อื่นอาจทำให้คนสับสน และจำแบรนด์เราสลับกับแบรนด์ของคนอื่นได้

โลโก้ยังดูออกมั้ยตอนเป็นสีขาว – ดำ

แก้

ปกตินักออกแบบโลโก้หลาย ๆ คนจะเริ่มออกแบบจากสีขาว – ดำก่อนครับ ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าโลโก้ที่ออกมาจะมีรูปทรงที่จดจำได้ง่าย โดยไม่ต้องพึ่งพาสีของโลโก้ โลโก้ที่ดี คือ โลโก้ที่ลูกค้าบอกได้ว่าเป็นแบรนด์อะไร เพียงแค่เห็นรูปทรง โลโก้ของเราจะถูกนำไปใช้ในสื่อหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีทั้งสื่อขาว-ดำ และสื่อที่มีสีครับ เพราะฉะนั้นการทำให้โลโก้ขาว – ดำมีจุดให้จดจำเพียงพอนั้นสำคัญมาก

โลโก้ถ้าใช้แบบย่อเล็ก ๆ จะดูออกมั้ย

แก้

บางครั้งโลโก้ก็ถูกนำไปย่อเล็กในสื่อต่าง ๆ ซึ่งถ้าออกแบบโลโก้มาไม่ดี อาจทำให้กลายเป็นก้อนอะไรไม่รู้ก็เป็นได้ครับ หลักการคิดทั้ง 6 ข้อที่กล่าวมาไม่ได้เป็นกฏตายตัวนะครับ แต่เป็นแนวทางที่ทำให้ออกแบบโลโก้ที่ดีได้ง่ายขึ้น ซึ่งบางครั้งอาจจะไม่ต้องตรงตามวิธีในนี้เป๊ะ ๆ ก็เป็นโลโก้ที่ดีได้เช่นกัน แต่เราก็จะรู้ด้วยตัวเองว่าถ้าทำแบบไหนจะมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ก่อนออกแบบโลโก้ทุกครั้ง ลองถามคำถาม 6 ข้อนี้กับตัวเองดูครับ อาจจะทำให้โลโก้ของเราเป็นโลโก้ที่ดีมากขึ้นก็ได้

ประโยชน์ของเทคโนโลยี Cloud มีอะไรบ้าง ?

แก้

ในยุคที่ Digital, Social และ Mobile กลายเป็นเทคโนโลยีหลักในชีวิตประจำวันและการทำธุรกิจ เทคโนโลยี Cloud จึงมีความสำคัญมากขึ้น เพราะ Cloud ช่วยให้เทคโนโลยีเหล่านี้ทำงานและจัดการกับ Big Data ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถรองรับปริมาณข้อมูลจำนวนมหาศาล รับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้สะดวก นอกจากนี้ Cloud ยังมีประโยชน์อีกหลายข้อดังนี้

Cloud ช่วยให้ผู้บริหารช่วงชิงความเหนือกว่าทางธุรกิจ

แก้

และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ เช่น องค์กรสามารถค้นหาโอกาสทางธุรกิจ พัฒนานวัตกรรม สินค้า หรือบริการที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า ช่วยสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าแบบยั่งยืน สามารถปรับตัวและเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว มีความคล่องตัว รวมทั้งบริหารการเติบโตขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Cloud ช่วยให้ใช้ประโยชน์จาก Big Data

แก้

โดยการวิเคราห์ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว เพื่อเข้าใจถึง Insight ของลูกค้าได้ ดังเช่น RadioShack ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกโทรศัพท์มือถือและสินค้าเทคโนโลยี ที่นำโซลูชั่น Cloud มาใช้กำหนดราคาขายสินค้าที่เหมาะสมโดยพิจารณาจากเทรนด์ของผู้ซื้อ

Cloud ช่วยสนับสนุนให้พนักงานทำงานและแบ่งปันความรู้ร่วมกัน (Collaboration)

แก้

เนื่องจาก Cloud ช่วยให้มีการเชื่อมโยงกันตลอดเวลา ทุกสถานที่ และทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าพนักงานจะอยู่ที่ไหน มากน้อยเท่าไรก็สามารถทำงานร่วมกันได้ แชร์ไฟล์หรือเอกสารต่างๆ ปรึกษากัน แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ได้ตลอดเวลา อันจะนำมาซึ่งการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่ให้คุณค่าและตรงตามความต้องการของลูกค้าเฉพาะรายมากขึ้น มีกรณีศึกษาของระบบสุขภาพในอเมริกาใต้ที่นำโซลูชั่นการถ่ายภาพและการสื่อสารทางการแพทย์ไปใช้ในศูนย์สุขภาพในพื้นที่ชนบท โซลูชั่นนี้ทำงานบน Private Cloud มีพื้นที่เก็บข้อมูล 90 TB ซึ่งช่วยให้การให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนในชนบทมีมาตรฐานสูงขึ้น เพราะแพทย์ในโรงพยาบาลในตัวเมืองสามารถเข้าถึงภาพถ่ายของคนไข้ในชนบทและให้การวินิจฉัยรวมถึงการรักษาได้ ช่วยลดต้นทุนด้านสาธารณสุขโดยรวมลงได้

Cloud ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น (Scalability)

แก้

ทุกคนในองค์กรสามารถใช้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบคอมพิวเตอร์จะสามารถรองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปกติในช่วงที่ลูกค้าเยอะหรือมีกิจกรรมมากได้สะดวก โดยที่ผู้บริหารองค์กรไม่ต้องคาดเดาปริมาณงานเอาเองเหมือนแต่ก่อน

Cloud ช่วยให้การบริหารต้นทุนมีประสิทธิภาพ

แก้

องค์กรที่เลือกใช้บริการบนเทคโนโลยี Cloud สามารถประหยัดเงินลงทุนในด้านอุปกรณ์หรือโครงสร้างพื้นฐาน การดูแลบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์ ต้นทุนด้านซอฟต์แวร์ การอัพเกรด และอื่นๆ ผู้บริหารจึงสามารถให้ความสนใจกับเรื่องกลยุทธ์และการบริหารงานในด้านอื่นๆ ได้มากขึ้น มีกรณีศึกษาของบริษัท PassportScan ซึ่งให้บริการระบบเช็คอินโรงแรมด้วยการสแกนพาสปอร์ตของแขกที่เข้าพัก สำหรับโรงแรมขนาดใหญ่ ทางบริษัทมีแอพพลิเคชั่นอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของโรงแรมเอง แต่กับโรงแรมขนาดเล็กที่ไม่มีงบประมาณมากพอสำหรับติดตั้งและดูแลเซิร์ฟเวอร์เอง PassportScan จึงได้นำโซลูชั่น Cloud ชื่อ Galaxy Hotel มาให้บริการเก็บข้อมูลการเข้าและออกของแขก โดยคิดค่าบริการแบบต่อหัว ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายเริ่มต้น ค่าติดตั้งแอพพลิเคชั่น ค่าบำรุงรักษาและอัพเกรดฐานข้อมูล รวมถึงค่าให้บริการทางเทคนิคถึงสถานที่

Cloud ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจ

แก้

ทำให้องค์กรสบายใจว่าข้อมูลจะมีความปลอดภัย มีการสำรองข้อมูลล่าสุดให้เรียกใช้งานได้ตลอดเวลา สามารถดำเนินธุรกิจหรือการทำงานได้โดยไม่สะดุดหยุดชะงัก มีกรณีศึกษาของ Fullerton India ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการทางการเงินในอินเดีย มีสาขาใน 300 เมือง ครอบคลุมมากกว่า 12,500 หมู่บ้าน มีลูกค้าเกือบหนึ่งล้านราย ถ้าระบบล่มก็จะส่งผลต่อการสูญเสียทางการเงิน และยิ่งไปกว่านั้นคือชื่อเสียงและความไว้วางใจจากลูกค้า Fullerton India จึงได้นำระบบ Cloud มาใช้ โดยใช้โซลูชั่น Disaster Recovery ซึ่งอยู่ในศูนย์ข้อมูลของ IBM ที่บังกาลอร์ เมื่อเกิดสถานการณ์ที่ทำให้ระบบหลักล่ม จะมีการสับเปลี่ยนไปใช้ระบบที่อยู่ในไซต์อื่นภายในเวลาไม่นาน ช่วยลดความสูญเสียที่จะเกิดกับธุรกิจได้

LAN Technology

แก้

โครงสร้างของเครือข่ายหรือภาษาทางเทคนิคเรียกว่า “Topology” คือลักษณะการเชื่อต่อทางกายภาพระหว่างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ในระบบเครือข่าย ซึ่งหากจะแบ่งประเภทของโครงสร้างเครือข่ายกันจริง ๆ ตามหลักวิชาการที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยก่อน ๆ นั้น ก็สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 แบบคือ

1 โครงสร้างแบบสตาร์ ( Star Network)

ไฟล์:=Stardown.jpg

ลักษณะการเชื่อมต่อของโครงสร้างแบบสตาร์จะคล้าย ๆ กับดาวกระจาย ดังรูปที่ได้แสดงไว้ คือมีอุปกรณ์ประเภท Hub หรือ Switch เป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อแบบนี้มีประโยชน์คือ เวลาที่มีสายเส้นใดเส้นหนึ่งหลุดหรือเสียก็จะไม่มีผลต่อการทำงานของระบบโดยรวมแต่อย่างใด นอกจากนี้หากต้องการเพิ่มเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าไปในเครือข่ายก็สามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องหยุดการทำงานของเครือข่ายก่อน การต่อแบบสตาร์นี้เป็นแบบที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากราคาอุปกรณ์ที่มาใช้เป็นศูนย์กลางอย่าง Hub หรือ Switch ลดลงมากในขณะที่ประสิทธิภาพหรือความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนปัจจุบันได้ความเร็วถึงระดับของกิกาบิต ( 1,000 Mbps) แล้ว ข้อดี ติดตั้งและดูแลง่าย แม้ว่าสายที่เชื่อมต่อไปยังบางโหลดจะขาด โหลดที่เหลืออยู่ก็ยังจะสามารถทำงานได้ ทำให้ระบบเน็ตเวิร์กยังคงสามารถทำงานได้เป็นปกติ การมี Central node อยู่ตรงกลางเป็นตัวเชื่อมระบบ ถ้าระบบเกิดทำงานบกพร่องเสียหาย ทำให้เรารู้ได้ทันทีว่าจะไปแก้ปัญหาที่ใด

ข้อเสีย เสียค่าใช้จ่ายมาก ทั้งในด้านของเครื่องที่จะใช้เป็น central node และค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสายเคเบิลในสถานีงาน การขยายระบบให้ใหญ่ขึ้นทำได้ยาก เพราะการขยายแต่ละครั้งจะต้องเกี่ยวเนื่องกับโหลดอื่นๆ ทั้งระบบเครื่องคอมพิวเตอร์ศูนย์กลางมีราคาแพง แบบวงแหวน (Ring Network)


2โครงสร้างแบบบัส ( Bus Network)

ไฟล์:=Bus-Topology.jpg

เครือข่ายแบบบัส (bus topology) เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยสายเคเบิ้ลยาว ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ โดยจะมีคอนเน็กเตอร์เป็นตัวเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เข้ากับสายเคเบิ้ล ในการส่งข้อมูล จะมีคอมพิวเตอร์เพียงตัวเดียวเท่านั้นที่สามารถส่งข้อมูลได้ในช่วงเวลาหนึ่งๆ การจัดส่งข้อมูลวิธีนี้จะต้องกำหนดวิธีการ ที่จะไม่ให้ทุกสถานีส่งข้อมูลพร้อมกัน เพราะจะทำให้ข้อมูลชนกัน วิธีการที่ใช้อาจแบ่งเวลาหรือให้แต่ละสถานีใช้ความถี่ สัญญาณที่แตกต่างกัน การเซตอัปเครื่องเครือข่ายแบบบัสนี้ทำได้ไม่ยากเพราะคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์แต่ละชนิด ถูกเชื่อมต่อด้วยสายเคเบิ้ลเพียงเส้นเดียวโดยส่วนใหญ่เครือข่ายแบบบัส มักจะใช้ในเครือข่ายขนาดเล็ก ซึ่งอยู่ในองค์กรที่มีคอมพิวเตอร์ใช้ไม่มากนัก ข้อดีของการเชื่อมต่อแบบบัส คือ ใช้สื่อนำข้อมูลน้อย ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งเสียก็จะไม่ส่งผลต่อการทำงานของระบบโดยรวม แต่มี ข้อเสียคือ การตรวจจุดที่มีปัญหา กระทำได้ค่อนข้างยาก และถ้ามีจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายมากเกินไป จะมีการส่งข้อมูลชนกันมากจนเป็นปัญหา ข้อจำกัด คือ จำเป็นต้องใช้วงจรสื่อสารและซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยเพื่อหลีกเลี่ยงการชนกันของสัญญาณข้อมูล และถ้ามีอุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่งเสียหาย อาจส่งผลให้ทั้งระบบหยุดทำงานได้

ไฟล์:=Ring potology.gif

3โครงสร้างแบบริง ( Ring Network) โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบดาว(Star Network) เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ เข้ากับอุปกรณ์ที่เป็น จุดศูนย์กลาง ของเครือข่าย โดยการนำสถานีต่าง ๆ มาต่อร่วมกันกับหน่วยสลับสายกลางการติดต่อสื่อสารระหว่างสถานีจะกระทำได้ ด้วยการ ติดต่อผ่านทางวงจรของหน่วนสลับสายกลางการทำงานของหน่วยสลับสายกลางจึงเป็นศูนย์กลางของการติดต่อ วงจรเชื่อมโยงระหว่างสถานีต่าง ๆ ที่ต้องการติดต่อกัน ข้อดี คือ ถ้าต้องการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ก็สามารถทำได้ง่ายและไม่กระทบต่อเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ ในระบบ ส่วนข้อเสีย คือ ค่าใช้จ่ายในการใช้สายเคเบิ้ลจะค่อนข้างสูง และเมื่อฮับไม่ทำงาน การสื่อสารของคอมพิวเตอร์ทั้งระบบก็จะหยุดตามไปด้วย ข้อจำกัด ถ้าฮับเสียหายจะทำให้ทั้งระบบต้องหยุดซะงัก และมีความสิ้นเปลืองสายสัญญาณมากกว่าแบบอื่นๆ ข้อดี ใช้เคเบิลและเนื้อที่ในการติดตั้งน้อย คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในเน็ตเวิร์กมีโอกาสที่จะส่งข้อมูลได้อย่างทัดเทียมกัน ข้อเสีย หากโหลดใดโหลดหนึ่งเกิดปัญหาขึ้นจะค้นหาได้ยากว่าต้นเหตุอยู่ที่ไหน และวงแหวนจะขาดออก

4โครงสร้างแบบเมช (Mesh Topology)

ไฟล์:=Meshhh.jpg

MESH เป็นรูปแบบที่ถือว่า สามารถป้องกันการผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบได้ดีที่สุด เป็นรูปแบบที่ใช้วิธีการเดินสายของแต่เครื่อง ไปเชื่อมการติดต่อกับทุกเครื่องในระบบเครือข่าย คือเครื่องทุกเครื่องในระบบเครือข่ายนี้ ต้องมีสายไปเชื่อมกับทุก ๆ เครื่อง ระบบนี้ยากต่อการเดินสายและมีราคาแพง จึงมีค่อยมีผู้นิยมมากนัก ข้อดี อัตราความเร็วในการส่งข้อมูล ความเชื่อถือได้ของระบบ ง่ายต่อการตรวจสอบความผิดพลาด ข้อมูลมีความปลอดภัยและมีความเป็นส่วนตัว

ข้อเสีย จำนวนจุดที่ต้องใช้ในการเชื่อมต่อ และจำนวน Port I/O ของแต่ละโหนดมีจำนวนมาก (ตามสูตรข้างต้น) ถ้าในกรณีที่จำนวนโหนดมาก เช่นถ้าจำนวนโหนดทั้งหมดในเครือข่ายมีอยู่ 100 โหนด จะต้องมีจำนวนจุดเชื่อมต่อถึง 4,950 เส้น เป็นต้น3

WAN Technology

แก้

Circuit switching เทคนิคในการสื่อสารข้อมูลจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง เมื่อมีการเชื่อมต่อกันแล้วจะติดต่อกันได้ตลอดเวลา ผู้อื่นจะแทรกเข้ามาไม่ได้เลย จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะปลดวงจรออก ตัวอย่างง่าย ๆ เช่นการติดต่อทางสายโทรศัพท์ เมื่อเริ่มพูดกันได้แล้ว คนอื่นจะต่อสายแทรกเข้ามาไม่ได้ จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะวางหูลง (ปลดวงจร)

Packet switching เทคนิคในการแบ่งข้อมูลออกเป็นกลุ่ม (Packet) แต่ละกลุ่มจะมีความยาวเท่ากัน (ปกติ 100บิต)ข้อมูลจะหาทิศทางเดินไปได้เอง โดยที่สายหนึ่ง ๆ จะสามารถใช้กันได้หลายคน เมื่อถึงที่ปลายทางข้อมูลก็จะกลับ ไปรวมกันเอง

หลักการทำงาน

Circuit switching

ไฟล์:=283535ffgg.png

1) เมื่อสถานีA ต้องการส่งข้อมูลให้กับ สถานีB จะต้องมีการสร้างเส้นทางเสียก่อน โดยที่ฝั่งที่รับข้อมูลจะต้องตอบว่าพร้อมรับข่าวสาร (Establishment/ Connection) 2) เมื่อสร้างเส้นทางการส่งข้อมูลเรียบร้อย ตลอดเวลาของการสื่อสารจะใช้เส้นทางเดิมตลอด และไม่มีบุคคลอื่นมาใช้เส้นทาง 3) มีอัตราความเร็วในการส่งเท่ากันทั้งด้านรับและด้านส่ง 4) มีการทำ Error Control และ Flow Control ทุกๆ ชุมสาย 5) ในขณะทำการส่งข้อมูล ข้อมูลจะถูกส่งด้วยความเร็วคงที่ และไม่มีการหน่วงเวลา(Delay) 6) เมื่อส่งข้อมูลเสร็จจะยกเลิกเส้นทางที่ได้เชื่อมต่อขึ้นมาเพื่อให้เครื่องอื่นได้ใช้เส้นทางได้

Packet switching

ไฟล์:=Packetdvn.JPG

1) เมื่อ สถานี A ต้องการส่งข้อมูลให้กับสถานีB จะมีการแบ่งข้อมูลออกเป็น Packet ย่อยก่อนจะถูก ส่งออกไป 2) ส่งข้อมูลโดยใช้ชุมสาย PSE (Packet switching exchange) ควบคุมการรับส่ง 3) ทำ Error control หรือ Flow Control ที่ PSE 4) ด้านรับและด้านส่งมีอัตราความเร็วที่ไม่เท่ากันได้ 5) ใช้เทคนิค Store - and - Forward ในการส่งข้อมูล ผ่าน PSE

ลักษณะการเชื่อมต่อ

Circuit switching เชื่อมต่อทางกายภาพของวงจรระหว่างจุดต่อจุด (point-to-point) Packet switching ส่งแต่ละแพกเกตด้วยเส้นทางต่างๆที่เชื่อมโยงกันเป็นตาข่าย และทำการรวมแต่ละแพคเกตกลับคืนเมื่อถึงจุดหมายแล้ว

OSI model + TCP/IP model

แก้
TCP/IP model OSI model
Application Layer Application Layer
- Presentation Layer
- Session Layer
Transport Layer Transport Layer
Internet Layer Network Layer
Network Access Layer Data Link Layer
- Physical Layer