ภาสกร ภักดีกุล ภาสกร ภักดีกุล มีพี่ชายคือ รศ.ดร.กัมปนาท ภักดีกุล เกิดเมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2513 กรุงเทพมหานคร ประถมเรียนโรงเรียนบูรณะวิทย์ มัธยมโรงเรียน วัดราชาธิวาส สายวิทยาศาสตร์ ตั้งใจจะเข้าศึกษาต่อในสาขาสถาปัตยกรรม ด้วยพื้นฐานตอนเด็กชอบงานศิลปะ ชอบดนตรีเป็นทุนเดิม ส่วนด้านศิลปะแนวทางที่ชอบเป็นศิลปะโมเดิร์น นิสัยเป็นคนชอบประยุกต์ศิลปะจากที่มีอยู่แล้วให้แปลกใหม่ไปจากเดิม คุณพ่อและคุณแม่ทำงานอยู่ที่กรมแผนที่ทหาร ดูแลงานด้านการทำแผนที่ในส่วนอาร์ตเวิร์ค ประกอบกิจการโรงพิมพ์ และสอนศิลปะในบางโอกาส เมื่อแผนการสอบศึกษาต่อด้านสถาปัตยกรรมไม่สำเร็จ จึงเปลี่ยนจุดมุ่งหมายใหม่โดยมีพี่ชายแนะนำแนวทางให้ลองศึกษางานด้านโฆษณาดูเพื่อจะได้ไม่เสียเวลาในการศึกษาต่อ ส่งผลให้เปลี่ยนแนวทางการศึกษาในระดับอุดมศึกษาไปที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ ตอนเรียนมหาวิทยาลัยปีแรก ช่วงซัมเมอร์มีโอกาศช่วยงานรุ่นพี่ทำละครเวที อยู่ในฝ่ายศิลปกรรมเน้นด้านโปรโมทละครเวทีให้เป็นที่รู้จัก เมื่อทำแล้วรู้สึกว่าเป็นงานใกล้ตัวทำแล้วชอบจึงเลือกสาขาวิชาหลักในตอนปี 3 เป็นสาขาวิชา โฆษณา หลังจากนั้นได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศออสเตเรีย สาขา Film DIRECTOR ที่มหาวิทยาลัย UNIVERSITY OF SYDNEY ตอนอยู่มหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 4 ได้ไปสมัครงานที่บริษัท MEDIAPLUS เป็นบริษัททำงานเกี่ยวกับรายการวิทยุในสมัยก่อน ผ่านการสอบสัมภาษณ์และได้รับโอกาศจาก มรว.รุจิยาภา อาภากร จนได้งานในตำแหน่ง CREATIVE ได้ทำรายการวิทยุรายการ SMILE RADIO คลื่นสุดท้ายซ้ายสุด และเป็นครีเอทีฟทำคอนเสิรต์ต่างประเทศให้กับบริษัด้วย ในช่วงระหว่างที่ทำงานกับ MEDIAPLUS อยู่นั้นมีโอกาสได้ร่วมงานกับ บริษัทLEO BURNETT ด้วยเป็นครั้งคราวในตำแหน่ง COPYWRITER (ผู้คิดสร้างสรรค์งานโฆษณา) เมื่อทางบริษัท MEDIAPLUS มีการขยับโครงสร้างใหญ่ขึ้นจากพนักงานในบริษัทเพียง10 กว่าคนเพิ่มขึ้นกว่า50-60คน เนื่องจากช่องรายการเพิ่มขึ้น จึงได้มีโอการับผิดชอบขอบเขตงานมากขึ้น จนทำงานอยู่ซักพักใหญ่รู้สึกเริ่มอิ่มตัวในการทำงาน เลยผันตัวเองไปทำงานโฆษณาเต็มตัว ให้กับบริษัท LEO BURNETT ต่อมาถูกทาบทาบให้กลับไปช่วยงานขึ้นช่องเคเบิลให้กับบริษัทเดิม เช่น SMILE TV ,CHANEL V ทำได้อีก 1 ปีเศษก็ลาออก รวมระยะเวลาทำงานกับสองบริษัทได้ 4 ปีโดยประมาณอายุตอนนั้นราวๆ 24 ปี หลังออกจากงานในวงการวิทยุ คอนเสิร์ตและเคเบิ้ลทีวี ก็ได้มาทำงานในวงการค่ายเพลง กับบริษัทค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของประเทศไทยในยุคสมัยนั้นคือ บริษัท คีตา เอนเตอร์เทนเมนต์ เริ่มจากรับงานเป็นโปรดิวเซอร์ฟีแลนซ์ ให้กับทางค่ายผลิตรายการให้กับช่อง 9 ชื่อ “รายการคนขายฝัน” เป็นรายการแรกของประเทศไทยที่นำเรื่องราวเบื้องหลังความคิดและการทำงานในวงการบันเทิงที่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบ เป็นสิ่งที่อยู่เบื้องหลังการถ่ายทำมานำเสนอ มีพิธีกรเป็น พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ร่วมกับ โจ มณฑาณี ทำงานกับบริษัทนานพอสมควรจน คุณแสงชัย อภิชาติวรพงษ์ ผู้บริหารใหญ่ของบริษัท คีตา เอนเตอร์เทนเมนต์ ชักชวนให้มาดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายรายการโทรทัศน์ทำหน้าที่ Executive Producer (EPD) คือผู้จัดการฝ่ายรายการโทรทัศน์ ควบคุมการผลิตรายการทั้งหมด 14 รายการโดยประมาณเพื่อผลิตให้กับกับสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 5 7 9 ในสมัยนั้น หลังจากนั้นบริษัทมีการเปลี่ยนแปลง เติบโต และขยับขยายขึ้นมากจึงได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นไปอยู่ในบอร์ดบริหารของบริษัทในตำแหน่ง Production Director ทำหน้าหลักดูแลทิศทางและควบคุม 4แผนกหลัก ได้แก่ แผนกรายการโทรทัศน์ แผนกมิวสิกวิดีโอ แผนกคอนเสิร์ต และแผนกเทคนิคตัดต่อ จนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งหลังจากทำงานได้ 3 – 4 ปี คือบริษัทมีการระดมทุนเปลี่ยนแปลงผู้บริหารชุดใหม่ จึงตัดสินใจลาออกมาจัดตั้งบริษัทเป็นของตนเอง ใช้ชื่อว่าบริษัท อินดี้ ประเทศไทย จำกัด

ประวัติผลงานบริษัท อินดี้ ประเทศไทย จำกัด

บริษัท อินดี้ ประเทศไทย จำกัด เป็นบริษัทครีเอทีฟ โปรดักชั่นเฮาส์ รับผลิตรายการทีวี มิวสิควิดีโอ งานโฆษณา โดยมีอุปกรณ์ที่ครบครัน ปัจจุบันผลิตรายการโทรทัศน์ให้กับช่องทรูวิชชั่น ช่อง9 ช่อง3 และเป็นครีเอทีฟเอเจนซี่ให้กับทางช่องอารีดังประเทศเกาหลี โดยได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานภายในแผนกครีเอทีฟและตัดต่อ ซึ่งเป็นแผนกที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และต้องสร้างความแปลกใหม่ให้กับงาน และรายการอยู่เสมอ บริษัท อินดี้ ประเทศไทย จำกัด ผู้ก่อตั้งคือ คุณภาสกร ภักดีกุล มีความคิดอยากเปิดบริษัทเป็นของตนเองและเป็นช่วงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในบริษัทคีตา เอนเตอร์เทนเมนท์ ซึ่งทำงานอยู่ในขณะนั้น คือการเปลี่ยนโครงสร้างบริษัทใหม่ เปลี่ยนผู้ถือหุ้นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทคีตา เอนเตอร์เทนเมนท์ จากการเปลี่ยนแปลงนั้นทำให้ตัดสินใจออกจากบริษัทแล้วเปิดบริษัทอินดี้ ประเทศไทย จำกัด เป็นของตนเอง ด้วยประสบการณ์จากการทำงานที่ผ่านมาทั้งการเป็นครีเอทีฟรายการวิทยุ โปรดิวเซอร์รายการโทรทัศน์ คอนเสิร์ต โฆษณาและเป็นผู้บริหารที่มีส่วนกำหนดทิศทางให้กับบริษัท คีตา ได้เติบโตในช่วงนั้น ส่งผลให้มีคอนเนคชั่นมากพอที่จะก่อตั้งบริษัทได้ เมื่อเปิดบริษัทขึ้นมีพนักงานรุ่นบุกเบิกบริษัทอยู่เพียง 3 คน เป็นเพื่อนและพนักงานที่ตามมาจากบริษัทคีตาได้แก่ หม่อง ปกรณ์ พันธ์ทองทิพย์ ก๊อง อริย์ธัช อธิศอัครนันท์ สิงห์ สิงหรา ฐานะทันดร บริษัทเกิดขึ้นที่โรงรถเล็กๆในบ้านแม่ของเพื่อน ย่านประชาชื่น งานแรกในชื่อของบริษัทอินดี้ ประเทศไทย คือรายการCANDIT CAMERA ออกอากาศทางช่อง 9 จากงานแรกที่ออกอากาศผลตอบรับดีมีงานเข้ามาเรื่อยๆ จนบริษัทเริ่มเติบโตมีงานมากขึ้นได้รับโอกาสจาก คุณอรรถพล ณ บางช้างให้ร่วมขึ้นช่องและผลิตรายการให้กับช่อง True inside จำนวนพนักงานก็เพิ่มขึ้นเป็น 10 กว่า คน จึงขยับขยายเปลี่ยนที่ตั้งบริษัทไปอยู่ที่ ทาว์นอินทาว์น รายการที่รับผิดชอบอยู่ตอนนั้นรวมทั้งหมด หลายรายการ ได้แก่ เอ๊กซ์รูม เก็ตกึ๋น เดอะบิ๊ก อุ๊บส์เทเลวิชั่น ย้อนวันระทึก โสดสนิทเป็นต้น และได้รับโอกาสให้ทำโปรเจคใหญ่ผลิตเรียลลิตี้โชว์ครั้งแรกในประเทศไทยให้กับช่องทรูวิชชั่น รายการ ทรู อคาเดมี่แฟเทเชีย (ถ่ายทอดสดด้วยกล้อง63ตัวติดต่อกัน3เดือน) ซึ่งผลงานนี้ทำให้ และผลจากขนาดงานรวมไปถึงรูปแบบงานที่กว้างขณะนั้นมีพนักงานเพิ่มมากขึ้นบริษัทจึงมีพื้นที่ในการทำงานไม่เพียงพอเป็นที่มาของการเปลี่ยนที่ตั้งบริษัทเป็นครั้งที่สาม ซึ่งเป็นที่ตั้งปัจจุบันอยู่ที่ โชคชัยสี่ ยอดรวมพนักงาน 18 คน