Mahapali
มหาบาลีวิชชาลัย สถาบันสอนภาษาบาลีสำหรับบุคคลทั่วไป Mahapali Vijjalaya - Pali Language Institute of Thailand
มหาบาลีวิชชาลัย ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 เดือนเมษายน พ.ศ. 2555 โดยนายธฤญเดชา ลิภา ชาวนครพนม อดีตไปเป็นลูกศิษย์วัดตั้งแต่อายุ 6 ขวบแล้วได้บรรพชาเป็นสามเณร
และได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุสืบต่อมา นายธฤญเดชา ได้ศึกษาเล่าเรียนและเติบโตมาจากระบบการเรียนการสอนของคณะสงฆ์ เคยไปศึกษาเล่าเรียนภาษาบาลีในหลายจังหวัดทั้งนครพนมบ้านเกิด
นครสวรรค์ ลำปาง อุตรดิตถ์ นครปฐม และกรุงเทพมหานคร ภายหลังได้ลาสิกขาออกไปประกอบอาชีพเป็นช่างคอมพิวเตอร์
เมื่อทำงานมาได้ 10 ปีกว่าพอจะมีหลักฐานครอบครัวบ้างแล้ว จึงได้รำลึกถึงพระคุณของพระศาสนา อยากตอบแทนบูชาพระคุณพระโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นดวงประทีปของชาวโลและอยากช่วยพี่น้องชาวไทยที่เขาได้เคยไปอาศัยกินข้าวกินน้ำในหลายจังหวัดแทบจะทั่วประเทศ
นายธฤญเดชาได้พิจารณาเห็นว่าวงการบาลีของประเทศไทยควรปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่ ควรมีการกระตุ้นการเรียนบาลีครั้งใหญ่ ควรเปิดสอนฆราวาสแบบจริงจัง
ควรทำโครงการใหญ่ ๆ ที่ท้าทายสติปัญญาคนไทยในการศึกษาภาษบาลี จึงได้นำความคิดไปปรึกษาหารือพระราชปริยัติโมลี (สุทัศน์ ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยาราม ราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
ผู้เคยเป็นสหธรรมิกรุ่นเดียวกัน เพื่อจัดตั้งสถาบันสอนภาษาบาลีในนาม "มหาบาลีวิชชาลัย" ขึ้น
พระราชปริยัติโมลี (สุทัศน์ ป.ธ.9) ได้อนุโมทนาเห็นชอบด้วยเป็นอย่างยิ่งและรับอุปถัมภ์สนับสนุนการดำเนินงานมหาบาลีวิชชาลัยเต็มที่สุดกำลัง
เพื่อให้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนภาษาบาลีสำหรับบุคคลที่เป็นฆราวาสชาวบ้านทั่วไป ทำให้คนไทยได้เรียนภาษาบาลีเป็นประเพณี เรียนกันได้ทุกวัยทุกอาชีพตามระยะเวลาที่สะดวกของแต่ละคน
การจัดตั้งมหาบาลีวิชชาลัยขึ้นมา เพราะพิจารณาเห็นว่า ประเทศไทยควรมีสถาบันสอนภาษาบาลีสำหรับฆราวาสชาวพุทธเป็นการเฉพาะ ด้วยเหตุผลดังนี้
1.ชาวพุทธนั้น มีทั้งพระและฆราวาส ปัจจุบันพระสงฆ์สามเณรที่จะบวชเรียนตั้งแต่อายุน้อย ๆ มีจำนวนน้อยลงและพระสงฆ์ที่สนใจเรียนบาลีก็มีจำนวนน้อยลงด้วย แต่ชาวพุทธส่วนมากเป็นฆราวาส
ฆราวาสจึงไม่ควรทิ้งธุระในการสืบต่ออายุพระศาสนา วิธีสืบต่อพระศาสนาที่ดีคือการมาศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าซึ่งบรรจุอยู่ในภาษาบาลี
การที่ชาวพุทธเอาตนเองมาสัมผัสมาใกล้ชิดพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า มาช่วยกันเรียนรู้ภาษาบาลีและทรงจำบาลีไว้ในตัวเอง แล้วสามารถบอกสอนคนรุ่นต่อไปได้ นี่แหละคือการสืบต่ออายุพระศาสนาที่ดี 2.ภาษาบาลีคือภาษาที่บรรจุคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ภาษาบาลีคือรากแก้วของพุทธศาสนา ถ้าชาวพุทธมีความรู้บาลีดี ก็จะทำให้เข้าใจคำสอนได้ง่ายยิ่งขึ้น การปฏิบัติต่าง ๆ ก็ผิดพลาดน้อยลง 3.อายุมนุษย์นั้นน้อยนัก ชีวิตฆราวาสมักอุทิศเวลาไปเพื่อหาเงิน สร้างฐานะ สะสมวัตถุเพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย แต่มีบางคนที่อยากแบ่งเวลาเพียง 1 หรือ 2 วันของสัปดาห์เพื่อแสวงหา
และสะสมปัญญาบารมี วิริยบารมี ขันติบารมี สัจจะบารมี อธิษฐานบารมีให้ตนเองบ้าง การเริ่มต้นได้เรียนภาษาบาลีจึงเป็นก้าวแรก ๆ ที่สำคัญ
4.ปัจจุบันหน่วยงานที่เปิดสอนบาลีสำหรับฆราวาส ยังมีอยู่น้อย ซึ่งที่จริง ควรมีสถาบันที่ทำงานลักษณะแบบนี้ในอัตราส่วนที่เหมาะสมกับประชากร คือ 1 สถาบันต่อประชากรชาวพุทธ 1 แสนคน 5.ประเทศไทยมีประเพณีสำคัญ ๆ เช่น สงกรานต์ เข้าพรรษา ตักบาตรเทโว ฯลฯ จะเป็นการดีที่สุด ถ้าชาวพุทธไทยจะสร้างอีกหนึ่งประเพณีเพิ่มขึ้นมา นั่นคือ เรียนภาษาบาลีเป็นประเพณี
แต่ละคนหาโอกาส สร้างโอกาสให้ตนเองได้เรียนภาษาบาลี เรียนรู้ตลอดชีวิต โดยมีสถาบันสอนภาษาบาลีที่จัดการเรียนการสอนจริงจัง สอนเป็นลำดับขั้นตอนตามอัธยาศัยและความสามารถของผู้ เรียน
6.การรู้ภาษาบาลี ทำให้ง่ายต่อการศึกษาพระธรรมการศึกษาพระไตรปิฎก ช่วยทำให้ง่ายในการฟังธรรม ง่ายในการปฏิบัติ
และถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ชาวพุทธจะต้องได้เรียนภาษาบาลี ภาษาศาสนาของตนเอง
วัตถุประสงค์ของสถาบัน
1. เพื่อศึกษา ออกแบบ และพัฒนาหลักสูตรภาษาบาลีสำหรับบุคคลทั่วไป 2. เพื่อจัดการเรียนการสอนภาษาบาลีสำหรับบุคคลทั่วไป 3. เพื่อพัฒนาศูนย์ทดสอบความรู้มาตรฐานภาษาบาลีระดับนานาชาติ 4. เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศที่ส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาบาลีในรูปแบบต่าง ๆ
แผนงานในอนาคต
1. พัฒนาหลักสูตรภาษาบาลีหลากหลายหลักสูตรให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้เรียนในวัยและระดับต่าง ๆ 2. ร่วมมือกับวัดและองค์กรต่าง ๆ เปิดห้องเรียนภาษาบาลีสำหรับชาวพุทธในทุกจังหวัดทั่วประเทศ 3. ชวนคนไทยเรียนภาษาบาลีเป็นประเพณี โดยหาวิธีการต่าง ๆ ช่วยให้คนไทยได้เรียนภาษาบาลีเป็นประเพณี ปีละ 200,000 คน ภายในปี 2566 และทำให้คนไทยได้เรียนภาษาบาลีปีละ 2,000,000 คนภายในปี พ.ศ. 2600 4. เปิดหลักสูตรภาษาบาลีนานาชาติ (Pali-English Course) สำหรับชาวต่างชาติผู้สนใจเรียนภาษาบาลี
มหาบาลีวิชชาลัย ตั้งขึ้นเพื่อให้เป็นสมบัติของชาวพุทธทั้งมวล ไม่ใช่สมบัติของบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือวัดใดวัดหนึ่ง มหาบาลีวิชชาลัย เปิดกว้าง มีเจตนาแน่วแน่ในการรวมกลุ่มพระสงฆ์และฆราวาสทั่วประเทศที่เห็นความสำคัญในการศึกษาภาษาบาลีเพื่อร่วมกันทำงานให้บรรลุเป้าหมายของมหาบาลีวิชชาลัย นั่นคือทำให้คนไทยได้เรียนภาษาบาลีเป็นประเพณี อย่างน้อยปีละ 2 ล้านคนในปี พ.ศ.2600
ปัจจุบันมหาบาลีวิชชาลัย ตั้งอยู่ ณ วัดโมลีโลกยาราม ราชวรวิหาร ถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร